ขอพูดถึงค่าย GTH ในฐานะที่เป็นค่ายหนังที่ผมรักมาก ที่ผ่านมา ถ้าไปค้นประวัติเก่าๆ ดูได้เลย ผมยกหางค่ายนี้มาก ชมตลอดว่าเป็นค่ายที่ทำหนังออกมาได้ดีที่สุด ผลงานที่ผ่านมาของค่ายนี้ในรอบสามสี่ปีที่ผ่านมา เหมือนแทบจะเป็นหนังไทยที่ปีนึงทำออกมาเรื่องเดียว ยังมีรายได้มากกว่าค่ายหนังหลายๆค่ายเอารายได้มารวมกันเสียอีก นั่นคือความสำเร็จทางด้านรายได้ และความสำเร็จทางด้านความนิยม ซึ่งถ้าดูเพียงผิวเผิน พูดเลย GTH คือค่ายหนัง ค่ายที่ผลิตผลงานบันเทิงอันดับต้นๆของประเทศไทย รวมไปถึงผลงานซีรีย์ฮอร์ดมนเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก ในแง่ของปรากฏการณืใหม่ของการทำซีรีย์วัยรุ่นที่เค้าบอกว่าสร้างสรรค์สังคม แม้จะมีฉากรักร่วมเพศและฉากการมี sex และ ยาเสพติดในโรงเรียน แต่ก้ยังแลดูมีที่มาที่ไป จนมาถึงซีซั่นที่2 ที่เริ่มมีเสียงวิจารณ์ว่า ผู้สร้างเริ่มที่จะหมดมุข และมุ่งเน้นประเด็นเรื่องการร่วมเพศในซีรีย์มากจนเกินไป แต่ร้ายที่สุดเห็นจะมีคนขุดคุ้ยมาว่าซีรีย์ฮอร์โมนมีแรงบันดาลใจมาจากซีรีย์ต่างประเทศเรื่อง Skins ตามกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32487432
หลังจากกระทู้ข้างต้นมีการทวีตผ่านโวเชียลมากมาย ปรากฏว่าผู้กำกับก็ออกมาท้าท้ายคนตั้งกระทู้ให้มานั่งคุยกัน
ทางเจ้าของกระทู้ดังกล่าวก็ยืนยัน
แต่ทางฝ่าย GTH ก็ยังคงยืนยัน
หลายวันก่อนผมเคยได้ยินสัมภาษณ์คุณเก้ง จิระ ผู้บริหารค่าย GTH บอกว่า ผลงานของเราถ้าออกไปแล้ว มันหมดหน้าที่เราแล้ว ที่เหลือคือให้คนดูตัดสิน
จริงๆผมไม่ได้ติดขัดนะครับ ถ้าฮอร์โมนจะก็อปปี้เค้ามาทำจริงๆ (แต่ส่วนตัวก็อปรึเปล่าผมตอบไม่ได้ เพราะไม่เคยดู Skins)แต่ถ้าเป็นลักษณะซื้อลิขสิทธิ์มาทำหรืออะไรก็ว่าไป แต่ถ้าจะเอาโครงสร้างแล้วดัดแปลงตัวละครบางส่วนออกไปนิดๆหน่อย ก็คงจะเข้าอีหรอบเดิมของคนทำเพลงค่ายนึงสมัยก่อน ที่ก็อปฝรั่งมาจนร่ำรวยแล้วบอกว่าตัวโน้ตมีอยู่ไม่กี่ตัว ทำไมจะซ้ำกันไม่ได้ ซึ่งค่ายเพลงค่ายนั้นก็ได้รับการยกย่องจากคนไทยมากมาย รวมถึงผมด้วย
