ฉันที่แท้
ใครตีนถีบปากกัดเพราะขัดสน ฉันเกิดบนเงินทองกองท่วมบ้าน
ใครอาบเหงื่อต่างน้ำตรากตรำงาน ฉันเกียจคร้านเสเพลทุกเวลา
ใครทุ่มเทฝึกฝนทนอ่านเขียน ฉันลิงโลดโดดเรียนไปเที่ยวซ่า
ใครเขาเจ็บป่วยไข้ไร้หยูกยา ฉันนั่งเมายาบ้านัยน์ตาลอย
ใครล้มลุกคลุกคลานยังหาญท้า ฉันเมื่อยล้าเหี่ยวห่อพาลท้อถอย
ใครอดออมเก็บเล็กผสมน้อย ฉันใช้สอยแปดเก้าพันในวันเดียว
ใครยอมพลีพรุนร่างขวางกระสุน ฉันเจาะพรุนประดับพราวประด๋าวประเดี๋ยว
ใครต่อสู้กระ

กระสนทนอดเซียว ฉัน(

)อยากจะผอมเพรียวจึงอดโซ
ใครรณรงค์เลิกบุหรี่ทุกวี่วัน สำหรับ ฉันนั้นเห็นเป็นเรื่องโก้
ใครกดหัวอธรรมไว้มิให้โง ส่วน ฉันโง่อเนจอนาจเป็นทาสอธรรม์
อาจดูโง่งี่เง่าและเขลาขลาด ฉันที่แท้แค่ขาดความเชื่อมั่น
อาจจูเหลิงระเริงสุขไปวันวัน เนื้อแท้นั้นไม่มีสุขเลยสักนิด
ฉันที่แท้แค่มนุษย์ปุถุชน ซึ่งตกอับสับสนจนก้าวผิด
ใช่หมายว่าพลาดพลั้งทั้งชีวิต ฉันมีสิทธิ์จะแก้ไขใหม่อีกครั้ง
ขวัญดอกไม้
ในห้องหับคับแคบแทบบีบร่าง ขวัญดอกไม้เคว้งคว้างสลัวหม่น
สั่นระริกกลีบกายทุรายทุรน เขื่อนน้ำตาจะท่วมท้นอยู่รำไร
ผ่านม่านหมอกซอกมืดอันชืดชื้น ผ่านการต้านเกลียวคลื่นอันขื่นใคร่
คืนนี้เธอหนาวร่างจากข้างใน คืนที่ฟ้าหวาดไหวไร้วิญญาณ
เสียงหัวใจตื่นกลัวระรัวกลอง กระหน่ำก้องในสำนึกรู้สึกซ่าน
เสียงฝีเท้าก้าวย่องของซาตาน สะท้อนสะเทือนเคลื่อนสะท้านพื้นบ้านนั้น
แหลกเสียแล้วเกสรซึ่งอ่อนใส พรากอวลไอโอบอุ่นละมุนฝัน
ไร้แววตาแจ่มเหลือเมือวานวัน เมื่อเย่อใยสายสัมพันธ์สะบั้นลง
ไม่นึกเลยเคยชิดสนิทใกล้ ฤทธิ์เมรัยทำฟั่นเฟือนจนเลือนหลง
ดั่งหักขั้วชีวิตลงปลิดปลง ดั่งตกเดือนลงกลางดงแห่งสงคราม
ยังสดใสวัยเยาว์เพียงเท่านี้ ยังไม่พร้อมยอมพลีอย่างผลีผลาม
ไม่ควรเลยเผยไหล่ให้ใครลาม ไม่ควรก้มเป็นทาสไปตามกรรม
จวบอาทิตย์สาดแสงแห่งรุ่งเช้า ปลุกทางเท้าสองข้างให้คลาคล่ำ
ค่อยค่อยเปิดเวทีม่านสีดำ ฉายภาพโศกนาฏกรรมอันร้าวราน
ในห้องหับคับแคบแทบบีบร่าง ศพดอกไม้แขวนค้างกลางขื่อบ้าน
ขวัญเจ้าเอยปลิวว่อนร่อนประจาน ว่าตนใดพร่าผลาญลูกหลานตน
อยากทราบคความคิดเห็นว่ากลอนไหนสะท้อนเกี่ยวกับวัยรุ่นดีกว่ากัน การแต่งดีกว่ากันตรงไหน เพราะอะไร คิดว่าให้แนวคิดหรือข้อคิดอะไร ขอบคุณค่ะ
