เวบ Golderby คิดคะแนนรวมทั้งหมดจากการทำนายผลของนักวิจารณ์มืออาชีพ บรรณาธิการของเวบ รวมถึงแฟนซีรี่ส์ในเวบดังกล่าว ผลเต็งหนึ่งในสาขาซีรี่ส์ตลกยอดเยี่ยมคือ Orange คะแนนห่างจาก Veep และ Modern Family เต็งสองและเต็งสามยักษ์ใหญ่ขาประจำอยู่เล็กน้อย
http://www.goldderby.com/odds/index/165/
ในสาขาตลก Orange เข้าชิงมากที่สุด 12 รางวัล ปีที่แล้ว Netflix ส่งซีรี่ส์เรื่องนี้ล่ารางวัลในสาขาดราม่าทั้งจากเวทีลูกโลกทองคำและแซ็กหลังจากได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ ลักษณะของซีรี่ส์จะว่าไปก็เป็นดรามาดี้มากกว่าเป็นการผสมผสานสองอย่างไว้อย่างกลมกล่อมและลงตัวมาก ไม่ใช่ดราม่าหนักหน่วงซีเรียสตลอดเวลาแต่ก็ไม่ใช่คอมเมดี้เพียวๆ ความตลกจะเป็นดาร์คคอมเมดี้ เป็นที่ถกเถียงว่าจะลงสาขาไหนดี สุดท้าย Netflix ตัดสินใจส่งลงสาขาดราม่า ปรากฎว่าโดนเมินทั้งจาก GG และ SAG ลูกโลกทองคำได้เข้าชิงรางวัลเดียวคือสาขานำหญิง SAG นี่ไม่แม้แต่จะชายตาแลในสาขา Best Ensemble

ไม่ไหวละ Netflix เลยเปลี่ยนเกมลงแข่งในสาขาตลกแทนซึ่งได้ผลทุกเวทีหลังจากนั้นได้เข้าชิงหรือชนะ Satellite, Writers Guild, Critics' Choice จนมาถึง Emmy มีแรงบวกของการปล่อยซีซั่น 2 ออกมาพอดีในช่วงระหว่างที่มีการลงคะแนนของ Emmy
Orange จะเรียกว่าเป็นม้าตีนปลายก็ไม่ผิดนัก การลงฉายกับ Netflix ถือว่าเสี่ยงเพราะเป็นเน็ตเวิร์คประเภทใหม่ มันจะไม่ได้ตู้มต้ามออกมาทีเดียว กระแสของ Orange จะเป็นปากต่อปากเรื่อยๆมาเรียงๆ เพราะทุกคนดูไม่พร้อมกันต่างคนต่างดูคุยกันคนละที กระแสส่วนมากของ Orange จะผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมากที่สุดซึ่ง Netflix ก็ทราบดีมีการทำการตลาดผ่านโซเชี่ยลอยู่ตลอดเวลา ถ้าหาก Orange ชนะได้จริงๆถือว่าจะเป็น Emmy แรกของ Netflix ในสาขา Best Series และจะเป็น Emmy แรกของ Jenji Kohan ในฐานะ Creator ซึ่งได้เคยเสนอซีรี่ส์ชุดนี้ให้ทั้งกับ Showtime และ HBO แต่โดนปฏิเสธเพราะเชื่อว่าไม่มีใครดูแน่นอน Netflix อ้าแขนรับเพราะอยู่ในช่วงที่กำลังต้องการผลิตคอนเท้นท์เป็นของตัวเองพอดีในระยะเวลาใกล้เคียงกับที่ผลิต House of Cards และให้อิสระเต็มที่กับผู้สร้าง เชื่อใจในผู้สร้าง ไม่ปิดกั้น ไม่บังคับ ไม่ควบคุม เต็มเหนี่ยวไปเลยเพ่ เต็มที่ไปเลยเธอ ตอนที่ House of Cards ยังไม่ออกพวกนักแสดงของ Orange ก็ใจตุ้มๆต่อมๆ โปรเจ็คท์นี้จะหัวจะก้อยกันว้า จะรอดกันไหมว้า พอ House of Cards ออกมาได้รับการตอบรับดีมากจากนักวิจารณ์เป็น Original Series ของ Netflix