ขอเชียร์ และให้กำลังใจทีมงานและทีมนักแสดงด้วยวันนี้ หลังจากตำหนิมาหลายตอนจนเหมือนพวกขาประจำ แต่ตอนวันนี้ มีหลายส่วนที่ทำดี และดีมาก
ก่อนอื่นขอเริ่มที่ข้อบกพร่องก่อน
- เรื่องราวของเอม ยูริ และเพื่อนๆ :
มันงงๆ ไม่สมเหตุสมผล คือเราไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนนะ อยากให้ใครที่อ่านมาแล้ววิจารณ์ฉากนี้ดีกว่านะ ส่วนตัวงงกับตัวละครอย่างเอม เข้าใจว่าร้าย มีคนอื่นนอกจากปุณณ์ แต่อาจจะเป็นเพราะน้องพริมโรสเล่นไม่ถึง ไม่สามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้หรือเปล่า แถมบทยังให้เดินโท่งๆไปรับของฝากจากกิ๊กต่อหน้าเพื่อนๆให้กรี๊ดกร๊าด มันคืออะไร? แถมแก้ตัวว่าเป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่การกระทำมันหวานอย่างนั้น ใครจะเชื่อ ผู้ชมก็ไม่เชื่อ ดูออก เพื่อนๆเอมไม่ตะขิดตะขวงใจบ้างเหรอ แล้วใครอยากจะปกป้องเพื่อนที่ปากก็บอกว่าสงสัยว่าแฟนนอกใจ แต่ตัวเองก็นอกใจเสียเอง สก.โม เธอน่าจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่ละมั้ง กร้านโลกซะขนาดนั้น เอมโกหกแน่ๆร้อยเปอร์เซ็น ... ส่วนยูริ นี่ไม่มีบทรีแอ็คชั่นกับเอมเลย ทั้งที่ตอนก่อนหน้าโคตรซีเรียสไปปรับทุกข์ไถ่ถามไล่ล่าหาความจริงกับโน่ถึงโรงเรียน ยูไม่ยอมนะถ้าปุณณ์ทำกับเอมแบบนี้ ประมาณว่ากุเอาตาย >_< แต่มาถึงฉากนี้ ยูริไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรเลย แถมยังไปแย่งขนมกินอีก -*- สรุปอันนี้เป็นซีนที่ไม่เม้คเซ้นอีกซีนนึง อยากให้ทีมงานละเอียดตรงจุดๆนี้ให้มากๆหน่อย
- ปัญหาโลกป่วย เป็นทุกตอน ; การลำดับความต่อเนื่องของโมเม้นแต่ละซีเคว้น :
ในที่นี้เนี่ย ไม่ได้หมายถึงว่าตัดต่อไม่ดีนะ การตัดต่อแบบคัตต่อคัตน่ะ ทำได้ดีแล้ว จังหวะลื่นไหล แต่ที่พูดถึงเพราะมันสะดุดก็คือ จังหวะเข้าหรือจังหวะออกแต่ละซีน หรือ ซีเคว้นมันไม่สามารถสร้างความต่อเนื่องทางอารมณ์ได้ พูดง่ายๆว่ามันโดด
(ปล. *ซีน คือ เหตุการณ์ๆหนึ่ง เช่น ซีน 1 : ปุณณ์ชวนโน่ไปเที่ยวในห้องนอน ซีน 2 : ปุณณ์ลากโน่ลงมาจากห้องเจอน้องแป้งกับป้าวาย ซีน 3 : ปุณณ์ขับรถกับโน่ไปบางแสน ... หลายๆซีนรวมกันจะกลายเป็น **ซีเคว้น ในที่นี้คือ ซีเคว้นปุณณ์กับโน่ไปเที่ยวบางแสน )
ปัญหาของซีรี่ย์ชุดนี้คือการตัดสลับซีเคว้นหรือซีนเพื่อเล่าเรื่องของแต่ละคู่ที่ไม่ราบลื่น เช่น จบซีเคว้น จี๊ดแว้ดๆบอกเลิกกับคม คนกำลังพีคที่ความรู้สึกของจี๊ด ตัดฉับมาที่โน่รั่วเต้นโสดกระปริบกระปอย มันคืออัลไล กะลังบิ้วอารมณ์เฮิร์ตอยู่ ตัดปึ้งเอ้ามาเจอซีนรั่วๆขำๆ อันนี้แหล่ะที่ไม่ดีงาม ..
