ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปัดแสดงความเห็นคำสั่งศาลแพ่งวานนี้ (19ก.พ.57) ย้ำตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมาย ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานที่ปรากฏ ส่วนตำรวจที่เตะระเบิดยืนยันระเบิดมาจากเต็นท์ผู้ชุมนุม
นี่เป็นคำบอกเล่าถึงเหตุและปัจจัยที่ตัดสินใจเตะระเบิดของดาบตำรวจธีรเดช เล็กภู่ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สถานีตำรวจภูธรแสนสุข จังหวัดชลบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ดาบตำรวจธีรเดช บอกว่า ที่ต้องกวักมือเรียกเพื่อนอีกคน เพราะมีโล่ห์เหล็ก เพื่อมาปิดทางกระสุนให้เพื่อนอีกหลายคนที่อยู่ด้านหลัง และเมื่อเพื่อนวางโล่ห์ลง ระเบิดก็ถูกขว้างมาจากเต็นท์ผู้ชุมนุม จึงตัดสินใจเตะเพราะเกรงว่าเพื่อนอีกหลายคนจะได้รับอันตราย ซึ่งขณะนั้นไม่ได้คิดถึงชีวิตและความปลอดภัยของตนเอง
ขณะเดียวกันพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าเยี่ยมดาบตำรวจธีรเดช และตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะ พร้อมมอบเงินสดสวัสดิการ และได้กล่าวชื่นชมความกล้าหาญของดาบตำรวจธีรเดช ที่เสี่ยงชีวิตช่วยเพื่อน
โดยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร.ในการประชุมนัดหน้าเพื่อขอเสนอเลื่อนยศให้ดาบตำรวจธีรเดช เป็นร้อยตำรวจตรี เป็นกรณีพิเศษ และจะเปิดโอกาสให้ขอย้ายและเลือกตำแหน่งได้ตามที่ต้องการ
ทางด้านดาบตำรวจธีรเดช ได้กล่าวขอบคุณที่ผู้บังคับบัญชาเห็นความสำคัญของตำรวจระดับปฏิบัติ ที่ทุกนายปฏิบัติด้วยความตั้งใจและทุ่มเท ภายใต้กรอบของกฎหมายและข้อกำจัด โดยยืนยันว่า ไม่ท้อและยังมีขวัญกำลังใจดี แม้ตัวเองจะบาดเจ็บและเพื่อนควบคุมฝูงชนชุดเดียวกันจะเจ็บและตายก็ไม่ทำให้สูยเสียกำลังใจ และหากร่างกายเเข็งแรงก็พร้อมกับไปปฏิบัติหน้าที่
ด้านนางจีระภา ภรรยาดาบตำรวจธีรเดช กล่าวว่า ถ้าเลือกขอให้ขาของสามีกลับมาเป็นปกติ มากกว่ายศที่สูงขึ้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภูมิใจในตัวสามี ที่มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และที่ผ่านมาก็เข้าใจการทำหน้าที่ของสามี และเป็นกำลังใจให้มาตลอด
ผบ.ตร. แสดงความรู้เสียใจกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมาย ยืนยันว่า ตำรวจที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนไม่ได้พกอาวุธประจำกาย มีเพียงโล่ห์และกระบอง ดังนั้นจึงให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานภาพถ่ายเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
รวมทั้งติดตามจับกุมผู้ที่ก่อความรุนแรงมาดำเนินคดี และไม่ขอแสดงความเห็นกรณีคำสั่งศาลแพ่ง วานนี้ บอกเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องปฏิบัติในการรักษาความสงบเรียบร้อย แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมาย
ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะนำคำสั่งศาลแพ่งมาเป็นทางการปฏิบัติในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการดูแลความปลอดภัยการชุมนุมต่อไป รวมทั้งการปรับยุทธวิธีเพื่อให้ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่มีความปลอดภัยมากขึ้น
ที่มา :
http://www.youtube.com/watch?v=KIJVy0W8-lQ&feature=youtu.be
20 กุมภาพันธ์ 2557
ตำรวจที่เตะระเบิดเผยนาทีชีวิต ยันระเบิดมาจากเต็นท์ผู้ชุมนุม
