เอาประชาธิปไตยตะวันตก มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสังคมไทย เพราะคนไทยไม่เหมือนชาติอื่นในโลก / คนไทยเป็นไงเหรออยากรู้

กระทู้สนทนา
คนไทยวิเศษวิโสกว่าชาติอื่นเหรอ??

คนไทยมันเป็นเทพเป็นเทวดาเหาะเหินเดินอากาศได้เหรอ??

คนไทยมันไม่ได้ กิน ขรี้   ...   นอน   เหมือนคนชาติอื่นเหรอ??

คนไทยมันเป็นอมตะเหรอ??

คนไทยมันไม่มีกิเลสอยากได้ใคร่มีเหมือนชาติอื่นเหรอ??

หรือ คนไทยมันต่ำชั้นกว่าคนชาติอื่นเหรอ??

หรือคนไทยมันดักดานไม่เหมือนคนชาติอื่นเหรอ??

หรือคนไทยมันกิเลสหนากว่าคนชาติอื่นเหรอ

หรือคนไทยมันฉลาดล่ำเลิศในปัฐพีเหนือกกว่าคนชาติอื่นเหรอ??

หรือคนไทยมันไม่ต้องการความ"ยุติธรรม" ขณะที่คนชาติอื่นเขาต้องการความยุติธรรมเหรอ??

ฯลฯ

ผมไม่รู้ว่าที่พูดว่า"เพราะคนไทยไม่เหมือนชาติอื่น" มันคือยังไง  ใครรู้อธิบาย ขยายความหน่อย อยากรู้   

แต่ที่แน่ๆ  ชนชั้นนำไทยนี่แหละ  ที่ไปก็อปปี้เลียนแบบเอาของต่างชาติเข้ามาใช้จนนับไม่ถ้วนว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงความรู้ การศึกษา และกฏหมาย  ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันนี่คือ"ความจริง"

และที่บอกว่า "เอาประชาธิปไตยตะวันตก มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสังคมไทย"  (แต่ผมเห็นว่า  หลักกฏหมาย หลักความยุติธรรม หลักสิทธิมนุษยชน และหลักการได้มาของผู้แทน ปชช. ต้องใช้มาตรฐานสากลเท่านั้น)   เพราะ "หลักการ" เขาทำเพื่อ ปชช.มนุษย์ชาติจึงน่าเชื่อถือและฟังขึ้นกว่า  หลัก"กรู"ของบ้านเราที่ทำเพื่อคนกลุ่มน้อยทางชนชั้นไม่กี่คนไม่กี่กลุ่ม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409803905
"บิ๊กตู่"แจงสรรหาสปช. ยันไม่มีล็อค! ลั่นไทยไม่เหมือนชาติใดในโลก ปฏิรูปปชต.ให้เหมาะสม

วันที่ 4 ส.ค. ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมมอบแนวทางดำเนินการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. โดยพลเอกประยุทธ์ ได้มอบแนวทางการทำงานให้กับ สมาชิก สปช. ว่า "ทำก่อน ทำทันที มีผลสัมฤทธิ์ และยั่งยืน" พร้อมยืนยันว่าการสรรหาสมาชิก สปช. ไม่มีการล็อคสเป็ก เพราะถือเป็นโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน พร้อมกับฝากไปยังคณะกรรมการสรรหา ให้ดำเนินการอย่างโปร่งใสเป็นธรรม เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปให้มีประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของสังคมไทย

ทั้งนี้ตามโรดแม็พ ระยะที่ 1 คสช. ได้ให้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ดำนเนินการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน และสรุปมาแต่ละด้านแล้ว ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำ แต่เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้สภาปฏิรูปไปดำเนินการได้ต่อ อย่างไรก็ตามเมื่อตั้งสภาปฏิรูปฯแล้ว ก็ยังต้องหาช่องทางให้คนที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาสามารถส่งต่อความเห็นเข้ามาได้ด้วย

ส่วนโรดแม็พในระยะที่2สภาปฏิรูปแห่งชาติ จะทำงานคู่ขนานกับ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่จะคอยรวบรวมข้อมูลด้านการปฏิรูปส่งเข้าไปให้สปช.

แนวทางที่ฝากคือต้องจัดระเบียบเรื่องที่จะปฏิรูปให้ได้ว่าจะทำอะไรก่อนโดยเฉพาะการปฏิรูปการเมือง ต้องทำด่วน ทำทันที และมีผลสัมฤทธิ์ เอาประชาธิปไตยตะวันตก มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสังคมไทย เพราะคนไทยไม่เหมือนชาติอื่นในโลก

การปฏิรูปการเมือง ต้องคำนึงว่าประเทศจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป ไปหาแนวทางปฏิรูปการเมืองกันให้ชัด เช่น ไม่ให้ รัฐสภา กับ ฝ่ายบริหาร กลายเป็นองค์กรเดียวกัน และให้คำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาล ไม่ใช่ไปคำนึงถึงที่มาของรัฐบาล และอย่าไปคิดว่าต้องสร้างการเมืองขึ้นมาเพื่อป้องกันการเข้าควบคุมอำนาจ เพราะถ้ามันดีอยู่แล้ว ก็ไม่มีใครอยากทำ

ขณะที่เรื่องอื่นๆ ที่อยากให้ สมาชิกสปช. ให้ความสำคัญ คือการปฏิรูปเศรษฐกิจ ภาษี พลังงาน การทุจรติคอรัปชั่น การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กระบวนการยุติธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ การปฎรูประบบราชการ และการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังฝากถึงสื่อมวลชนว่า ต้องช่วยลดความขัดแย้ง อยากให้เสนอข้อเท็จจริง พร้อมขอให้สื่อลดการวิพากวิจารณ์ลงไปบ้าง เราเป็น ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เราคิดอย่างพลเรือนไม่ได้ อยากให้ทุกคนไว้ใจ ถ้าไม่เชื่อใจไปฟังเพลง

จากนั้น พลเอกประยุทธ์ ได้มอบผลการศึกษาของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไป

สำหรับ ยอดรวมผู้เสนอชื่อเข้าสรรหาเป็น สมาชิก สปช. ทั้งส่วนกลาง และส่วนจังหวัด รวมทั้งสิ้น 6,985 คน โดยคณะกรรมการทั้ง 11 ด้าน จะคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมให้เหลือด้านละ 50 คน รวม 550 คน และรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นสปช.จากคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ๆ ละ 5 คน 77 จังหวัดจำนวน 385 คน รวมรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นสปช.จากทั้งสองส่วนจำนวน 935 คน เสนอให้กับคสช. ภายในวันที่ 22 กันยายน เพื่อให้ทันกับกรอบเวลาวันที่ 23 กันยายน ที่กำหนดว่า คสช.จะเริ่มพิจารณาคัดเลือกบุคคลเป็นสปช.จำนวน 250 คน โดยเลือกจากรายชื่อคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน จำนวน 173 คน และจากคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 77 จังหวัด ๆ ละ 1 คน

นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ ยังมิบหนังสือแนวทางปฏิรูปให้กับคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน เพื่อนำไปประกอบพิจารณาในการปฏิรูปประเทศต่อไป
นอกจากนี้ภายหลังการมอบแนวทางเสร็จสิ้นคณะกรรมการสรรหาทั้ง10ด้านได้แยกย้ายประชุมเพื่อหาแนวทาง และคัดเลือกประธานในแต่ละด้านตามห้องประชุมที่จัดเตรียมไว้ให้ทันที
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่