ถ้าผู้สร้างออกแบบเรื่องต่อ ให้เป็นคมเดินทำเอ็มวีสักแป๊บ หรือเดินไปหาแก๊งชมรมดนตรีที่กำลังลำบากหาเงินเข้าชมรมอยู่ เพื่อนถามคมว่าเป็นอะไรมั้ย มาร้องเพลงด้วยกัน คมดูโอเคขึ้น มิตรภาพช่วยคุณได้ ภาพรวมของอารมณ์ซีนนี้กลับมาเป็นบวกมากขึ้น น้องในชมรมจำชื่อไม่ได้ (ที่ดัดฟัน) บ่นว่าลำบากจังต้องมานั่งเปิดหมวกหาตังค์เข้าชมรม ไม่รู้ว่าทั่นประธานโน่จะรู้มั้ยหนอว่าพวกเราก็ลำบากเหมือนกัน / ตัดฉับไป โน่กำลังเต้นเรื้อนอยู่ริมหาด / แบบนี้ก็ดูจะราบรื่นกว่า แถมเล่าเรื่องแบบมีนัยแกมประชดอีกว่า ขณะที่ทั่นประธานออกเดตมีความสุข (ปนเศร้า) อยู่นั้น แต่สมาชิกชมรมก็กำลังหาเงินอย่างยากลำบากกินข้าวกล่องกลางสยาม ส่วนคุณโน่ เสี่ยปุณณ์เลี้ยงอิ่ม แถมใจดีเปิดโรงแรมให้นอนฟินอีก *_*
- ปัญหาเพลงประกอบ : ปัญหาโลกป่วยวงการหนัง-ละคร บ้านเรา : คือการทำหนังหรือซีรี่ย์เนี่ย เราต้องมี sound track หลายๆธีมไว้ใส่ในตัวหนัง ที่เรียกว่าสกอร์ ไม่ใช่ยัดเพลงลงไปโต้งๆ บางซีนเข้ากับเนื้อเรื่องก็ดีงามไป เช่น เพลงขอร้องในฉากจับมือกันในบีทูเอส หรือ ยังทำไม่ได้ตอนท้ายเรื่อง ในตอนก่อนๆ แต่บางซีนไม่เข้ากับเรื่องแถมตลกอีก เช่น ซีนสโลว์โมชั่นแก๊งชมรมดนตรีกินข้าว(หรือกินขนม)จำไม่ได้ กำลังสนุกสนาน เปิดเพลง This is Love นี่คือรักใช่หรือเปล่า ?! มันคือรักแบบไหนหรอ .. เดินจับมือหรือกอดกันทำแบบนั้นใช่มั้ย ... หรือจะสื่อว่า พวกเมิงกินกันเองในชมรมใช่มั้ย -*- เอ้ออ
- ภาพวูปวาบเฟรมสั่นไหวในช่วงแรกของตอน9 : คือนึกว่าเป็นตอนของวินในฮอร์โมน2 กะลังมโนเสพย์ยา 5555 ... ไม่แน่ใจนะว่าเป็นเพราะอะไรนะ ร้างลาจากไทม์ไลน์โปรแกรมตัดต่อมานาน บางทีน่าจะเป็นปัญหาการแปลงไฟล์ หรือเข้ารหัสโคเด็กผิด เฟรมเรตผิด หรือ สั่ง export ไฟล์ผิดหรือเปล่า แต่ทั้งนี้ก็อยากให้ทีมงานละเอียดตรงจุดนี้หน่อย เพราะมันฉายออกจอทีวีไปทั่วประเทศ เอ้อ อีกอย่าง เสียงพูดเสียงเพลงก็แตกๆในตอนย้อนหลังที่ออฟฟิชเชี่ยลเว็ปไซด์ด้วย รบกวนไปดูหน่อยนะฮะ
}}}}}} จบละนะ }}} เฮ้ยเดี๋ยวสิ ติมาเต็มๆ ไม่ชมได้ไง ^^
- ผู้กำกับ คุณราชิต (โดยเฉพาะซีนปุณณ์กับโน่)
อาทิตย์ก่อนเราเสนอให้เปลี่ยนตัวผกก. แต่ดูอาทิตย์นี้จบ เราเปลี่ยนใจขอเชียร์ให้ทำต่อ เหตุผลเดียวเลยคือ ผู้กำกับคือคนเดียวที่เข้าใจน้องไวซ์กับน้องกัปตันว่ะ การไกด์และอนุญาตให้น้องไวซ์และกัปตันแสดงความเป็นตัวเองออกมาคือความดีงามของผู้กำกับ หลังจากการความดีงามอย่างแรกคือการแคสติ้งให้นักแสดงทั้งสองให้มารับปุณณ์และโน่ นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับทำได้ดีมาโดยตลอด เราจะเห็นพัฒนาการการแสดงและเคมีของนักแสดงนำทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปในทางบวกเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ เราชอบวิธีการกำกับการแสดงของผู้กำกับที่ให้อิสระนักแสดงได้อิมโพรไวซ์ (เล่นสด ด้นสด) ในบางจังหวะของหนัง ซึ่งมันแทบไม่เคยเกิดขึ้นในวงการหนังละครซีรี่ย์บ้านเราเท่าไหร่นัก วิธีการเช่นนี้เป็นเหมือนดาบสองคม ถ้าทำไม่ถึงมันจะเฟลไปเลย แต่ผู้กำกับใช้วิธีการนี้กับสองนักแสดงนำไง จนในที่สุด คนดูก็ตกหลุมรักและเชื่อได้สนิทใจว่า น้องกต.