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปัดแสดงความเห็นคำสั่งศาลแพ่งวานนี้ (19ก.พ.57) ย้ำตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมาย ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานที่ปรากฏ ส่วนตำรวจที่เตะระเบิดยืนยันระเบิดมาจากเต็นท์ผู้ชุมนุม
นี่เป็นคำบอกเล่าถึงเหตุและปัจจัยที่ตัดสินใจเตะระเบิดของดาบตำรวจธีรเดช เล็กภู่ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สถานีตำรวจภูธรแสนสุข จังหวัดชลบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ดาบตำรวจธีรเดช บอกว่า ที่ต้องกวักมือเรียกเพื่อนอีกคน เพราะมีโล่ห์เหล็ก เพื่อมาปิดทางกระสุนให้เพื่อนอีกหลายคนที่อยู่ด้านหลัง และเมื่อเพื่อนวางโล่ห์ลง ระเบิดก็ถูกขว้างมาจากเต็นท์ผู้ชุมนุม จึงตัดสินใจเตะเพราะเกรงว่าเพื่อนอีกหลายคนจะได้รับอันตราย ซึ่งขณะนั้นไม่ได้คิดถึงชีวิตและความปลอดภัยของตนเอง
ขณะเดียวกันพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าเยี่ยมดาบตำรวจธีรเดช และตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะ พร้อมมอบเงินสดสวัสดิการ และได้กล่าวชื่นชมความกล้าหาญของดาบตำรวจธีรเดช ที่เสี่ยงชีวิตช่วยเพื่อน
โดยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร.ในการประชุมนัดหน้าเพื่อขอเสนอเลื่อนยศให้ดาบตำรวจธีรเดช เป็นร้อยตำรวจตรี เป็นกรณีพิเศษ และจะเปิดโอกาสให้ขอย้ายและเลือกตำแหน่งได้ตามที่ต้องการ
ทางด้านดาบตำรวจธีรเดช ได้กล่าวขอบคุณที่ผู้บังคับบัญชาเห็นความสำคัญของตำรวจระดับปฏิบัติ ที่ทุกนายปฏิบัติด้วยความตั้งใจและทุ่มเท ภายใต้กรอบของกฎหมายและข้อกำจัด โดยยืนยันว่า ไม่ท้อและยังมีขวัญกำลังใจดี แม้ตัวเองจะบาดเจ็บและเพื่อนควบคุมฝูงชนชุดเดียวกันจะเจ็บและตายก็ไม่ทำให้สูยเสียกำลังใจ และหากร่างกายเเข็งแรงก็พร้อมกับไปปฏิบัติหน้าที่
ด้านนางจีระภา ภรรยาดาบตำรวจธีรเดช กล่าวว่า ถ้าเลือกขอให้ขาของสามีกลับมาเป็นปกติ มากกว่ายศที่สูงขึ้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภูมิใจในตัวสามี ที่มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และที่ผ่านมาก็เข้าใจการทำหน้าที่ของสามี และเป็นกำลังใจให้มาตลอด
ผบ.ตร. แสดงความรู้เสียใจกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมาย ยืนยันว่า ตำรวจที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนไม่ได้พกอาวุธประจำกาย มีเพียงโล่ห์และกระบอง ดังนั้นจึงให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานภาพถ่ายเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
รวมทั้งติดตามจับกุมผู้ที่ก่อความรุนแรงมาดำเนินคดี และไม่ขอแสดงความเห็นกรณีคำสั่งศาลแพ่ง วานนี้ บอกเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องปฏิบัติในการรักษาความสงบเรียบร้อย แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมาย
ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะนำคำสั่งศาลแพ่งมาเป็นทางการปฏิบัติในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการดูแลความปลอดภัยการชุมนุมต่อไป รวมทั้งการปรับยุทธวิธีเพื่อให้ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่มีความปลอดภัยมากขึ้น
ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=KIJVy0W8-lQ&feature=youtu.be
20 กุมภาพันธ์ 2557