สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณสมาชิกหมายเลข 1301061 เจ้าของกระทู้
ขอให้ศึกษานัยจากอัคคิขันธูปมสูตร, อรรถกถาอัคคิขันธูปมสูตร
และอรรถกถาอัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖ (อรรถกถาสูตรที่ ๓) ดังนี้ :-
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
อัคคิขันธูปมสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=2629&Z=2793
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=69
อรรถกถาอัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=52#อรรถกถาสูตรที่_๓
ความคิดเห็นส่วนตัวดังนี้ว่า :-
บุคคลผู้ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว หากไม่ลาสิกขา
เมื่อกิน ก็กินบิณฑบาตที่ทายกถวายแก่ผู้มีศีล อันผู้นั้นไม่ควรบริโภค
เมื่อนุ่งห่ม ก็นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์ อันผู้นั้นไม่ควรนุ่งห่ม
เมื่ออาศัยส้องเสพเสนาสนะ ก็เสพเสนาสนะอันทายกถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ผู้มีศีล
อันตนไม่ควรส้องเสพเลย ฯลฯ
บุคคลนั้นเป็นผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรก น่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์
แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
ตลอดเวลาที่ยังไม่ลาสิกขาออกมา.
บุคคลนั้น เมื่อลาสิกขาออกมาแล้ว การปฏิญาณว่าเป็นสมณะ ทั้งที่ไม่ใช่สมณะ
ฯลฯ ก็เป็นอันระงับลง (คือไม่ทำต่อไป) จากนั้น บุคคลนั้นพึงเร่งศึกษาพระสัทธรรม
เพื่อเจริญกุศลธรรมทั้งปวงอันเป็นเหตุให้ได้สุคติ หรือการบรรลุมรรคผลเบื้องต้น 3 ประการ.
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
อัคคิขันธูปมสูตร [บางส่วน]
พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจะขอบอกเธอทั้งหลาย จะขอเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่า
ประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ เข้าไปนั่งกอด
หรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์หรือบุตรสาวคฤหบดี จะประเสริฐอย่างไร
การเข้าไปนั่งกอดนอนกอดกองไฟใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย เพราะ
การเข้าไปกอดกองไฟใหญ่นั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก เพราะการเข้าไปกอดกองไฟใหญ่นั้นเป็นปัจจัย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรก น่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์
แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
เข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์หรือบุตรสาวคฤหบดี
ผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่มนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบxายมิใช่ประโยชน์
เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา
และผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=23&A=2629
อรรถกถาอัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖
อรรถกถาสูตรที่ ๓ [บางส่วน]
บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใดรากเลือด ภิกษุเหล่านั้นต้องอาบัติปาราชิก
ภิกษุเหล่าใดสึกเป็นคฤหัสถ์ ภิกษุเหล่านั้นพากันย่ำยีสิกขาบทเล็กน้อย.
ภิกษุเหล่าใดบรรลุพระอรหัต ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์แล.
พระธรรมเทศนาของพระศาสดา เกิดมีผลแม้แก่ภิกษุ ๓ จำพวกดังกล่าวนี้.
ถามว่า พระธรรมเทศนาเกิดมีผลแก่ภิกษุผู้บรรลุพระอรหัตยกไว้ก่อน
อย่างไรจึงเกิดมีผลแก่ภิกษุนอกนี้?
แก้ว่า ก็ภิกษุแม้เหล่านั้น ถ้าไม่ได้ฟังธรรมเทศนากัณฑ์นี้ไซร้ เป็นผู้ประมาท
ไม่พึงอาจละฐานะได้ แต่นั้นบาปของภิกษุเหล่านั้นกำเริบขึ้น จะพึงทำเธอให้จมลง
ในอบายถ่ายเดียว แต่ฟังเทศนากัณฑ์นี้แล้ว เกิดความสังเวช ละฐานะ ตั้งอยู่ในภูมิ
แห่งสามเณร บำเพ็ญศีล ๑๐ ประกอบขวนขวายในโยนิโสมนสิการ บางพวกเป็น
พระโสดาบัน บางพวกเป็นพระสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวกบังเกิดในเทวโลก.
