ผมติดแก๊สที่รถยนต์มาครับของบริษัทหนึ่งตอนซื้อรถใหม่เครื่อง 1500 เป็นรถยี่ปุ่น ติดตอนประมาณ 15000 กิโล ต่อมาข้าไปเช็ค 1 ครั้งตอนประมาณ 50000 กิโลเพราะเครื่องมีอาการเบาแล้วดับ ก็เปลี่ยนไส้กรองแก๊ส จูนใหม่ปัญหาจบไป
ต่อมาปัจจุบันอยู่ที่ 70000 กิโล มีอาการเบาดับกลางถนน ดีรถไม่ชนตูด เลยปรับเป็นระบบน้ำมันใช้ 1 วัน และทิ้งรถไว้ที่บ้านเฉยๆ เพราะไปต่างจังหวัด ต่อมากลับมาก็ใช้ระบบน้ำมันขับมาเติมแก๊ส 300 บาท เปลี่ยนเป็นระบบแก๊ส ขับมาไม่ไกลมาก หิวน้ำแวะลงมาซื้อน้ำที่ร้านกาแฟ พอเปิดประตูลงมาตกใจมากมีเสียงดังฟี้ๆลั่น ตรงด้านหน้ารถแถวๆกระโปรง ตอนแรกคิดว่ายางรั่ว แต่ได้กลิ่นแก๊สออกมาบริเวณกระโปรงรถด้านหน้า รีบตั้งสติปิดระบบแก๊สและขับด้วยน้ำมันไป 30 เมตร ที่อู่ที่เราติดแก๊สมาซึ่งโชคดีร้านกาแฟอยู่ใกล้ๆอู่ห่างกันประมาณ 5 ห้องแถว
พอไปถึงอู่ให้ช่างเช็คปรากกฏว่า ตกใจมากเพราะท่อแก๊สที่เป็นยางตรงห้องเครื่องที่เชื่อมไปหัวฉีดแก๊ส ท่อแก๊สแตกลายงาและขาดโดยเฉพาะที่ข้อต่อที่มีสายรัดแก๊สเลยรั่วออกมา ไม่ใช่แค่เส้นเดียวมี 2 เส้นที่มีปัญหา ผมตกใจมากครับ แต่ได้ปรึกษาปัญหากับหลายคนเลยอยากถามดังนี้

1. หลายคนบอกว่า ผมไปเช็คที่อู่ติดแก๊สน้อยไป อันนี้ยอมรับผิดครับ แต่ผมยังมีคำถามว่า ท่อยางที่ส่งแก๊สที่เชื่อมหัวฉีดอยู่ในห้องเครื่องต้องเปลี่ยนทุกกี่กิโลครับ ทำไมดูไม่แข็งแรง เพื่อนผมที่ทำงานบริษัทรถยนต์ใหญ่แห่งหนึ่งบอกว่า ตรงนี้คือ จุดอ่อนของรถใช้แก๊สที่ยังหาท่อที่มีคุณภาพสูงยากต้องเข้าอู่หมั่นเช็คบ่อยๆ อันนี้จริงหรือครับที่ท่อมีอายุใช้งานสั้น มีบริษัทไหนที่ทำท่อแข็งแรงไหมครับ

2. ถ้าแก๊สรั่วที่ห้องเครื่องจะมีระบบตัดแก๊สที่เตือนไม่ได้ ผมใช้ยี่ห้อหนึ่งที่เตือนได้แต่ข้างหลังตรงถังแก๊ส จริงหรือครับมีจ้าวไหนที่ตัดได้ทั้งตรงห้องเครื่องและถังแก๊สครับ โดยเฉพาะระบบเตือนที่ห้องเครื่อง มีระบบอะไรไหมครับที่ต้องติดตั้งเพิ่ม

ตอนนี้เกิดอาการช็อคครับ ไม่กล้าใช้ระบบแก๊สกลัวครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะครับ