ว่าจะเขียนเรื่อง Hormones วัยว้าวุ่นมาตั้งนานละ วันนี้มีโอกาสขอซะหน่อยในฐานะของอดีตคือวัยรุ่นและปัจจุบันคือวัยบรรลุนิติภาวะที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เอาเป็นว่าขอแชร์อีกมุมมองนะคะ
อยากบอกผู้ใหญ่หลายๆ ท่านว่าพฤติกรรมที่นักเรียนวัยรุ่นในเรื่อง Hormones ทำกันอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ หรือเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้เลย ไม่ใช่ว่าเพราะปัจจุบันสื่อเข้ามามีบทบาท อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาท สังคมแรงขึ้น วัยรุ่นก็เลยทำตัวแรงขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนสมัยที่เรายังเรียนมัธยม ในสมัยที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ ทีวีมีแค่ช่อง 3 5 7 9 ไม่มีมือถือ ไม่มีแพ็คลิ้งค์ ยุคที่ยังต้องส่งโทรเลขกันอยู่ สิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วตั้งแต่สมัยเราเรียนเลยคือ เด็กนักเรียนโดดเรียนไปหาที่มั่วสุม เลิกเรียน พักเรียน นักเรียนบางกลุ่มแอบไปสูบบุหรี่ กัญชาในห้องน้ำ นักเรียนหญิงดักตบกันหลังห้องน้ำ คู่อริต่างโรงเรียนดักตีกัน เคยมีแบบยืนเข้าแถวในสนามโรงเรียน ครูประกาศมีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมห้องหนึ่งต้องหยุดการเรียนไปเพราะท้อง แต่ไม่เปิดเผยว่าเป็นใครและอยู่ห้องไหน เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นกันไปพักใหญ่
เราอยากบอกว่าเราโชคดีกว่าวัยรุ่นหลายๆ ชีวิตที่สามารถผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นมาได้อย่างปกติสุข ไม่เคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดเข้ามาในชีวิต ไม่มีปัญหาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เราโชคดีที่ในวัยเรียนเราคบเพื่อนที่ดี อยู่ในสังคมที่ดี และมีพ่อแม่ที่เข้มงวดกวดขั้นและชี้แนะและสอนให้เห็นถึงอันตรายจากสิ่งเหล่านั้น เราโชคดีที่เราเชื่อผู้ใหญ่ แต่ยังมีวัยรุ่นอีกหลายชีวิตมากมายเหลือเกินที่ไม่เชื่อ และโง่เขลาเกินกว่าจะเชื่อฟังคำสอนของผู้ใหญ่ เชื่อเพื่อนมากว่าเชื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ต้องให้ประสบการณ์เป็นตัวสั่งสอน
กลับเข้าเรื่อง Hormones เราสันนิษฐานว่าคนส่วนใหญ่ที่ออกมาแบนซีรี่ย์เรื่องนี้คือกลุ่มที่ได้มีโอกาสดูบ้างไม่ดูบ้าง หรือดูเป็นคลิปสั้นๆ หรือรับทราบจากการวิจารณ์ผ่านสื่อต่างๆ ไม่ได้ดูตั้งแต่ต้น ไม่ได้ดูทุกตอน ไม่ได้ดูแล้วคิดตาม เพราะเนื้อหาในเรื่อง โอเคใช่เรื่องเพศนี่มาเต็ม ฉากจูบเนี่ยเฝือมากจนน่ารำคาญ แต่เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับวัยนี้มีอีกมาก วัยรุ่นที่ได้ดูเรื่องนี้เขาจะเห็นเลยว่าหากเขาเลือกทำตัวแบบในตัวละครเรื่องนี้สุดท้ายชีวิตเขาจะลงเอยแบบใด บางครั้งผู้ใหญ่ไม่มีเวลามานั่งสอน ละครเรื่องนี้แหล่ะที่จะช่วยสอนเขา วัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นวัยที่เชื่อเพื่อนเชื่อตัวเองเชื่อสังคมมากกว่าเชื่อพ่อแม่และผู้ใหญ่ หลายครั้งที่เราสอนสั่งบ่นด่าอะไรไปมันไม่เข้าหัวเขาหรอก เขามองแต่ว่าเราด่าเขา มีแต่เรื่องน่าเบื่อ สิ่งดีๆ ที่เราอยากให้เขารับรู้เขาเลยไม่ได้รับ
