๙๖ วัน ปั่น(จักรยาน)คนเดียวเที่ยวสองทวีป ตอนสาม

ตอน ๐๑  http://pantip.com/topic/32455671
ตอน ๐๒  http://pantip.com/topic/32469070
ตอน ๐๓  http://pantip.com/topic/32495304
ตอน ๐๔  http://pantip.com/topic/32571608
ตอน ๐๕  http://pantip.com/topic/33014766
ตอน ๐๖  http://pantip.com/topic/33200197
ตอน ๐๗



วันที่ ๑๔ (วันเสาร์ที่ ๓ พฤษภาคม)

เกียงโป Gyeongpo

พาหนะ จักรยาน

เช้าเดินออกไปชายหาดด้านหลังโฮสเต็ล ดูพระอาทิตย์ยามเช้า แล้วกลับเข้าที่พักกินอาหารเช้า ซื้อมาทำกินเเองโฮสเต็ลส่วนมากจะมีครัวให้ประกอบอาหารได้ ช่วยประหยัดค่ากินไปได้พอสมควร แต่เวลาซื้อต้องกะให้ดี อย่าให้เหลือจะได้ไม่เปลืองเงิน อาหารที่ใช้ไม่หมดก็ทิ้งไว้ที่โฮสเต็ลเป็น Free food สำหรับคนอื่นจะนำไปใช้ประโยชน์

พอสายหน่อยก็เอาจักรยานปั่นไปดูสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเกียงโป


วันที่ ๑๕ (วันอาทิตย์ ๔ พฤษภาคม)

กังหนึ่ง - ดองแฮ - วลาดิวอสตอก(รัสเซีย)

พาหนะ จักรยาน เรือเฟอร์รี่

เช้าเก็บของ ปั่นออกจากโฮสเต็ลไปดองแฮ เพิ่มเติมหน่อยโฮสเต็ลตั้งอยู่ชายหาดเกียงโป ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองกังหนึ่งไปประมาณ ๕ ก.ม. แหะ แหะ พอเข้าเมืองก็หลงทางอีกแล้วครับ ชีวิตเป็นลำบากเพราะความชาตินิยมของชาวเกาหลี ทางแยกส่วนมากจะมีป้ายบอกเป็นภาษาเกาหลี ส่วนน้อยที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วก็ไม่ได้บอกชื่อถนน แต่บอกเป็นชื่อย่าน(ตำบลมั๊ง) แล้วคนต่างถิ่นแบบ จขกท. ก็ไม่รู้จัก เป็นสาเหตุของการหลง

หลายท่านอาจสงสัยว่า อ้าวเมื่อวานยังไม่หลง ทำไมมาหลงวันนี้ เมื่อวานปั่นตอนกลางวัน ส่วนวันนี้รีบออกเดินทางตั้งแต่ตีสี่ครึ่งเลยจำเสันทางไม่ได้ กว่าจะมาเจอทางหลวงได้ก็ตีห้ากว่าแล้ว มาถึง Jeongdongjin ประมาณ ๖ โมงเช้า

จากเมืองนี้จะมีถนนสามสายที่ไปดองแฮได้ สายแรกคือถนนเลียบชายทะเลที่ไปปั่นมาแล้ว มีเนินสองเนินความชัน ๗ และ ๑๐ องศา วันนี้ไม่อยากเข็นขอไม่เลือก อีกเส้นน่าจะเป็นทางด่วนมองขึ้นไปเห็นวิ่งข้ามหุบเขาอยู่ เลยขอเลือกเส้นที่สามคือทางหมายเลข ๗ ปรากฏว่าเลือกถูกเพราะเป็นทางลัดเลาะไปตามหุบเขา อาจจะอ้อมหน่อยแต่ปั่นสบายแทบไม่มีรถวิ่งเลย มีเนินแค่เนินเดียวยาวประมาณ ๑ ก.ม. แต่ขาลงยาว ๗ ก.ม.

แล้วก็มาถึงจุดชวนหลงอีกแล้วเป็นทางสี่แยกยังไม่เข้าเขตเมือง ไม่มีป้ายบอกทางภาษาอังกฤษ บังเอิญมีนักปั่นชาวเกาหลีจอดจักรยานคุยกันอยู่ก็เลยเข้าไปถามว่าจะไปดองแฮ ต้องไปทางไหนอันที่จริงพูดแค่คำเดียวคือ ดองแฮ พวกเค้าก็ทำหน้างงๆ ก็เลยถามย้ำอีกที เค้าก็ชี้ลงที่พื้นแล้วบอกว่า ดองแฮ อ้าวถึงแล้วเหรอปั่นยังไม่ทันได้เหงื่อเลย แล้วท่าเรือเฟอร์รี่อยู่แถวไหน

คราวนี้สื่อสารกันด้วยภาษามือล้วนๆ  มือไม้พันกันวุ่นก็ไม่รู้เรื่อง เอาแผนที่มาให้ดูก็ไม่เข้าใจ ขนาดวาดรูปเรือเฟอร์รี่ให้ดูก็ไม่สำเร็จ สงสัยเรือเฟอร์รี่จะเหมือนเรืออีแปะ เค้าหันไปคุยกันแล้วก็ทำมือให้ จขกท.ตามไปเหมือนว่าพวกเค้าก็จะไปทางนั้นเหมือนกัน พอเริ่มปั่นหัวลากก็ยิงยาวที่ความเร็ว ๓๓-๓๕ ก.ม./ช.ม. ไม่เห็นใจคนที่ปั่นมากว่า ๕๐ ก.ม.

