เพื่อนร่วมทางที่สุดกล้ำกลืน

ขอระบายถึงเพื่อนร่วมเดินทางคนหนึ่ง ในทริปแบกเป้ ที่คิดว่า ชีวิตนี้ ขอร่วมเดินทางด้วยกัน เป็นทริปเดียวและทริปสุดท้าย
เริ่มจากว่า เราอาศัยอยู่ในเมืองท่องเที่ยวที่มีความเจริญ และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ตัวเราเป็นนักเดินทางแบกเป้ แบบที่เรียกว่า Backpacker เกือบทุกเดือน เราจะแบกเป้คู่ใจตระเวนท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆที่เราอยากไปคนเดียว เพราะคล่องตัวดี วันหนึ่ง มีเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันได้สามเดือน เขาเป็นข้าราชการพลเรือน สมมุติว่าชื่อ น้องเบลอ พอรู้ว่าเราชอบเที่ยวแบบนี้ เขาจึงขอไปเที่ยวกับเราด้วย เราเห็นว่า นิสัยเขาค่อนข้างเรียบร้อย คงไม่มีปัญหาอะไร แล้วทริปนี้ เราเที่ยวกันแค่ 4 วัน ก็ไม่น่าจะมีอะไร
ปรากฏว่า วันแรกของการเดินทาง นั่งรถไฟกันเกือบทั้งวัน เนื่องจาก เขาขอออกเดินทางตอนหลังจากสิบโมงเช้า อ้างว่าจะจัดกระเป๋าเดินทาง เราแย้งแล้วว่า จัดคืนก่อนไปก็ได้ เขาว่า ไม่ทัน เราก็จัดกระเป๋าแค่นี้ ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ แต่เขาก็มีเหตุผล บลา บลา บลา ของเขา ปรากฏว่า ตอนไปเจอกันที่สถานีรถไฟ เธอใส่รองเท้าส้นสูงมา เราก็ไม่คิดอะไร เพราะนิสัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดีว่า รถไฟมาสาย พวกเราจึงไปเดินหาซื้อรองเท้าที่ห้างใกล้ๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมไม่เตรียมให้มันเรียบร้อย ก่อนออกเดินทาง ทั้งที่ตัวเองเป็นคนขอออกสายเอง จากนั้นก็ออกเดินทางกัน ในวันแรก ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร พวกเราเดินทางไปถึงจังหวัดชุมพร แต่พอเข้าวันที่สอง ......
น้องเบลอก็แสดงความเป็นตัวตนที่น่าเบื่อหน่ายยยยยยยยยยยยย ออกมา เริ่มจาก เราสองคนรอเพื่อนของเราอยู่ที่บ้านเขา ซึ่งเขาจะมารับไปเที่ยวตอนบ่าย เพราะว่าเพื่อนเราติดทำงานอยู่ เราเห็นว่าเบื่อๆกัน เลยชวนไปเดินในตลาดของชุมพร กำลังเดินๆ อยู่ น้องเบลอก็บอกว่า " ง่วง อยากกลับไปนอน " เราก็เอ๊ะ ! นี่มันเป็นวันเที่ยวนะ ไม่ใช่วันพักผ่อนอยู่บ้าน อุตส่าห์เดินทางมาไกลขนาดนี้ แทนที่จะเดินดูนั่นนี่ ให้คุ้มกับเดินทางกันเกือบทั้งวันกว่าจะมาถึง กลับอยากนอน ซึ่งตอนนั้น เซนท์เราบอกว่า เขาไม่ใช่นักท่องเที่ยว พวกเราจึงกลับไปนั่งรอเพื่อนต่อที่บ้าน
