สัตว์เลี้ยงที่รักจากไป มีวิธีทำใจกันยังไงบ้างคะ

กระทู้คำถาม
        ขอแชร์ประสบการณ์เสียน้องแมวที่รักไปเพราะท่อน้ำดีโต เพื่อเป็นวิทยาทานและเป็นกุศลให้กับน้อง โดยส่วนตัวไม่ทราบว่าโรคท่อน้ำดีโต  กับโรคดีซ่านใช่โรคเดียวกันรึเปล่า  น้องเพิ่งเสียไปเมื่อวานคะ ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 3 อาทิตย์ ขอเริ่มเลยนะคะ อาจจะยาวสักหน่อยนะคะ พิมพ์ด้วยใจและมือที่สั่นคะ T T          น้องเหมียวเรา เป็นตัวเมียตอนนั้นเราอยู่หอพัก ได้น้องมาเลี้ยงเพราะเจ้าของเดิมน้องไม่อยู่ไปต่างจังหวัดหลายวัน (อันนี้คิดเอาเองเพราะเห็นเจ้าของเดิมหายไปหลายวัน) น้องน่ารักมากคะ อันนี้ไม่ได้อวยนะ แต่น้องเชื่อฟังคำสั่งและเรียบร้อยมาก น่าตาน่ารักมากเลยคะ ^^ จนเราหลงรักและให้ข้าวให้น้ำ อยู่ประมาณ 5 วัน พอเจ้าของเดิมกลับมาเห็นเรากับน้องเล่นกันเค้าก็เลยยกน้องให้ ดีใจมากกคะ ตอนแรกเห็นเจ้าของน้องกลับมาแอบร้องไห้เลยเพราะเจ้าของตัวจริงเค้ากลับมาแล้วววว  หลังจากนั้นก็ย้ายหอพัก น้องก็ยังน่ารักเรียบร้อย เหมือนเดิม                   
          อยู่ด้วยกันมาประมาณ 4 ปี  จนประมาณ 1 เดิอนสุดท้ายน้องมีอาการอ้วก บ่อย   เราก็คิดว่าเป็นอาการปกติของแมว แล้วอีกอย่างแมวเราอีกตัวก็ป่วยเป็น นิ่วและปอด ก็เลยดูแลแมวป่วยเป็นพิเศษ (มันคือความผิดของเราใช่มั้ยคะ TT)  จนช่วงหลังน้องไม่ค่อยกินข้าว ผอมลง เลยพาน้องไปหาหมอที่ รพ. สัตว์เกษตร  หมอตรวจดู เราเพิ่งเห็นว่าน้องตัวเหลือง ตา หู เหลืองมาก อัลตร้าซาวด์แล้วพบว่าน้องเป็นท่อน้ำดีโต หมอให้ยาขยายท่อน้ำดี แล้วก็ให้ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง  หมอบอกแนวทางการรักษาว่าให้กินยา ถ้าไม่ดีขึ้นให้ตัดท่อน้ำดีทิ้งคะ  เราฟังดูแล้วก็คิดว่าเดี๋ยวน้องก็คงหาย.....                   
          อาทิตย์ที่ 2 ไปหาหมอก็ไม่ดีขึ้น  ก็ได้ยาเพิ่มมา แล้วก็ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง  และต้องบังคับให้ทานอาหาร โดยผสมอาหารเหลว l/d กับน้ำฉีดเข้าปาก  น้องกินยายากมากเลย กัดจนยาแตก ดูทรมานมากเลย เราสงสารน้องเลยไม่กล้าบังคับคะ มันเป็นความผิดของเราเองที่ไม่บังคับน้องให้กินยา ฮือๆๆ                   อาทิตย์ที่ 3 อาการเหมือนจะแย่ลงน้องดูซึมๆ ตัวยังเหลือง คุณหมอแนะนำให้ยาเข้าทางเส้นเลือด และแนะนำให้Admit เพราะจะได้ไม่ต้องเดินทางมาให้น้ำเกลือทุกวัน..... เราก็แอบเป็นห่วงน้องเพราะเราไม่เคยจะห่างกัน และตั้งใจจะไปเยี่ยมทุกวันเลยคะ และสุดท้ายน้องจะต้องกลับบ้านมาเล่นด้วยกันเช้าวันต่อมาคุณหมอโทรมาบอกว่าน้องหยุดหายใจ และกำลังปั๊มหัวใจอยู่เดี๋ยวจะโทรกลับมาอีกที  คุณพระ !!! เราตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเพราะอาหารที่เห็นล่าสุดเหมือนน้องไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้น เราทำอะไรไม่ถูกเลย สักพักคุณหมอก็โทรกลับมาอีก เราไม่กล้าแม้แต่จะรับสาย  