[[[แค่อยากระบาย]]].......เจ็บจนเข้าใจ

ก่อนอื่น เราแค่อยากระบายสิ่งที่เราเจอมา และสิ่งที่เรารู้สึกตอนนี้ เรารู้ว่าเวลาที่เราอึดอัดใจเราไม่สามารถระบายความรู้สึกที่มีออกไปให้ใครฟังได้ คงได้แต่เรียบเรียงความรู้สึกของเราผ่านตัวหนังสือให้ใครซักคนที่ไม่รู้จักเราได้อ่าน ได้รับรู้ความรู้สึกที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ เราเลยถอดล็อกอินมาระบายความรู้สึกค่ะ
          เริ่มจากไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเราเปิดเพลงฟังค่ะ แต่พอได้ฟังเพลงนี้ทำไมน้ำตาเราไหลไม่หยุด ตอนนี้ที่พิมพ์น้ำตาเราก็ไหลออกมาเรื่อยๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้ร้องไห้กับความรู้สึกแบบนี้มานานมากๆๆๆแล้ว

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


          เรื่องราวของเราอาจจะไปซ้ำกับของใครต่อใครมากมาย แต่เราไม่รู้ว่าเราจะไปบอกใคร ไปคุยกับใครดี ไปพูดกับเพื่อนก็เข้าใจว่าเค้าอาจจะรำคาญเราก็ได้ เพราะว่าบางทีเค้าเล่าเรื่องเค้าเรายังต้องฟังทั้งๆที่เพื่อนเราพูดเรื่องของเค้าซ้ำไปซ้ำมา เราก็ขอให้คนที่เข้ามาอ่านรับฟังเราเท่านั้นเองค่ะ

          เรากับ พี่ ก รู้จักกันทางเวปหนึ่ง ซึ่งพี่เค้าเป็นคนทักมาแล้วก็ทิ้งเมลล์มาให้เรา เราไม่เคยแอ๊ดใครจากทางเวปนี้มาก่อนค่ะ แต่ว่าเราเห็นเมลล์เค้าแปลกตาสำหรับเรา เราก็เลยแอ๊ด MSN ของเค้าไป เราได้คุยกัน เค้าขอเบอร์เรา เราก็ให้เพราะรู้สึกว่าเราคุยกับพี่เค้าถูกคอมาก ต่อมาไม่นานเราก็รู้สึกดีกับเค้าเรื่อยๆ เค้าก็คุยดีกับเราเป็นห่วงเราตลอดเวลา โทรมาคุยกับเราตลอดๆทุกวันๆซึ่งทำให้เรารับรู้ว่าเค้าก็มีใจกับเรานะ แล้วเค้าก็คงจะไม่มีแฟนจริงๆ สุดท้ายเราก็ไม่รู้ตัวว่าเราคบกับพี่ ก ตอนไหน แต่รู้ว่าเราเริ่มรักเค้าไปแล้วส่วนเค้าก็บอกว่าเค้ารักเราค่ะ

          เราคุยกันจากสิ้นปี 54 มาจนถึงช่วงเดือน ส.ค. เราก็นัดเจอกันค่ะ (เราคุยกันมานานมากๆ เราติดเรียนและติดฝึกงานค่ะ บวกกับเราเป็นคนที่ต้องชัวร์ก่อนกับคนที่เจอทางเน็ตค่ะ เพราะเห็นข่าวเราก็กลัวเหมือนกัน แต่เพราะว่าเค้าทำอะไรๆหลายๆอย่างให้เราเชื่อใจเค้าเราเลยไปเจอกันค่ะ) ตอนนั้นเค้ามารับจ๊อบที่ต่างจังหวัดค่ะ เราก็เลยนัดเจอกัน ตอนแรกที่เราเจอเค้า เค้าเป็นผู้ชายที่บุคลิคดีคนหนึ่ง สูงด้วย แล้วก็แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ส่วนเราจะชมว่าตัวเองสวยก็กะไรไป เอาเป็นว่าดูดีบ้างละกันค่ะ (เพราะมีคนมาจีบเรื่อยๆเหมือนกันแหละแต่เราชอบคนยาก) จากนั้นที่เราเจอกันเราก็คบกันมาเรื่อยๆ มีทะเลาะกันบ้างตามประสาแฟน

