การเดินทางไปเยี่ยม ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่
ไม่ว่าโดย ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน จาก สภ.เมืองพัทยา
ไม่ว่าโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ทรงความหมาย
ทรงความหมาย 1 เพราะว่า ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ คือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งบาดเจ็บจากการเตะระเบิดในสถานการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ขณะที่ ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน เป็นผู้ใช้โล่รับระเบิด
ทรงความหมาย 1 เพราะว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ซึ่งต้องเผชิญกับคลื่นแห่งการชุมนุมของ "มวลมหาประชาชน" อย่างต่อเนื่อง
จากเดือนพฤศจิกายน 2556 ถึงเดือนพฤษภาคม 2557
และที่ทรงความหมาย 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ
ไม่มีความคืบหน้าในคดีที่มีระเบิดโยนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทุกอย่างยังเป็น
"ความลี้ลับ" ทุกอย่างยังมากด้วย
"ความมืดดำ"
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง
มีคลิปวิดีโอบันทึกเอาไว้อย่างแจ้งชัด
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับความสูญเสียนอนแบ็บอยู่ในโรงพยาบาล
ความคืบหน้าต่างหาก คือสิ่งที่หลายฝ่ายต้องการเห็น
ความละเอียดอ่อนประการหนึ่งอันเกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในกระบวนการยุติธรรม
คือ ความละเอียดอ่อนอันเนื่องจาก Double Standard สองมาตรฐาน
ความเป็นจริงที่เห็นและเป็นอยู่นับแต่เกิดสถานการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา
คือความเป็นจริงในการรุกไล่ฝ่ายหนึ่ง แต่ละเลยอีกฝ่ายหนึ่ง
ไม่ว่าจะโดยเจตนา ไม่ว่าจะโดยไม่เจตนา
แต่ในความรับรู้ของชาวบ้านก็คือ
การกวาดล้าง จับกุมฝ่ายหนึ่ง แม้กระทั่งคนที่ถูกยิงเสียชีวิตไปแล้วก็ถูกกล่าวหาถูกกล่าวโทษเป็น "อาชญากร"
แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีการแตะต้อง ไม่มีการดำเนินการ
หากเป็นเรื่องของ "ชาวบ้าน" โดยทั่วไปก็อย่างหนึ่ง แต่กรณีของ ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ เป็นเรื่องของข้าราชการตำรวจ
ปัจจุบัน ก็ยังรับราชการเป็นนายตำรวจในสังกัด สภ.แสนสุข
ดูเหมือนว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มิได้ให้ความสนใจอย่างเพียงพอ
ว่าใครเป็นเจ้าของระเบิดที่โยนมา กระทบกับโล่ของ ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน กระทั่ง ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ต้องตัดสินใจเตะระเบิดนั้นออกไป
ขาที่พิการ คือเครื่องยืนยันสถานการณ์
ในฐานะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษากฎหมาย ทาง 1 มีความจำเป็นต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ขณะเดียวกัน ทาง 1 ก็ต้องคุ้มครองพลเมืองดี
ยิ่งพลเมืองดีนั้นเป็นข้าราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งมีความจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรม
เพื่อเป็น "ขวัญ" เพื่อเป็น "กำลังใจ"
การทำความจริงให้ปรากฏเพื่อยืนยันในวีรกรรมหาญกล้าทั้งของ ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ และ ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน จึงมีความจำเป็น
ไม่เพียงแต่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว จะรู้สึก
ยิ่ง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
และโดยเฉพาะ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.
ซึ่งได้รับมอบหมายให้เดินหน้าในเรื่องคดีความอันเกี่ยวกับความมั่นคงและการชุมนุม ยิ่งต้องให้ความสนใจ
เพื่อมิให้ถูกมองว่า "สองมาตรฐาน"
เพื่อให้กระบวนการของตำรวจเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติการตามกฎหมาย
เป็นเรื่อง "ประณีต" เป็นเรื่อง "ละเอียดอ่อน"
ถามว่าสาเหตุอันเป็นต้นตอแห่งความขัดแย้ง แตกแยก ตลอดเกือบ 10 ปีมานี้คืออะไร
คำตอบ 1 ซึ่งตรงเป้าหมายที่สุดคือ ปัญหาอันเกี่ยวกับความยุติธรรม อันเกี่ยวกับความเป็นธรรม
ซึ่งมีบางส่วนบางฝ่ายดำเนินอย่างไม่ยุติธรรม ไม่เป็นธรรม ไม่เที่ยงธรรม
ตำรวจ "ยุคใหม่" ยุค "คืนความสุข" ไม่ควรไปตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1408263705
..................
ผมเองปวดตับตั้งแต่มีการแถลงข่าวจาก พล.ต.อ.สมยศ แล้วว่า ไม้หนึ่ง ก.กุนที เป็นหนึ่งในขบวนการสร้างความรุนแรงกับ กปปส.
แถลงแล้วก็แล้วไป คนตายเถียงไม่ได้
คนโดนยิงตาย คดีอืดเป็นแมวเล็บขบใส่ร้องเท้าคับ แถมโดนยัดคดีใส่อีก
เหมาะสมครับท่าน ที่จะได้เป็น ผบ.ตร.
