ขอถามพนักงาน Bank หรือสาย Finance ทุกแขนงว่า "จะยอมเสีย self หรือยอมเสีย work ?" ฝากไปถึงเด็กจบใหม่ด้วย

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000092741

ตัวอย่างจากข่าวนี้ที่เค้าสัมภาทพนักงานมา และจากประสบการณ์ตรงส่วนตัวขอยืนยันว่ามันมีด้านนี้อยู่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใหญ่หรือส่วนน้อย แต่ก็เป็นส่วนที่มีอยู่ "จริง" ในทุกแบ้งค์ ทุกโบรค ทุกเฟิมที่ต้องทำยอด ถามผู้บริหารระดับที่เซ็นอนุมัติวงเงินเกิน 3 ล้านดูได้ พวกเค้ามีส่วนรู้เห็นกันทุกคนเพียงแต่พูดออกมาดังๆไม่ได้เพราะมันเสียลุคทั้งตัวเค้าเอง และองค์กร (แต่คนในก็รู้กันอยู่ดี)

ผมเคยทำมาหลายโบรค ติดต่อกับแบ้งค์มาหลายแห่ง บอกได้เลยว่าถ้ามีลูกสาวเป็นผู้หญิงจะให้หลีกเลี่ยงสายงานในตำแหน่งที่ต้องทำยอด ยกเว้นไปทำตำแหน่งอื่นก่อนแล้วเติบโตจากนั้นค่อยมาตั้งทีมเองก็อีกเรื่องนึง แต่ถ้าจะให้ไต่เต้าโดยไม่มีทุนซัพพอทระดับโคฟเว่อเงินเดือนแล้วละก็เสี่ยงเอามากๆ

ถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่มาสมัครแบ้งค์หรือโบรค ตอนคุยกับ HR เค้าจะให้คุณเรตแรกที่ 13,000 ขอย้ำว่าแค่ 13,000 เท่านั้น(15,000 ทุกคนเป็นเรื่องโกหก เพราะมันคือเรตสูงสุดที่ให้ได้เฉพาะบางคน) นี่ยังไม่หักค่าประกันสังคม ทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ อีกนะ หากอยากได้มากกว่านี้คุณต้องทำ OT หรือ night session สำหรับโบรคเก้อทีเฟ็ก

หลังจากที่คุณเข้ามาทำงานแล้ว สำหรับพนักงานแบ้งค์คุณจะได้เป้าหมาย หรือยอดที่ต้องทำให้ถึง ไม่ว่าจะเปิดบัญชี ประกัน กองทุน ฯลฯ ซึ่งผู้จัดการแบ้งค์เค้าก็ได้รับยอดมาจากศูนย์ใหญ่อีกที ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของเค้าเลยนะ อดีต ผจก. แบ้งคเหลืองคนนึงมาปรับทุกข์ให้ผมฟัง ทุกเช้าเมื่อถึงที่ทำงานก็ต้องไปเปิดคอมคอยเช็คว่ายอดอะไรเท่าไหร่แล้วมั่ง เพราะถ้าไม่ถึงก็โดนเล่นงาน หักโบนัส ลดเงิน หรือย้ายสาขาไกลๆไปเลย ไม่ต่างจากพนักงานระดับล่าง

ส่วนโบรคเก้อตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่ตอนปี 2556 โบรคเก่อจะได้ค่าคอมประมาณ 500 บาท จากยอดซื้อหรือขายหุ้น 1 ล้านบาท นั่นหมายความว่าถ้าคุณมีเงินเดือน 13,000 ก็ต้องทำยอดซื้อ+ขายให้ได้ 26 ล้านบาทขึ้นไปคุณถึงจะได้ค่าคอมส่วนที่เกินเงินเดือนมาในเดือนนั้นๆ หรือหากเป็นทีเฟ็ก Set50 จะได้สัญญาละ 100บาท(ตอนนี้ต้องหาร 5) ก็จะโควเว่อเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่ถึงล่ะ ภายในสามเดือนแรกเค้าจะเรียกคุณไปคุยเป็นการส่วนตัวว่าเราต้องลดเงินเดือนคุณให้ลงไปเท่ากับค่าคอมที่คุณทำได้นะ(บางคนเหลือ 9,000บาท) ถ้าเป็นชายก็เหมือนถูกให้ออก ณ จุดๆนั้น แต่ถ้าเป็นหญิง ผิวขาว หน้าตาดี หัวหน้าสายอาจลงมาคุยเองเลย ว่ามีพอตเสี่ยคนนั้น พี่คนนี้ 30-40 ล้านขึ้นให้ดูแลจะเอาไหม แล้วก็นัดแนะให้พบลูกค้า