ระหว่างนั้น เราสองคนนั่งบนเตียงเดียวกันในห้องนอน น้องเบลอ ก็จะคอยถามนู่นถามนี่เราตลอดเวลา ชนิดที่ว่า เมื่อไหร่ที่เราอ้าปาก น้องเบลอก็จะถามทุกอย่างที่เราพูด คำพูดติดปาก ของน้องเบลอ คือ "ฮะ ฮะ" เพื่อจะให้เราพูดซ้ำคำพูดเดิมของเรา จากนั้น น้องเบลอก็บอกเราว่า พัดลมแอร์เคลื่อนที่ที่อยู่ในห้องนอน น้องอยากได้ซักเครื่อง แล้วไล่เรียงถามเราละเอียดยิบว่า พัดลมแอร์ราคาเท่าไหร่ ติดตั้งยังไง ปรับอุณหภูมิแบบไหน บลา บลา บลา  เราตอบคำถามแรก จากนั้น เราก็ไม่ตอบอีก เพราะว่า เราไม่รู้ ซึ่งน้องเบลอก็ยังไม่เข้าใจ พยายามถามต่อไปทุกรายละเอียดเกี่ยวกับพัดลมแอร์ตัวนั้น จนเราทนไม่ไหว ต้องบอกเสียงเข้มว่า "เรา ไม่ รู้ " นั่นแหละ น้องเบลอถึงหุบปาก แล้วพูดว่า "ก็นึกว่า รู้ทุกเรื่อง" เราแบบ .......... เก็บอารมณ์
จากนั้น เราหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน แล้วพูดว่า (ลืมตัว ที่จริงไม่ควรพูดอะไรออกมาเลย) "สนธิโดนจับแล้ว"
น้องเบลอถามว่า "สนธิไหน ?"  
เราพยายามลืมเรื่องเมื่อกี้ แล้วตอบว่า "สนธิ ลิ้มทองกุล"
น้องเบลอก็พูดคำพูดติดปากของน้องว่า "ฮะ"
มันเหมือนเส้นด้ายที่ขาดผึง ก็นั่งชิดบนเตียงเดียวกัน แล้ววันนี้ก็ถามกูตลอดเวลา จะอะไรนักหนา
เราเลยพูดเสียงดังเกือบตะโกนออกไปว่า
"สนธิ ลิ้มทองกุล"
คราวนี้ได้ผล น้องเงียบ เงียบ และเงียบไปจนเพื่อนเรามา
เรายอมรับว่าเราเสียมารยาท แต่ณโมเมนท์นั้น เราก็รู้แล้วว่า เราคิดผิดที่ให้เขามาเที่ยวด้วยกันกับเรา
พอเพื่อนเรามา พวกเราก็เตรียมตัว เตรียมกระเป๋า ลุกจากเตียง จะไปเที่ยวกัน น้องเบลอยื่นมือไปที่สวิทซ์ทีวี แล้วหันมาถามเราว่า
"ต้องปิดใช่มะ ?"
เรา ..........................
หลังจากนั้น พอเพื่อนมารับไปเที่ยวตามที่ต่างๆ น้องก็ไม่กวนตีนอีก อาจเพราะเพื่อนเราอยู่ด้วย แต่ตอนกินข้าวเย็นด้วยกัน เราให้น้องเบลอ ถามเพื่อนเรา เรื่องพัดลมแอร์ที่น้องอยากรู้ ปรากฏว่า พอเพื่อนเราตอบ มันก็ไม่ตั้งใจฟัง ไม่จุกจิก ไม่ไล่ถามทุกคำถามที่มันอยากรู้เหมือนตอนถามเรา ซึ่งเราก็แปลกใจ ว่าเพราะอะไร แต่จากนั้น เราก็ค่อยๆเรียนรู้นิสัยของน้องว่า เป็ฯคนที่พูดอย่าง แต่ทำอย่างอีกอย่าง เช่น บอกว่าเรา อย่าบอกใครว่ามาเที่ยวกับมัน แต่มันกลับเป็นคนเอารูปลงเฟซ แล้วบอกเพื่อนๆว่ามาเที่ยวกับเรา เหมือนเรื่องพัดลมแอร์ ทำท่าทำทางอยากศึกษาเพื่อจะซื้อ แต่พอถึงเวลาเจอคนที่เขารู้จริง มันก็เลิกสนใจไปง่ายๆอย่างนั้น

นี่แค่ เริ่มต้นความกล้ำกลืน เอ๊ย ความมันส์เท่านั้นนะ ยังมีต่อค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่