ก็ท่าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ท่านยังไม่มีเวลานี่ครับ งานท่านยุ๊งยุ่ง (ตำรวจผู้น้อยหรือจะกล้าทวงถามเรื่องคดีความ)
การเดินทางไปเยี่ยม ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่
ไม่ว่าโดย ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน จาก สภ.เมืองพัทยา
ไม่ว่าโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ทรงความหมาย
ทรงความหมาย 1 เพราะว่า ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ คือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งบาดเจ็บจากการเตะระเบิดในสถานการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ขณะที่ ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน เป็นผู้ใช้โล่รับระเบิด
ทรงความหมาย 1 เพราะว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ซึ่งต้องเผชิญกับคลื่นแห่งการชุมนุมของ "มวลมหาประชาชน" อย่างต่อเนื่อง
จากเดือนพฤศจิกายน 2556 ถึงเดือนพฤษภาคม 2557
และที่ทรงความหมาย 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ไม่มีความคืบหน้าในคดีที่มีระเบิดโยนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทุกอย่างยังเป็น "ความลี้ลับ" ทุกอย่างยังมากด้วย "ความมืดดำ"
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง มีคลิปวิดีโอบันทึกเอาไว้อย่างแจ้งชัด
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับความสูญเสียนอนแบ็บอยู่ในโรงพยาบาล
ความคืบหน้าต่างหาก คือสิ่งที่หลายฝ่ายต้องการเห็น
ความละเอียดอ่อนประการหนึ่งอันเกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในกระบวนการยุติธรรม
คือ ความละเอียดอ่อนอันเนื่องจาก Double Standard สองมาตรฐาน
ความเป็นจริงที่เห็นและเป็นอยู่นับแต่เกิดสถานการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา
คือความเป็นจริงในการรุกไล่ฝ่ายหนึ่ง แต่ละเลยอีกฝ่ายหนึ่ง
ไม่ว่าจะโดยเจตนา ไม่ว่าจะโดยไม่เจตนา
แต่ในความรับรู้ของชาวบ้านก็คือ
การกวาดล้าง จับกุมฝ่ายหนึ่ง แม้กระทั่งคนที่ถูกยิงเสียชีวิตไปแล้วก็ถูกกล่าวหาถูกกล่าวโทษเป็น "อาชญากร"
แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีการแตะต้อง ไม่มีการดำเนินการ
หากเป็นเรื่องของ "ชาวบ้าน" โดยทั่วไปก็อย่างหนึ่ง แต่กรณีของ ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ เป็นเรื่องของข้าราชการตำรวจ
ปัจจุบัน ก็ยังรับราชการเป็นนายตำรวจในสังกัด สภ.แสนสุข
ดูเหมือนว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มิได้ให้ความสนใจอย่างเพียงพอ
ว่าใครเป็นเจ้าของระเบิดที่โยนมา กระทบกับโล่ของ ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน กระทั่ง ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ต้องตัดสินใจเตะระเบิดนั้นออกไป
ขาที่พิการ คือเครื่องยืนยันสถานการณ์
ในฐานะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษากฎหมาย ทาง 1 มีความจำเป็นต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ขณะเดียวกัน ทาง 1 ก็ต้องคุ้มครองพลเมืองดี
ยิ่งพลเมืองดีนั้นเป็นข้าราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งมีความจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรม
เพื่อเป็น "ขวัญ" เพื่อเป็น "กำลังใจ"
การทำความจริงให้ปรากฏเพื่อยืนยันในวีรกรรมหาญกล้าทั้งของ ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ และ ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน จึงมีความจำเป็น
ไม่เพียงแต่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว จะรู้สึก
ยิ่ง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
และโดยเฉพาะ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.
ซึ่งได้รับมอบหมายให้เดินหน้าในเรื่องคดีความอันเกี่ยวกับความมั่นคงและการชุมนุม ยิ่งต้องให้ความสนใจ
เพื่อมิให้ถูกมองว่า "สองมาตรฐาน"
เพื่อให้กระบวนการของตำรวจเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติการตามกฎหมาย
เป็นเรื่อง "ประณีต" เป็นเรื่อง "ละเอียดอ่อน"
ถามว่าสาเหตุอันเป็นต้นตอแห่งความขัดแย้ง แตกแยก ตลอดเกือบ 10 ปีมานี้คืออะไร
คำตอบ 1 ซึ่งตรงเป้าหมายที่สุดคือ ปัญหาอันเกี่ยวกับความยุติธรรม อันเกี่ยวกับความเป็นธรรม
ซึ่งมีบางส่วนบางฝ่ายดำเนินอย่างไม่ยุติธรรม ไม่เป็นธรรม ไม่เที่ยงธรรม
ตำรวจ "ยุคใหม่" ยุค "คืนความสุข" ไม่ควรไปตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1408263705
..................
ผมเองปวดตับตั้งแต่มีการแถลงข่าวจาก พล.ต.อ.สมยศ แล้วว่า ไม้หนึ่ง ก.กุนที เป็นหนึ่งในขบวนการสร้างความรุนแรงกับ กปปส.
แถลงแล้วก็แล้วไป คนตายเถียงไม่ได้
คนโดนยิงตาย คดีอืดเป็นแมวเล็บขบใส่ร้องเท้าคับ แถมโดนยัดคดีใส่อีก
เหมาะสมครับท่าน ที่จะได้เป็น ผบ.ตร.