***** ถ้าเป็นโบรคตรงถนนวิทยุมักจะชวนลูกค้ามาพบที่ Sizzler ไม่ก็ Zen ในตึก CRC จากนั้นก็อาจมีไปต่อที่โรงแรมข้างหลังตึกนั่นแหละ ผมรู้ดี ผมก็เคยทำอยู่ทีม 8 กับทีม 9 ที่นี่ ส่วนสำนักงาน กลต. ที่อยู่ใกล้ๆกันน่ะหรอ สามคำครับ  "หึหึหึ"

หรือหากเป็นโบรคตรงชิดลม เค้าจะสร้างทีมมาเก็ตติ้งหญิงล้วนขึ้นมาเลย แต่ละคนนี่เด็ดๆทั้งนั้น นี่มันโบรคเก้อหรือ xxx ก็ไม่รู้ ไม่ขอบอกใบ้นะเพราะมันจะระบุตัวได้ทันทีว่าใคร ส่วนตรงศาลาแดงหรือสาทรก็ไม่ต่างกัน

ยิ่งโบรคตรงสีลมนี่ ขอยกตัวอย่างว่าโบรคดอกไม้ ที่นี่จะมีเซอวิสแบบ 1 มาต่อ 1 คนเลยนะ แต่ต้องโคฟเว่อถึงจะจัดให้ได้ นี่ออกแนวคล้ายๆผูกปิ่นโตเลย หรือ small wif... มาดูแลพอตให้เสี่ยเป็นการส่วนตัวก็มี แล้วไม่ต้องรับลูกค้าคนอื่นเลย *****

นี่แหละครับตัวอย่างด้านมืดของวงการไฟแน้นซ์ ดังคำพังเพยที่ว่า "ที่ไหนมีแสงสว่างที่นั่นย่อมต้องมีความมืด" และคุณอาจจะถูกมันกลืนกินก็ได้ถ้าไม่แกร่งกล้าพอ ผมไม่ได้บอกว่ามันถูกหรือผิดนะ แต่ผมจะบอกว่ามันเป็นกลยุทธอย่างนึงในการดำรงชีวิต และเป็นกลยุทธในที่มืดซึ่งไม่ค่อยมีใครเห็น ถ้าใช้แล้วคุณสบายใจ แล้วก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ทำไปเถอะ ยังไงปัจจัย 4+1 ก็สำคัญที่สุด

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เรื่องวงการแบงก์ ต้องทำยอด ...อันนี้รู้ๆกันค่ะ

แต่เรื่อง มาร์เก็ตติ้ง ..ถึงขนาดไปนอนด้วย  นั่นเป็นพฤติกรรมส่วนตัวที่มีมาแต่เดิม ....และเป็นส่วนน้อยมากกกกกกกกกกกกค่ะ  ยืนยัน
เงินได้จากการเทรดนิดเดียว  ไม่ลงทุนขนาดนั้นหรอกค่ะ  ....แค่ไปกินข้าวเพื่อความสนิทสนม บริหารเสน่ห์ แต่ไม่เปลืองตัว พอเป็นไปได้
ยืนยันว่า  "ถ้าพลีตัว อันนี้ คือ พฤติกรรมส่วนตัวที่ติดมาแต่เดิม เคยทำอยู่แล้ว ตั้งแต่มัธยม/มหาลัยค่ะ"
...เด็กแบบนี้ ทำอาชีพอะไรก็พร้อมพลีตัวหาเงินพิเศษอยู่แล้ว ....โลกยังไม่ได้ฟอนเฟะขนาดนั้น
อีกอย่าง  คนมาเล่นหุ้น  เค้าต้องการกำไรสูงสุดค่ะ  ไม่เอาไก่กา มาเสียเวลาหรอกค่ะ  ไปหาเด็กกินเลยดีกว่า
ยอด30ล้านเนี่ย  หาคนเล่นเดย์เทรด วันละ 1ล้าน เข้าออกก็วันละ2ล้านแล้ว ชิลด์ๆค่ะ
แต่บอกตรงๆ  มาร์เก็ตติ้งไทย ไม่ได้เป็นพวกเรียนไฟแนนซ์เท่าไรหรอกค่ะ ...เรียนไก่กาอาราเล่ มาเป็นได้หมด
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าจะเอาตัวเข้าแลก ก็น่าจะไปทำไซด์ไลน์ หรือว่าขายตัวไปเลย น่าจะได้เงินดีกว่า เพราะสุดท้ายยังไง เอาตัวเข้าแลก มันก็เสียศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

