โดย : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ช่วงนี้ถ้ามี "ข่าวลือ" หรือมีประกาศว่าบริษัทจะทำ "Solar Farm" ราคาหุ้นจะ "วิ่งระเบิด"
ว่า ที่จริงแค่บอกว่าบริษัทจะหันมาทำกิจการ "พลังงานทดแทน" ราคาหุ้นก็ "วิ่ง" แล้ว ดูเหมือนว่านักลงทุนจำนวนมาก คิดว่าพลังงานทดแทน เป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสและเติบโตมาก และคิดว่าบริษัทที่จะทำพลังงานทดแทน ต้องประสบความสำเร็จ มีกำไรเติบโตมาก
ดังนั้น ค่า PE ที่ให้กับหุ้นจะสูงลิ่ว บางทีเป็นหลายสิบเท่า หรือบางทีเป็นร้อยเท่า ทำให้คนที่เข้าไปเล่น "รวย" ไปตามๆ กัน แต่ความเป็นจริง ราคาหุ้นอาจขึ้นไปในระยะสั้นเพียงไม่กี่เดือน หรือน้อยกว่านั้น ทำให้คนที่เข้าไปเล่นในช่วงที่ราคาขึ้นไปแล้วขาดทุน บางบริษัทที่ดูมี "น้ำหนัก" เช่น บริษัทมีใบอนุญาต หรือมีสัญญาขายพลังงานให้กับหน่วยงานรัฐชัดเจนแล้วในระดับหนึ่ง ราคาหุ้นอาจจะวิ่งไปได้ยาว และอาจสูงอยู่ได้นานเป็นปีหรืออาจจะมากกว่านั้น
จากการวิเคราะห์ดูถึงผลตอบแทนที่บริษัทจะได้จากการลงทุนในเรื่องพลังงานทดแทนแล้วเราก็จะ พบว่า ผลตอบแทนที่แท้จริงของแต่ละโครงการก็เป็นผลตอบแทน "ปกติ" เช่น ประมาณ 10% ต่อปี บวก-ลบ จากเงินลงทุน ดังนั้น มูลค่าของกิจการหรือราคาหุ้นก็ไม่ควรจะขึ้นไปมาก แต่การที่หุ้นวิ่งขึ้นไปมากนั้น ผมคิดว่ามันคงมีลักษณะของการเป็นหุ้น "ขายฝัน" หรือเป็น "Concept Stock" (CS)
เรื่องของ CS นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลาโดยเฉพาะในยามที่ตลาดหุ้นบูมเป็นกระทิง หุ้นที่จะเป็น CS จะเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจที่กำลังเป็นแนวโน้มหรือเป็นเทรนด์ใหม่ของเศรษฐกิจ หรือสังคม ดังนั้น การเติบโตจะสูงมาก และยังไม่มีผู้ชนะที่เด็ดขาด หรือชัดเจน หรือยังไม่รู้ว่าใครจะล้มเหลว
ทุกบริษัทต่างมี "ความฝันที่ยิ่งใหญ่" นั่นคือ บริษัทจะเติบโต และทำกำไรเพิ่มขึ้นมหาศาล บริษัทที่อยู่ในตำแหน่งที่ดี จะมีคนเข้าไปซื้อมากมายทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเหนือกว่ามูลค่าจากการประเมินราคาทุกวิธี บริษัทที่ดูเหมือนว่า ยังไม่มีประสบการณ์พอ หรือมีขนาดเล็ก ก็ยังได้ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเพียงแค่เอ่ยว่า จะเข้ามาทำธุรกิจหรือแค่เปลี่ยนชื่อบริษัท มาดูกันว่าอะไรที่เป็น เคยเป็น หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็น Concept Stock ได้
กลุ่มแรกคือสิ่งที่ผมขึ้นต้นบทความ คือ พลังงานทดแทน คือ CS ที่กำลังร้อนแรงมากในตลาดหุ้นไทย ในระดับโลก ผมไม่ได้ศึกษาว่า กลุ่มหุ้นที่ทำพลังงานทดแทนเป็นหุ้น CS หรือไม่ ความรู้สึกคืออาจจะไม่ เพราะผมคิดว่าเรื่องนี้ในประเทศพัฒนามีการทำกันมานานแล้ว เทคโนโลยีก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นลักษณะของการ "ปฏิวัติ" อุตสาหกรรมพลังงานอะไร ว่าที่จริงในช่วงหลัง ที่มีการค้นพบวิธีการขุดก๊าซธรรมชาติ Shale Gas ที่ทำให้ได้ก๊าซราคาถูกในสหรัฐ เทรนด์ของพลังงานทดแทน อาจจะชะลอตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร การผลิตพลังงานทดแทน อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกำไรอะไรได้มากมายนัก เหตุผลเพราะยังเป็นพลังงานที่ยังไม่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ล้วนๆ ได้ จึงไม่สามารถโตและทำกำไรได้ด้วยตัวเอง
CS ที่มักจะก่อให้เกิดความร้อนแรงของราคาหุ้นกลุ่มต่อมา คือ หุ้น "Turnaround" นี่คือหุ้นของบริษัทที่ถูกทำให้ "ฟื้นตัว" จากภาวะวิกฤติของบริษัทโดยเฉพาะจากผู้บริหารและผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพทางการเงิน การฟื้นธุรกิจส่วนมากเป็นลักษณะของการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ทำอยู่ บ่อยครั้งเป็นการนำกิจการที่มีกำไรมาใส่ในบริษัท ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า บริษัทจะประสบความสำเร็จในการฟื้นตัวแน่นอน ผลคือ คนแห่มาเล่นหุ้น และทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปมากมาย บางทีเป็นสิบเท่าในเวลาไม่นาน องค์ประกอบของความสำเร็จในการฟื้นกิจการอีกอย่างหนึ่ง ที่เริ่มมองเห็นเร็วๆ นี้คือ การมี "Turnaround Artist" หรือนักฟื้นกิจการที่นักลงทุนเชื่อถือว่า จะทำให้ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยด้านเพิ่มราคาหุ้นในระยะเวลาอันสั้น
CS อีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีบางสิ่งบางอย่างใกล้เคียงกับหุ้นฟื้นตัว คือหุ้น "นัก Takeover" หรือบริษัทจดทะเบียนที่ใช้กลยุทธ์การเติบโตที่รวดเร็วโดยการซื้อกิจการ ไม่ว่าจะเป็นกิจการใหม่ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่เกี่ยวข้องกับกิจการเดิม หรือเป็นการเทคโอเวอร์กิจการแบบเดียวกัน ซึ่งจะยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะบริษัทอาจได้ประโยชน์ด้าน Economies of Scale หรือการทำให้บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น จนเกิดการประหยัดด้านต้นทุน บริษัทที่ทำการ "เทคโอเวอร์อย่างต่อเนื่อง" ดูเหมือนจะกลายเป็น CS ที่ตลาดให้มูลค่าที่สูงลิ่วและโตขึ้นไปเรื่อยๆ ช่วงเร็วๆ นี้ และก็เช่นเดียวกับเรื่องของหุ้น Turnaround ก่อให้เกิด "Takeover Artist" หรือ "ศิลปิน" หรือเซียนด้านการควบรวมกิจการ ซึ่งกลายเป็นมหาเศรษฐีในแวดวงตลาดหุ้นไทย
หุ้นที่อาจจะถือว่าเป็น Concept Stock กลุ่มหนึ่งของตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะในอดีตย้อนหลังไปซัก 10 ปีก็คือหุ้นกลุ่ม Modern Trade หรือค้าปลีกสมัยใหม่ นี่คือบริษัทจดทะเบียนที่ค้าปลีกสินค้าผ่านเครือข่ายทั่วประเทศซึ่งเริ่มเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วแทนร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม เมื่อแนวคิดนี้เริ่มต้นขึ้นมาก็จะพบว่าเกิดจากสินค้าจำเป็นก่อน ต่อมาสินค้าอย่างอื่นก็เริ่มซื้อขายผ่าน Modern Trade มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกระแส หุ้นในตลาดที่ทำธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เกือบทุกตัวก็ทยอยปรับตัวขึ้นไปจากหุ้นที่มีค่า PE ประมาณ 10 เท่าหรือต่ำกว่าก็กลายเป็นหุ้นที่มี PE สูงลิ่วหลายสิบเท่าจนถึงปัจจุบัน