ในมุมมองของผู้ปกครองแน่นอนล่ะว่าไม่มีใครพอใจหรอกกับละครเรื่องนี้มันเหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอก แต่จริงๆ ไม่ใช่หรอกกระรอกมันรู้ทางไปโพรงและมุดเข้ามุดออกโพรงมานานแล้ว แต่ผู้ใหญ่บางท่านยังปิดตาปิดใจตัวเอง ซ้ำยังจะไปปิดปากปิดสมองลูกหลานตัวเองด้วย
พ่อแม่เลี้ยงลูกมาย่อมคาดหวังในตัวลูกของตัวเองอยากให้เติบโตมาดีอย่างงี้อย่างงั้น แต่เคยมีพ่อแม่คนไหนบ้างที่เปิดโอกาสถามลูกบ้างว่า ลูกอยากมีพ่อแม่เลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นแบบไหน พ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างที่ตัวเองอยากให้เป็น ในขณะที่ลูกไม่มีโอกาสได้มีพ่อแม่ในแบบที่ตัวเองอยากมีเพราะตัวเองเป็นลูก อยู่ในสถานะลูก เลือกไม่ได้
Hormones จึงเป็นละครน้ำดีเนื้อหารุนแรงที่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่พ่อแม่จะมีโอกาสได้ดูพร้อมกับลูกๆ เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนทัศนคติประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และพ่อแม่จะได้มีโอกาสได้รู้เท่าทันวัยรุ่นว่าทุกวันนี้เขาไปกันถึงไหนแล้ว วัยรุ่นคิดอะไรทำอะไรกันอยู่ ละครไม่เพียงสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของวัยรุ่น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพ่อแม่ของเด็กแต่ละครอบครัวด้วยว่าเลี้ยงดูแบบไหนแล้วลูกจะมีพฤติกรรมแบบไหน และหากลูกมีพฤติกรรมแบบนั้น เราไหนฐานะของพ่อแม่ผู้ปกครองจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างไร
ละครเรื่องนี้เปรียบเสมือนเป็นสถานการณ์จำลองให้เราได้มีโอกาสได้ตั้งสติทำแบบฝึกหัด ได้คิด ได้วางแผนก่อน เพราะสังคมทุกวันนี้เราหนีปัญหาเหล่านี้ได้ยากเหลือเกิน ลูกเราที่มองว่าน่ารักเลี้ยงง่ายหัวอ่อน แต่เมื่ออยู่ลับหลังเรานั้นอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเรามารับรู้ในวันหลังเราจะทำใจยอมรับได้ไหม? หากปัญหาวัยรุ่นมันใหญ่และกว้างเกินกว่าจะควบคุมมันอย่างน้อยให้เราได้มีโอกาสตั้งหลักคิดแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าก่อนที่ปัญหาเหล่านี้จะเกิดกับบุตรหลานเราก่อนจะดีกว่าไหม?
หลายๆ ท่านอาจบอกฉันไม่มีเวลามานั่งดูละครพวกนี้กับลูกๆ หรอก ถึงมีเวลาก็ไม่ให้ดูหรอกหนังพันธ์ุนี้ ก็ไม่ห้ามนะคะ ไม่ดูด้วยกันก็ไม่ดู ต่างคนต่างดูเมื่อมีโอากสก็ได้ จะได้รู้เท่าทันกันทั้งสองฝ่าย เพราะบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของวัยรุ่น แต่เป็นเรื่องของการสอนพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย
อยากให้เปิดใจดูให้ตั้งแต่แรก ดูจนจบ อย่าด่าละครเพราะดูๆ ไปได้สักพักแล้วรับไม่ได้ก็ด่ากราด หรือฟังเขาด่ามาตามเพจต่างๆ รับฟังข่าวสารอะไรมาทั้งที่ไม่รู้ทั้งหมดก็ด่าก่อน ละครฟรีทีวีบางเรื่องในสมัยนี้เนื้อหารุนแรงโหดสัสกว่าในซีรี่ย์ Hormones เยอะค่ะ เมื่อคุณได้ดูจะรู้ว่าซีรี่ย์เรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด แค่เพราะมันไม่ใช่ละคร feel good อย่างที่คุณคาดหวังอยากจะให้เป็น ก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นละครไม่ดีนะคะ
จากใจของคนที่เคยเป็นวัยรุ่น ที่เห็นอะไรต่างๆ มามากมาย และเป็นคนหนึ่งที่ดูละครแล้วย้อนมาดูตัว จนกระทั่งทุกวันนี้หัวหงอกจะทั้งหัวแล้วคนนึงค่ะ
ผิดถูกก็ว่ากันไปนะคะ น้อมรับค่ะ
