เป็น หมอ หรือ นักธุรกิจ ดี?

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของหนูนะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้
(ติดtag แพทย์และนักธุรกิจเพราะอยากรู้ว่านิสัยเราเข้ากับการทำงานมั้ย หรือเรามีปัญหาอย่างนี้ จะเป็นเรื่องใหญ่ในการทำงานจริงไหม)

ก่อนอื่นขอเล่าเกี่ยวกับครอบครัวและตัวหนูเอง(ขอใช้ว่าหนูละกันนะคะ5555) เพื่อให้พี่ๆน้าๆชาวpantip ได้ช่วยให้คำแนะนำในการเลือกอาชีพในอนาคตโดยมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจใกล้เคียงกับตัวหนูเองมากที่สุด ไม่ได้มีเจตนาจะโอ้อวดหรืออะไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เพื่อการตัดสินใจแบบมีคุณภาพที่สุด

เริ่มเลยคือ ตอนนี้หนูอยู่ม.5 เรียนอยู่โรงเรียนที่ดีมากๆโรงเรียนหนึ่ง ชอบเรียนเคมี และอังกฤษ เมื่อก่อนชอบเลขแต่พอขึ้นม.ปลายมาเริ่มเรียนยากขึ้น ตอนนี้ก็เลยเฉยๆ เกรดเฉลี่ยก็ไม่หวือหวาประมาณ 3.6 ชอบคำนวณ แต่เทอมนี้ตกฟิสิกส์ ชีวะพอไปได้ ชอบอ่านชีวะ ชอบการเป็นเหรัญญิก รู้สึกสนใจการตลาด ซื้อหนังสือสอนเล่นหุ้น(แต่ไม่ได้เล่นจริง) แต่ไม่เคยซื้อหนังสือเกี่ยวกับร่างกาย ก่อนขึ้นม.ปลายตอนแรกจะเรียนศิลป์คำนวณ แต่ป๊าให้เลือกวิทย์เพราะทางเลือกกว้างกว่า ครูแนะแนวบอกบุคลิกเป็นศิลป์ 100% นิสัยช่างเพ้อฝัน555555 ชอบคิดถึงอนาคตไกลๆ ละเอียด รอบคอบ พูดเก่งคุยเก่ง(เพื่อนบอกพูดน่าฟัง555555) ชอบยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ชอบให้ใครมาขัด พูดตรง คิดมาก ขี้เบื่อ รักสนุก

ด้านครอบครัว บ้านทำธุรกิจเป็นโรงงานขนาดย่อม มีพี่น้องรวมตัวเอง3คน เป็นพี่คนโต แนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าน้อง2คนจะกลับมาทำกิจการที่บ้าน(จริงๆรายได้ไม่ได้หวือหวาประมาณหลักสิบ แต่ทุกคนจะกลับมาทำตรงนี้หมดเลย555555) ถ้าตัวหนูเองจะทำธุรกิจ ก็คงจะเริ่มจากงานที่บ้านก่อน แล้วอาจจะขยับขยายไป ตอนนี้เป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์การเกษตร(ไม่รู้ว่าในอนาคตจะอยู่ได้ไหม จะอิ่มตัวไหม แต่โรงงานตั้งอยู่มานานกว่าอายุหนูอีก) ป๊ากับแม่ไม่บังคับว่าจะต้องเป็นอะไร แม้ตอนนี้ชักจะเอนเอียงมาทางหมอแล้ว บอกว่าตอนนี้จะเริ่มทำอะไรใหม่ก็ลำบาก ประกอบกับญาติชอบมาเป่าหูว่าเรียนเก่งต้องเป็นหมอๆๆๆๆ อากงอาม่า และผู้สูงวัยอยากให้เป็นหมอกันหมด (เป็นหลานคนที่2 คนแรกไม่เอาหมอ และดูจะไม่มีใครอยากเป็นหมอเลย) แต่ท้ายที่สุดก็ตามใจลูก

ความต้องการต่ออาชีพ คือ เป็นอาชีพที่สบาย ตื่นกี่โมงก็ได้ ไปไม่ไปก็ได้ ไปเที่ยวต่างประเทศนานๆได้ เห็นความงอกเงย (จริงๆคือ ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ก็ได้ แต่อาจจะไม่มีความสุขเท่าที่ควร)