คือโน่ ราวกับหลุดมาจากในนิยาย ส่วน วว. ก็เริ่มเป็นปุณณ์มากขึ้นๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในความเห็นส่วนตัวของเรา ผู้กำกับยังคงมีงานหินที่ต้องทำให้คนดูอย่างเราซึ่งยังไม่เชื่อตัวละครหลายๆตัวโดยสนิทใจว่าเค้าเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ สำคัญเลย เช่น เอม โมโนโทน (ยิ่งกว่าไวซ์ช่วงแรก), ด้วยรายละเอียดของตัวละครที่ใส่มาน้อยเกินไปในฐานะแฟนปุณณ์ ผู้ซึ่งน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ผู้กำกับควรจะให้ความสำคัญมากกว่านี้ ต้องรักตัวละครทุกตัวที่ใส่เข้ามา ห้ามลำเอียงให้แค่ปุณณ์กับโน่ เพราะทุกตัวละครต่างมีวิถีของมันเอง ต่อให้ร้ายแค่ไหน เอมก็รักปุณณ์นะ ผู้กำกับควรจะสื่อให้เห็นด้วยว่ารักยังไง ตรงนี้จะเพิ่มมิติของหนังให้ลึกซึ้งกว่านี้ ตัวละครตัวอื่นก็เช่นกันนะ ฝากด้วย อย่าลำเอียง ><
- Whitewo
ตอนนี้เราเริ่มเชื่อแล้วนะว่าไวซ์คือ ปุณณ์ ที่ขี้เล่นและอบอุ่น ความรู้สึกผ่อนคลายของไวซ์ในฉากนั่งกินกับแกล้มเบียร์ริมหาดวันนี้ มันคือปุณณ์ผู้รู้สึกผ่อนคลายมีความสุขที่ได้มาเดตกับคนรักจอมขี้อ่อยแห่งชาติ นั่นสินะ คนปากอย่างใจอย่างแบบโน่มันต้องเจอคนขี้ตื้อ-ขี้เล่นแบบปุณณ์ เหมือนที่ไวซ์เล่นวันนี้น่ะ ใช่เลย ปุณณ์ยิ้มมีความสุขที่ได้นั่งดูโน่เต้นรั่วๆฉันใด ก็เหมือนคืนความความสุขให้สาววายฉันนั้นสินะ 555
ตอนดราม่าก็โอเคนะ เช่นตอนโน่โวยวายเรื่องปุณณ์ปิดมือถือตัวเองตอนเอมโทรมากับมือถือของโน่ ฉากนี้ไวซ์ทำได้ดีนะ ไม่พูด ตั้งหน้าตั้งตาปิดมือถือแล้วโผเข้าไปกอดโน่ คือแค่นี้มันก็บอกแล้วว่าปุณณ์คิดอะไร ไม่จำเป็นต้องตอบแล้ว ทุกอย่างคือความเข้าใจมันไม่ต้องการคำบรรยายใดๆแล้ว
เพิ่มอีกสักนิดนะ ถ้าน้องทั้งสองลดเลเวลเสียงให้มันซอฟลงกว่านี้จะดีมาก คือ มันกอดใกล้กันซะขนาดนั้นจะพูดดังกันทำไม มันสะดุดอารมณ์นิดหน่อย แค่กระซิบกันก็ได้ยินแล้ว หรือว่ากลัวมีปัญหาการบันทึกเสียง เลยให้น้องพูดดังๆ เดี๋ยวคนดูด่า ไม่หรอกๆ เบาๆก็ได้นะ ถ้ามันได้อารมณ์ ^^
- ccaptainch
เราเชื่อมาตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่ากัปตันคือโน่ > โน่ ที่สดใสร่าเริง ขี้เล่น ขี้อ่อย ปากไม่ตรงกับใจ นึกว่าดูตัวละครซี่รี่ย์ญี่ปุ่นที่คาแรกเตอร์ตัวละครมีลักษณะคล้ายๆกับการ์ตูนอยู่ด้วย เชื่อว่าคนดูจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นโน่ปรากฏอยู่บนจอ เพราะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การแสดงของกัปตันคือสิ่งที่ดีงามและมีเสน่ห์มากที่สุดในซีรี่ย์นี้ ยิ่งในตอนนี้และตอนที่แล้ว บทดราม่าซึ่งซับซ้อนมากขึ้นถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงที่เป็นธรรมชาติ เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยพลังงานบางอย่างที่สะกดให้คนดูอินได้ไม่ยาก ฉากยากๆในตอนที่แล้วที่โน่บุกห้องปุณณ์กรึ๊ปเบียร์พร้อมระบายความอัดอัด น้องถ่ายทอดได้เรียลมาก อินเนอร์มันมาเต็ม ฉากฝืนยิ้มและร้องไห้วันนี้ก็ทำได้ดีเลยทีเดียว ไหนจะฉากไว้ฆ่าแม่ยกสาววาย เต้นรั่วๆ ยกนิ้วกลาง ... เหมือนง่ายนะ แต่ฉากพวกนี้ต้องกัปตันทำเท่านั้นนะถึงจะถึงและฟิน และทั้งหมดนี้ทำให้เขานำหน้านักแสดงเพื่อนร่วมรุ่นทั้งในและนอกซีรี่ย์ไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