พระธรรมเทศนาได้มีผลแม้แก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติปาราชิกด้วยอาการอย่างนี้.
ฝ่ายภิกษุนอกนี้ ถ้าไม่พึงได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ไซร้ เมื่อกาลล่วงไปๆ
ก็จะพึงต้องอาบัติสังฆาฑิเสสบ้าง ปาราชิกบ้าง ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้แล้ว
คิดว่า พระพุทธศาสนาช่างขัดเกลาจริงหนอ พวกเราไม่สามารถจะบำเพ็ญข้อปฏิบัตินี้
ตลอดชีวิตได้ จำเราจักลาสิกขา บำเพ็ญอุบาสกธรรม จักพ้นจากทุกข์ได้ ดังนี้แล้ว
จึงพากันสึกไปเป็นคฤหัสถ์.
ชนเหล่านั้นตั้งอยู่ในสรณะ ๓ รักษาศีล ๕ บำเพ็ญอุบาสกธรรม บางพวก
เป็นพระโสดาบัน บางพวกเป็นสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวกบังเกิด
ในเทวโลกแล. พระธรรมเทศนาได้มีผลแม้แก่ภิกษุเหล่านั้น ด้วยอาการอย่างนี้.
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=52#อรรถกถาสูตรที่_๓
หมวดหนังสือธรรมะ
เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
แนะนำ :-
อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม
อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
สารบัญประเภทธรรม
http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php
หมวดหนังสือธรรมะ
http://84000.org/tipitaka/book/
เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘)
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html
เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html
ขอให้ศึกษานัยจากอัคคิขันธูปมสูตร, อรรถกถาอัคคิขันธูปมสูตร
และอรรถกถาอัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖ (อรรถกถาสูตรที่ ๓) ดังนี้ :-
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
อัคคิขันธูปมสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=2629&Z=2793
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=69
อรรถกถาอัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=52#อรรถกถาสูตรที่_๓
ความคิดเห็นส่วนตัวดังนี้ว่า :-
บุคคลผู้ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว หากไม่ลาสิกขา
เมื่อกิน ก็กินบิณฑบาตที่ทายกถวายแก่ผู้มีศีล อันผู้นั้นไม่ควรบริโภค
เมื่อนุ่งห่ม ก็นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์ อันผู้นั้นไม่ควรนุ่งห่ม
เมื่ออาศัยส้องเสพเสนาสนะ ก็เสพเสนาสนะอันทายกถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ผู้มีศีล
อันตนไม่ควรส้องเสพเลย ฯลฯ
บุคคลนั้นเป็นผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรก น่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์
แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
ตลอดเวลาที่ยังไม่ลาสิกขาออกมา.
บุคคลนั้น เมื่อลาสิกขาออกมาแล้ว การปฏิญาณว่าเป็นสมณะ ทั้งที่ไม่ใช่สมณะ
ฯลฯ ก็เป็นอันระงับลง (คือไม่ทำต่อไป) จากนั้น บุคคลนั้นพึงเร่งศึกษาพระสัทธรรม
เพื่อเจริญกุศลธรรมทั้งปวงอันเป็นเหตุให้ได้สุคติ หรือการบรรลุมรรคผลเบื้องต้น 3 ประการ.
