“คณิตศาสตร์นั้น ข้ามผ่านกาลเวลา”
ประโยคเรียบง่ายนี้สื่อความหมายอย่างง่าย ง่ายแต่แฝงด้วยพลังในการขบคิด เราทุกคนล้วนต้องเกี่ยวข้องกับตัวเลข ทุกทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่ตอนเกิด ไปจนถึงชีวิตประจำวันเราจำเป็นต้องใช้มันอยู่อย่างเสมอ เพราะฉะนั้นในวัยเด็กวิชารากฐานสำคัญ ที่เราต้องประสพพบเจอ นับตั้งแต่พวกเรายังไร้เดียงสาเลย ก็คือวิชาเลขนั่นเอง และสีหน้าแต่ละคนที่เจอวิชานี้ล้วนแตกต่างกันไป บ้างทำหน้าแหยงบ้าง ตื่นเต้นบ้าง แต่ยังมีหลายหลายล้วนแอบครางในใจว่า ใครกันหนอช่างคิดสูตรสลับซับซ้อน ขึ้นมาเป็นโจทย์ให้เราปวดหัวเหลือเกิน เกือบทุกศาสตร์ล้วนต้องพัวพันกับตัวเลขหมด แม้กระทั่งเราจะดูดวงยังต้องใช้ ตัวเลข วันเดือน ปีเกิด ในการทำนายชะตาเลย นักคณิตศาสตร์สมัยก่อนอย่าง ยูคลิด ออยเลอร์ และชาวอาหรับตะวันออกกลางสมัยก่อนนั้น นักคณิตศาสตร์ในตำนานเหล่านี้คือตัวแทนความหมายของคำว่า ข้ามผ่านกาลเวลาอย่างแท้จริง พวกเขาเหล่านั้นต่างทิ้งกฎและสูตรการคำนวนมากมายไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง ให้ปวดหัวเล่น
แน่นอนคณิตศาสตร์เองก็มีด้านสนุกบ้าง ยิ่งเป็นตอนเรากำลังคำนวนสเตตัสตัวละครในเกม ว่ามีพารามิเตอร์สูงหรือยัง? หรืออาจจะเพลินเมื่อยามเอาดินสอขีดเขียนโจทย์ซูโดคุ แต่ในสายตาสำหรับคนธรรมดาเดินดินแล้ว พอเห็นโจทย์ตัวเลข มันมักจะกลายเป็นตัว อักษร เฮียโรกลิฟฟิกที่เข้าใจยากแทนซะงั้น
กลับกันยามเมื่อเราได้เจอผู้ใดที่แก้โจทย์เลขได้เก่ง เก่ง ไวไว แล้ว เราอาจจะสดุดีเขาในใจว่า “โอ้ นี่ นายคนนี้หลุดมาจากโลกเมทริกซ์เป็น เดอะ วันที่มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นค่าตัวเลข 01 01 อ่ะเปล่าหว่าเนี่ยยย ???” ตัวเราอ่าสิดันเป็นคนไม่เก่งเลขเลย จะทำยังไงดี? ติวก็แล้ว อ่านก็แล้ว เรียนพิเศษก็แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าไม่เก่งเลขขึ้นสักที บางคนถึงกับทิ้งความรู้วิชานี้ไปซะดื้อดื้อ
ต้องยอมรับว่า ในเวลาผมนอนไม่หลับนี่แล้ว นอกจากยาแก้แพ้อากาศที่ทำให้ผมนอนหลับง่ายขึ้นแล้ว หนังสือเลขเหมือนก็เหมือนมียานอนหลับเคลือบไว้ด้วยเช่นกัน มันจึงยากที่ผมจะบรรลุศาสตร์นี้ได้