นาเชื่อว่าผู้ใหญ่ หลายๆ คนก่อนที่จะมาถึงวันนี้ก็เจอหรือได้ยินข่าวเหล่านี้มาตลอดเช่นกัน
ว่าด้วยเรื่องการแบนละคร Hormones ของผู้ปกครองวัยว้าวุ่น
อยากบอกผู้ใหญ่หลายๆ ท่านว่าพฤติกรรมที่นักเรียนวัยรุ่นในเรื่อง Hormones ทำกันอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ หรือเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้เลย ไม่ใช่ว่าเพราะปัจจุบันสื่อเข้ามามีบทบาท อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาท สังคมแรงขึ้น วัยรุ่นก็เลยทำตัวแรงขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนสมัยที่เรายังเรียนมัธยม ในสมัยที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ ทีวีมีแค่ช่อง 3 5 7 9 ไม่มีมือถือ ไม่มีแพ็คลิ้งค์ ยุคที่ยังต้องส่งโทรเลขกันอยู่ สิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วตั้งแต่สมัยเราเรียนเลยคือ เด็กนักเรียนโดดเรียนไปหาที่มั่วสุม เลิกเรียน พักเรียน นักเรียนบางกลุ่มแอบไปสูบบุหรี่ กัญชาในห้องน้ำ นักเรียนหญิงดักตบกันหลังห้องน้ำ คู่อริต่างโรงเรียนดักตีกัน เคยมีแบบยืนเข้าแถวในสนามโรงเรียน ครูประกาศมีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมห้องหนึ่งต้องหยุดการเรียนไปเพราะท้อง แต่ไม่เปิดเผยว่าเป็นใครและอยู่ห้องไหน เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นกันไปพักใหญ่
เราอยากบอกว่าเราโชคดีกว่าวัยรุ่นหลายๆ ชีวิตที่สามารถผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นมาได้อย่างปกติสุข ไม่เคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดเข้ามาในชีวิต ไม่มีปัญหาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เราโชคดีที่ในวัยเรียนเราคบเพื่อนที่ดี อยู่ในสังคมที่ดี และมีพ่อแม่ที่เข้มงวดกวดขั้นและชี้แนะและสอนให้เห็นถึงอันตรายจากสิ่งเหล่านั้น เราโชคดีที่เราเชื่อผู้ใหญ่ แต่ยังมีวัยรุ่นอีกหลายชีวิตมากมายเหลือเกินที่ไม่เชื่อ และโง่เขลาเกินกว่าจะเชื่อฟังคำสอนของผู้ใหญ่ เชื่อเพื่อนมากว่าเชื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ต้องให้ประสบการณ์เป็นตัวสั่งสอน
กลับเข้าเรื่อง Hormones เราสันนิษฐานว่าคนส่วนใหญ่ที่ออกมาแบนซีรี่ย์เรื่องนี้คือกลุ่มที่ได้มีโอกาสดูบ้างไม่ดูบ้าง หรือดูเป็นคลิปสั้นๆ หรือรับทราบจากการวิจารณ์ผ่านสื่อต่างๆ ไม่ได้ดูตั้งแต่ต้น ไม่ได้ดูทุกตอน ไม่ได้ดูแล้วคิดตาม เพราะเนื้อหาในเรื่อง โอเคใช่เรื่องเพศนี่มาเต็ม ฉากจูบเนี่ยเฝือมากจนน่ารำคาญ แต่เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับวัยนี้มีอีกมาก วัยรุ่นที่ได้ดูเรื่องนี้เขาจะเห็นเลยว่าหากเขาเลือกทำตัวแบบในตัวละครเรื่องนี้สุดท้ายชีวิตเขาจะลงเอยแบบใด บางครั้งผู้ใหญ่ไม่มีเวลามานั่งสอน ละครเรื่องนี้แหล่ะที่จะช่วยสอนเขา วัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นวัยที่เชื่อเพื่อนเชื่อตัวเองเชื่อสังคมมากกว่าเชื่อพ่อแม่และผู้ใหญ่ หลายครั้งที่เราสอนสั่งบ่นด่าอะไรไปมันไม่เข้าหัวเขาหรอก เขามองแต่ว่าเราด่าเขา มีแต่เรื่องน่าเบื่อ สิ่งดีๆ ที่เราอยากให้เขารับรู้เขาเลยไม่ได้รับ
ในมุมมองของผู้ปกครองแน่นอนล่ะว่าไม่มีใครพอใจหรอกกับละครเรื่องนี้มันเหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอก แต่จริงๆ ไม่ใช่หรอกกระรอกมันรู้ทางไปโพรงและมุดเข้ามุดออกโพรงมานานแล้ว แต่ผู้ใหญ่บางท่านยังปิดตาปิดใจตัวเอง ซ้ำยังจะไปปิดปากปิดสมองลูกหลานตัวเองด้วย