ในนักแสดงรุ่นราวคราวเดียวกัน แบบไม่แบ่งค่าย นักแสดงนำฝ่ายชายที่เราชื่นชมก็เช่น น้อง เก้า จิรายุ น้องเก้าเป็นเทพการแสดงแบบ method (การแสดงที่นักแสดงกลายเป็นตัวละครตัวนั้น) ฝ่ายหญิงที่เราชื่นชมล่าสุดก็เช่น น้องปันปัน น้องปันๆก็มีความเป็นเทพทางการแสดงแบบ method เช่นกัน
ซึ่งทั้งสองคนที่กล่าวมาต่างก็ผ่านประสบการณ์งานแสดงมาพอสมควร ทำให้ทั้งคู่มีความละเอียดในสมาธิและจังหวะการเล่นมากขึ้น
ขณะที่น้องกัปตันอาจจะด้อยกว่าทั้งคู่ แต่มันไม่ใช่ปัญหาเลยที่ศักยภาพของน้องตอนนี้จะอัพเกรดไปถึงระดับรุ่นพี่ได้ไม่ยาก เพราะนี่เป็นแค่ผลงานชิ้นแรกเท่านั้น นักแสดงบางคนอยู่ในวงการมานาน ดันแทบตาย ยังไงก็ไม่เกิด ทำยังไงก็ไม่ได้ ขณะที่น้องกัปตันมีศักยภาพที่เรียกว่า Born to be ขออย่างเดียวว่าอย่าหลงแสงสีวงการจน...ไปก็แล้วกันนะ
- รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในซีน :
เป็นจุดเด่นของซีรี่ย์นี้อีกอย่างนะ เช่น ฉากโน่เปิดประตูรถไม่ได้เพราะปุณณ์แกล้ง ไม่ปลดล็อคกุณแจ, โน่ยกนิ้วกลางให้ปุณณ์ในฉากนั่งกินเบียร์ริมหาด, ฉากเหล่านี้ดูเหมือนธรรมดานะ แต่การเก็บรายละเอียดสิ่งเหล่านี้มันทำให้หนังดูสมจริง เหมือนชีวิตคนจริงๆซึ่งเค้าก็ทำกันแบบนี้
ความเห็นส่วนตัวนะ เราเรียกฉากเหล่านี้ว่า ฉากละลายพฤติกรรมตัวละครกับคนดูเข้าด้วยกัน ... ถ้าเราเรียนมหาลัยเราคงจะได้ทำกิจกรรมรับน้อง หนึ่งในกิจกรรมนั้นก็เช่น กิจกรรมร้องเพลงเต้นรั่วๆ เพื่อให้นักศึกษาที่เข้ามาอยู่มีความคุ้ยเคยกัน รู้จักกันมากขึ้น โดยให้ทุกคนรั่วความเป็นตัวเองออกมา ซึ่งก็คือการละลายพฤติกรรมนั่นเอง หนัง ละคร หรือ ซีรี่ย์ก็เช่นกัน การที่คนดูจะสนิทกับตัวละครได้ ตัวละครจะมีฉากเล็กๆอย่างหนึ่ง ที่เราได้เห็นเสน่ห์ที่เป็นหมัดเด็ดสยบผู้ชม ฉากที่กล่าวมาด้านบนนี้แหล่ะ คือเสน่ห์ที่ทำให้คนดูผูกพันกับตัวละครจนถอนตัวไม่ขึ้น อินชนิดว่าฟินเวอร์ กันเลยทีเดียว หมัดเด็ด เทกวันโด้ สายเคะ ของน้องโน่นี่แหล่ะ สุดๆ รู้ตัวกันยังฮะผู้ชม >_<
สารภาพตรงๆนะ โดยเฉพาะกับคุณเหรียญกาแฟ คิดในใจไว้แล้วว่าจะไม่เขียนยาว แต่ก็ ยังทำไม่ด้ายยย 555 วิญญาณนักเขียนบทเก่ามันเข้าสิง กว่าจะรู้ก็เกือบเกินโควต้าตัวอักษรที่ pantip กำหนดละ เอาเป็นว่าสุดท้ายนี้ขอฝากกำกลังใจให้ทีมงานและนักแสดงให้มีสปอนเซอร์เข้ามากๆ และปรับปรุงจุดดีให้ดียิ่งขึ้น จุดด้อยให้ออกมาดีกว่าเดิม เชื่อว่าถ้าตั้งใจ คุณทำได้แน่ๆ มีวัตถุดิบหลายอย่างที่โคตรฮ็อตและเป็นสากล สามารถไปโด่งดังได้ไกลแน่นอน
ปล. จั่วหัวกระทู้นี่เพราะ bias ล้วนๆ ใครทำดี ทำถึง และเหมาะสม ก็สมควรได้ชิงนะ ถึงตอนนี้ สำหรับเรา กัปตันถึงจุดนั้นแล้ว > จัดไป อย่าให้เสีย !!
