คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เสียน้อยเสียยากน่ะคุณในกรณีแบบนี้ สมมุติว่าเลิกให้ข้าวเกรียบ คุณจะขายแอพได้มากขึ้น 10 จานต่อวัน จากลูกค้า 100 คน ตีซะแอพละ $5 = $50. แต่คนเข้ามาน้อยลง 10% - คิดอย่างต่ำซะมื้อละ $15 สรุปยอดขาดตกไป $150 คุ้มรึเปล่า ไม่นับเรื่อง psychology ที่โอกาสคนจะไม่พอใจจากการลดของที่เคยได้ลงอีก ระวังจะกลายเป็นปากต่อปากที่ว่า New Management ห่วยและขี้งกกว่าเจ้าของเก่า จน customer base เดิมหายหมด penny wise and pound foolish ครับแบบนี้
ผมเคยทำเป็น Business Consultant ให้ร้านไทยหลายๆร้าน เป็นกันเยอะครับ บางทีห้ามแล้วก็ไม่ฟัง เจ๊งไปก็หลายคน แบบไปเอาเนื้อเกรดถูกมาทำ แล้วหาว่าลูกค้ากินไม่รู้ พอลูกค้าหาย เอาเนื้อดีมาทำก็ไม่ทันแล้ว ไม่มีใครกลับมาเพราะเสียชื่อไปแล้ว หรืองกเรื่องน้ำ ไม่ยอมทำ free refill เพราะอยากขายแก้วที่สอง แต่กลับเป็นลูกค้าเลยกินแต่น้ำเปล่าแทน ส่วนที่น่าจะประหยัดได้เช่นปิดร้านหลัง Thanks Giving จะได้ประหยัดค่าแรงดันไม่ทำ เปิดมาก็ไม่มีคนกิน หรือการเทรนพนักงานให้ทำงานได้ดีขึ้นก็ไม่ทำ
อยากให้ลองไปศึกษาร้านอาหารหลายๆที่ที่เขาแจกพวกขนมปังหรือชิพให้ลูกค้าฟรีๆก่อนที่จะตัดสินใจ ว่าทำไมหลายๆร้านเช่น Cheesecake Factory, Red Lobster, หรือร้านฝรั่งถึงทำได้ และขายแอพได้ด้วย เคยลองทำ assessment ดูมั้ยว่าอะไรขายได้ขายไม่ได้ หรือดู trend ว่าอาหารแบบไหนกำลังเป็นที่นิยม แล้วลองทำ special ดู มีอีกหลายวิธีมากที่จะทำให้แอพขายได้โดยไม่ต้องเอาข้าวเกรียบออกอยู่แล้ว ขึ้นอยู่ว่าคุณจะทำรึเปล่าเท่านั้นเอง
ผมเคยทำเป็น Business Consultant ให้ร้านไทยหลายๆร้าน เป็นกันเยอะครับ บางทีห้ามแล้วก็ไม่ฟัง เจ๊งไปก็หลายคน แบบไปเอาเนื้อเกรดถูกมาทำ แล้วหาว่าลูกค้ากินไม่รู้ พอลูกค้าหาย เอาเนื้อดีมาทำก็ไม่ทันแล้ว ไม่มีใครกลับมาเพราะเสียชื่อไปแล้ว หรืองกเรื่องน้ำ ไม่ยอมทำ free refill เพราะอยากขายแก้วที่สอง แต่กลับเป็นลูกค้าเลยกินแต่น้ำเปล่าแทน ส่วนที่น่าจะประหยัดได้เช่นปิดร้านหลัง Thanks Giving จะได้ประหยัดค่าแรงดันไม่ทำ เปิดมาก็ไม่มีคนกิน หรือการเทรนพนักงานให้ทำงานได้ดีขึ้นก็ไม่ทำ
อยากให้ลองไปศึกษาร้านอาหารหลายๆที่ที่เขาแจกพวกขนมปังหรือชิพให้ลูกค้าฟรีๆก่อนที่จะตัดสินใจ ว่าทำไมหลายๆร้านเช่น Cheesecake Factory, Red Lobster, หรือร้านฝรั่งถึงทำได้ และขายแอพได้ด้วย เคยลองทำ assessment ดูมั้ยว่าอะไรขายได้ขายไม่ได้ หรือดู trend ว่าอาหารแบบไหนกำลังเป็นที่นิยม แล้วลองทำ special ดู มีอีกหลายวิธีมากที่จะทำให้แอพขายได้โดยไม่ต้องเอาข้าวเกรียบออกอยู่แล้ว ขึ้นอยู่ว่าคุณจะทำรึเปล่าเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
"Takeover ร้านอาหารไทยที่ออสเตรเลีย" ควรเปลี่ยนการจัดการในร้านใหม่มั้ยครับ หรือเอาแบบเดิมดี ?
ตอนนี้ผมกำลังจะ Takeover ร้านอาหารไทยในออสเตรเลียครับ เปิดมาแล้ว 3 ปี ซึ่งร้านนี้มีฐานลูกค้าพอสมควร (80% มาจากลูกค้าประจำ)
เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนี้ผมลองเข้าไปเทรนงาน ไปลองรับออเดอร์ลูกค้า
การบริการของร้านนี้คือ จะเสิร์ฟข้าวเกียบกุ้งให้ลูกค้าฟรีๆ ทันทีที่ลูกค้านั่ง (ต้นทุนถูกมากกกกกกกกกก เหมือนได้ฟรี) และบริการอย่างนี้มาตลอด 3 ปี
แต่!!! วันนี้ผมได้ยินลูกค้าคุยกันว่า...
A: "นี่เธอๆ เราจะกินอะไรเป็นออเดิร์ฟดี คืนนี้?"
B: "ก็ที่หล่อนกิน(ข้าวเกรียบกุ้งฟรีๆ)เนี่ย นี่แหละ ออร์เดิร์ฟ"
A: "หรอๆ งั้นไม่ต้องสั่งออร์เดิร์ฟแล้ว สั่ง main เลย"
ไอ้ต้นทุนค่าข้าวเกรียบกุ้งนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ลูกค้าไม่ค่อยสังออเดิร์ฟเลย เพราะเค้าถือว่าข้าวเกรียบกุ้งที่เราให้ฟรีเป็น "ออร์เดิร์ฟ" ไปแล้ว
แต่ยอดขายจากการสั่งออร์เดิร์ฟมันช่างทำกำไลมากซะด้วย...
ตอนนี้มึดแปดด้านมากครับ ไม่รู้จะเอาไงดี จะตัดเลยก็ไม่กล้า เพราะเป็นลูกค้าประจำ(80%)
ขอโทษด้วยนะครับ ไม่รู้จะตั้งเป็นคำถามยังไงดี
เอาเป็นว่า มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือ นอกเรื่องนี้ยังไง เต็มที่เลยครับ
ขอบคุณมากครับ