"มาร์ค" ย้ำนายกฯ ต้องพิสูจน์ตัวเอง ห่วงข้าราชการ สวมหมวก 2 ใบ ขอบริหารโปร่งใส
วันที่ 2 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ในรัฐบาล
ประยุทธ์ 1 ว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาของนักการเมือง สิ่งที่ทุกคนหวัง คือ เมื่อเกิดการยึดอำนาจบ้านเมือง
จะต้องเดินไปข้างหน้า มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นการปฏิรูป ซึ่งโจทย์ที่ทุกคนตั้งไว้กับรัฐบาลชุดนี้ คือ
1. ปฏิรูปประเทศ 2. มีมาตรฐานเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งหัวหน้า คสช. หรือ นายกฯ คนปัจจุบัน จะต้อง
รับผิดชอบในเรื่องนี้ และต้องพิสูจน์ตัวเองว่า เมื่อเป็นผู้ยึดอำนาจ และรับผิดชอบทุกอย่าง ก็จะต้องเป็นคนขับ
เคลื่อน เพราะวันที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกคนก็ยอมรับโดยสภาพแล้ว ต้องยอมรับว่า ขณะนี้
ประชาชนพึงพอใจกับการยึดอำนาจในครั้งนี้ เพราะ คสช. ได้เข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชนหลายเรื่อง ทั้งการ
จ่ายเงินเกษตรกรชาวนา การจัดการกับอิทธิพลเถื่อนต่างๆ
ส่วนปัญหาที่รอการแก้ไขที่รัฐบาลนี้ต้องเผชิญนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สังคมอยากเห็นการปฏิรูป แต่แค่เริ่ม
แตะเรื่องพลังงาน ก็มีความเห็นไม่ตรงกัน ดังนั้น รัฐบาลหรือ คสช.จะต้องประสบความยากลำบากในเรื่องนี้
ยังมีเรื่องเศรษฐกิจ ความผันผวนของเหตุการณ์ในต่างประเทศ ราคาพืชผลที่ตกต่ำ ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ
ของรัฐบาล งบปี 2558 ที่เพิ่งเข้าสภาไป โดยต้องเอาแสนกว่าล้านไปจ่ายหนี้จากนโยบายเก่า คือ รถคันแรก
และจำนำข้าว โดยที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรได้เลย จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายการบริหารงานรัฐบาลชุดนี้เป็น
อย่างมาก ส่วน ครม.ที่ตั้งขึ้น คาดว่า จะต้องมีการวัดผลงาน แม้นายกฯ มั่นใจในบุคคลที่ได้วางลงไปในตำแหน่ง
ว่า จะสามารถควบคุม ขับเคลื่อนทิศทางที่กำหนด และภาคเอกชนก็คงยอมรับในความสามารถ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงในส่วนของภาคราชการที่เข้ามารับตำแหน่ง เพราะหากเป็นการขับ
เคลื่อนงานตามปกติ ซึ่งเชื่อว่า ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่งานราชการกับส่วนของนโยบายจะแตกต่างกัน และการ
บริหารอีก 1 ปีจากนี้ จะต้องมีการตัดสินใจเชิงนโยบายด้วยส่วนที่สังคมมองว่า การเข้ามารับตำแหน่งของส่วน
ราชการ เป็นการสวมหมวก 2 ใบนั้น ก็ต้องดูว่าภาระงานมากน้อยแค่ไหน เพราะแม้แต่ สนช.ถ้าประชุม 2 วันก็
เท่ากับจำนวนข้าราชการที่ต้องไปทำงานตรงนั้นเยอะมาก ฉะนั้น คงกระทบบ้าง แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็เข้าใจ
ได้ว่า ทางเลือกมีไม่มาก จำเป็นต้องพึ่งคนในวงราชการเป็นหลัก
สำหรับเรื่องการตรวจสอบการทำงาน ตนอยากให้ผู้มีอำนาจมีความโปร่งใสในการทำงาน ทำให้ประชาชนได้รับรู้
ข้อมูลข่าวสารในเบื้องต้น จากนั้นต้องเปิดกว้างให้ประชาชน หรือสื่อมวลชนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น
http://www.thairath.co.th/content/447402
เมื่อไม่ได้เล่นเอง ก็เลยขอเป็นผู้ให้แคำแนะนำก็แล้วกัน
"โก้" กว่าเล่นเอง ไหม ?