^__^
รีวิว EP.9 : ปีนี้ ชลธร คงยิ่งยง สมควรได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม >> Bias ล้วนๆ
ก่อนอื่นขอเริ่มที่ข้อบกพร่องก่อน
- เรื่องราวของเอม ยูริ และเพื่อนๆ :
มันงงๆ ไม่สมเหตุสมผล คือเราไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนนะ อยากให้ใครที่อ่านมาแล้ววิจารณ์ฉากนี้ดีกว่านะ ส่วนตัวงงกับตัวละครอย่างเอม เข้าใจว่าร้าย มีคนอื่นนอกจากปุณณ์ แต่อาจจะเป็นเพราะน้องพริมโรสเล่นไม่ถึง ไม่สามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้หรือเปล่า แถมบทยังให้เดินโท่งๆไปรับของฝากจากกิ๊กต่อหน้าเพื่อนๆให้กรี๊ดกร๊าด มันคืออะไร? แถมแก้ตัวว่าเป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่การกระทำมันหวานอย่างนั้น ใครจะเชื่อ ผู้ชมก็ไม่เชื่อ ดูออก เพื่อนๆเอมไม่ตะขิดตะขวงใจบ้างเหรอ แล้วใครอยากจะปกป้องเพื่อนที่ปากก็บอกว่าสงสัยว่าแฟนนอกใจ แต่ตัวเองก็นอกใจเสียเอง สก.โม เธอน่าจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่ละมั้ง กร้านโลกซะขนาดนั้น เอมโกหกแน่ๆร้อยเปอร์เซ็น ... ส่วนยูริ นี่ไม่มีบทรีแอ็คชั่นกับเอมเลย ทั้งที่ตอนก่อนหน้าโคตรซีเรียสไปปรับทุกข์ไถ่ถามไล่ล่าหาความจริงกับโน่ถึงโรงเรียน ยูไม่ยอมนะถ้าปุณณ์ทำกับเอมแบบนี้ ประมาณว่ากุเอาตาย >_< แต่มาถึงฉากนี้ ยูริไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรเลย แถมยังไปแย่งขนมกินอีก -*- สรุปอันนี้เป็นซีนที่ไม่เม้คเซ้นอีกซีนนึง อยากให้ทีมงานละเอียดตรงจุดๆนี้ให้มากๆหน่อย
- ปัญหาโลกป่วย เป็นทุกตอน ; การลำดับความต่อเนื่องของโมเม้นแต่ละซีเคว้น :
ในที่นี้เนี่ย ไม่ได้หมายถึงว่าตัดต่อไม่ดีนะ การตัดต่อแบบคัตต่อคัตน่ะ ทำได้ดีแล้ว จังหวะลื่นไหล แต่ที่พูดถึงเพราะมันสะดุดก็คือ จังหวะเข้าหรือจังหวะออกแต่ละซีน หรือ ซีเคว้นมันไม่สามารถสร้างความต่อเนื่องทางอารมณ์ได้ พูดง่ายๆว่ามันโดด
(ปล. *ซีน คือ เหตุการณ์ๆหนึ่ง เช่น ซีน 1 : ปุณณ์ชวนโน่ไปเที่ยวในห้องนอน ซีน 2 : ปุณณ์ลากโน่ลงมาจากห้องเจอน้องแป้งกับป้าวาย ซีน 3 : ปุณณ์ขับรถกับโน่ไปบางแสน ... หลายๆซีนรวมกันจะกลายเป็น **ซีเคว้น ในที่นี้คือ ซีเคว้นปุณณ์กับโน่ไปเที่ยวบางแสน )
ปัญหาของซีรี่ย์ชุดนี้คือการตัดสลับซีเคว้นหรือซีนเพื่อเล่าเรื่องของแต่ละคู่ที่ไม่ราบลื่น เช่น จบซีเคว้น จี๊ดแว้ดๆบอกเลิกกับคม คนกำลังพีคที่ความรู้สึกของจี๊ด ตัดฉับมาที่โน่รั่วเต้นโสดกระปริบกระปอย มันคืออัลไล กะลังบิ้วอารมณ์เฮิร์ตอยู่ ตัดปึ้งเอ้ามาเจอซีนรั่วๆขำๆ อันนี้แหล่ะที่ไม่ดีงาม ..