หุ้นที่จะเป็น CS นั้น น่าจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนที่หวังสร้างผลกำไรหรือผลตอบแทนสูงต่างก็แสวงหา แนวทางนั้นน่าจะอยู่ที่การมองไปข้างหน้า ดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราขาดแคลนและต้องการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศหรือสังคมในขณะที่ผู้เล่นหรือผู้ผลิตหรือให้บริการมีไม่พอ ในอีกด้านหนึ่งการมองหา CS ก็อาจจะต้องเป็นเรื่องของการสังเกตหรือติดตามเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว มองว่ามีสินค้าใหม่อะไรที่คนกำลังเริ่มใช้มากขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะใช้ต่อไปอีกนานและมีผู้ให้บริการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพสูงในการเข้ามาให้บริการหรือแข่งขัน แต่แม้ว่าเราจะชำนาญหรือมีประสบการณ์มากเพียงไรก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะบอกได้ชัดเจนว่าอะไรจะเป็น CS ในอนาคต ถ้าจะให้ผมเดาว่าภาคไหนของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอะไรที่น่าสนใจและอาจจะมีโอกาสเกิด CS ได้ ผมก็คิดว่าเรื่องของ Logistic ที่เกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งเป็นกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มหนึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องของการขายปลีกผ่านช่องทางที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตก็อาจจะมาได้ ว่าที่จริงในต่างประเทศก็เกิดขึ้นแล้ว นอกจากนั้นก็อาจจะมีเรื่องของธุรกิจที่ “ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน” ที่ใกล้จะรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นต้น
ก่อนที่จะจบบทความผมคงต้องเตือนให้เห็นถึง "อันตราย" จากการเล่นหุ้น CS ด้วยว่ามันมาพร้อม ๆ กับผลตอบแทนสูงที่คาดว่าจะได้รับ ว่าที่จริงคนที่ขาดทุนอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เหตุผลก็เพราะว่าเมื่อกลายเป็น “Concept” ไปแล้ว นักลงทุนก็มักคิดไปว่าหุ้นทุกตัวที่ทำธุรกิจหรือมีแนวทางการทำธุรกิจแบบนั้นก็จะต้องดีหรือประสบความสำเร็จไปด้วยซึ่งไม่จริง ดังนั้น ถ้าเราเข้าไปซื้อหุ้นโดยเฉพาะที่ราคาขึ้นไปสูงมากแล้วเราก็อาจจะขาดทุนได้มาก นอกจากนั้น ค่าที่คนเชื่อและเข้าไปเล่นมาก ก็มีโอกาสที่จะเกิดการ “ฉ้อฉล” โดยผู้บริหารบริษัทเจ้าเล่ห์บางคนที่ต้องการ “ปั่นหุ้น” โดยอาศัย Concept ที่กำลังเป็นที่นิยม ตัวอย่างหุ้น Enron ในธุรกิจพลังงาน และหุ้น World Com ในกลุ่มสื่อสารของอเมริกาควรจะเป็นเรื่องเตือนใจพวกเราให้ระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาคิดเล่นหุ้น CS
- See more at:
http://www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/nives/20140819/599298/Concept-Stock.html#sthash.2UWZZwSY.dpuf 