การออกมาท้าทายคนวิจารณ์งานของตัวเองจะไม่เกิดเลย ถ้านักวิจารณ์เป็นคอลัมนิสต์ เป็นสื่อใหญ่ๆ เพราะคนสร้างคงไม่กล้าแหยม แต่ทำไมกับคนเขียนกระทู้ในเนตนี่กล้าจังเลย มองเค้า Under Dog มากเลยเหรอครับ คิดว่ายังไงเค้าก็ไม่กล้า ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ซีรีย์โอร์โมนก้มีแฟนคลับเยอะมากถึงขั้นเรียกว่าติ่ง ถ้าคนที่เค้าวิจารณ์ออกมา แล้วผู้สร้างท้าเค้าออกมาผ่านทวิตเตอร์ จุดประสงค์เหมือนฟ้องติ่งมากกว่า และกำลังจะประกาศว่า ฉันแฟนคลับเยอะนะ อย่ามาแหยมรึเปล่า(ถ้าไม่ใช่ต้องขอโทษ) ผมคิดว่าถ้าทางผู้สร้างยืนยันว่าไม่ก็อป ตัวเองมีสื่อเยอะมากกกกกกกกก ก็ออกรายการสักรายการแล้วชี้แจง แถลงไปเลยยาวๆ เอาบทมาเปรียบเทียบ ให้คนดูเข้าใจและเปิดเว็บพันทิปตอบคำถามคลายข้อข้องใจไปก็คือจบ การทำแบบนี้มันไม่ช่วยให้คนมองผู้สร้างละครดูดีเลย เหมือนมีอะไรก็ฟ้องแฟนคลับ ผมว่ามันไม่แมนเลย ถ้าจะให้คนที่วิจารณ์งานต้องมารายงานตัว มานั่งคุยปรับทัศนคติกันหมดทุกคน มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับ
นี่ยังไม่นับประเด็น ฝากไว้ในกายเธอที่ทางผู้สร้าง ผู้กำกับออกมาชี้แจงเรื่องความไม่สมจริงดังคลิปนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอถอดคำพูดจาดคลิปมาเลย
1.คุณจิมบอกว่า "พี่ ถ้ามันจริงมากหนังมันก็ไม่สนุกนะ" จากนั้น พี่เก้งบอกว่าเมคเซนส์ เราตั้งเป้าให้คนดูเข้าถึงเนื้อหาวัยรุ่น โดยยอมข้ามความจริงเพื่อให้หนังมันรวดเร็วขึ้น ผมว่ามันเมคเซนส์
-ในส่วนนี้ผมมองว่าคนที่มีชั้นเชิงในการทำภาพยนตร์ไม่ควรพูดอะไรมักง่ายแบบนี้ อ้างว่าเลี่ยงความจริง เพราะเป็นภาพยนตร์ ผมว่ามันตลก
2.เราพูดถึงรักในวัยรุ่น ที่มีการทำแท้ง การแก้ปัญหาที่ผิด อยากให้เค้าตระหนักถึงความน่ากลัว มีเรื่องเหตุผลให้ดูน่ากลัวหรือจริง จริงมากไม่น่ากลัว
-การสื่อออกมาเรียลมาก ทำให้ดูไม่น่ากลัว ผมก็ว่าตลก"
3.การที่หมอเถื่อนมาตั้งคลินิกทำแท้งเถื่อนมันก็น่ากลัวแล้ว การใช้ไซส์ของคีม ในวัยรุ่นต้องใช้ไซส์เล็ก จริงๆมีคุณหมอแนะนำ บางครั้งอุปกรณ์บางอย่างทำให้ไม่อิมแพค ไม่น่ากลัว ทำให้มันรู้สึกขึ้นมา เพื่อให้ชัดขึ้นทางภาพ(โอปอล์ เก้งจิระ บอกว่าดูแล้วขนลุก)
- ในส่วนนี้ผมว่าคนที่ทำภาพยนตร์มีหน้าที่ใช้การสื่อสารด้วยภาพ ถ้าหนังอิงความจริง ไม่ใช่หนังแฟนตาซี น่าจะใช้ะไรที่มันดูจริงและสื่อให้น่ากลัวได้มากกว่าใช้ของที่ไม่จริงนะ
4.ยาเหน็บ ทำไมออกมาเร็ว จิมบอกว่า เข้าใจ มันมีคอร์สของมัน แต่เป็นภาพยนตร์ ผมเน้นเรื่องของผลการใช้งาน ในภาพยนตร์มันมีการตัดข้ามเวลา เราไม่อยากให้คนดูเห็นขั้นตอนขนาดนั้น อยากเน้นผลมากกว่า โอปอล์บอกว่าถ้าเน้นตามจำนวนโดส ต้องใช้เวลาหลายวันในการเล่าเรื่อง จิมบอกว่ามีไทมิ่งคนดูไม่เห็นเอง