ชิ้นแรกที่ประสบความสำเร็จสุดๆ นักวิจารณ์ชื่นชม เข้าชิงรางวัลมากมาย ก็ทำให้ใจชื้นขึ้นมาได้บ้างเพราะแสดงว่าช่องทางใหม่นี้น่าจะโอเค แต่ Orange ไม่ได้มีดาราระดับออสการ์อย่าง Kevin Spacey ผู้กำกับระดับออสการ์อย่าง David Fincher มี Jenji Kohan คนเดียวที่พอจะเรียกความมั่นใจอยู่ได้บ้าง นอกนั้นเป็นนักแสดงแทบจะหน้าใหม่หมด แคสมาใหม่ หรือที่หน้าเก่าก็จะเป็นดาราทีวีแบบ B-list หรือเล่นบทเล็กๆน้อยๆกันมาไม่เป็นที่รู้จัก
หลังจาก Orange ฉายไปผลตอบรับก็ดีมากไม่ต่างกับ House of Cards นักวิจารณ์ชื่นชม แต่ที่มากกว่าเห็นจะเป็นแฟนๆคลั่งไคล้เอามากๆในโลกโซเชี่ยล Netflix ไม่เปิดเผยตัวเลขเรตติ้งแต่ยอมรับว่า Orange เป็นเรื่องที่มียอดเข้าชมมากที่สุดของ Netflix ยอดเข้าดูมากที่สุดและดูซ้ำมากที่สุด หลังจาก Orange ซีซั่น 2 ออกฉายยอดผู้สมัครสมาชิกรวมเพิ่มสูงขึ้นที่สุดที่ 50 ล้านคนทั่วโลก รายรับไตรมาสที่สองของปีเพิ่มเป็นสองเท่า
Orange วันนี้ถือว่ามาไกลมาก Jenji Kohan ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ของผู้ทรงอิทธิพลประจำปีนี้ของนิตยสาร Time มาจากครอบครัวที่เคยชนะรางวัล Emmy มาแล้ว คุณพ่อเป็นนักเขียน ผู้ผลิตรายการคว้ามาแล้ว 13 เอมมี่ พี่ชายเป็น Co-creator ของซีรี่ส์ชื่อดังอย่าง Will and Grace ที่คว้าเอมมี่มาแล้วเช่นกัน หาก Orange ชนะได้จะเป็น Emmy แรกในฐานะ Creator ของ Jenji สาขาที่จะนอนมาของ Orange คือ Guest Actress โดย Uzo Aduba(Crazy Eyes) น่าจะไม่มีพลิกแน่นอน และที่มีโอกาสสูงคือ Best Casting โดย Jennifer Euston รวมถึงสาขากำกับโดย Jodie Foster ส่วนรางวัลใหญ่ Best Comedy Series อาจต้องลุ้นหนักหน่อยสูสีมากกับ Veep จากยักษ์ใหญ่อย่าง HBO และ Modern Family แชมป์เก่าสี่สมัยซ้อน แต่นาทีก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส อาจมีสิทธิ์ล้มยักษ์ได้เหมือนกัน
เราไม่ได้ติดซีรี่ส์แบบหนึบหนับจริงจังโหยหาอยากดูแบบนี้มานานตั้งแต่ Desperate Housewives จบ ดันมาติดตกหลุม Orange เข้าเต็มๆคงเพราะความเป็นดรามาดี้ที่ลงตัว เศร้า ซึ้ง กินใจ ตลกร้าย คาแร็คเตอร์ของตัวละครที่มีจุดบกพร่อง ไม่ปกติ ไม่เพอร์เฟ็กต์ มีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในคนคนเดียว และหลากหลาย Storyline สนุก น่าสนใจ ครบรส และคาดไม่ถึง เป็น Ensemble โชว์ที่ให้น้ำหนักตัวละครทุกคนสำคัญพอๆกัน