แน่นอนผมคงไม่มีคัมภีร์มารนพเก้า หรือเก้าเอี๊ยงจินเก็ง ที่มาผลัดกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็นอัพเกรดก้านสมองให้ดีขึ้น
หรือไปเจอกระดานหมากล้อมที่มีวิญญาณของออยเลอร์มาเข้าสิง แล้วคอยกระซิบแก้โจกทย์เลขให้เรา
ผมจำได้ดี ผมหน้าซีดมามาก เมื่อเจอโจทย์เลข ตอนสอบกลางภาคกับปลายภาค แน่นอนปัญหาสำคัญของผมเลย ตอนสอบกับโจทย์แบบอัตนัย ผมกำลังลังเลว่าไม่รู้จะวาดการ์ตูนดราก้อนบอล ลงไปหรือจะเขียนบรรยายวิงวอนขอโทษ อจ.ต่อคำตอบกระดาษที่ว่างเปล่าดี แต่เอาเหอะ มันช่วยไม่ได้ว่า ยิ่งคะแนนเก็บวิชาเหล่านี้น้อยมาก เพราะเน้นการทำคะแนนข้อสอบเป็นหลัก แน่นอนว่าโลกแห่งความเป็นจริงพวกเราจะไม่สามารถเก่งเลขได้ในพริบตาเหมือนการเก็บเลเวลใน RO
แต่ตัวผมเองพอจะมีตัวยามาบรรเทาอาการและ มีสิ่งที่จะทำให้โลกคณิตศาสตร์นั้นน่าสนใจยิ่งขึ้นพอพอกับการไปนั่งเล่นบนบังลังก์เหล็กแห่งคิงส์ แลนดิ้งเลยทีเดียว สิ่งนั้นก็คือ“หนังสือความรู้คณิตศาสตร์กึ่งนิยาย” เป็นหนังสือแปลจากต้นฉบับเป็นที่ญี่ปุ่นเป็นไลท์โนเวลมาก่อน ผมขอแนะนำเป็นเคล็ดในการพลิกมุมมองให้ชีวิตเรา เป็น No Match No life แทน
นั่นคือวรรณกรรมที่แสนอ่อนหวานและแหวกแนว "สาวน้อยร้อยเลข"
ภาพไม่ชัดเช่นเคยนะครับ T-T ขอโทษจริงจริง
มี334หน้า แต่ข้างในไม่มีหน้าสีนะครับผม กระดาษ
----เนื้อหาของนิยายจะเล่าผ่านตัวละครเอกของเรื่อง ที่ขึ้นเรียน มัธยมปลาย เขาเป็นคนเก็บตัวแบบทั่วไป ไม่ค่อยจะอยากเข้าสังคมหรือกิจกรรมชมรมเท่าไรนัก วิชาคณิตศาสตร์คืออย่างเดียวที่ทำให้เขามีจิตใจสงบได้ เขามักจะใช้เวลาว่างการสิงห้องสมุดนั่นเอง ชีวิตของเด็กหนุ่ม ดันไปประสพพบเจอกับหญิงสาว สองคนคือมิรุกะ หญิงสาวสมองกลสง่า และ ”เตตระ” รุ่นน้องผู้มีความพิศวงและสงสัยกับวิชาคณิตศาสตร์ เธอจึงไปขอให้ตัวเอกของเราช่วยเหลือแทน ทั้งสองต่างมีความคิดและมุมมองเกี่ยวกับตัวเลขต่าง ต่างกัน
จุดสำคัญคือ หนังสือเล่มนี้ ให้ความรู้แบบ Tips เป็นการอธิบายถึง หัวข้อ ความหมาย ศัพท์ หรือโจทย์คณิตศาสตร์ต่าง ต่าง จากเนื้อหาน่าจะเป็นระดับพื้นฐานม.ปลาย ความสนุกก็คือถ้าเราแก้โจทย์ ในTips ของตัวละครในเรื่องที่เกริ่นขึ้นมา
