ความรักกับระยะทาง?

ผมกับ(อดีต)แฟนเลิกกันไม่นานมานี้เองครับ เหตุผลก็เพราะอะไรหลายๆอย่างแหละครับ แต่สำหรับผมมันคงเป็นเพราะระยะทาง...ตัวเขาเองบอกว่ามันไม่ได้มีผลกับรักของเรา แต่ตัวผมเองกลับคิดไม่เหมือนกัน แรกๆผมก็คิดว่าไม่ได้มีผลอะไร ต่างคนต่างเชื่อใจกันก็พอ

แต่เวลาผ่านไปนานเข้า ระยะทางกับหลายๆอย่างเริ่มบั่นทอนกำลังใจ และความรู้สึกของเราให้น้อยลงครับ (อดีต)แฟนกับผมอยู่ไกลกันมาก เวลามีปัญหาอะไรเขาไม่ค่อยอยากจะเคลียร์กันสองคน ต้องเอาไปขึ้นเป็นสถานะตลอด พอคุยกันเขาก็บอกว่าเขาแค่อยากระบาย... ซึ่งตรงนี้ผมก็พยายามพูดอธิบายมาตลอด แต่เขาก็คิดว่ามันเป็นพื้นที่ของเขา เขาจะทำอะไรก็ได้ จะเขียนอะไรก็สิทธิ์ของเขา ซึ่งผมคิดอีกอย่างหนึ่ง เพราะผมคิดว่าอย่างน้อยเราก็ควรให้เกียรติคนที่เรารักบ้าง เพราะการขึ้นสถานะนั้นมันมีคนเห็นเยอะ มันไม่ต่างกับการประจารคนที่เรารักต่อหน้าสาธารณะชนเลย ซึ่ง(อดีต)แฟนผมก็มีคนติดตามกับเพื่อนๆในเฟสมากพอสมควรครับ(หลักพัน) แรกๆผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอผ่านปีแรกไป ความรู้สึกและอะไรหลายๆอย่างมันก็ค่อยๆถูกบั่นทอนลง และด้วยระยะทางที่ไกลกัน เวลามีปัญหา นอกจากโทรศัพท์กับโซเชียลแล้วก็ไม่มีช่องทางไหนจะติดต่อกันได้อีก จนเวลาผ่านไปผมรู้สึกเหนื่อยกับความรักมากๆ ผมเหนื่อยที่จะต้องมานั่งดูคนอื่นแสดงความเห็นกับความรักของเรา ทั้งๆที่ใครคนนั้นเขาไม่ได้รับรู้อะไรเลย ผมเหนื่อยกับการที่ต้องฟังเขาบอกว่าตัวผมเปลี่ยนไปยังไง ผมไม่เหมือนเดิมยังไง ซึ่งหลายๆเรื่องผมยอมรับครับ ผมท้อมากเวลาที่ต้องคิดอะไรเรื่องพวกนี้ ผมพยายามคิดว่าผมควรแก้ตรงไหน แต่หลายๆเรื่องผมแก้ไม่ได้จริงๆครับ ตัวผมเองนั่งคิดถึงอนาคตว่าจะดูแลเค้ายังไง จะทำยังไงในวันที่เราได้อยู่ด้วยกัน แต่ตัวเขากลับคอยคิดถึงแต่อดีต(เป็นเรื่องเพื่อนตอนที่เรียน ซึ่งผมก็อธิบายว่าเป็นแค่เพื่อน ผมคิดแค่นั้นจริงๆ แต่เพราะเค้าไม่ชอบเพื่อนผมคนนี้ เค้าก็จะโมโหทุกครั้งเวลาที่พูดถึง และก็จะมีปัญหากันบ่อยๆ) จนผมก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ชีวิตผมจะมีเพื่อนต่างเพศไม่ได้เลยหรือ? เพื่อนกับผมในตอนนี้ก็ไม่ได้จะอยู่ใกล้อะไรกันเลย เวลาเพื่อนมีปัญหาเราก็อยากจะช่วย(เพื่อนเองก็คงรับรู้ ถ้าไม่มีปัญหาใหญ่ๆจริงๆก็แทบจะไม่โทรมาปรึกษาเลย) ปัญหาของเพื่อน ถ้าผมช่วยได้ผมก็ช่วยทุกคน ตัวผมเองถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนก็คิดแค่เพื่อนจริงๆ แต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น รักเราก็เลยมีปัญหากันบ่อยๆ มันก็เหมือนแก้วที่มีรอยร้าวแหละครับ นานวันเข้าแก้วมันก็ยิ่งร้าวมากขึ้น ถึงผมกับเพื่อนจะไม่ค่อยได้คุยกัน เวลามีปัญหาเค้าก็จะหยิบเรื่องในอดีตมาตัดสิน ว่าผมเป็นยังงั้นเป็นยังงี้ เรื่องนี้ผมทำได้แค่ขอโทษเขาอย่างเดียวเลยครับ ผมขอโทษเพราะผมไม่รู้ว่าผมควรจะแก้มันยังไง ผมเหนื่อยที่จะต้องทะเลาะปัญหาเดิมๆ ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเพื่อนคนนั้นเลยจริงๆ แต่ผมก็ไม่รู้จะอธิบายให้เขาเข้าใจได้ยังไง ในเมื่อภาพที่เขาคิดมันคือสิ่งที่ผมทำในอดีต(หลายๆครั้งถ้าเพื่อนต้องกลับคนเดียวผมก็จะเดินไปเป็นเพื่อนส่งขึ้นรถเมล์ เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนมหาลัยที่ผมคิดว่าอย่างน้อยเขาก็จริงใจกับผมมากกว่าคนอื่นๆ เหตุการณ์มันเริ่มวันนั้นที่เราเตรียมกิจกรรมกันจนหัวค่ำ ผมก็มีงานต้องรับผิดชอบ พอเสร็จงานผมเห็นว่ามันค่อนข้างจะมืดก็เลยเดินไปส่งเพื่อนที่ป้ายรถเมล์เหมือนปกติ แต่วันนั้น<อดีต>แฟนต้องการให้ผมหาไฟล์งานที่ผมส่งเมลให้เขาเพราะเขาลบทิ้งไปแล้ว ซึ่งผมก็นั่งดูในไอแพดตั้งแต่ตอนที่ยังเตรียมงานที่มหาลัย แต่หาไม่เจอ เขาก็หงุดหงิด ผมก็เลยบอกเดี๋ยวกลับถึงห้องเดี๋ยวผมหาใน externalให้ เรื่องในวันนั้นมันเป็นเหตุการณ์ที่เขาหยิบยกมาพูดอยู่ตลอด เขาบอกว่าเราให้ความสำคัญกับเพื่อนมากกว่าเขา ทั้งๆที่เวลาผมจะไปไหนกับเพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะไปกันสองคน เว้นแต่บางครั้งเพื่อนต้องกลับคนเดียว ผมก็คิดแค่ว่าผมควรเดินไปส่งเขาหน่อยก็เท่านั้น) ซึ่งเรื่องนี้เขามักจะหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นทุกครั้งเวลาที่พูดถึงเพื่อนคนนี้ เขาจะไปไหนกับใคร ชายหรือหญิง ผมก็ไม่ค่อยจะวุ่นวาย เพราะผมคิดว่าทุกคนควรมีพื้นที่ให้ใช้เวลาของตัวเองบ้าง เวลาผมจะทำอะไรผมก็บอก ซึ่งบางครั้งผมอาจจะแย่ตรงนี้แหละครับ ผมไม่ชอบโกหก จะทำอะไรผมก็บอกตลอด เวลาผมคุยกับเพื่อนผมก็บอก แต่พอเอ่ยชื่อเพื่อนคนนี้เท่านั้นแหละครับ ปัญหามาเลย ทุกๆครั้งกับคำถามเดิมๆ ถ้าถามว่าผมเจอขนาดนี้ทำไมยังคบกันอยู่ เหตุผลเดียวเลยครับ เพราะรัก