เข้าชิง 12 รางวัลเอาใจช่วยให้มีรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้างนะ ถ้า breakthrough ได้แล้วอาจจะได้เห็นกันไปนานๆ ปีหน้าจะได้เอาใจช่วยใน GG หรือ SAG ต่อ สถานะของโชว์ตอนนี้ซีซั่น 3 กำลังถ่ายทำเสร็จไป 50% แต่คาดว่ากว่าจะได้ดูก็คงเป็นเวลาเดิมของปีหน้าคือมิถุนายนค่ะ และค่อนข้างแน่ใจว่าคงได้ต่อสัญญาซีซั่น 4 แน่นอน
#TeamOrange #I'dthrowmyentirelunchforyou
Orange Is the New Black อาจจะมีสิทธิ์คว้ารางวัล Emmy ในสาขาซีรี่ส์ตลก
ในสาขาตลก Orange เข้าชิงมากที่สุด 12 รางวัล ปีที่แล้ว Netflix ส่งซีรี่ส์เรื่องนี้ล่ารางวัลในสาขาดราม่าทั้งจากเวทีลูกโลกทองคำและแซ็กหลังจากได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ ลักษณะของซีรี่ส์จะว่าไปก็เป็นดรามาดี้มากกว่าเป็นการผสมผสานสองอย่างไว้อย่างกลมกล่อมและลงตัวมาก ไม่ใช่ดราม่าหนักหน่วงซีเรียสตลอดเวลาแต่ก็ไม่ใช่คอมเมดี้เพียวๆ ความตลกจะเป็นดาร์คคอมเมดี้ เป็นที่ถกเถียงว่าจะลงสาขาไหนดี สุดท้าย Netflix ตัดสินใจส่งลงสาขาดราม่า ปรากฎว่าโดนเมินทั้งจาก GG และ SAG ลูกโลกทองคำได้เข้าชิงรางวัลเดียวคือสาขานำหญิง SAG นี่ไม่แม้แต่จะชายตาแลในสาขา Best Ensemble
Orange จะเรียกว่าเป็นม้าตีนปลายก็ไม่ผิดนัก การลงฉายกับ Netflix ถือว่าเสี่ยงเพราะเป็นเน็ตเวิร์คประเภทใหม่ มันจะไม่ได้ตู้มต้ามออกมาทีเดียว กระแสของ Orange จะเป็นปากต่อปากเรื่อยๆมาเรียงๆ เพราะทุกคนดูไม่พร้อมกันต่างคนต่างดูคุยกันคนละที กระแสส่วนมากของ Orange จะผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมากที่สุดซึ่ง Netflix ก็ทราบดีมีการทำการตลาดผ่านโซเชี่ยลอยู่ตลอดเวลา ถ้าหาก Orange ชนะได้จริงๆถือว่าจะเป็น Emmy แรกของ Netflix ในสาขา Best Series และจะเป็น Emmy แรกของ Jenji Kohan ในฐานะ Creator ซึ่งได้เคยเสนอซีรี่ส์ชุดนี้ให้ทั้งกับ Showtime และ HBO แต่โดนปฏิเสธเพราะเชื่อว่าไม่มีใครดูแน่นอน Netflix อ้าแขนรับเพราะอยู่ในช่วงที่กำลังต้องการผลิตคอนเท้นท์เป็นของตัวเองพอดีในระยะเวลาใกล้เคียงกับที่ผลิต House of Cards และให้อิสระเต็มที่กับผู้สร้าง เชื่อใจในผู้สร้าง ไม่ปิดกั้น ไม่บังคับ ไม่ควบคุม เต็มเหนี่ยวไปเลยเพ่ เต็มที่ไปเลยเธอ ตอนที่ House of Cards ยังไม่ออกพวกนักแสดงของ Orange ก็ใจตุ้มๆต่อมๆ โปรเจ็คท์นี้จะหัวจะก้อยกันว้า จะรอดกันไหมว้า พอ House of Cards ออกมาได้รับการตอบรับดีมากจากนักวิจารณ์เป็น Original Series ของ Netflix ชิ้นแรกที่ประสบความสำเร็จสุดๆ นักวิจารณ์ชื่นชม เข้าชิงรางวัลมากมาย ก็ทำให้ใจชื้นขึ้นมาได้บ้างเพราะแสดงว่าช่องทางใหม่นี้น่าจะโอเค แต่ Orange ไม่ได้มีดาราระดับออสการ์อย่าง Kevin Spacey ผู้กำกับระดับออสการ์อย่าง David Fincher มี Jenji Kohan คนเดียวที่พอจะเรียกความมั่นใจอยู่ได้บ้าง นอกนั้นเป็นนักแสดงแทบจะหน้าใหม่หมด แคสมาใหม่ หรือที่หน้าเก่าก็จะเป็นดาราทีวีแบบ B-list หรือเล่นบทเล็กๆน้อยๆกันมาไม่เป็นที่รู้จัก
