ประการแรก
กลยุทธ์ของนายบัฟเฟตต์ที่ทำให้เขาประสบผลสำเร็จในการบริหารจัดการลงทุนมาเป็นเวลายาวนาน คือ ตัดสินใจเร็ว เน้นซื้อหุ้นบริษัทที่มีแบรนด์ติดตลาด มีส่วนแบ่งตลาดสูง และมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ทั้งนี้ แทนที่จะเน้นซื้อหุ้นในอุตสาหกรรมไฮเทค เขากลับเน้นลงทุนโดยเฉพาะบริษัทเก่าแก่ในอุตสาหกรรมที่ดูเหมือนพื้นๆ เช่น อาหาร เนื่องจากเล็งเห็นว่าการที่บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันมายาวนานในอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ย่อมแสดงว่าบริษัทเหล่านี้มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยในระยะที่ผ่านมาได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทที่เป็นไปตามสเปกข้างต้น เป็นต้นว่า บริษัทน้ำอัดลมโคคาโคล่า บริษัทไอศครีมแดรี่ควีน บริษัทแฮมเบอร์เกอร์แมคโดนัลด์ ฯลฯ
ประการที่สอง
ไฮนซ์โดยในประเทศที่เป็นตลาดรายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลก ไฮนซ์ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ใน 7 ประเทศ นับเป็นซอสมะเขือเทศรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก มาเป็นเวลายาวนาน จนกลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาด บางครั้งถึงกับเรียกซ็อสมะเขือเทศว่า “ไฮนซ์” เหมือนกับคนไทยเรียกผงซักฟอกว่า “แฟ็บ”เรียกลวดเย็บกระดาษว่า “แม็กซ์” หรือเรียกกระดาษอัดสำเนาว่า “กระดาษโรเนียว” โดยในประเทศที่เป็นตลาดรายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลก ไฮนซ์ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ใน 7 ประเทศ เนื่องจากปัจจัยแห่งความสำเร็จหลายประการ โดยเฉพาะการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ คือ Dip & Squeeze มีการดัดแปลงซอสมะเขือเทศสูตรต่างๆ ให้สอดคล้องกับรสนิยมของท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพสม่ำเสมอ พร้อมกับเปิดให้ลูกค้าเยี่ยมชมโรงงานเพื่อสร้างความมั่นใจในด้านมาตรฐานความสะอาด ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจระดับสูง ยากที่คู่แข่งจะแย่งตลาดได้
อรุณสวัสดิ์วันสุขครับ
กลยุทธ์ของนายบัฟเฟตต์ที่ทำให้เขาประสบผลสำเร็จในการบริหารจัดการลงทุนมาเป็นเวลายาวนาน คือ ตัดสินใจเร็ว เน้นซื้อหุ้นบริษัทที่มีแบรนด์ติดตลาด มีส่วนแบ่งตลาดสูง และมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ทั้งนี้ แทนที่จะเน้นซื้อหุ้นในอุตสาหกรรมไฮเทค เขากลับเน้นลงทุนโดยเฉพาะบริษัทเก่าแก่ในอุตสาหกรรมที่ดูเหมือนพื้นๆ เช่น อาหาร เนื่องจากเล็งเห็นว่าการที่บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันมายาวนานในอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ย่อมแสดงว่าบริษัทเหล่านี้มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยในระยะที่ผ่านมาได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทที่เป็นไปตามสเปกข้างต้น เป็นต้นว่า บริษัทน้ำอัดลมโคคาโคล่า บริษัทไอศครีมแดรี่ควีน บริษัทแฮมเบอร์เกอร์แมคโดนัลด์ ฯลฯ
ประการที่สอง
ไฮนซ์โดยในประเทศที่เป็นตลาดรายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลก ไฮนซ์ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ใน 7 ประเทศ นับเป็นซอสมะเขือเทศรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก มาเป็นเวลายาวนาน จนกลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาด บางครั้งถึงกับเรียกซ็อสมะเขือเทศว่า “ไฮนซ์” เหมือนกับคนไทยเรียกผงซักฟอกว่า “แฟ็บ”เรียกลวดเย็บกระดาษว่า “แม็กซ์” หรือเรียกกระดาษอัดสำเนาว่า “กระดาษโรเนียว” โดยในประเทศที่เป็นตลาดรายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลก ไฮนซ์ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ใน 7 ประเทศ เนื่องจากปัจจัยแห่งความสำเร็จหลายประการ โดยเฉพาะการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ คือ Dip & Squeeze มีการดัดแปลงซอสมะเขือเทศสูตรต่างๆ ให้สอดคล้องกับรสนิยมของท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพสม่ำเสมอ พร้อมกับเปิดให้ลูกค้าเยี่ยมชมโรงงานเพื่อสร้างความมั่นใจในด้านมาตรฐานความสะอาด ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจระดับสูง ยากที่คู่แข่งจะแย่งตลาดได้