วันนึงไปเสียเวลาอยู่แบงค์ อยู่โบรคทำไม ได้เงินก็น้อย เปิด Job รับแขกเองไปเลย ไม่ดีกว่าเหรอ เผลอ ๆ เดือน ๆ นึง อาจได้ 6 หลักขึ้น

พร้อมของสมนาคุณมากมายเช่น กินฟรี เที่ยวฟรี รถหรู คอนโด ฯลฯ

ไม่เข้าใจ ยังมีโง่ ๆ ให้พวกหัวงู มันหลอกกินฟรี อยู่อีกเหรอ ทั้งที่บ้านเรา ตอนนี้ก็เป็นสังคมเปิดแล้ว

ขนาดอยู่ในที่สาธารณะ คนเยอะแยะ อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่สนใจคนรอบข้างเลย

Facepalm
ความคิดเห็นที่ 18
ฟังดูมโนมาก ตั้งแต่ทำงานอยู่ในสายไฟแนนซ์มาไม่เคยเห็นเรื่องเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ ถ้าจะเป็นพวกเรื่องส่วนตัวของเจ้านายเลวๆบางคนคงมี...
แต่ส่วนใครจะพลีกายเพื่อทำยอดผมว่าไปเป็นเซลล์ขายของเต็มตัวเถอะครับ ได้ค่าคอมสูงกว่า มาร์เก็ตติ้งก็ยังได้แค่ส่วนแบ่งค่าเทรด นักลงทุนพอร์ตใหญ่ต้องเทรดกันสักกี่รอบ(พวกพอร์ตใหญ่ๆ ไปซื้อกินสบายใจกว่าเยอะครับ เงินเทรดหุ้นเอาไว้ลงทุนนะครับ เสียค่าคอมหลายๆรอบไม่ต้องไปทำกำไรกันพอดี) ต้องพลีให้ลูกค้าสักกี่คน มาร์ถึงจะได้เงินเท่าเซลล์ ผมอยากให้เข้าใจอย่างหนึ่งนะครับนักลงทุนเค้าไม่เอาเงินตัวเองมาเสียค่าคอมเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อเอาเด็กมาร์หรอกนะครับ ซื้อกินถูกกว่าเยอะ ถ้าเงินตัวเองกับเงินคนอื่น(ของบริษัท) แล้วผมเป็นคนใช้เงิน อย่างหลังผมจะยอมจ่ายแพง เพราะไม่ใช่เงินผม(เซลล์อาจมีแถมอะไรให้บ้าง) แต่ถ้าเป็นเงินผมเอง ทุกบาททุกสตางค์ต้องคุ้มค่าครับ

อย่ามโนเยอะครับ คนในวงการเค้าจะพลอยเสียชื่อไปด้วยนะครับ
ความคิดเห็นที่ 6
ผมพอร์ทเกิน 100ล ยังไม่เคยเห็นได้ xxx เลยอ่า มาร์ก็รุ่นป้าทั้งนั้น.. ฮือๆ แฟนก็ไม่มี อิๆๆ
ความคิดเห็นที่ 35
ปัญญาอ่อนว่ะ ใครจะขายตัวเพื่อแลกกับเงินเดือนหลักหมื่น โคตรๆงี่เง่า ถ้าใครที่ทำจริงเค้าก็คงไม่ได้เอาแค่เฉพาะเงินค่าคอมอยู่แล้ว ต้องมีของแถมเยอะกว่านั้นด้วย หรือก็คือขายแบบเต็มๆไปเลย เป็นเด็กเสี่ยเป็นเมียน้อยอะไรก็ว่าไป ซึ่งมันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวกับว่าต้องเป็นมาร์แต่อย่างใด จะทำอยู่วงการไหน บริษัทไหน ถ้าคนมันจะขาย มันก็ขายได้ทั้งนั้นแหละ

ผมทำงานสายนี้มาตลอด บอกตามตรงว่ายังไม่เคยเจอแบบที่คุณเขียนซักคนเลยว่ะครับ ถ้าคนมันอยากจะขายมันก็ขายของมันอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับว่าจะทำงานอะไรแต่อย่างใด

เหมือนถ้าจะบอกว่ามีพวกที่เล่นชู้กันในบริษัท มันมีจำกัดด้วยมั้ยว่าต้องวงการนู้นวงการนี้ถึงจะมี? มันไม่เกี่ยวไงว่าต้องทำงานอะไร จะเป็นหมอเป็นครูเป็นมาร์เป็นทหารเป็นตำรวจเป็นวิศวะ ฯลฯ มันก็มีกันทุกวงการแหละ ของแบบนี้มันอยู่ที่ตัวคนล้วนๆไม่เกี่ยวกับอาชีพ

ก็แค่บทความโง่ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่