- ช่วงเวลา การทำให้คนดูรู้สึกว่าเวลาผ่านไป มันน่าจะเป็นชั้นเชิงของคนทำหนังนะครับ
4.ทำไมเด็กเป็นตัวเป็นตนชัดเจน จิมบอกว่าเป็นเหตุผลในเชิงภาพยนตร์ จิมบอกว่าระยะเวลาใกล้เคียงมาก ต้องการให้คนเห้นสิ่งที่ออกมาเป็นสิ่งมีชีวิต มีขนาดเล็กมาก การดูเป็นก้อนเนื้อ ไม่อยากให้ทรีทเป็นสิ่งไม่มีชีวิต
- อ่านแล้วคิดเอาเองนะครับ
สรุปสุดท้าย ผมคิดว่า GTH เริ่มพยายามคิดแทนคนดูแล้วครับว่า ถ้าทำสมจริง กลัวคนดูไม่สนุก
สุดท้าย ผมยังรัก GTH และผมก็ยังรอหนังเรื่องใหม่ของ GTH ผมยังเชื่อมือ GTH ค่ายหนังที่ทำให้ผมรักหนังเรื่อง กวนมึนโฮ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ คิดถึงวิทยา หรือแม้กระทั่ง พี่มาก ผมก็ชอบมาก ผมอยากให้ก้าวข้ามความสำเร็จของตัวเองนะครับ อย่าจมปรักหลงระเริงกับความสำเร็จในวันวาน ที่มันผ่านไปแล้ว
อย่าจมปรักหลงระเริงกับคำพูดปลอบใจจากแฟนคลับ ที่มันไม่ได้ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองเลยครับ อยากให้มองคำติของคนที่เค้ายังรักด้วย ถ้าก้าวข้ามไปได้ ผมก็ยังติดตาม GTH เสมอ วันนี้ผมอาจจะผิดหวังกับ GTH แต่มันไม่ได้แปลว่าผมจะเกลียดค่ายนี้ ทำอะไรมาน่ะผมก็ดู แต่ผมเสียเงิน เสียค่าไฟ ถ้าไม่ดีผมก็ติแน่นอน ผมก็ตรงไปตรงมา
-------
เพิ่มเติม
โอเคครับ คนละมุมมอง ผมมองในส่วนที่ว่าคุณย้งเป็นถึงผู้กำกับ ไม่น่ามาทำอะไรแบบนี้เลย
ดดยส่วนตัวผมยืนยันว่าผมเป็นติ่ง GTH แต่ปีนี้ผมผิดหวังกับหนัง GTH มาก
ผมเองก็แค่จะมาเตือนว่า อยากให้รับคำติติงจากคนดูบ้างแค่นั้นจริงๆ
ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้เลย
ถ้าส่วนไหนชี้แจงได้ก็ชี้แจงสิว่าไม่เหมือนเลยนะไม่เหมือนยังไง
ผมไม่เคยดู Skins ผมแสดงความเห็นไม่ได้
แต่ผมไม่ชอบที่คุณย้งท้าคนไปนั่งคุยนี่แหละ
มันคือความเห็นส่วนตัวที่ผมมองว่าคุณย้งเป็นผู้กำกับชื่อดัง
คนที่ไปนั่งแบทเทิล คงจะต้องเจอรังสีอำมหิตทั้งจากตัวคุณย้ง และไหนจะจากแฟนคลับซีรีย์อีก
ผมมองแค่นี้จริงๆ
ถ้าผมทำให้ใครขุ่นข้องหมองใจ ผมต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
GTH ในวันที่กำลังเหลิง จนถึงขั้นท้าคนดูคนวิจารณ์ผลงานมานั่งคุย ระวังจะก้าวไม่ข้ามความสำเร็จของตัวเอง