มันจะช่วยให้เราเข้าใจเนื้อหา ของตัวเลขและความสนุกของบทขึ้นเรื่อย เรื่อยด้วย มันเป็นสัดส่วนการผสมที่ลงตัวอย่างชัดเจน อาจะไม่เลิศเลอแบบสเกลพื้นที่ทองคำ แต่ตัวนิยายดำรงเนื้อหาและวิธีการสอนเลขแบบง่าย ง่าย ขนานควบคู่กันไปด้วย บทและชื่อตอนจะเป็นหัวข้อของเนื้อหาคณิตศาสตร์ผ่านตัวเอกของเรื่อง ไปเรื่อย เรื่อย เริ่มจากง่าย ง่ายค่อยไปเนื้อหาของคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนกว่า บทสนทนาจะเหมือน ไลท์โนเวล ทั่วไป ที่จะเน้นความกระชับและเรียบง่ายเป็นการบรรยายแทน
หนังสืออีกเล่มที่ เกี่ยวกับคณิตศาสตร์แบบสนุสนุกครับ สำนักพิมพ์ส.ส.ทเดียวกันครับ
นี่ืคือ ความคิดของตัวเอกในเรื่องนะครับผม
ผมชอบวิชาเลข เพราะผมคิดว่าการคิดสำคัญกว่าการจำ การสืบค้นความทรงจำเก่า เก่า
ไม่ถือเป็นคณิตศาสตร์การค้นพบสิ่งใหม่ ใหม่ต่างหากที่ใช่
เรื่องที่ต้องจำก็ทำได้เพียงท่องเข้าไป ไม่ว่าชื่อคน ชื่อสถานที่ คำศัพท์ สัญลักษณ์ธาตุก็ได้แต่ท่องโดยไร้ข้อโต้แย้ง
แต่คณิตศาสตร์นั้นต่างออกไป เมื่อโจทย์ให้เงื่อนไขมาก็เท่ากับมีอุปกรณ์เรียงพร้อมอยู่บนโต๊ะ
ไม่ได้แข่งกันที่ความจำ แต่ประชันกันที่ความคิด
....
แน่นอนว่า เนื่องจากเป็นไลท์โนเวลกึ่งตำรา ผมคิดว่าต้นฉบับที่อจ. Hiroshi Yuki เขียนลงในเว็บไซต์และรวมเล่มนั้น (ทางสำนักพิมพ์ไทย พยายามจำกัดความให้เป็นไลท์ โนเวลนั้น อันนี้แล้วแต่มุมมองแล้วกัน ผมมาแนะนำเฉย เฉยเอาจริงจริงในกรณีของนิยายผจญภัย เกมออนไลน์ Log Horizon ของ สนพ.Dex เอง เล่มใหญ่แต่เนื้อหาและวิธีการบรรยายผมเองก็คิดว่า ไม่ต่างกับ ไลท์ โนเวลทั่วไปนะครับ) การที่เราจะอ่านรวดเดียวจบคงเป็นไปไม่ได้ ตรายใดที่ยังไม่สามารถเข้าใจแก่นแท้ของ “บท” และ “ปริศนา” ที่ว่างไว้ได้ เหมือนเราอ่านนิยายสืบสวนหรือ มังงะ Q.E.D อ่ะครับ คือถ้าอ่านแล้วเราไม่คิดตามมันก็จะไม่สนุกนะครับ เนื้องจากตัวผมเคยตกวิชาเลขแบบซ้ำซากข้ามปีมาก่อน เนื้อหาที่อ่านก็ยังไปในระดับเต่าคลานเลย (ฮา) แต่ในกรณีคนเก่งเลขแล้ว มาอ่านเล่มนี้คงจะเร็วขึ้นนะครับ
โทมะจาก QED ตัวละคร ที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเลขเช่นกัน มีหลายไฟล์ที่เขาต้องไปเจอปัญหาปรัชญาคณิตศาสตร์
สรุป- ส่วนตัวผมชอบเก็บสะสมหนังสือ ประเภท“แหวกแนว” และมีเอกลักษณ์สูงเป็นหลัก ยิ่งถ้ามีเนื้อหาที่สนุกผสมรูปเล่มสวยงาม ยิ่งทำให้ผมสนใจครับ