          จนมาวันหนึ่ง ช่วงนั้นเรากำลังฝึกงานค่ะ แล้วเราไม่ได้มีเวลาว่างที่จะไปเจอเค้าเลย ช่วงนั้นเป็นช่วงต้นปี 56 ค่ะ แต่ว่างที่จะท่องเน็ต เค้ามีโค้ดเนมที่เค้าใช้ประจำ เราก็เอาโค้ดเนมเค้า เซิดใน Google ค่ะ ขึ้นมาเต็มเลย แล้วเราก็ไล่ดูเรื่อยๆ (ว่างมากกกกกก) จนกระทั่งมาเจอกระทู้หนึ่งซึ่งเป็นกระทู้ที่ตั้งขายของไว้ใน pantip ค่ะ เป็นกล้องที่เค้าเคยส่งรูปมาให้ดูว่าเค้าซื้อมาจากคิงพาวเวอร์ แต่มันแปลกที่เค้าไม่ได้ขายเอง แต่มันเป็นชื่อของแฟนเก่าเค้าที่เป็นคนขาย (ตอนนั้นเราเคยเข้าไปสำรวจในเฟสหลักเค้า เจอเฟสบุ๊คของคนนี้ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นแฟนเก่าเค้าค่ะ) ตอนนั้นเราก็เห้ยอะไรเนี่ยทำไมฝากแฟนเก่าขายของหละ เราเลยไม่รอช้ากดโทรศัพท์ไปหาเค้าถามว่าทำไมถึงฝากแฟนเก่าขายกล้องละ???? เค้าก็ตอบประมาณว่าแฟนเก่าเก่งเรื่องแบบนี้ ตัวเค้าไม่เก่งเท่าไหร่ (ตอนนั้นไม่ฉุกใจเลยว่าเค้าจบมาทางด้านคอมฯนะ จะไม่เก่งเรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้) เราก็เออออห่อหมกไป เพราะความเชื่อใจ

           หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็ทำเหมือนเดิมอีกคือเอาโค้ดเนมเค้าไปเซิดใน Google แล้วเราก็เข้ามาดูล็อกอินแฟนเก่าของแฟนใน Pantip นี่แหละค่ะ "ถึงทำให้เรารู้ความจริงว่า เค้าคบเราซ้อนเข้าไปกับอีกคน" เรารู้เพราะว่าเราย้อนอ่านกระทู้ของ พี่ ข (ขอเรียกแฟนอีกคนหนึ่งของแฟนว่าพี่ ข นะคะ) เราเลยรู้ว่า พี่ ข เจอแฟนยังไง คบกับแฟนยังไง คบกันกี่ปีแล้ว เค้าไปไหนเที่ยวไหนกันมาบ้าง และล่าสุด พี่ ก บอกว่าเค้าไปฮ่องกงกับพี่ที่ทำงาน แต่เปล่าเลย เค้าไปฮ่องกงกับ พี่ ข เราเห็นทุกๆอย่าง เราอ่านทุกๆอย่างที่ พี่ ข เข้าไปตอบกระทู้ เราเห็นกระทู้ที่พี่ ข ตอบ เรารับรู้ได้เลยว่าเค้าก็ดูรักกันดีนี่นา

*********ช่วงที่เค้าไปฮ่องกงตอนนั้น ปลายปี 55 เราก็ฝึกงาน แต่เราสงสัยว่าทำไมเค้าไม่ติดต่อเราเลย ทั้งๆที่ตอนเค้าไปอังกฤษ เค้ายังเปิดกล้องกับเรา โทรมาหาเราให้เราทำธุระเรื่องธุรกรรมการเงินให้เค้า เค้าไปที่ฮ่องกง 4 หรือ 5 วันนี่แหละ เค้าไม่ติดต่อกลับมาหาเราซักวัน โทรมาก็วันที่เค้าถึงไทยแล้ว ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลยซักนิด เพราะความเชื่อใจที่เรามีให้เค้า ว่าเค้าคงไม่ใช่คนอย่างนั้นแน่ๆ*******