ขอพูดถึงค่าย GTH ในฐานะที่เป็นค่ายหนังที่ผมรักมาก ที่ผ่านมา ถ้าไปค้นประวัติเก่าๆ ดูได้เลย ผมยกหางค่ายนี้มาก ชมตลอดว่าเป็นค่ายที่ทำหนังออกมาได้ดีที่สุด ผลงานที่ผ่านมาของค่ายนี้ในรอบสามสี่ปีที่ผ่านมา เหมือนแทบจะเป็นหนังไทยที่ปีนึงทำออกมาเรื่องเดียว ยังมีรายได้มากกว่าค่ายหนังหลายๆค่ายเอารายได้มารวมกันเสียอีก นั่นคือความสำเร็จทางด้านรายได้ และความสำเร็จทางด้านความนิยม ซึ่งถ้าดูเพียงผิวเผิน พูดเลย GTH คือค่ายหนัง ค่ายที่ผลิตผลงานบันเทิงอันดับต้นๆของประเทศไทย รวมไปถึงผลงานซีรีย์ฮอร์ดมนเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก ในแง่ของปรากฏการณืใหม่ของการทำซีรีย์วัยรุ่นที่เค้าบอกว่าสร้างสรรค์สังคม แม้จะมีฉากรักร่วมเพศและฉากการมี sex และ ยาเสพติดในโรงเรียน แต่ก้ยังแลดูมีที่มาที่ไป จนมาถึงซีซั่นที่2 ที่เริ่มมีเสียงวิจารณ์ว่า ผู้สร้างเริ่มที่จะหมดมุข และมุ่งเน้นประเด็นเรื่องการร่วมเพศในซีรีย์มากจนเกินไป แต่ร้ายที่สุดเห็นจะมีคนขุดคุ้ยมาว่าซีรีย์ฮอร์โมนมีแรงบันดาลใจมาจากซีรีย์ต่างประเทศเรื่อง Skins ตามกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32487432
หลังจากกระทู้ข้างต้นมีการทวีตผ่านโวเชียลมากมาย ปรากฏว่าผู้กำกับก็ออกมาท้าท้ายคนตั้งกระทู้ให้มานั่งคุยกัน
ทางเจ้าของกระทู้ดังกล่าวก็ยืนยัน
แต่ทางฝ่าย GTH ก็ยังคงยืนยัน
หลายวันก่อนผมเคยได้ยินสัมภาษณ์คุณเก้ง จิระ ผู้บริหารค่าย GTH บอกว่า ผลงานของเราถ้าออกไปแล้ว มันหมดหน้าที่เราแล้ว ที่เหลือคือให้คนดูตัดสิน
จริงๆผมไม่ได้ติดขัดนะครับ ถ้าฮอร์โมนจะก็อปปี้เค้ามาทำจริงๆ (แต่ส่วนตัวก็อปรึเปล่าผมตอบไม่ได้ เพราะไม่เคยดู Skins)แต่ถ้าเป็นลักษณะซื้อลิขสิทธิ์มาทำหรืออะไรก็ว่าไป แต่ถ้าจะเอาโครงสร้างแล้วดัดแปลงตัวละครบางส่วนออกไปนิดๆหน่อย ก็คงจะเข้าอีหรอบเดิมของคนทำเพลงค่ายนึงสมัยก่อน ที่ก็อปฝรั่งมาจนร่ำรวยแล้วบอกว่าตัวโน้ตมีอยู่ไม่กี่ตัว ทำไมจะซ้ำกันไม่ได้ ซึ่งค่ายเพลงค่ายนั้นก็ได้รับการยกย่องจากคนไทยมากมาย รวมถึงผมด้วย
การออกมาท้าทายคนวิจารณ์งานของตัวเองจะไม่เกิดเลย ถ้านักวิจารณ์เป็นคอลัมนิสต์ เป็นสื่อใหญ่ๆ เพราะคนสร้างคงไม่กล้าแหยม แต่ทำไมกับคนเขียนกระทู้ในเนตนี่กล้าจังเลย มองเค้า Under Dog มากเลยเหรอครับ คิดว่ายังไงเค้าก็ไม่กล้า ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ซีรีย์โอร์โมนก้มีแฟนคลับเยอะมากถึงขั้นเรียกว่าติ่ง ถ้าคนที่เค้าวิจารณ์ออกมา แล้วผู้สร้างท้าเค้าออกมาผ่านทวิตเตอร์ จุดประสงค์เหมือนฟ้องติ่งมากกว่า