แถมยังให้ความรู้เกลาสมองเพิ่มขึ้นอีก โนเวลที่มีสาระแบบอย่างได้ระดับพอสมควรแบบนี้ มันเลยคิดว่ามันน่าสะสมในระดับหนึ่ง
ยิ่งต้นฉบับมาจากประเทศญี่ปุ่นด้วย หนังสือแปลของประเทศนี้มักจะมีเนื้อหาและวิธีคิดถูกใจผมอยู่เสมอ ผมจึงไม่พลาดแน่ครับ
จุดด้อยคือมัน Hybird ไป ฉะนั้นมันอาจะไปไม่สุดหรือMax ด้านใด ด้านหนึ่ง บางคนอาจจะรู้สึกแปร่ง แปร่งได้ครับผม แต่ผลประโยชน์หลักของมันโดยรวม คือทำให้คนเข้าใจ”วิชาเลข”ผ่านตัวหนังสือได้อย่าลงตัวครับ ถ้าชอบนิยายเรื่องนี้ มันอาจจะทำให้คุณเรียนเลขสนุกขึ้นนะครับ ย้ำ สนุกนะครับ ไม่ใช่เก่งขึ้น จะเก่งขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนนะครับ
--- ความทรงจำที่ โรมานซ์เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์กับผมนั้น เช่นน้อยเหลือเกิน แต่จำได้เลือนลางว่า
มีคราหนึ่ง เคยมีเพื่อนสาวที่ผมแอบชอบมาติวเลขให้อยู่แบบใกล้ ใกล้ ผมทำตัวเขินจนทำโจทย์ไม่ค่อยได้
นึกแล้วยิ่งขำตัวเองมากมาก

5555+ -
จอน แนช-ชีวิตอันของนักคณิตศาสตร์อันมีทั้งโรแมนติคและขมขื่น
ตัวอย่างทดลองอ่านนิยายอยู่ในลิงค์ด้านล่างนะครับ
http://www.tpa.or.th/publisher/admin/newbook/P1407Sample.pdf
ความรู้สึกหลังจากที่อ่าน "สาวน้อยร้อยเลข"
ประโยคเรียบง่ายนี้สื่อความหมายอย่างง่าย ง่ายแต่แฝงด้วยพลังในการขบคิด เราทุกคนล้วนต้องเกี่ยวข้องกับตัวเลข ทุกทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่ตอนเกิด ไปจนถึงชีวิตประจำวันเราจำเป็นต้องใช้มันอยู่อย่างเสมอ เพราะฉะนั้นในวัยเด็กวิชารากฐานสำคัญ ที่เราต้องประสพพบเจอ นับตั้งแต่พวกเรายังไร้เดียงสาเลย ก็คือวิชาเลขนั่นเอง และสีหน้าแต่ละคนที่เจอวิชานี้ล้วนแตกต่างกันไป บ้างทำหน้าแหยงบ้าง ตื่นเต้นบ้าง แต่ยังมีหลายหลายล้วนแอบครางในใจว่า ใครกันหนอช่างคิดสูตรสลับซับซ้อน ขึ้นมาเป็นโจทย์ให้เราปวดหัวเหลือเกิน เกือบทุกศาสตร์ล้วนต้องพัวพันกับตัวเลขหมด แม้กระทั่งเราจะดูดวงยังต้องใช้ ตัวเลข วันเดือน ปีเกิด ในการทำนายชะตาเลย นักคณิตศาสตร์สมัยก่อนอย่าง ยูคลิด ออยเลอร์ และชาวอาหรับตะวันออกกลางสมัยก่อนนั้น นักคณิตศาสตร์ในตำนานเหล่านี้คือตัวแทนความหมายของคำว่า ข้ามผ่านกาลเวลาอย่างแท้จริง พวกเขาเหล่านั้นต่างทิ้งกฎและสูตรการคำนวนมากมายไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง ให้ปวดหัวเล่น