พ่อแม่เลี้ยงลูกมาย่อมคาดหวังในตัวลูกของตัวเองอยากให้เติบโตมาดีอย่างงี้อย่างงั้น แต่เคยมีพ่อแม่คนไหนบ้างที่เปิดโอกาสถามลูกบ้างว่า ลูกอยากมีพ่อแม่เลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นแบบไหน พ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างที่ตัวเองอยากให้เป็น ในขณะที่ลูกไม่มีโอกาสได้มีพ่อแม่ในแบบที่ตัวเองอยากมีเพราะตัวเองเป็นลูก อยู่ในสถานะลูก เลือกไม่ได้
Hormones จึงเป็นละครน้ำดีเนื้อหารุนแรงที่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่พ่อแม่จะมีโอกาสได้ดูพร้อมกับลูกๆ เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนทัศนคติประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และพ่อแม่จะได้มีโอกาสได้รู้เท่าทันวัยรุ่นว่าทุกวันนี้เขาไปกันถึงไหนแล้ว วัยรุ่นคิดอะไรทำอะไรกันอยู่ ละครไม่เพียงสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของวัยรุ่น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพ่อแม่ของเด็กแต่ละครอบครัวด้วยว่าเลี้ยงดูแบบไหนแล้วลูกจะมีพฤติกรรมแบบไหน และหากลูกมีพฤติกรรมแบบนั้น เราไหนฐานะของพ่อแม่ผู้ปกครองจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างไร
ละครเรื่องนี้เปรียบเสมือนเป็นสถานการณ์จำลองให้เราได้มีโอกาสได้ตั้งสติทำแบบฝึกหัด ได้คิด ได้วางแผนก่อน เพราะสังคมทุกวันนี้เราหนีปัญหาเหล่านี้ได้ยากเหลือเกิน ลูกเราที่มองว่าน่ารักเลี้ยงง่ายหัวอ่อน แต่เมื่ออยู่ลับหลังเรานั้นอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเรามารับรู้ในวันหลังเราจะทำใจยอมรับได้ไหม? หากปัญหาวัยรุ่นมันใหญ่และกว้างเกินกว่าจะควบคุมมันอย่างน้อยให้เราได้มีโอกาสตั้งหลักคิดแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าก่อนที่ปัญหาเหล่านี้จะเกิดกับบุตรหลานเราก่อนจะดีกว่าไหม?
หลายๆ ท่านอาจบอกฉันไม่มีเวลามานั่งดูละครพวกนี้กับลูกๆ หรอก ถึงมีเวลาก็ไม่ให้ดูหรอกหนังพันธ์ุนี้ ก็ไม่ห้ามนะคะ ไม่ดูด้วยกันก็ไม่ดู ต่างคนต่างดูเมื่อมีโอากสก็ได้ จะได้รู้เท่าทันกันทั้งสองฝ่าย เพราะบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของวัยรุ่น แต่เป็นเรื่องของการสอนพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย
อยากให้เปิดใจดูให้ตั้งแต่แรก ดูจนจบ อย่าด่าละครเพราะดูๆ ไปได้สักพักแล้วรับไม่ได้ก็ด่ากราด หรือฟังเขาด่ามาตามเพจต่างๆ รับฟังข่าวสารอะไรมาทั้งที่ไม่รู้ทั้งหมดก็ด่าก่อน ละครฟรีทีวีบางเรื่องในสมัยนี้เนื้อหารุนแรงโหดสัสกว่าในซีรี่ย์ Hormones เยอะค่ะ เมื่อคุณได้ดูจะรู้ว่าซีรี่ย์เรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด แค่เพราะมันไม่ใช่ละคร feel good อย่างที่คุณคาดหวังอยากจะให้เป็น ก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นละครไม่ดีนะคะ
จากใจของคนที่เคยเป็นวัยรุ่น ที่เห็นอะไรต่างๆ มามากมาย และเป็นคนหนึ่งที่ดูละครแล้วย้อนมาดูตัว จนกระทั่งทุกวันนี้หัวหงอกจะทั้งหัวแล้วคนนึงค่ะ
ผิดถูกก็ว่ากันไปนะคะ น้อมรับค่ะ
นาเชื่อว่าผู้ใหญ่ หลายๆ คนก่อนที่จะมาถึงวันนี้ก็เจอหรือได้ยินข่าวเหล่านี้มาตลอดเช่นกัน