เวลาผ่านไปนานขึ้น กำลังใจที่ผมอยากจะทำอะไรหลายๆอย่างมันก็ค่อยๆถูกบั่นทอนลงไปเรื่อยๆ ผมต้องคอยนั่งดูสถานะของเขาที่ว่าผมให้เพื่อนคนอื่นๆเห็นผ่านหน้าเฟส ซึ่งผมทำได้แค่นั่งดูจริงๆ นานวันเข้าผมก็เริ่มหมดกำลังใจที่อยากจะทำอะไรให้เขา จากที่เคยคุยกันตลอดเวลาที่ว่าง มันก็ค่อยๆลดลง และหลังจากที่ผมออกจากมหาลัยมาทำงาน ความแตกต่างด้านความคิด ด้านเวลา ด้านการทำงาน และหลายๆอย่างของเราก็ยิ่งมีมากขึ้น เขาต้องการให้ผมใส่ใจเขามากขึ้น ทั้งๆที่เรื่องหลายๆอย่างที่เขาทำนั้น มันทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ ผมท้อกับความรัก ผมเหนื่อยกับการที่จะต้องถูกคนเกลียดทั้งๆที่ผมยังไม่ทันรู้เหตุผลเลยด้วยซ้ำ ชีวิตผมเหมือนเหลือแค่ความรัก แต่ไม่เหลือกำลังใจที่อยากจะทำอะไรให้เขาอีกแล้ว รักอย่างเดียว แค่รู้ว่ารัก รักแบบไม่ลืมหูลืมตา รักเลยทน ทน และก็ทน ทำได้แค่นั้นจริงๆครับ จนสุดท้ายเราเลิกกันเพราะเหตุผลที่ผมคิดอยู่ในหัวเสมอว่า "เธอไม่เอาใจใส่ชั้นเลย" เป็นประโยคที่เขาพูดก่อนจะบอกลากันครับ ที่จริงเขาก็พูดมานานแล้วครับ ผมก็อธิบาย แต่เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยครับ ทุกอย่างยังคงเส้นคงวา ทะเลาะกันเมื่อไหร่ก็ขึ้นสถานะเรียก like จำนวน like ทำให้เขารู้สึกดี แต่มันทำให้ผมรู้สึกแย่ครับ เพราะยิ่งเห็นคน like มากเท่าไหร่มันยิ่งแสดงให้เห็นว่ามีคนเกลียดผมเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ทั้งๆที่คนพวกนั้นเขาไม่ได้ฟังเหตุผลของผมเลย