ถ้าผู้สร้างออกแบบเรื่องต่อ ให้เป็นคมเดินทำเอ็มวีสักแป๊บ หรือเดินไปหาแก๊งชมรมดนตรีที่กำลังลำบากหาเงินเข้าชมรมอยู่ เพื่อนถามคมว่าเป็นอะไรมั้ย มาร้องเพลงด้วยกัน คมดูโอเคขึ้น มิตรภาพช่วยคุณได้ ภาพรวมของอารมณ์ซีนนี้กลับมาเป็นบวกมากขึ้น น้องในชมรมจำชื่อไม่ได้ (ที่ดัดฟัน) บ่นว่าลำบากจังต้องมานั่งเปิดหมวกหาตังค์เข้าชมรม ไม่รู้ว่าทั่นประธานโน่จะรู้มั้ยหนอว่าพวกเราก็ลำบากเหมือนกัน / ตัดฉับไป โน่กำลังเต้นเรื้อนอยู่ริมหาด / แบบนี้ก็ดูจะราบรื่นกว่า แถมเล่าเรื่องแบบมีนัยแกมประชดอีกว่า ขณะที่ทั่นประธานออกเดตมีความสุข (ปนเศร้า) อยู่นั้น แต่สมาชิกชมรมก็กำลังหาเงินอย่างยากลำบากกินข้าวกล่องกลางสยาม ส่วนคุณโน่ เสี่ยปุณณ์เลี้ยงอิ่ม แถมใจดีเปิดโรงแรมให้นอนฟินอีก *_*
- ปัญหาเพลงประกอบ : ปัญหาโลกป่วยวงการหนัง-ละคร บ้านเรา : คือการทำหนังหรือซีรี่ย์เนี่ย เราต้องมี sound track หลายๆธีมไว้ใส่ในตัวหนัง ที่เรียกว่าสกอร์ ไม่ใช่ยัดเพลงลงไปโต้งๆ บางซีนเข้ากับเนื้อเรื่องก็ดีงามไป เช่น เพลงขอร้องในฉากจับมือกันในบีทูเอส หรือ ยังทำไม่ได้ตอนท้ายเรื่อง ในตอนก่อนๆ แต่บางซีนไม่เข้ากับเรื่องแถมตลกอีก เช่น ซีนสโลว์โมชั่นแก๊งชมรมดนตรีกินข้าว(หรือกินขนม)จำไม่ได้ กำลังสนุกสนาน เปิดเพลง This is Love นี่คือรักใช่หรือเปล่า ?! มันคือรักแบบไหนหรอ .. เดินจับมือหรือกอดกันทำแบบนั้นใช่มั้ย ... หรือจะสื่อว่า พวกเมิงกินกันเองในชมรมใช่มั้ย -*- เอ้ออ
- ภาพวูปวาบเฟรมสั่นไหวในช่วงแรกของตอน9 : คือนึกว่าเป็นตอนของวินในฮอร์โมน2 กะลังมโนเสพย์ยา 5555 ... ไม่แน่ใจนะว่าเป็นเพราะอะไรนะ ร้างลาจากไทม์ไลน์โปรแกรมตัดต่อมานาน บางทีน่าจะเป็นปัญหาการแปลงไฟล์ หรือเข้ารหัสโคเด็กผิด เฟรมเรตผิด หรือ สั่ง export ไฟล์ผิดหรือเปล่า แต่ทั้งนี้ก็อยากให้ทีมงานละเอียดตรงจุดนี้หน่อย เพราะมันฉายออกจอทีวีไปทั่วประเทศ เอ้อ อีกอย่าง เสียงพูดเสียงเพลงก็แตกๆในตอนย้อนหลังที่ออฟฟิชเชี่ยลเว็ปไซด์ด้วย รบกวนไปดูหน่อยนะฮะ
}}}}}} จบละนะ }}} เฮ้ยเดี๋ยวสิ ติมาเต็มๆ ไม่ชมได้ไง ^^
- ผู้กำกับ คุณราชิต (โดยเฉพาะซีนปุณณ์กับโน่)
อาทิตย์ก่อนเราเสนอให้เปลี่ยนตัวผกก. แต่ดูอาทิตย์นี้จบ เราเปลี่ยนใจขอเชียร์ให้ทำต่อ เหตุผลเดียวเลยคือ ผู้กำกับคือคนเดียวที่เข้าใจน้องไวซ์กับน้องกัปตันว่ะ การไกด์และอนุญาตให้น้องไวซ์และกัปตันแสดงความเป็นตัวเองออกมาคือความดีงามของผู้กำกับ หลังจากการความดีงามอย่างแรกคือการแคสติ้งให้นักแสดงทั้งสองให้มารับปุณณ์และโน่ นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับทำได้ดีมาโดยตลอด เราจะเห็นพัฒนาการการแสดงและเคมีของนักแสดงนำทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปในทางบวกเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ เราชอบวิธีการกำกับการแสดงของผู้กำกับที่ให้อิสระนักแสดงได้อิมโพรไวซ์ (เล่นสด ด้นสด) ในบางจังหวะของหนัง ซึ่งมันแทบไม่เคยเกิดขึ้นในวงการหนังละครซีรี่ย์บ้านเราเท่าไหร่นัก วิธีการเช่นนี้เป็นเหมือนดาบสองคม ถ้าทำไม่ถึงมันจะเฟลไปเลย แต่ผู้กำกับใช้วิธีการนี้กับสองนักแสดงนำไง จนในที่สุด คนดูก็ตกหลุมรักและเชื่อได้สนิทใจว่า น้องกต.