ถ้าพูดกันตามตรงก็รู้ใจตัวเองอยู่แล้วว่าอยากเป็นนักธุรกิจมากกว่า แต่ปัญหาก็คือ จะทำอะไรถ้าไม่สานต่อกิจการที่บ้าน เพราะมันอาจมีสักวันหนึ่งที่ถึงจุดอิ่มตัว โรงงานอยู่ไม่ได้ หรืออะไรก็แล้วแต่ มันมีโอกาสตกงาน แล้วการจะเริ่มอะไรใหม่ สร้างโรงงานอะไรขึ้นมาใหม่ โอกาสโตมันน้อย เพราะเหมือนตอนนี้อะไรๆก็จะถึงจุดสมดุลแล้ว คนรุ่นก่อนเค้าสร้างไว้จะหมดแล้ว จริงๆก็อยากทำอสังหาฯเหมือนกันแต่กว่าหนูจะโตที่ดินอะไรคงหมดแล้ว แต่ข้อดีที่จะเป็นนักธุรกิจคือ ใจมันรักอ่ะ ชอบที่จะหาของอะไรมาขายนู่นนี่ แต่ก็ประสบปัญหาแล้วคือมันขายยาก คู่แข่งเยอะ อ้อแล้วก็ ถ้าจะทำธุรกิจหนูกะจะเรียนวิศวะก่อน แล้วต่อเศรษฐศาสตร์หรือบริหารอะไรประมาณนั้น

ส่วนที่อีกใจนึงอยากเป็นหมอคือ เป็นอาชีพที่มั่นคง เงินเลี้ยงตัวเองได้ รายได้ค่อนข้างดีเลยแหละ กะว่าถ้าเป็นหมอแล้ว จะเก็บเงิน(ขอเงินที่บ้านมาด้วย5555) แล้วจะสร้างโรงพยาบาลไม่ใหญ่มาก ไว้ใกล้ๆบ้าน(บ้านอยู่ต่างจังหวัด เข้ามาเรียนกทม.)
แต่ไม่ต้องกลัวว่าหนูจะขูดรีดคนป่วยหรือเอาเปรียบอะไร เพราะหัวธุรกิจนะคะ555555 ถึงจะหัวธุรกิจแต่สำนึกผิดชอบชั่วดียังมีอยู่เต็มอกค่ะ จะไม่มีทางบังคับคนป่วยให้ตรวจนู่นนี่หรืออะไรที่ทำแล้วเราได้เงินเยอะแต่คนป่วยเสียเปรียบอะไรแน่นอน ถ้าได้เป็นหมอแล้วก็จะทำหน้าที่ของหมอให้ดีที่สุด แต่สิ่งที่ทำใจรักการเป็นหมอได้ไม่เต็มอกก็คือ เรียนหนัก เรียนนาน งานเครียด และปัญหาหลักใหญ่ๆเลยคือ lifestyle ดูจะไม่เข้ากับหนูเลย

นี่แหละปัญหาระดับโลก !!!! ทั้งสองงานที่อยากจะเลือก มีข้อดีข้อเสียทั้ง2อย่าง ทำให้ตัดสินใจจริงๆจังๆไม่ได้สักที อีก1ปีก็จะเอ็นท์แล้วด้วย การเตรียมตัวก็ต่างกัน หมอสอบ7+1วิชา วิศวะสอบ3+1วิชา ก็เลยมีคนบอกให้ลองมาปรึกษาชาวpantip ว่า

ถ้าพี่ๆน้าๆ"เป็นหนู" หรือจินตนาการไม่ออกก็
ถ้า "ลูกของพี่ๆน้าๆ เป็นแบบหนู"  จะแนะนำให้เลือกเป็นอะไร เพราะอะไร

เหตุผลนี่ไม่เอาแบบโลกสวยนะคะ จัดเต็มมาได้เลย สัญญาว่าไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรจะเป็นคนดีของสังคม5555555
สุดท้ายขอบคุณมากนะคะที่อ่านมาจนจบ และขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกๆท่าน ทุกๆคน จะนำไปคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนอีกรอบแล้วจะตัดสินใจให้ได้ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่