แน่นอนคณิตศาสตร์เองก็มีด้านสนุกบ้าง ยิ่งเป็นตอนเรากำลังคำนวนสเตตัสตัวละครในเกม ว่ามีพารามิเตอร์สูงหรือยัง? หรืออาจจะเพลินเมื่อยามเอาดินสอขีดเขียนโจทย์ซูโดคุ แต่ในสายตาสำหรับคนธรรมดาเดินดินแล้ว พอเห็นโจทย์ตัวเลข มันมักจะกลายเป็นตัว อักษร เฮียโรกลิฟฟิกที่เข้าใจยากแทนซะงั้น
กลับกันยามเมื่อเราได้เจอผู้ใดที่แก้โจทย์เลขได้เก่ง เก่ง ไวไว แล้ว เราอาจจะสดุดีเขาในใจว่า “โอ้ นี่ นายคนนี้หลุดมาจากโลกเมทริกซ์เป็น เดอะ วันที่มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นค่าตัวเลข 01 01 อ่ะเปล่าหว่าเนี่ยยย ???” ตัวเราอ่าสิดันเป็นคนไม่เก่งเลขเลย จะทำยังไงดี? ติวก็แล้ว อ่านก็แล้ว เรียนพิเศษก็แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าไม่เก่งเลขขึ้นสักที บางคนถึงกับทิ้งความรู้วิชานี้ไปซะดื้อดื้อ
ต้องยอมรับว่า ในเวลาผมนอนไม่หลับนี่แล้ว นอกจากยาแก้แพ้อากาศที่ทำให้ผมนอนหลับง่ายขึ้นแล้ว หนังสือเลขเหมือนก็เหมือนมียานอนหลับเคลือบไว้ด้วยเช่นกัน มันจึงยากที่ผมจะบรรลุศาสตร์นี้ได้
แน่นอนผมคงไม่มีคัมภีร์มารนพเก้า หรือเก้าเอี๊ยงจินเก็ง ที่มาผลัดกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็นอัพเกรดก้านสมองให้ดีขึ้น
หรือไปเจอกระดานหมากล้อมที่มีวิญญาณของออยเลอร์มาเข้าสิง แล้วคอยกระซิบแก้โจกทย์เลขให้เรา
ผมจำได้ดี ผมหน้าซีดมามาก เมื่อเจอโจทย์เลข ตอนสอบกลางภาคกับปลายภาค แน่นอนปัญหาสำคัญของผมเลย ตอนสอบกับโจทย์แบบอัตนัย ผมกำลังลังเลว่าไม่รู้จะวาดการ์ตูนดราก้อนบอล ลงไปหรือจะเขียนบรรยายวิงวอนขอโทษ อจ.ต่อคำตอบกระดาษที่ว่างเปล่าดี แต่เอาเหอะ มันช่วยไม่ได้ว่า ยิ่งคะแนนเก็บวิชาเหล่านี้น้อยมาก เพราะเน้นการทำคะแนนข้อสอบเป็นหลัก แน่นอนว่าโลกแห่งความเป็นจริงพวกเราจะไม่สามารถเก่งเลขได้ในพริบตาเหมือนการเก็บเลเวลใน RO
แต่ตัวผมเองพอจะมีตัวยามาบรรเทาอาการและ มีสิ่งที่จะทำให้โลกคณิตศาสตร์นั้นน่าสนใจยิ่งขึ้นพอพอกับการไปนั่งเล่นบนบังลังก์เหล็กแห่งคิงส์ แลนดิ้งเลยทีเดียว สิ่งนั้นก็คือ“หนังสือความรู้คณิตศาสตร์กึ่งนิยาย” เป็นหนังสือแปลจากต้นฉบับเป็นที่ญี่ปุ่นเป็นไลท์โนเวลมาก่อน ผมขอแนะนำเป็นเคล็ดในการพลิกมุมมองให้ชีวิตเรา เป็น No Match No life แทน