....และในตอนนี้ผมมีหลากหลายความรู้สึกมากครับที่ไม่เข้าใจ
เพื่อนเขาไม่ชอบที่เรากับ(อดีต)แฟนคบกันเพราะได้ฟังหรือได้อ่านอะไรหลายๆอย่าง(อยู่ฝ่ายเดียว)จากหน้า facebook ของ(อดีต)แฟนผม ซึ่งจุดนี้ผมแก้ไขอะไรไม่ได้เลย เพราะผมไม่ได้อยู่ใกล้มากพอที่จะแก้ต่างอะไรให้กับตัวเอง จะให้ผมไปนั่งทะเลาะกันหน้า facebook มันก็ไม่ใช่อีก สำหรับผม ผมคิดอย่างนั้น อย่างน้อยผมก็คิดว่าผมให้เกียรติเค้าบ้าง แต่บางครั้งก็อดน้อยใจไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่เคยได้รับกลับมาเลย

ผมต้องถูกเพื่อนเขาไม่ชอบทั้งๆที่คนเหล่านั้นเขาไม่ได้รู้จักตัวผมเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้แม้สักนิดว่าผมเป็นยังไง เพียงเพราะเขาแค่ปักใจเชื่อสเตตัส แล้วเขาก็ตัดสินผม ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่เคยคุยกับผมเลยด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ชอบผม เพราะอะไร?

ตอนนี้เขามีแฟนใหม่แล้วครับ เขาบอกว่าแฟนใหม่เขาเพื่อนๆเขาโอเค(แฟนใหม่เขาอยู่ใกล้ๆกันครับ) ซึ่งต่างกับผมที่เขาชอบมาบ่นให้ฟังบ่อยๆว่าเพื่อนไม่ชอบผม (เพื่อนๆเขาคงเห็นสถานะหน้าเฟสแหละครับ ปกติผมไม่ค่อยจะตอบโต้เขาผ่านโซเชียลอยู่แล้ว มีอะไรก็คุยโทรศัพท์กันให้เข้าใจกัน แต่คนที่เห็นข้อความเขาไม่ได้มาเข้าใจด้วยกับเราครับ เขาก็เลยไม่ชอบเรา)

ขอจบเรื่องสั้นๆนี้ไว้ก่อนละกันครับ จะเล่าก็เล่าไม่หมด สองปีกว่าเกือบๆสามปีที่คบกันมามันค่อนข้างจะเจออะไรมาด้วยกันเยอะครับ หลังจากเลิกกันเขาบอกว่าเขายังรักเราอยู่ แต่เขาต้องรับผิดชอบความรู้สึกของแฟนใหม่เขา เมื่อวานที่คุยกันผมก็เลยต้องทำให้เราจบกันแบบไม่เหลือเยื่อใยครับ ยอมแตกหักกันไปเลยดีกว่า ดีกว่าที่จะต้องให้เขามานั่งทนกับคนอย่างเรา  คนที่เพื่อนเขาบอกว่าไม่ใช่..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่