Concept Stock โดย : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ช่วงนี้ถ้ามี "ข่าวลือ" หรือมีประกาศว่าบริษัทจะทำ "Solar Farm" ราคาหุ้นจะ "วิ่งระเบิด"
ว่า ที่จริงแค่บอกว่าบริษัทจะหันมาทำกิจการ "พลังงานทดแทน" ราคาหุ้นก็ "วิ่ง" แล้ว ดูเหมือนว่านักลงทุนจำนวนมาก คิดว่าพลังงานทดแทน เป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสและเติบโตมาก และคิดว่าบริษัทที่จะทำพลังงานทดแทน ต้องประสบความสำเร็จ มีกำไรเติบโตมาก
ดังนั้น ค่า PE ที่ให้กับหุ้นจะสูงลิ่ว บางทีเป็นหลายสิบเท่า หรือบางทีเป็นร้อยเท่า ทำให้คนที่เข้าไปเล่น "รวย" ไปตามๆ กัน แต่ความเป็นจริง ราคาหุ้นอาจขึ้นไปในระยะสั้นเพียงไม่กี่เดือน หรือน้อยกว่านั้น ทำให้คนที่เข้าไปเล่นในช่วงที่ราคาขึ้นไปแล้วขาดทุน บางบริษัทที่ดูมี "น้ำหนัก" เช่น บริษัทมีใบอนุญาต หรือมีสัญญาขายพลังงานให้กับหน่วยงานรัฐชัดเจนแล้วในระดับหนึ่ง ราคาหุ้นอาจจะวิ่งไปได้ยาว และอาจสูงอยู่ได้นานเป็นปีหรืออาจจะมากกว่านั้น
จากการวิเคราะห์ดูถึงผลตอบแทนที่บริษัทจะได้จากการลงทุนในเรื่องพลังงานทดแทนแล้วเราก็จะ พบว่า ผลตอบแทนที่แท้จริงของแต่ละโครงการก็เป็นผลตอบแทน "ปกติ" เช่น ประมาณ 10% ต่อปี บวก-ลบ จากเงินลงทุน ดังนั้น มูลค่าของกิจการหรือราคาหุ้นก็ไม่ควรจะขึ้นไปมาก แต่การที่หุ้นวิ่งขึ้นไปมากนั้น ผมคิดว่ามันคงมีลักษณะของการเป็นหุ้น "ขายฝัน" หรือเป็น "Concept Stock" (CS)
เรื่องของ CS นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลาโดยเฉพาะในยามที่ตลาดหุ้นบูมเป็นกระทิง หุ้นที่จะเป็น CS จะเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจที่กำลังเป็นแนวโน้มหรือเป็นเทรนด์ใหม่ของเศรษฐกิจ หรือสังคม ดังนั้น การเติบโตจะสูงมาก และยังไม่มีผู้ชนะที่เด็ดขาด หรือชัดเจน หรือยังไม่รู้ว่าใครจะล้มเหลว
ทุกบริษัทต่างมี "ความฝันที่ยิ่งใหญ่" นั่นคือ บริษัทจะเติบโต และทำกำไรเพิ่มขึ้นมหาศาล บริษัทที่อยู่ในตำแหน่งที่ดี จะมีคนเข้าไปซื้อมากมายทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเหนือกว่ามูลค่าจากการประเมินราคาทุกวิธี บริษัทที่ดูเหมือนว่า ยังไม่มีประสบการณ์พอ หรือมีขนาดเล็ก ก็ยังได้ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเพียงแค่เอ่ยว่า จะเข้ามาทำธุรกิจหรือแค่เปลี่ยนชื่อบริษัท มาดูกันว่าอะไรที่เป็น เคยเป็น หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็น Concept Stock ได้
กลุ่มแรกคือสิ่งที่ผมขึ้นต้นบทความ คือ พลังงานทดแทน คือ CS ที่กำลังร้อนแรงมากในตลาดหุ้นไทย ในระดับโลก ผมไม่ได้ศึกษาว่า กลุ่มหุ้นที่ทำพลังงานทดแทนเป็นหุ้น CS หรือไม่ ความรู้สึกคืออาจจะไม่ เพราะผมคิดว่าเรื่องนี้ในประเทศพัฒนามีการทำกันมานานแล้ว เทคโนโลยีก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นลักษณะของการ "ปฏิวัติ" อุตสาหกรรมพลังงานอะไร ว่าที่จริงในช่วงหลัง ที่มีการค้นพบวิธีการขุดก๊าซธรรมชาติ Shale Gas ที่ทำให้ได้ก๊าซราคาถูกในสหรัฐ เทรนด์ของพลังงานทดแทน อาจจะชะลอตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร การผลิตพลังงานทดแทน อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกำไรอะไรได้มากมายนัก เหตุผลเพราะยังเป็นพลังงานที่ยังไม่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ล้วนๆ ได้ จึงไม่สามารถโตและทำกำไรได้ด้วยตัวเอง