นั่นคือวรรณกรรมที่แสนอ่อนหวานและแหวกแนว "สาวน้อยร้อยเลข"
ภาพไม่ชัดเช่นเคยนะครับ T-T ขอโทษจริงจริง
มี334หน้า แต่ข้างในไม่มีหน้าสีนะครับผม กระดาษ
----เนื้อหาของนิยายจะเล่าผ่านตัวละครเอกของเรื่อง ที่ขึ้นเรียน มัธยมปลาย เขาเป็นคนเก็บตัวแบบทั่วไป ไม่ค่อยจะอยากเข้าสังคมหรือกิจกรรมชมรมเท่าไรนัก วิชาคณิตศาสตร์คืออย่างเดียวที่ทำให้เขามีจิตใจสงบได้ เขามักจะใช้เวลาว่างการสิงห้องสมุดนั่นเอง ชีวิตของเด็กหนุ่ม ดันไปประสพพบเจอกับหญิงสาว สองคนคือมิรุกะ หญิงสาวสมองกลสง่า และ ”เตตระ” รุ่นน้องผู้มีความพิศวงและสงสัยกับวิชาคณิตศาสตร์ เธอจึงไปขอให้ตัวเอกของเราช่วยเหลือแทน ทั้งสองต่างมีความคิดและมุมมองเกี่ยวกับตัวเลขต่าง ต่างกัน
จุดสำคัญคือ หนังสือเล่มนี้ ให้ความรู้แบบ Tips เป็นการอธิบายถึง หัวข้อ ความหมาย ศัพท์ หรือโจทย์คณิตศาสตร์ต่าง ต่าง จากเนื้อหาน่าจะเป็นระดับพื้นฐานม.ปลาย ความสนุกก็คือถ้าเราแก้โจทย์ ในTips ของตัวละครในเรื่องที่เกริ่นขึ้นมา
มันจะช่วยให้เราเข้าใจเนื้อหา ของตัวเลขและความสนุกของบทขึ้นเรื่อย เรื่อยด้วย มันเป็นสัดส่วนการผสมที่ลงตัวอย่างชัดเจน อาจะไม่เลิศเลอแบบสเกลพื้นที่ทองคำ แต่ตัวนิยายดำรงเนื้อหาและวิธีการสอนเลขแบบง่าย ง่าย ขนานควบคู่กันไปด้วย บทและชื่อตอนจะเป็นหัวข้อของเนื้อหาคณิตศาสตร์ผ่านตัวเอกของเรื่อง ไปเรื่อย เรื่อย เริ่มจากง่าย ง่ายค่อยไปเนื้อหาของคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนกว่า บทสนทนาจะเหมือน ไลท์โนเวล ทั่วไป ที่จะเน้นความกระชับและเรียบง่ายเป็นการบรรยายแทน
หนังสืออีกเล่มที่ เกี่ยวกับคณิตศาสตร์แบบสนุสนุกครับ สำนักพิมพ์ส.ส.ทเดียวกันครับ
นี่ืคือ ความคิดของตัวเอกในเรื่องนะครับผม
ผมชอบวิชาเลข เพราะผมคิดว่าการคิดสำคัญกว่าการจำ การสืบค้นความทรงจำเก่า เก่า
ไม่ถือเป็นคณิตศาสตร์การค้นพบสิ่งใหม่ ใหม่ต่างหากที่ใช่
เรื่องที่ต้องจำก็ทำได้เพียงท่องเข้าไป ไม่ว่าชื่อคน ชื่อสถานที่ คำศัพท์ สัญลักษณ์ธาตุก็ได้แต่ท่องโดยไร้ข้อโต้แย้ง
แต่คณิตศาสตร์นั้นต่างออกไป เมื่อโจทย์ให้เงื่อนไขมาก็เท่ากับมีอุปกรณ์เรียงพร้อมอยู่บนโต๊ะ
ไม่ได้แข่งกันที่ความจำ แต่ประชันกันที่ความคิด
....