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
อัคคิขันธูปมสูตร [บางส่วน]
พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจะขอบอกเธอทั้งหลาย จะขอเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่า
ประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ เข้าไปนั่งกอด
หรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์หรือบุตรสาวคฤหบดี จะประเสริฐอย่างไร
การเข้าไปนั่งกอดนอนกอดกองไฟใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย เพราะ
การเข้าไปกอดกองไฟใหญ่นั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก เพราะการเข้าไปกอดกองไฟใหญ่นั้นเป็นปัจจัย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรก น่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์
แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
เข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์หรือบุตรสาวคฤหบดี
ผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่มนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบxายมิใช่ประโยชน์
เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา
และผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=23&A=2629
อรรถกถาอัจฉราสังฆาตวรรคที่ ๖
อรรถกถาสูตรที่ ๓ [บางส่วน]
บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใดรากเลือด ภิกษุเหล่านั้นต้องอาบัติปาราชิก
ภิกษุเหล่าใดสึกเป็นคฤหัสถ์ ภิกษุเหล่านั้นพากันย่ำยีสิกขาบทเล็กน้อย.
ภิกษุเหล่าใดบรรลุพระอรหัต ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์แล.
พระธรรมเทศนาของพระศาสดา เกิดมีผลแม้แก่ภิกษุ ๓ จำพวกดังกล่าวนี้.
ถามว่า พระธรรมเทศนาเกิดมีผลแก่ภิกษุผู้บรรลุพระอรหัตยกไว้ก่อน
อย่างไรจึงเกิดมีผลแก่ภิกษุนอกนี้?
แก้ว่า ก็ภิกษุแม้เหล่านั้น ถ้าไม่ได้ฟังธรรมเทศนากัณฑ์นี้ไซร้ เป็นผู้ประมาท
ไม่พึงอาจละฐานะได้ แต่นั้นบาปของภิกษุเหล่านั้นกำเริบขึ้น จะพึงทำเธอให้จมลง
ในอบายถ่ายเดียว แต่ฟังเทศนากัณฑ์นี้แล้ว เกิดความสังเวช ละฐานะ ตั้งอยู่ในภูมิ
แห่งสามเณร บำเพ็ญศีล ๑๐ ประกอบขวนขวายในโยนิโสมนสิการ บางพวกเป็น
พระโสดาบัน บางพวกเป็นพระสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวกบังเกิดในเทวโลก.
พระธรรมเทศนาได้มีผลแม้แก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติปาราชิกด้วยอาการอย่างนี้.
ฝ่ายภิกษุนอกนี้ ถ้าไม่พึงได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ไซร้ เมื่อกาลล่วงไปๆ
ก็จะพึงต้องอาบัติสังฆาฑิเสสบ้าง ปาราชิกบ้าง ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้แล้ว
คิดว่า พระพุทธศาสนาช่างขัดเกลาจริงหนอ พวกเราไม่สามารถจะบำเพ็ญข้อปฏิบัตินี้
ตลอดชีวิตได้ จำเราจักลาสิกขา บำเพ็ญอุบาสกธรรม จักพ้นจากทุกข์ได้ ดังนี้แล้ว
จึงพากันสึกไปเป็นคฤหัสถ์.
ชนเหล่านั้นตั้งอยู่ในสรณะ ๓ รักษาศีล ๕ บำเพ็ญอุบาสกธรรม บางพวก
เป็นพระโสดาบัน บางพวกเป็นสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวกบังเกิด
ในเทวโลกแล. พระธรรมเทศนาได้มีผลแม้แก่ภิกษุเหล่านั้น ด้วยอาการอย่างนี้.
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=52#อรรถกถาสูตรที่_๓
หมวดหนังสือธรรมะ
เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
แนะนำ :-
อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม
อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
สารบัญประเภทธรรม
http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php
หมวดหนังสือธรรมะ
http://84000.org/tipitaka/book/
เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘)
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html
เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html
แสดงความคิดเห็น
พระต้องอาบัติปาราชิก แล้วลาสิกขาไปเป็นฆราวาส พยายามทำความดี ตายไปจะได้รับกรรมที่ตนต้องปาราชิกในสมัยที่เป็นพระไหม
ขอพระสูตรในพระไตรปิฎก หรือหลักฐานอ้างอิงด้วยครับ
ขอบคุณครับ