CS ที่มักจะก่อให้เกิดความร้อนแรงของราคาหุ้นกลุ่มต่อมา คือ หุ้น "Turnaround" นี่คือหุ้นของบริษัทที่ถูกทำให้ "ฟื้นตัว" จากภาวะวิกฤติของบริษัทโดยเฉพาะจากผู้บริหารและผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพทางการเงิน การฟื้นธุรกิจส่วนมากเป็นลักษณะของการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ทำอยู่ บ่อยครั้งเป็นการนำกิจการที่มีกำไรมาใส่ในบริษัท ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า บริษัทจะประสบความสำเร็จในการฟื้นตัวแน่นอน ผลคือ คนแห่มาเล่นหุ้น และทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปมากมาย บางทีเป็นสิบเท่าในเวลาไม่นาน องค์ประกอบของความสำเร็จในการฟื้นกิจการอีกอย่างหนึ่ง ที่เริ่มมองเห็นเร็วๆ นี้คือ การมี "Turnaround Artist" หรือนักฟื้นกิจการที่นักลงทุนเชื่อถือว่า จะทำให้ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยด้านเพิ่มราคาหุ้นในระยะเวลาอันสั้น
CS อีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีบางสิ่งบางอย่างใกล้เคียงกับหุ้นฟื้นตัว คือหุ้น "นัก Takeover" หรือบริษัทจดทะเบียนที่ใช้กลยุทธ์การเติบโตที่รวดเร็วโดยการซื้อกิจการ ไม่ว่าจะเป็นกิจการใหม่ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่เกี่ยวข้องกับกิจการเดิม หรือเป็นการเทคโอเวอร์กิจการแบบเดียวกัน ซึ่งจะยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะบริษัทอาจได้ประโยชน์ด้าน Economies of Scale หรือการทำให้บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น จนเกิดการประหยัดด้านต้นทุน บริษัทที่ทำการ "เทคโอเวอร์อย่างต่อเนื่อง" ดูเหมือนจะกลายเป็น CS ที่ตลาดให้มูลค่าที่สูงลิ่วและโตขึ้นไปเรื่อยๆ ช่วงเร็วๆ นี้ และก็เช่นเดียวกับเรื่องของหุ้น Turnaround ก่อให้เกิด "Takeover Artist" หรือ "ศิลปิน" หรือเซียนด้านการควบรวมกิจการ ซึ่งกลายเป็นมหาเศรษฐีในแวดวงตลาดหุ้นไทย
หุ้นที่อาจจะถือว่าเป็น Concept Stock กลุ่มหนึ่งของตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะในอดีตย้อนหลังไปซัก 10 ปีก็คือหุ้นกลุ่ม Modern Trade หรือค้าปลีกสมัยใหม่ นี่คือบริษัทจดทะเบียนที่ค้าปลีกสินค้าผ่านเครือข่ายทั่วประเทศซึ่งเริ่มเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วแทนร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม เมื่อแนวคิดนี้เริ่มต้นขึ้นมาก็จะพบว่าเกิดจากสินค้าจำเป็นก่อน ต่อมาสินค้าอย่างอื่นก็เริ่มซื้อขายผ่าน Modern Trade มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกระแส หุ้นในตลาดที่ทำธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เกือบทุกตัวก็ทยอยปรับตัวขึ้นไปจากหุ้นที่มีค่า PE ประมาณ 10 เท่าหรือต่ำกว่าก็กลายเป็นหุ้นที่มี PE สูงลิ่วหลายสิบเท่าจนถึงปัจจุบัน