สุดท้ายก็กลั้นใจรับแต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะเหมือนมีบางอย่างจุกอยู่ที่คอ  สุดท้ายก็เค้นเสียงออกมาว่า “ว่ายังไงคะคุณหมอ”แล้วคุณหมอก็บอกว่าตอนนี้น้องกลับมาหายใจแล้ว แต่อาการยังน่าเป็นห่วง เราถามคุณหมอว่าน้องเป็นขนาดนี้ได้ยังไง คุณหมอบอกว่าน้องเป็นดีซ่านมานานจนตอนนี้ไปทำลายอวัยวะส่วนต่างๆ และสมอง T Tเราถามหมอไปตรงๆว่าน้องมีโอกาสรอดมั้ย คุณหมอตอบว่าน้อยมากไม่ถึง 10% คำถามสุดท้ายหมอถามว่าถ้าน้องหยุดหายใจอีกจะให้ยื้อไว้หรือไม่  เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดในชีวิตอีกคำถามนึง แต่เรายังทำใจไม่ได้เลยบอกหมอว่า “ยื้อไว้คะ”          
         หลังจากนั้นก็รีบอาบน้ำไปโรงพยาบาล กลัวจับใจว่าจะไปไม่ทันดูใจกัน  พอไปถึงน้องสภาพของน้องคือ  มีเครื่องช่วยหายใจอยู่ในคอลล่าร์และสายยน้ำเกลือ มีดวงตาที่เหม่อลอยแต่พอเห็นเราตาเค้าก็โตขึ้นและมีอาการตอบสนองนิดหน่อย เราลูบตัวน้องด้วยมือที่สั่น และร้องไห้ สงสารน้องมากคะ  สรุปเราได้อยู่ด้วยกันสักพัก ช่วงบ่ายเราไปกินข้าวกลับมาหมอถอดคอลล่าร์ เราเห็นนน้องนอนอยู่ เราเลยไปเรียกชื่อพร้อมกับจับตัวน้องเบาๆ น้องก็ดีใจคะ ยายามลุกขึ้นมาหาเราเราก็เลยกอดน้องไว้จับมือน้องให้น้องนอนอยู่อย่างนั้น (พอเราจะเอามืออดน้องก็จิกเล็บเลยคะ ไม่ได้คิดไปเองเพราะลองทำประมาณเกือบ 10 ครั้งได้)  หลังจากนั้นคุณหมอก็บอกว่าจะย้ายน้องไป ICU พอเราเห็นเจ้าหน้าที่อุ้มน้องเราก็ขออุ้มคะ เรากอดน้องไว้แน่นและบอกน้องว่าให้สู้นะ พี่รออยู่ น้องก็ร้องเบาๆ และซบที่คอ หมอก็บอกว่าเราส่งน้องได้แค่หน้าห้อง ICU เราห็นั่งรออยุ่หน้าห้อง ประมาณไม่เกิน 5 นาที คุณหมอก็เดินมาบอกว่าน้องหยุดหายใจอีกครั้งและกำลังปั๊มหัวใจอยู่ เราร้องไห้อีกครั้งและขอคุณหมอเข้าไปดูน้อง เราเห็นน้องแล้วก็เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ น้ำตาไหลพรากเลยยยย ขอเล่าแค่นะคะ เริ่มสะเทือนใจเดี๋ยวจะร้องไห้ที่ทำงาน 555                     
         สุดท้ายนี้ อยากฝากเพื่อนๆ ว่า                      
         1.อยากให้สังเกตอาการของน้องหมา และน้องแมวให้ดีนะคะว่ามีอะไรผิดปกติมั้ย เช่น ซึม ไม่กินอาหาร อาเจียนบ่อย สีผิวหนัง หู เหงือกเป็นปกติมั้ย  ถ้ามีอาการน่าสงสัยให้รีบพาไปหาหมอเลยนะคะ เพราะหมอบอกว่าแมวจะซ่อนอาการจะแสดงอาการเมือเป็นหนักแล้ว และการฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่สำคัญ มากกก                             
         2. ถ้าน้องไม่สบายต้องบังคับน้องให้กินข้าว กินยา  ต่อให้เค้าจะงอนเราก็ตาม แต่เราก็ต้องทำเพื่อเค้า                     
         3. รักและดูแลน้องแมว และคนที่คุณรักให้ดีทีสุดเพราะ เวลาไม่เคยพอ ความตายไม่เคยบอกเราล่วงหน้า มันจะมาแบบให้เราไม่ทันดั้งตัว         
          ขออภัยด้วยถ้าพิมพ์อะไรผิดไปคะ และขอบคุณทุกคนที่อ่านและหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทาสแมวไม่มากก็น้อยนะคะ