และกำลังจะประกาศว่า ฉันแฟนคลับเยอะนะ อย่ามาแหยมรึเปล่า(ถ้าไม่ใช่ต้องขอโทษ) ผมคิดว่าถ้าทางผู้สร้างยืนยันว่าไม่ก็อป ตัวเองมีสื่อเยอะมากกกกกกกกก ก็ออกรายการสักรายการแล้วชี้แจง แถลงไปเลยยาวๆ เอาบทมาเปรียบเทียบ ให้คนดูเข้าใจและเปิดเว็บพันทิปตอบคำถามคลายข้อข้องใจไปก็คือจบ การทำแบบนี้มันไม่ช่วยให้คนมองผู้สร้างละครดูดีเลย เหมือนมีอะไรก็ฟ้องแฟนคลับ ผมว่ามันไม่แมนเลย ถ้าจะให้คนที่วิจารณ์งานต้องมารายงานตัว มานั่งคุยปรับทัศนคติกันหมดทุกคน มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับ
นี่ยังไม่นับประเด็น ฝากไว้ในกายเธอที่ทางผู้สร้าง ผู้กำกับออกมาชี้แจงเรื่องความไม่สมจริงดังคลิปนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้าย ผมยังรัก GTH และผมก็ยังรอหนังเรื่องใหม่ของ GTH ผมยังเชื่อมือ GTH ค่ายหนังที่ทำให้ผมรักหนังเรื่อง กวนมึนโฮ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ คิดถึงวิทยา หรือแม้กระทั่ง พี่มาก ผมก็ชอบมาก ผมอยากให้ก้าวข้ามความสำเร็จของตัวเองนะครับ อย่าจมปรักหลงระเริงกับความสำเร็จในวันวาน ที่มันผ่านไปแล้ว
อย่าจมปรักหลงระเริงกับคำพูดปลอบใจจากแฟนคลับ ที่มันไม่ได้ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองเลยครับ อยากให้มองคำติของคนที่เค้ายังรักด้วย ถ้าก้าวข้ามไปได้ ผมก็ยังติดตาม GTH เสมอ วันนี้ผมอาจจะผิดหวังกับ GTH แต่มันไม่ได้แปลว่าผมจะเกลียดค่ายนี้ ทำอะไรมาน่ะผมก็ดู แต่ผมเสียเงิน เสียค่าไฟ ถ้าไม่ดีผมก็ติแน่นอน ผมก็ตรงไปตรงมา
-------
เพิ่มเติม
โอเคครับ คนละมุมมอง ผมมองในส่วนที่ว่าคุณย้งเป็นถึงผู้กำกับ ไม่น่ามาทำอะไรแบบนี้เลย
ดดยส่วนตัวผมยืนยันว่าผมเป็นติ่ง GTH แต่ปีนี้ผมผิดหวังกับหนัง GTH มาก
ผมเองก็แค่จะมาเตือนว่า อยากให้รับคำติติงจากคนดูบ้างแค่นั้นจริงๆ
ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้เลย
ถ้าส่วนไหนชี้แจงได้ก็ชี้แจงสิว่าไม่เหมือนเลยนะไม่เหมือนยังไง
ผมไม่เคยดู Skins ผมแสดงความเห็นไม่ได้
แต่ผมไม่ชอบที่คุณย้งท้าคนไปนั่งคุยนี่แหละ
มันคือความเห็นส่วนตัวที่ผมมองว่าคุณย้งเป็นผู้กำกับชื่อดัง
คนที่ไปนั่งแบทเทิล คงจะต้องเจอรังสีอำมหิตทั้งจากตัวคุณย้ง และไหนจะจากแฟนคลับซีรีย์อีก
ผมมองแค่นี้จริงๆ
ถ้าผมทำให้ใครขุ่นข้องหมองใจ ผมต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