'มาร์ค' ย้ำ นายกฯ ต้องพิสูจน์ตัวเอง โดย ไทยรัฐออนไลน์
"มาร์ค" ย้ำนายกฯ ต้องพิสูจน์ตัวเอง ห่วงข้าราชการ สวมหมวก 2 ใบ ขอบริหารโปร่งใส
วันที่ 2 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ในรัฐบาล
ประยุทธ์ 1 ว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาของนักการเมือง สิ่งที่ทุกคนหวัง คือ เมื่อเกิดการยึดอำนาจบ้านเมือง
จะต้องเดินไปข้างหน้า มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นการปฏิรูป ซึ่งโจทย์ที่ทุกคนตั้งไว้กับรัฐบาลชุดนี้ คือ
1. ปฏิรูปประเทศ 2. มีมาตรฐานเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งหัวหน้า คสช. หรือ นายกฯ คนปัจจุบัน จะต้อง
รับผิดชอบในเรื่องนี้ และต้องพิสูจน์ตัวเองว่า เมื่อเป็นผู้ยึดอำนาจ และรับผิดชอบทุกอย่าง ก็จะต้องเป็นคนขับ
เคลื่อน เพราะวันที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกคนก็ยอมรับโดยสภาพแล้ว ต้องยอมรับว่า ขณะนี้
ประชาชนพึงพอใจกับการยึดอำนาจในครั้งนี้ เพราะ คสช. ได้เข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชนหลายเรื่อง ทั้งการ
จ่ายเงินเกษตรกรชาวนา การจัดการกับอิทธิพลเถื่อนต่างๆ
ส่วนปัญหาที่รอการแก้ไขที่รัฐบาลนี้ต้องเผชิญนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สังคมอยากเห็นการปฏิรูป แต่แค่เริ่ม
แตะเรื่องพลังงาน ก็มีความเห็นไม่ตรงกัน ดังนั้น รัฐบาลหรือ คสช.จะต้องประสบความยากลำบากในเรื่องนี้
ยังมีเรื่องเศรษฐกิจ ความผันผวนของเหตุการณ์ในต่างประเทศ ราคาพืชผลที่ตกต่ำ ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ
ของรัฐบาล งบปี 2558 ที่เพิ่งเข้าสภาไป โดยต้องเอาแสนกว่าล้านไปจ่ายหนี้จากนโยบายเก่า คือ รถคันแรก
และจำนำข้าว โดยที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรได้เลย จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายการบริหารงานรัฐบาลชุดนี้เป็น
อย่างมาก ส่วน ครม.ที่ตั้งขึ้น คาดว่า จะต้องมีการวัดผลงาน แม้นายกฯ มั่นใจในบุคคลที่ได้วางลงไปในตำแหน่ง
ว่า จะสามารถควบคุม ขับเคลื่อนทิศทางที่กำหนด และภาคเอกชนก็คงยอมรับในความสามารถ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงในส่วนของภาคราชการที่เข้ามารับตำแหน่ง เพราะหากเป็นการขับ
เคลื่อนงานตามปกติ ซึ่งเชื่อว่า ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่งานราชการกับส่วนของนโยบายจะแตกต่างกัน และการ
บริหารอีก 1 ปีจากนี้ จะต้องมีการตัดสินใจเชิงนโยบายด้วยส่วนที่สังคมมองว่า การเข้ามารับตำแหน่งของส่วน
ราชการ เป็นการสวมหมวก 2 ใบนั้น ก็ต้องดูว่าภาระงานมากน้อยแค่ไหน เพราะแม้แต่ สนช.ถ้าประชุม 2 วันก็
เท่ากับจำนวนข้าราชการที่ต้องไปทำงานตรงนั้นเยอะมาก ฉะนั้น คงกระทบบ้าง แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็เข้าใจ
ได้ว่า ทางเลือกมีไม่มาก จำเป็นต้องพึ่งคนในวงราชการเป็นหลัก
สำหรับเรื่องการตรวจสอบการทำงาน ตนอยากให้ผู้มีอำนาจมีความโปร่งใสในการทำงาน ทำให้ประชาชนได้รับรู้
ข้อมูลข่าวสารในเบื้องต้น จากนั้นต้องเปิดกว้างให้ประชาชน หรือสื่อมวลชนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น
http://www.thairath.co.th/content/447402
เมื่อไม่ได้เล่นเอง ก็เลยขอเป็นผู้ให้แคำแนะนำก็แล้วกัน "โก้" กว่าเล่นเอง ไหม ?