ชาวบ้าน ยอมให้พ่อน้องเขียวเข้าหมู่บ้านได้แล้ว

กระทู้ข่าว
ผู้สื่ออข่าวรายงาน จากจังหวัดอุบลราชธานีว่า วันนี้(27สค.2557) เวลา17.00 น.ที่วัดบ้านคำหมาไนร่องแข ตำบลนาเลิน อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายชูชาติ สมสวย นายอำเภอศรีเมืองใหม่ พร้อมด้วยนายก อบต.นาเลิน นายบันลือ แสงชมภู ผู้ใหญ่บ้านคำหมาไนร่องแข้ ได้ร่วมประชุมเพือชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชนชาวบ้านคำหมาไนร่องแข กรณีครอบครัวของน้องเขียวโดยเฉพาะพ่อของน้องเขียวที่ถูกกล่าวว่าเป็นปอบได้ออกจากหมู่บ้านกว่า 10 ปีและไม่ยอมให้กลับเข้าหมู่บ้านคำหมาไนร่องแขนั้น

นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผวจ.อุบลราชธานีได้กล่าวว่าขณะนี้น้องเขียวได้ข้าเรียนต่อที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32แล้วส่วนครอบครัวซึ่งเป็นพ่อและแม่ของน้องเขียวได้พักอาศัยที่บ้านพักมิตรไมตรีของสำนักงานพัฒนาสังคมฯจังหวัดอุบลราชธานีโดยจะมีกำนันตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร ได้ให้งานทำและให้ที่อยู่อาศัยในประมาณปลายเดือนสิงหาคม2557 ซึ่งครอบครัวของน้องเขียวก็เป็นคนในหมู่บ้านนี้ จึงมีสิทธิที่จะเข้ามาในหมู่บ้านได้ไม่ควรที่จะไปขัดขวางอะไรเพราะเป็นคนไทยเป็นคนในหมู่บ้านนี้เช่นกันน่าจะคืนความสุขให้กันและกันและมีความปรองดองกัน

"ได้สอบถามผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านคำหมาไนร่องแขว่าจะยินยอมให้พ่อของน้องเขียวกลับเข้ามาในหมู่บ้านได้หรือไม่ซึ่งนายบันลือ แสงชมพูกล่าวตอบว่าชาวบ้านได้เข้าใจเป็นส่วนใหญ่แล้ว และให้พ่อของน้องเขียวกลับเข้ามาเยี่ยมภายในหมู่บ้านได้และให้สัมภาษณ์ว่าการชี้แจงกับชาวบ้านเป็นที่น่าพอใจชาวบ้านได้ยอมให้ครอบครัวของน้องเขียวกลับมาเยี่ยมภายในหมู่บ้านได้คาดว่าทุกอย่างจะดีขึ้น" นายสุรพันธ์ฯ รองผวจ.อุบลราชธานี กล่าว

ด้าน นายบันลือ แสงชมพู ผญบ.คำหมาไนร่องแข กล่าวว่า ตนได้พยายามสร้างความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับปอบมาอย่างต่อเนื่องซึ่งชาวบ้านมีทัศนคติที่ดีขึ้นเป็นส่วนใหญ่เชื่อว่าการออกจากหมู่บ้านไปนับ 10 ปีความเชื่อเรืองปอบน่าจะหายแล้ว และไม่ขัดข้องหากพ่อน้องเขียวจะกลับเข้าในหมู่บ้านเป็นครั้งคราวละ1-2เดือน เพราะแม่ของน้องเขียวซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านก็เข้าๆออกหมู่บ้านเป็นไปตามปกติอยู่แล้ว

"ก็มีให้ข้อมูลไปต่างๆนาๆว่าผมจะทำร้ายจะฆ่าพ่อของน้องเขียวหากพ่อของน้องเขียวกลับเข้าในหมู่บ้านขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผมไม่ได้พูดหรือนะกระทำเช่นนั้น พ่อน้องเขียวสามารถกลับหมู่บ้านได้"นายบันลือฯผญบ.คำหมาไนร่องแข กล่าวย้ำ

มติชน

ถ้าชาวบ้านไม่ให้เข้าหมู่บ้านก็ให้เด็กย้ายไปเรียน หมู่บ้านอื่นที่เขาพร้อมจะให้พ่อและเด็กอยู่ก็จะดีกว่านะครับ แล้วพิสูจน์ให้เห็นเลยว่าพ่อเด็กอยู่หมู่บ้านอื่นเป็นปอปไหม มีคนเสียชีวิตไหม (ซึ่ง กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต. น่าจะทำให้แต่แรก ครอบครัวเขาได้ไม่ตกระเหเร่ร่อนจนเป็นข่าว เพราะตอนนั้นลุงอายุประมาณ 60 แล้ว ตัวเด็กแค่ 2 ขวบ และเป็นคนหาเช้ากินข้าวไม่มีเงินมีทอง)

ส่วนชาวบ้านหมู่บ้านนี้ ควรให้ความรู้ด้านการแพทย์ กระบวนการคิดหาเหตุหาผลการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้มากขึ้น

ส่วนพ่อหมอที่ทำพิธีไล่ปอปนี่ยังไม่เห็นออกข่าวสักที คนอื่นในข่าวออกสื่อกันหมดแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่