           ความรู้สึกแรกที่รับรู้ว่า เราไม่ใช่แฟนคนเดียวของ พี่ ก ตอนนั้นเหมือนโลกทั้งโลกจะถล่มลงมา เราคิดว่าเราเป็นแฟนเค้ามาตลอด สุดท้ายเรากลายเป็น "กิ๊ก" เค้าเหรอเนี่ย เหมือนความเชื่อใจของเราพังทลาย คืออธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะว่ามันรู้สึกยังไง แต่ร้องไห้ไม่ออก มันอึ้ง นิ่ง ซักพักก็ร้องไห้ แต่ไม่อยากให้เพื่อนร่วมห้องเห็นตอนนั้น ก็พยายามข่มน้ำตาของตัวเองไว้ค่ะ พอเราตั้งสติได้ หลังจากนั้นเราก็ Capture ข้อความทุกๆอย่าง save รูปทุกรูปที่เค้าไปฮ่องกงกันมา แล้วเราก็ส่งให้ พี่ ก ดู เค้าก็ถามว่าเราเจอได้ยังไง เราก็บอกไปว่าเราทำยังไง เค้าก็เหมือนโมโหเรา เหวี่ยงเรา ทะเลาะกับเราแล้วเค้าบอกว่า เค้าไม่ได้รัก พี่ ข แล้ว ที่เค้าต้องคบอยู่เพราะยังหาจังหวะเลิกไม่ได้ มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว พี่ ข ยังไม่ได้ทำอะไรผิดซึ่งจะไปทำให้เค้าหาเรื่องเลิกไม่ได้ บลาๆๆๆๆๆ สารพัดสิ่งที่เค้าบอกมา เชื่อมั้ยคะ????? ว่าเราก็เชื่อในสิ่งที่ พี่ ก บอก เพราะตอนนั้นเรายอมรับว่ารักผู้ชายคนนี้มาก มากซะจนขาดเค้าไม่ได้เหมือนกัน แต่หลังจากนั้นเราก็ระแวงในตัวพี่ ก แล้ว เราไม่เคยไว้ใจในตัวเค้า เพราะเรารู้ว่าเค้ามีใครอีกคน พอเห็นสายซ้อนก็อดจะคิดไม่ได้ว่าเค้าคุยกับ พี่ ข อยู่รึเปล่า ความระแวงมันยิ่งเยอะ จากคนไม่เคยงี่เง่า ก็กลายเป็นงี่เง่าไป จากคนที่ไม่เคยโทรจิกโทรเช็ก ก็โทรเช็กค่ะ แล้วก็เลยทำให้เรากับพี่ ก ทะเลาะกันมาเรื่อยๆๆๆๆ และหนักขึ้นทุกวันๆในระยะ 3 เดือนกว่าๆ ที่เรารับรู้ความจริง มันไม่ได้มีความสุขเลยเราร้องไห้ทุกวันๆ เราทะเลาะกันเหมือน 3 วันดี 4 วันร้ายเลยค่ะ จนกระทั่งเรากับ พี่ ก ทะเลาะกันรุนแรง และเค้าบอกเลิกเรา (พี่ ก เป็นประเภทไม่ง้อคน ถ้าไม่ผิดมากๆ จะไม่ง้อเลยค่ะ)

           จนครั้งสุดท้ายเราทนไม่ไหวเราก็เลยส่งหลังไมค์ใน pantip ไปหา พี่ ข บอกพี่เค้าว่าเราเป็นแฟนอีกคนของ พี่ ก เราส่งไปบอกพี่เค้าว่าเราคือใคร และก็ส่งรูปไปยืนยัน และก็ให้เบอร์พี่ ข ไปค่ะ ซึ่งอารมณ์ตอนนั้นทั้งเสียใจและก็โมโหด้วย

*********ถ้าพี่ ข มาอ่าน พี่ ข คงจะรู้ว่าเราเป็นใคร และอยากให้พี่ ข อ่านให้จบด้วยนะคะ เพราะมีบางสิ่งบางอย่างอยากจะบอกพี่ ข เหมือนกันค่ะ*****

           เราส่งหลังไมค์ไปหาพี่ ข ตอนเช้า แล้วพี่ ข ก็โทรมาหาเราช่วงเที่ยงๆ เราเลยเล่าเรื่องทุกๆอย่างให้พี่ ข ฟัง แล้วพี่ ข ก็คงอึ้ง และเสียใจมากเหมือนกัน เพราะพี่เค้าไม่คิดว่าพี่ ก จะทำแบบนี้กับเค้าเหมือนกับที่เราก็คิดว่าเราไม่คิดว่าพี่ ก จะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นพี่ ข ก็คงตั้งสติและพยายามนิ่งให้มากที่สุด และพยายามทำไม่ให้เหมือนว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่พี่ ข โพส สถานะใน Line ใน Timeline แบบตัดพ้อหรือออกแนวเสียใจ พี่ ก เค้าคงเห็นและเข้ามาอ่าน คงตะหงิดใจ แล้วก็เลยโทรเข้าไปหา พี่ ข ว่ามีอะไรรีเปล่า พี่ ข ก็บอกว่าเปล่าไม่มีอะไร (ตอนนั้นพี่ ข คงข่มใจมากๆที่จะไม่ถามเรื่องเรากับ พี่ ก) แล้ว พี่ ข ก็คุยกับ พี่ ก แบบปกติ (แต่เรารู้ว่า พี่ ก ต้องรู้สึกอะไรแน่ๆๆ)