แน่นอนว่า เนื่องจากเป็นไลท์โนเวลกึ่งตำรา ผมคิดว่าต้นฉบับที่อจ. Hiroshi Yuki เขียนลงในเว็บไซต์และรวมเล่มนั้น (ทางสำนักพิมพ์ไทย พยายามจำกัดความให้เป็นไลท์ โนเวลนั้น อันนี้แล้วแต่มุมมองแล้วกัน ผมมาแนะนำเฉย เฉยเอาจริงจริงในกรณีของนิยายผจญภัย เกมออนไลน์ Log Horizon ของ สนพ.Dex เอง เล่มใหญ่แต่เนื้อหาและวิธีการบรรยายผมเองก็คิดว่า ไม่ต่างกับ ไลท์ โนเวลทั่วไปนะครับ) การที่เราจะอ่านรวดเดียวจบคงเป็นไปไม่ได้ ตรายใดที่ยังไม่สามารถเข้าใจแก่นแท้ของ “บท” และ “ปริศนา” ที่ว่างไว้ได้ เหมือนเราอ่านนิยายสืบสวนหรือ มังงะ Q.E.D อ่ะครับ คือถ้าอ่านแล้วเราไม่คิดตามมันก็จะไม่สนุกนะครับ เนื้องจากตัวผมเคยตกวิชาเลขแบบซ้ำซากข้ามปีมาก่อน เนื้อหาที่อ่านก็ยังไปในระดับเต่าคลานเลย (ฮา) แต่ในกรณีคนเก่งเลขแล้ว มาอ่านเล่มนี้คงจะเร็วขึ้นนะครับ
โทมะจาก QED ตัวละคร ที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเลขเช่นกัน มีหลายไฟล์ที่เขาต้องไปเจอปัญหาปรัชญาคณิตศาสตร์
สรุป- ส่วนตัวผมชอบเก็บสะสมหนังสือ ประเภท“แหวกแนว” และมีเอกลักษณ์สูงเป็นหลัก ยิ่งถ้ามีเนื้อหาที่สนุกผสมรูปเล่มสวยงาม ยิ่งทำให้ผมสนใจครับ
แถมยังให้ความรู้เกลาสมองเพิ่มขึ้นอีก โนเวลที่มีสาระแบบอย่างได้ระดับพอสมควรแบบนี้ มันเลยคิดว่ามันน่าสะสมในระดับหนึ่ง
ยิ่งต้นฉบับมาจากประเทศญี่ปุ่นด้วย หนังสือแปลของประเทศนี้มักจะมีเนื้อหาและวิธีคิดถูกใจผมอยู่เสมอ ผมจึงไม่พลาดแน่ครับ
จุดด้อยคือมัน Hybird ไป ฉะนั้นมันอาจะไปไม่สุดหรือMax ด้านใด ด้านหนึ่ง บางคนอาจจะรู้สึกแปร่ง แปร่งได้ครับผม แต่ผลประโยชน์หลักของมันโดยรวม คือทำให้คนเข้าใจ”วิชาเลข”ผ่านตัวหนังสือได้อย่าลงตัวครับ ถ้าชอบนิยายเรื่องนี้ มันอาจจะทำให้คุณเรียนเลขสนุกขึ้นนะครับ ย้ำ สนุกนะครับ ไม่ใช่เก่งขึ้น จะเก่งขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนนะครับ
--- ความทรงจำที่ โรมานซ์เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์กับผมนั้น เช่นน้อยเหลือเกิน แต่จำได้เลือนลางว่า
มีคราหนึ่ง เคยมีเพื่อนสาวที่ผมแอบชอบมาติวเลขให้อยู่แบบใกล้ ใกล้ ผมทำตัวเขินจนทำโจทย์ไม่ค่อยได้
นึกแล้วยิ่งขำตัวเองมากมาก
จอน แนช-ชีวิตอันของนักคณิตศาสตร์อันมีทั้งโรแมนติคและขมขื่น
ตัวอย่างทดลองอ่านนิยายอยู่ในลิงค์ด้านล่างนะครับ
http://www.tpa.or.th/publisher/admin/newbook/P1407Sample.pdf