หุ้นที่จะเป็น CS นั้น น่าจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนที่หวังสร้างผลกำไรหรือผลตอบแทนสูงต่างก็แสวงหา แนวทางนั้นน่าจะอยู่ที่การมองไปข้างหน้า ดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราขาดแคลนและต้องการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศหรือสังคมในขณะที่ผู้เล่นหรือผู้ผลิตหรือให้บริการมีไม่พอ ในอีกด้านหนึ่งการมองหา CS ก็อาจจะต้องเป็นเรื่องของการสังเกตหรือติดตามเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว มองว่ามีสินค้าใหม่อะไรที่คนกำลังเริ่มใช้มากขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะใช้ต่อไปอีกนานและมีผู้ให้บริการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพสูงในการเข้ามาให้บริการหรือแข่งขัน แต่แม้ว่าเราจะชำนาญหรือมีประสบการณ์มากเพียงไรก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะบอกได้ชัดเจนว่าอะไรจะเป็น CS ในอนาคต ถ้าจะให้ผมเดาว่าภาคไหนของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอะไรที่น่าสนใจและอาจจะมีโอกาสเกิด CS ได้ ผมก็คิดว่าเรื่องของ Logistic ที่เกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งเป็นกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มหนึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องของการขายปลีกผ่านช่องทางที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตก็อาจจะมาได้ ว่าที่จริงในต่างประเทศก็เกิดขึ้นแล้ว นอกจากนั้นก็อาจจะมีเรื่องของธุรกิจที่ “ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน” ที่ใกล้จะรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นต้น
ก่อนที่จะจบบทความผมคงต้องเตือนให้เห็นถึง "อันตราย" จากการเล่นหุ้น CS ด้วยว่ามันมาพร้อม ๆ กับผลตอบแทนสูงที่คาดว่าจะได้รับ ว่าที่จริงคนที่ขาดทุนอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เหตุผลก็เพราะว่าเมื่อกลายเป็น “Concept” ไปแล้ว นักลงทุนก็มักคิดไปว่าหุ้นทุกตัวที่ทำธุรกิจหรือมีแนวทางการทำธุรกิจแบบนั้นก็จะต้องดีหรือประสบความสำเร็จไปด้วยซึ่งไม่จริง ดังนั้น ถ้าเราเข้าไปซื้อหุ้นโดยเฉพาะที่ราคาขึ้นไปสูงมากแล้วเราก็อาจจะขาดทุนได้มาก นอกจากนั้น ค่าที่คนเชื่อและเข้าไปเล่นมาก ก็มีโอกาสที่จะเกิดการ “ฉ้อฉล” โดยผู้บริหารบริษัทเจ้าเล่ห์บางคนที่ต้องการ “ปั่นหุ้น” โดยอาศัย Concept ที่กำลังเป็นที่นิยม ตัวอย่างหุ้น Enron ในธุรกิจพลังงาน และหุ้น World Com ในกลุ่มสื่อสารของอเมริกาควรจะเป็นเรื่องเตือนใจพวกเราให้ระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาคิดเล่นหุ้น CS
- See more at: http://www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/nives/20140819/599298/Concept-Stock.html#sthash.2UWZZwSY.dpuf