          สุดท้าย พี่ ข ก็ตัดสินใจ cap ข้อความหลังไมค์ที่เราส่งไปหาพี่ ข ให้พี่ ก ดูค่ะ พี่ ก ก็ส่งข้อความใน Line กลับมาทันทีค่ะว่า เค้าเสียใจ เค้าเป็นคนผิดเอง เค้าจะไปเอง (ซึ่งตอนนั้นพี่ ก อยู่ จังหวัดที่เป็นบ้านเกิดของพี่ ข ด้วยนะคะ เพราะต้องไปเลี้ยงส่งหัวหน้าที่เค้าเกษียณพอดี ตอนนั้นพี่ ข บอกว่าพ่อพี่ ข ว่าจะขับรถไปต่อย พี่ ก ถึงที่เลยแต่ว่าพี่ ข ห้ามไว้ก่อน) แต่พี่ ก ได้ส่งข้อความทาง Line มาด่าเราค่ะ ด่าแรงมากด้วย เราก็อึ้ง เลย cap ให้พี่ ข อ่าน พี่ ข ก็ตกใจนะคะว่าเค้าด่าเราแรงๆแบบนี้เลยเหรอ เราเลยบอกว่าเวลาทะเลาะกันแรงๆ พี่ ก ขึ้น กรู เมิง กับเราเลยแหละ พี่ ข บอกเราว่าเค้าไม่เคยโดนอะไรแรงๆแบบนี้เลยนะ เราอ่ะบอกว่าเราเจอบ่อยเชียว

           หลังจากนั้น เรากับพี่ ข ก็คุยกันทุกวันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ซึ่งพี่ ข เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง แล้วเค้าก็เป็นผู้ใหญ่และจริงใจกับเรา มีแต่เรานี่แหละนิสัยไม่ดีเอง ที่หลังๆเริ่มหายไปจากพี่ ข เพราะ พี่ ก เริ่มกลับมาง้อเรา มาคุยกับเราเหมือนเดิม มาบอกว่าคิดถึง ยังรัก บลาๆ ตอนนั้นเราก็เริ่มใจอ่อน แล้วเค้าก็โทรมาหาเราแบบปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเราก็ถอยห่างออกจากพี่ ข จนพี่ ข รับรู้ และรู้สึกได้มั้งคะ พี่เค้าก็เลยบล็อกทุกอย่างที่เป็นเรา และก็ไม่ติดต่อเราอีก ส่วนเราก็ยังคุยกับพี่ ก มาเรื่อยๆ

******ขอเอาพื้นที่ตรงนี้ขอโทษกับพี่ ข นะคะ ในสิ่งที่หนูทำไม่ดีกับพี่ ข ลงไป ซึ่งตัวหนูเองไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้ แต่ตอนนั้นพอเค้ากลับเข้ามาทำดีด้วย มันทำให้หนูรู้สึกว่าหนูยังรู้สึกยังไงกับเค้า และตัวหนูเองได้ทำผิดกับพี่ ข หนูขอโทษ และหวังว่าพี่ ข จะให้อภัยหนู และอโหสิให้หนูนะคะ หนูรู้ว่าพี่ ข เป็นคนดี ไม่เคยเบียดเบียนใครพี่ ข เป็นคนเปิดเผยกับคนที่อยากเปิดเผย เป็นคนคุยเก่ง คุยสนุก ใจดี แต่หนูทำลายความสัมพันธ์ของหนูกับพี่ลงไปเอง หนูขอโทษจริงๆนะคะ หนูเคยคิดว่าถ้าย้อนกลับไปหนูจะไม่ให้มันเป็นแบบนี้เลย หนูดีใจนะคะที่ได้คุยกับพี่ ข ถึงมันจะเป็นเวลาไม่นาน แต่หนูก็รู้สึกดีกับพี่มากๆนะคะ และหนูก็ขอโทษพี่ ข นะคะจากใจจริงๆ หวังหว่าพี่ ข จะยกโทษให้หนูบ้าง******
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่