แต่เพื่อรักษาหน้าประเทศ งานนี้ยอมตาย แหะ แหะ เกือบตายจริงๆ เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บนเชิงเขา ถนนก็จะเป็นเนินสูงบ้าง ต่ำบ้าง ที่ต่ำๆ จะน้อยส่วนมากจะสูงปั่นไปหอบไป จนมาถึงสถานีตำรวจก็พาเข้าไปถามตำรวจข้างใน ตำรวจก็ไม่รู้จัก พอดีมีผู้ชายคนหนึ่งแต่งชุด private เข้ามาท่าทางจะเป็นหัวหน้า พูดภาษาอังกฤษได้จัดการอธิบายเส้นทางให้ กลุ่มนักปั่นก็ปั่นนำทางด้วยความเร็วสูงอีกแล้ว คราวนี้ จขกท.รั้งท้ายเลยครับ เดือดร้อนนักปั่นคนหนึ่งต้องลงมาปิดท้ายให้ ปั่นมาอีกเกือบ ๘ ก.ม. จึงถึงท่าเรือเฟอร์รี่ก็ขอบคุณพวกเค้าแล้วก็ร่ำลากัน จากจุดที่สอบถามเส้นทางจนถึงท่าเรือระยะทางทั้งหมด ๑๓ ก.ม. ถ้าพวกเค้าต้องปั่นกลับจุดเดิมก็ ๒๖ ก.ม. ออกนอกเส้นทางไม่น้อยเลย

ถึงท่าเรือตอนเก้าโมงเช้าพอดี เคาน์เตอร์ DBS Ferry ยังไม่เปิด เริ่มเช็ค-อินตอน ๑๐:๓๐ น. ขั้นตอนก็คล้ายกับที่สนามบิน คือมีการสแกนสัมภาระ ตรวจอาวุธประทับตราหนังสือเดินทาง ในส่วนของจักรยานต้อง declare ด้วยไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้ เพราะจขกท. ไม่ได้ย้อนกลับเข้าเกาหลีอีก เสียค่าขนจักรยาน ๑๐,๐๐๐ วอน กับค่าใช้ Terminal อีก ๒,๕๐๐ วอน

ขึ้นเรือได้ก็เดินสำรวจก่อนเพราะยังไม่ค่อยมีคน ในส่วนของชั้นประหยัดจะมีที่นอนให้เลือกสองแบบ คือแบบญี่ปุ่นเปิดโล่งนอนกับพื้นซึ่งเหมาะสำหรับเดินทางเป็นคณะ ตั้งวงสังสรรค์ได้ อีกแบบหนึ่งจะเป็นเตียงสองชั้นมีม่านปิดก็จะเป็นส่วนตัวหน่อย จขกท. นอนในส่วนนี้ เก็บของเสร็จก็หลับเลยครับเมื่อคืนตื่นตั้งแต่ตีสามแถมปั่นจักรยานมาจนหมดแรง เผลอหลับยาวเลยมารู้ตัวตอนเรือเดินเครื่องและออกจากท่าตอนบ่ายสามโมง

คำแนะนำสำหรับท่านที่จะเดินทางกับเรือลำนี้ ควรเตรียมอาหารสำเร็จรูปมาด้วย พวกบะหมี่ ไข่ต้ม กาแฟซอง ไสักรอก ขนม อาหารบนเรือค่อนข้างแพง ทางเรือมีน้ำร้อนให้บริการฟรี ให้มองหา Zesta Bar หันหน้าเข้าหาบาร์ ตู้น้ำร้อนจะอยู่ในซอกด้านซ้ายมือ อ้อเตรียมน้ำดื่มไปด้วย ปลั๊กไฟสำหรับชาร์จแบตฯ มีให้ แต่ต้องแย่งกันหน่อย

ชายหาด เกียงโป ยามเช้า


พระอาทิตย์ยามเช้าที่หาดเกียงโป


Gangmun beach ห่างจากหาดเกีบงโปแค่แม่น้ำคั่น


สะพานเชื่อระหว่างหาดเกีบงโปและหาดกังมัน


ทะเลสาป Gyeongpo


จุดชมวิวริมทะเลสาป


อีกมุมของทะเลสาป


ทางคนเดินและจักรยานเลียบทะเลสาป


Geumnanjeong Pavilion


Independence Movement Memorial


ทางหลวงยามเช้า


สภาพเส้นทาง ที่เห็นอยู่ข้างบนคือทางด่วน


พักผ่อน


จุดพักผ่อน


ท่าเรือเฟอร์รี่


บริเวณห้องโถง


ตั๋วโดยสาร


เรือเฟอร์รี่


บริเวณที่นอนแบบญี่ปุ่น


Bunk beds


ดาดฟ้า




สาวรัสเซียนอนอาบแดด


ท้ายเรือ


ฆ่าเวลาการเดินทางอันยาวนาน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่