คือโน่ ราวกับหลุดมาจากในนิยาย ส่วน วว. ก็เริ่มเป็นปุณณ์มากขึ้นๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในความเห็นส่วนตัวของเรา ผู้กำกับยังคงมีงานหินที่ต้องทำให้คนดูอย่างเราซึ่งยังไม่เชื่อตัวละครหลายๆตัวโดยสนิทใจว่าเค้าเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ สำคัญเลย เช่น เอม โมโนโทน (ยิ่งกว่าไวซ์ช่วงแรก), ด้วยรายละเอียดของตัวละครที่ใส่มาน้อยเกินไปในฐานะแฟนปุณณ์ ผู้ซึ่งน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ผู้กำกับควรจะให้ความสำคัญมากกว่านี้ ต้องรักตัวละครทุกตัวที่ใส่เข้ามา ห้ามลำเอียงให้แค่ปุณณ์กับโน่ เพราะทุกตัวละครต่างมีวิถีของมันเอง ต่อให้ร้ายแค่ไหน เอมก็รักปุณณ์นะ ผู้กำกับควรจะสื่อให้เห็นด้วยว่ารักยังไง ตรงนี้จะเพิ่มมิติของหนังให้ลึกซึ้งกว่านี้ ตัวละครตัวอื่นก็เช่นกันนะ ฝากด้วย อย่าลำเอียง ><
- Whitewo
ตอนนี้เราเริ่มเชื่อแล้วนะว่าไวซ์คือ ปุณณ์ ที่ขี้เล่นและอบอุ่น ความรู้สึกผ่อนคลายของไวซ์ในฉากนั่งกินกับแกล้มเบียร์ริมหาดวันนี้ มันคือปุณณ์ผู้รู้สึกผ่อนคลายมีความสุขที่ได้มาเดตกับคนรักจอมขี้อ่อยแห่งชาติ นั่นสินะ คนปากอย่างใจอย่างแบบโน่มันต้องเจอคนขี้ตื้อ-ขี้เล่นแบบปุณณ์ เหมือนที่ไวซ์เล่นวันนี้น่ะ ใช่เลย ปุณณ์ยิ้มมีความสุขที่ได้นั่งดูโน่เต้นรั่วๆฉันใด ก็เหมือนคืนความความสุขให้สาววายฉันนั้นสินะ 555
ตอนดราม่าก็โอเคนะ เช่นตอนโน่โวยวายเรื่องปุณณ์ปิดมือถือตัวเองตอนเอมโทรมากับมือถือของโน่ ฉากนี้ไวซ์ทำได้ดีนะ ไม่พูด ตั้งหน้าตั้งตาปิดมือถือแล้วโผเข้าไปกอดโน่ คือแค่นี้มันก็บอกแล้วว่าปุณณ์คิดอะไร ไม่จำเป็นต้องตอบแล้ว ทุกอย่างคือความเข้าใจมันไม่ต้องการคำบรรยายใดๆแล้ว
เพิ่มอีกสักนิดนะ ถ้าน้องทั้งสองลดเลเวลเสียงให้มันซอฟลงกว่านี้จะดีมาก คือ มันกอดใกล้กันซะขนาดนั้นจะพูดดังกันทำไม มันสะดุดอารมณ์นิดหน่อย แค่กระซิบกันก็ได้ยินแล้ว หรือว่ากลัวมีปัญหาการบันทึกเสียง เลยให้น้องพูดดังๆ เดี๋ยวคนดูด่า ไม่หรอกๆ เบาๆก็ได้นะ ถ้ามันได้อารมณ์ ^^
- ccaptainch
เราเชื่อมาตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่ากัปตันคือโน่ > โน่ ที่สดใสร่าเริง ขี้เล่น ขี้อ่อย ปากไม่ตรงกับใจ นึกว่าดูตัวละครซี่รี่ย์ญี่ปุ่นที่คาแรกเตอร์ตัวละครมีลักษณะคล้ายๆกับการ์ตูนอยู่ด้วย เชื่อว่าคนดูจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นโน่ปรากฏอยู่บนจอ เพราะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การแสดงของกัปตันคือสิ่งที่ดีงามและมีเสน่ห์มากที่สุดในซีรี่ย์นี้ ยิ่งในตอนนี้และตอนที่แล้ว บทดราม่าซึ่งซับซ้อนมากขึ้นถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงที่เป็นธรรมชาติ เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยพลังงานบางอย่างที่สะกดให้คนดูอินได้ไม่ยาก ฉากยากๆในตอนที่แล้วที่โน่บุกห้องปุณณ์กรึ๊ปเบียร์พร้อมระบายความอัดอัด น้องถ่ายทอดได้เรียลมาก อินเนอร์มันมาเต็ม ฉากฝืนยิ้มและร้องไห้วันนี้ก็ทำได้ดีเลยทีเดียว ไหนจะฉากไว้ฆ่าแม่ยกสาววาย เต้นรั่วๆ ยกนิ้วกลาง ... เหมือนง่ายนะ แต่ฉากพวกนี้ต้องกัปตันทำเท่านั้นนะถึงจะถึงและฟิน และทั้งหมดนี้ทำให้เขานำหน้านักแสดงเพื่อนร่วมรุ่นทั้งในและนอกซีรี่ย์ไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
