คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ในทางพระพุทธศาสนาได้แสดงหน้าที่ของลูกพึงปฏิบัติต่อแม่และพ่อ ๕ ประการ ดังนี้
๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว ต้องเลี้ยงท่านตอบแทน
เพิ่มเติม : การเลี้ยงดูย่อมหมายถึงทั้งทางกายและทางใจ บางครั้งพ่อแม่อาจไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องเงินเลย
แต่การให้ความรักและเอาใจใส่ พูดจาอ่อนหวานเป็นห่วงเป็นใย ไปไหนคอยจูงมือ ชี้ชวนให้ดูโน่นดูนี่ หรือเจอเรื่องแปลก
เรื่องตลกๆ เรื่องดีๆ ก็เอามาเล่าให้ฟัง พ่อแม่ก็ดีใจแล้วค่ะ (คหสต.)
๒.ทำกิจธุระของท่าน งานของท่านที่ได้ทำมาแล้ว และยังคงดำเนินการอยู่ หรือภาระใดๆที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ลูก
ควรต้องสอบถาม แสดงน้ำใจทั้งช่วยท่านแบ่งเบาภาระ
๓.ดำรงรักษาวงศ์สกุล ให้คงอยู่และไม่เสื่อมเสียหาย การได้กำเนิดลูกมาคนหนึ่ง อย่างน้อยก็หวังให้ได้สืบทอดวงศ์สกุล
ไม่ให้สังคมได้ดูแคลนว่าลูกบ้านนั้นบ้านนี้ไปทำเสื่อมเสีย จนต้องออกมาถามว่า “ลูกใครหนาช่างเป็นเช่นนี้”
๔.ปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นผู้สมควรรับมรดก นั้นคือต้องเป็นผู้อยู่ในศีล ในธรรม อย่างน้อยก็ศีล ๕ นอกจากนั้นก็ต้อง
ศึกษาวิชาการที่เหมาะสมกับมรดกนั้นว่า จำเป็นต้องใช้ศิลปวิทยาใดบ้างจึงจะรักษาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ต้องศึกษาเรื่องนั้นๆอย่างเต็มที่
๕.เมื่อท่านล่วงลับ ทำบุญอุทิศให้ เป็นหน้าที่ของลูกโดยตรง ที่จะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน เพราะนอกจากจะได้
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแล้ว ยังได้รู้จักบริจาคทาน เข้าหาพระ เข้าหาวัด นี้เองที่จะเป็นสิ่งไม่ให้เราเสื่อมไป แม้ท่านจะล่วงลับไปแล้ว
ย่อหน่อย มันยาวอย่างน่าตกใจ
๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว ต้องเลี้ยงท่านตอบแทน
เพิ่มเติม : การเลี้ยงดูย่อมหมายถึงทั้งทางกายและทางใจ บางครั้งพ่อแม่อาจไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องเงินเลย
แต่การให้ความรักและเอาใจใส่ พูดจาอ่อนหวานเป็นห่วงเป็นใย ไปไหนคอยจูงมือ ชี้ชวนให้ดูโน่นดูนี่ หรือเจอเรื่องแปลก
เรื่องตลกๆ เรื่องดีๆ ก็เอามาเล่าให้ฟัง พ่อแม่ก็ดีใจแล้วค่ะ (คหสต.)
๒.ทำกิจธุระของท่าน งานของท่านที่ได้ทำมาแล้ว และยังคงดำเนินการอยู่ หรือภาระใดๆที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ลูก
ควรต้องสอบถาม แสดงน้ำใจทั้งช่วยท่านแบ่งเบาภาระ
๓.ดำรงรักษาวงศ์สกุล ให้คงอยู่และไม่เสื่อมเสียหาย การได้กำเนิดลูกมาคนหนึ่ง อย่างน้อยก็หวังให้ได้สืบทอดวงศ์สกุล
ไม่ให้สังคมได้ดูแคลนว่าลูกบ้านนั้นบ้านนี้ไปทำเสื่อมเสีย จนต้องออกมาถามว่า “ลูกใครหนาช่างเป็นเช่นนี้”
๔.ปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นผู้สมควรรับมรดก นั้นคือต้องเป็นผู้อยู่ในศีล ในธรรม อย่างน้อยก็ศีล ๕ นอกจากนั้นก็ต้อง
ศึกษาวิชาการที่เหมาะสมกับมรดกนั้นว่า จำเป็นต้องใช้ศิลปวิทยาใดบ้างจึงจะรักษาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ต้องศึกษาเรื่องนั้นๆอย่างเต็มที่
๕.เมื่อท่านล่วงลับ ทำบุญอุทิศให้ เป็นหน้าที่ของลูกโดยตรง ที่จะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน เพราะนอกจากจะได้
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแล้ว ยังได้รู้จักบริจาคทาน เข้าหาพระ เข้าหาวัด นี้เองที่จะเป็นสิ่งไม่ให้เราเสื่อมไป แม้ท่านจะล่วงลับไปแล้ว
ย่อหน่อย มันยาวอย่างน่าตกใจ
แสดงความคิดเห็น
จำเป็นมั๊ยคะที่ต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ด้วยเงินอย่างเดียว ?
อาจจะตอบแทนเป็นอย่างอื่นแทน
คือเราเพิ่งทำงานได้ 2 เดือน ยังไม่ได้ให้เงินเดือนพ่อแม่เลยค่ะ
พอทำงานเดือนแรกเราก็จ่ายทุกอย่างเองหมด ทั้งค่าโทรศัพท์ ค่าฟิตเนส ค่าใช้จ่ายต่างๆ
จากที่ตอนสมัยเรียนพ่อเป็นคนจ่ายให้หมดค่ะ เงินเดือนเลยเหลือแค่พอใช้ของเราเองค่ะ
เดือนนี้เราเลยจะให้แม่แค่ 1 พันบาทก่อน เดือนต่อๆไปค่อยว่ากันค่ะ
จริงๆพ่อแม่เราไม่เคยพูดเลยว่าทำงานแล้วต้องแบ่งเงินมาให้นะ ไรงี้อ่ะคะ
แต่เหมือนเราก็รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงก็ต้องให้บ้าง....
แม่บอกว่าไม่ให้เงินก็ไม่เป็นไร อย่าให้แล้วทำให้ตัวเองลำบาก ไม่พอใช้ก็บอก
พ่อแม่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เงินเดือนมากกว่าเรา 10+ เท่า
แต่ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนทำกับข้าวให้ที่บ้านทานค่ะ
บางวันก็ทำให้พ่อแม่ไปทานที่ทำงานกัน
เป็นคนขับรถพาพ่อแม่ไปเที่ยว ไปธุระต่างๆ คือพยายามทำเท่าที่จะช่วยได้ค่ะ
แต่เพื่อนเราบอกว่าถ้าทำงานเดือนแรกแล้วไม่ให้เงินเดือนแรกกับพ่อแม่
ต่อไปทำอะไรก็จะไม่เจริญ ไม่ประสบความสำเร็จ TT คือจริงรึป่าวคะ ??