ช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกลอนบทนี้หน่อยค่ะ
ใครตีนถีบปากกัดเพราะขัดสน ฉันเกิดบนเงินทองกองท่วมบ้าน
ใครอาบเหงื่อต่างน้ำตรากตรำงาน ฉันเกียจคร้านเสเพลทุกเวลา
ใครทุ่มเทฝึกฝนทนอ่านเขียน ฉันลิงโลดโดดเรียนไปเที่ยวซ่า
ใครเขาเจ็บป่วยไข้ไร้หยูกยา ฉันนั่งเมายาบ้านัยน์ตาลอย
ใครล้มลุกคลุกคลานยังหาญท้า ฉันเมื่อยล้าเหี่ยวห่อพาลท้อถอย
ใครอดออมเก็บเล็กผสมน้อย ฉันใช้สอยแปดเก้าพันในวันเดียว
ใครยอมพลีพรุนร่างขวางกระสุน ฉันเจาะพรุนประดับพราวประด๋าวประเดี๋ยว
ใครต่อสู้กระ
ใครรณรงค์เลิกบุหรี่ทุกวี่วัน สำหรับ ฉันนั้นเห็นเป็นเรื่องโก้
ใครกดหัวอธรรมไว้มิให้โง ส่วน ฉันโง่อเนจอนาจเป็นทาสอธรรม์
อาจดูโง่งี่เง่าและเขลาขลาด ฉันที่แท้แค่ขาดความเชื่อมั่น
อาจจูเหลิงระเริงสุขไปวันวัน เนื้อแท้นั้นไม่มีสุขเลยสักนิด
ฉันที่แท้แค่มนุษย์ปุถุชน ซึ่งตกอับสับสนจนก้าวผิด
ใช่หมายว่าพลาดพลั้งทั้งชีวิต ฉันมีสิทธิ์จะแก้ไขใหม่อีกครั้ง
ขวัญดอกไม้
ในห้องหับคับแคบแทบบีบร่าง ขวัญดอกไม้เคว้งคว้างสลัวหม่น
สั่นระริกกลีบกายทุรายทุรน เขื่อนน้ำตาจะท่วมท้นอยู่รำไร
ผ่านม่านหมอกซอกมืดอันชืดชื้น ผ่านการต้านเกลียวคลื่นอันขื่นใคร่
คืนนี้เธอหนาวร่างจากข้างใน คืนที่ฟ้าหวาดไหวไร้วิญญาณ
เสียงหัวใจตื่นกลัวระรัวกลอง กระหน่ำก้องในสำนึกรู้สึกซ่าน
เสียงฝีเท้าก้าวย่องของซาตาน สะท้อนสะเทือนเคลื่อนสะท้านพื้นบ้านนั้น
แหลกเสียแล้วเกสรซึ่งอ่อนใส พรากอวลไอโอบอุ่นละมุนฝัน
ไร้แววตาแจ่มเหลือเมือวานวัน เมื่อเย่อใยสายสัมพันธ์สะบั้นลง
ไม่นึกเลยเคยชิดสนิทใกล้ ฤทธิ์เมรัยทำฟั่นเฟือนจนเลือนหลง
ดั่งหักขั้วชีวิตลงปลิดปลง ดั่งตกเดือนลงกลางดงแห่งสงคราม
ยังสดใสวัยเยาว์เพียงเท่านี้ ยังไม่พร้อมยอมพลีอย่างผลีผลาม
ไม่ควรเลยเผยไหล่ให้ใครลาม ไม่ควรก้มเป็นทาสไปตามกรรม
จวบอาทิตย์สาดแสงแห่งรุ่งเช้า ปลุกทางเท้าสองข้างให้คลาคล่ำ
ค่อยค่อยเปิดเวทีม่านสีดำ ฉายภาพโศกนาฏกรรมอันร้าวราน
ในห้องหับคับแคบแทบบีบร่าง ศพดอกไม้แขวนค้างกลางขื่อบ้าน
ขวัญเจ้าเอยปลิวว่อนร่อนประจาน ว่าตนใดพร่าผลาญลูกหลานตน
อยากทราบคความคิดเห็นว่ากลอนไหนสะท้อนเกี่ยวกับวัยรุ่นดีกว่ากัน การแต่งดีกว่ากันตรงไหน เพราะอะไร คิดว่าให้แนวคิดหรือข้อคิดอะไร ขอบคุณค่ะ