ในนักแสดงรุ่นราวคราวเดียวกัน แบบไม่แบ่งค่าย นักแสดงนำฝ่ายชายที่เราชื่นชมก็เช่น น้อง เก้า จิรายุ น้องเก้าเป็นเทพการแสดงแบบ method (การแสดงที่นักแสดงกลายเป็นตัวละครตัวนั้น) ฝ่ายหญิงที่เราชื่นชมล่าสุดก็เช่น น้องปันปัน น้องปันๆก็มีความเป็นเทพทางการแสดงแบบ method เช่นกัน
ซึ่งทั้งสองคนที่กล่าวมาต่างก็ผ่านประสบการณ์งานแสดงมาพอสมควร ทำให้ทั้งคู่มีความละเอียดในสมาธิและจังหวะการเล่นมากขึ้น
ขณะที่น้องกัปตันอาจจะด้อยกว่าทั้งคู่ แต่มันไม่ใช่ปัญหาเลยที่ศักยภาพของน้องตอนนี้จะอัพเกรดไปถึงระดับรุ่นพี่ได้ไม่ยาก เพราะนี่เป็นแค่ผลงานชิ้นแรกเท่านั้น นักแสดงบางคนอยู่ในวงการมานาน ดันแทบตาย ยังไงก็ไม่เกิด ทำยังไงก็ไม่ได้ ขณะที่น้องกัปตันมีศักยภาพที่เรียกว่า Born to be ขออย่างเดียวว่าอย่าหลงแสงสีวงการจน...ไปก็แล้วกันนะ
- รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในซีน :
เป็นจุดเด่นของซีรี่ย์นี้อีกอย่างนะ เช่น ฉากโน่เปิดประตูรถไม่ได้เพราะปุณณ์แกล้ง ไม่ปลดล็อคกุณแจ, โน่ยกนิ้วกลางให้ปุณณ์ในฉากนั่งกินเบียร์ริมหาด, ฉากเหล่านี้ดูเหมือนธรรมดานะ แต่การเก็บรายละเอียดสิ่งเหล่านี้มันทำให้หนังดูสมจริง เหมือนชีวิตคนจริงๆซึ่งเค้าก็ทำกันแบบนี้
ความเห็นส่วนตัวนะ เราเรียกฉากเหล่านี้ว่า ฉากละลายพฤติกรรมตัวละครกับคนดูเข้าด้วยกัน ... ถ้าเราเรียนมหาลัยเราคงจะได้ทำกิจกรรมรับน้อง หนึ่งในกิจกรรมนั้นก็เช่น กิจกรรมร้องเพลงเต้นรั่วๆ เพื่อให้นักศึกษาที่เข้ามาอยู่มีความคุ้ยเคยกัน รู้จักกันมากขึ้น โดยให้ทุกคนรั่วความเป็นตัวเองออกมา ซึ่งก็คือการละลายพฤติกรรมนั่นเอง หนัง ละคร หรือ ซีรี่ย์ก็เช่นกัน การที่คนดูจะสนิทกับตัวละครได้ ตัวละครจะมีฉากเล็กๆอย่างหนึ่ง ที่เราได้เห็นเสน่ห์ที่เป็นหมัดเด็ดสยบผู้ชม ฉากที่กล่าวมาด้านบนนี้แหล่ะ คือเสน่ห์ที่ทำให้คนดูผูกพันกับตัวละครจนถอนตัวไม่ขึ้น อินชนิดว่าฟินเวอร์ กันเลยทีเดียว หมัดเด็ด เทกวันโด้ สายเคะ ของน้องโน่นี่แหล่ะ สุดๆ รู้ตัวกันยังฮะผู้ชม >_<
สารภาพตรงๆนะ โดยเฉพาะกับคุณเหรียญกาแฟ คิดในใจไว้แล้วว่าจะไม่เขียนยาว แต่ก็ ยังทำไม่ด้ายยย 555 วิญญาณนักเขียนบทเก่ามันเข้าสิง กว่าจะรู้ก็เกือบเกินโควต้าตัวอักษรที่ pantip กำหนดละ เอาเป็นว่าสุดท้ายนี้ขอฝากกำกลังใจให้ทีมงานและนักแสดงให้มีสปอนเซอร์เข้ามากๆ และปรับปรุงจุดดีให้ดียิ่งขึ้น จุดด้อยให้ออกมาดีกว่าเดิม เชื่อว่าถ้าตั้งใจ คุณทำได้แน่ๆ มีวัตถุดิบหลายอย่างที่โคตรฮ็อตและเป็นสากล สามารถไปโด่งดังได้ไกลแน่นอน
ปล. จั่วหัวกระทู้นี่เพราะ bias ล้วนๆ ใครทำดี ทำถึง และเหมาะสม ก็สมควรได้ชิงนะ ถึงตอนนี้ สำหรับเรา กัปตันถึงจุดนั้นแล้ว > จัดไป อย่าให้เสีย !!
^__^