หลังจาก Orange ฉายไปผลตอบรับก็ดีมากไม่ต่างกับ House of Cards นักวิจารณ์ชื่นชม แต่ที่มากกว่าเห็นจะเป็นแฟนๆคลั่งไคล้เอามากๆในโลกโซเชี่ยล Netflix ไม่เปิดเผยตัวเลขเรตติ้งแต่ยอมรับว่า Orange เป็นเรื่องที่มียอดเข้าชมมากที่สุดของ Netflix ยอดเข้าดูมากที่สุดและดูซ้ำมากที่สุด หลังจาก Orange ซีซั่น 2 ออกฉายยอดผู้สมัครสมาชิกรวมเพิ่มสูงขึ้นที่สุดที่ 50 ล้านคนทั่วโลก รายรับไตรมาสที่สองของปีเพิ่มเป็นสองเท่า
Orange วันนี้ถือว่ามาไกลมาก Jenji Kohan ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ของผู้ทรงอิทธิพลประจำปีนี้ของนิตยสาร Time มาจากครอบครัวที่เคยชนะรางวัล Emmy มาแล้ว คุณพ่อเป็นนักเขียน ผู้ผลิตรายการคว้ามาแล้ว 13 เอมมี่ พี่ชายเป็น Co-creator ของซีรี่ส์ชื่อดังอย่าง Will and Grace ที่คว้าเอมมี่มาแล้วเช่นกัน หาก Orange ชนะได้จะเป็น Emmy แรกในฐานะ Creator ของ Jenji สาขาที่จะนอนมาของ Orange คือ Guest Actress โดย Uzo Aduba(Crazy Eyes) น่าจะไม่มีพลิกแน่นอน และที่มีโอกาสสูงคือ Best Casting โดย Jennifer Euston รวมถึงสาขากำกับโดย Jodie Foster ส่วนรางวัลใหญ่ Best Comedy Series อาจต้องลุ้นหนักหน่อยสูสีมากกับ Veep จากยักษ์ใหญ่อย่าง HBO และ Modern Family แชมป์เก่าสี่สมัยซ้อน แต่นาทีก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส อาจมีสิทธิ์ล้มยักษ์ได้เหมือนกัน
เราไม่ได้ติดซีรี่ส์แบบหนึบหนับจริงจังโหยหาอยากดูแบบนี้มานานตั้งแต่ Desperate Housewives จบ ดันมาติดตกหลุม Orange เข้าเต็มๆคงเพราะความเป็นดรามาดี้ที่ลงตัว เศร้า ซึ้ง กินใจ ตลกร้าย คาแร็คเตอร์ของตัวละครที่มีจุดบกพร่อง ไม่ปกติ ไม่เพอร์เฟ็กต์ มีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในคนคนเดียว และหลากหลาย Storyline สนุก น่าสนใจ ครบรส และคาดไม่ถึง เป็น Ensemble โชว์ที่ให้น้ำหนักตัวละครทุกคนสำคัญพอๆกัน
เข้าชิง 12 รางวัลเอาใจช่วยให้มีรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้างนะ ถ้า breakthrough ได้แล้วอาจจะได้เห็นกันไปนานๆ ปีหน้าจะได้เอาใจช่วยใน GG หรือ SAG ต่อ สถานะของโชว์ตอนนี้ซีซั่น 3 กำลังถ่ายทำเสร็จไป 50% แต่คาดว่ากว่าจะได้ดูก็คงเป็นเวลาเดิมของปีหน้าคือมิถุนายนค่ะ และค่อนข้างแน่ใจว่าคงได้ต่อสัญญาซีซั่น 4 แน่นอน
#TeamOrange #I'dthrowmyentirelunchforyou