เล่าซะยาวเลยคิดภึงน้อง อยากรู้ว่าเพื่อนๆมีวิธีทำใจกันยังไงบ้างคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
หลังจากที่อยู่ด้วยกันมา 16 ปี

เธอเดินไม่ไหว ฟันร่วงหมดปาก และไม่มีแรงแม้แต่จะเห่า

ทุก ๆ ครั้งที่กินอาหาร ต้องป้อนด้วยมือเท่านั้น ไม่งั้นเธอจะไม่กิน และจะพูดไป เธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าอาหารของเธออยู่ตรงไหน

คนที่เกลียดเธอมากที่สุดคือแม่ของผม แต่แม่ก็ดูแล เปลี่ยนผ้าอ้อมให้เธอ อาบน้ำให้ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน จนวันสุดท้ายของชีวิต

แม่จะบ่นว่า เธอนี่มันร้ายกาจ ชอบทำยุ่ง ชอบจุ้นจ้าน แต่แม่ก็ไม่เคยตีมัน หรือพูดคำหยาบใส่มันเลยแม้แต่ทีเดียว

5 วันก่อนที่เธอจะจากไป หลังจากกลับมาจากโรงเรียน เธอนอนอยู่หน้าตู้เย็น มองผมด้วยตาที่ขุ่นมัว ผมเข้าใจว่า เธอแค่ได้กลิ่น และได้ยินเสียงของผมเดินมา

แต่การแสดงความดีใจอย่างสุดขีดของเธอ ทำได้แค่เพียงยกหางขึ้นมา ครึ่งเดียว....มันคงเต็มที่สำหรับเธอแล้ว

ผมป้อนอาหารกระป๋อง รสตับให้เธอกินทีละคำ ทีละคำ ลูบไปยังขนสีขาว ที่ไม่ว่าจะกี่ปีก็ยังสวยงามอยู่เสมอ จะแตกต่างตรงที่เมื่อ 15 ปีก่อนเธอตัวอ้วนใหญ่ แต่วันนี้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเท่านั้น

"ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาตลอด ถ้าฉันไม่อยู่บ้านตอนเธอจะไป ไม่ต้องรอนะ เหนื่อยมามากแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอก"

ผมลูบหัว ลูบตัวจนเธอหลับไป......ห้าวันหลังจากนั้น เธอจากไปอย่างสงบ ในช่วงสาย ๆ

ที่บ้านพาไปทำบุญที่วัด และจัดงานศพให้ โดยจัดโต๊ะจีนเลี้ยงพระด้วย

ร่างของเธอ ถูกเผา และเถ้ากระดูกถูกนำไปโปรยลงแม่น้ำแห่งหนึ่ง ที่เดียวกับพี่สาวคนโตของผม โดยแม่เป็นคนจัดการทั้งหมด

พวกเราพยายามทำใจกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เรารู้ว่าวันนึงเธอต้องจากเราไป พวกเรารู้ดี.....

ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว......ความรู้สึกที่เรามีต่อเธอ ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมครับ ส่วนทำใจได้หรือไม่ หากเพื่อน ๆ อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว คงจะเจอคำตอบ

แด่การจากไปของ หมาน้อยในตะเกียงวิเศษ
ความคิดเห็นที่ 4
ใช้เวลา...ทำใจค่ะ  เวลาจะช่วยเยียวยาให้เราเข้มแข็งขึ้นค่ะ  เสียใจด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่