การเมืองไม่เคยหยุดนิ่ง ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา
การเมืองเคลื่อนไปทางไหน สังคมไทยก็ต้องเคลื่อนไปตามแรงเหวี่ยงการเมือง
ในเมื่อยุคนี้เป็นยุค “ปิดซ่อมประชาธิปไตย” สังคมไทยก็ต้องเคลื่อนไปตามโรดแม็ปของ คสช.
แรกๆอาจอึดอัดบ้าง แต่หลังๆก็จะชินไปเอง
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า การเมืองไทยกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ผู้แสดงชุดเดิมถูกไล่ลงเวที ก็ต้องมีผู้แสดงชุดใหม่ขึ้นมาวาดลวดลายแทน
แต่ไม่มีใครจะครองตำแหน่ง “ดาว รุ่งพุ่งแรง” เกินกว่า “นายพรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนใหม่แน่นอน
จากคนที่สังคมไทยไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยคุ้นหน้าคุ้นตา นายพรเพชร วิชิตชลชัย
กระเด้งตัวเองขึ้นมาเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติคนใหม่อย่างสะดวกโยธิน เป็น “ซุปตาร์” ดวงใหม่บนเวทีการเมืองไทยชั่วข้ามคืน
“แม่ลูกจันทร์” หวังว่า นายพรเพชร จะแสดงบทบาทประมุขฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมโทน
ให้สมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หน.คสช. มอบความไว้วางใจแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษากฎหมายประจำตัว
แต่โปรดระวัง...อย่าให้เกิดผิดพลาดบกพร่อง
เหมือนกรณีตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิก สนช. ที่เกิดปัญหาขาดคุณสมบัติไปถึง 3 คน
นายพรเพชร ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย หน.คสช.และเป็นมือเขียนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จึงต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่ายังมีกรณีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ที่อาจจะเป็นปัญหาทางกฎหมายตามมา
คือการที่ นายพรเพชร ยังดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ควบตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ “ทูอินวัน”
แม้รัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ห้ามสมาชิก สนช.ถ่างขาควบ 2 ตำแหน่งก็จริง
แต่การนั่งควบตำแหน่งประธาน สนช. และผู้ตรวจการแผ่นดินมีปัญหาแน่นอน!!
เพราะตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลและรัฐสภา
ฉะนั้น การที่ นายพรเพชร จะถ่างขาควบเก้าอี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน และประธานสภานิติบัญญัติพร้อมกัน
จึงเข้าข่ายขัดกันแห่งอำนาจหน้าที่ชัดเจน
ข้อสำคัญ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติต้องปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร
เป็นประมุขสูงสุดฝ่ายนิติบัญญัติเต็มตัว
นายพรเพชร วิชิตชลชัย จึงไม่ควรนั่งควบตำแหน่งอื่นใดอีกแม้ตำแหน่งเดียว
ทั้งนี้เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์แห่งอำนาจนิติบัญญัติและความสง่างามของตำแหน่งประธาน สนช.
“แม่ลูกจันทร์” ขอเรียกร้องให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย (ว่าที่) ประธานสภานิติบัญญัติคนใหม่
ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินโดยทันที
แต่ถ้าท่านยังเสียดายตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งยังเหลืออายุงานอีก 4 ปี
ท่านก็ต้องสละตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้คนอื่นเป็นแทน
“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่า ชีวิตคนเราน้อยนักที่จะกระโดดค้ำถ่อถึงตำแหน่งประมุขสูงสุดของรัฐสภา
เมื่อท่านมีบุญวาสนามาถึงขนาดนี้จงทุ่มเททำหน้าที่ประธานสภานิติบัญญัติตำแหน่งเดียวให้สุดฝีมือ
ขืนจับปลาสองมือ ระวังจะเหลือแต่ก้างปลา.
แม่ลูกจันทร์
http://www.thairath.co.th/content/442370
ก็คงต้องรอดูละครับ ว่านายพรเพชร จะกล้าเสียสละตนเองลาออกจากตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งหรือไม่....
แม่ลูกจันทร์ แห่งไทยรัฐ กระชุ่น "พรเพชร วิชิตชลชัย" ต้องเลือกเอา ระหว่างประธาน สนช. กับผู้ตรวจการแผ่นดิน
การเมืองเคลื่อนไปทางไหน สังคมไทยก็ต้องเคลื่อนไปตามแรงเหวี่ยงการเมือง
ในเมื่อยุคนี้เป็นยุค “ปิดซ่อมประชาธิปไตย” สังคมไทยก็ต้องเคลื่อนไปตามโรดแม็ปของ คสช.
แรกๆอาจอึดอัดบ้าง แต่หลังๆก็จะชินไปเอง
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า การเมืองไทยกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ผู้แสดงชุดเดิมถูกไล่ลงเวที ก็ต้องมีผู้แสดงชุดใหม่ขึ้นมาวาดลวดลายแทน
แต่ไม่มีใครจะครองตำแหน่ง “ดาว รุ่งพุ่งแรง” เกินกว่า “นายพรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนใหม่แน่นอน
จากคนที่สังคมไทยไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยคุ้นหน้าคุ้นตา นายพรเพชร วิชิตชลชัย
กระเด้งตัวเองขึ้นมาเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติคนใหม่อย่างสะดวกโยธิน เป็น “ซุปตาร์” ดวงใหม่บนเวทีการเมืองไทยชั่วข้ามคืน
“แม่ลูกจันทร์” หวังว่า นายพรเพชร จะแสดงบทบาทประมุขฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมโทน
ให้สมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หน.คสช. มอบความไว้วางใจแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษากฎหมายประจำตัว
แต่โปรดระวัง...อย่าให้เกิดผิดพลาดบกพร่อง
เหมือนกรณีตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิก สนช. ที่เกิดปัญหาขาดคุณสมบัติไปถึง 3 คน
นายพรเพชร ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย หน.คสช.และเป็นมือเขียนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จึงต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่ายังมีกรณีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ที่อาจจะเป็นปัญหาทางกฎหมายตามมา
คือการที่ นายพรเพชร ยังดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ควบตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ “ทูอินวัน”
แม้รัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ห้ามสมาชิก สนช.ถ่างขาควบ 2 ตำแหน่งก็จริง
แต่การนั่งควบตำแหน่งประธาน สนช. และผู้ตรวจการแผ่นดินมีปัญหาแน่นอน!!
เพราะตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลและรัฐสภา
ฉะนั้น การที่ นายพรเพชร จะถ่างขาควบเก้าอี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน และประธานสภานิติบัญญัติพร้อมกัน
จึงเข้าข่ายขัดกันแห่งอำนาจหน้าที่ชัดเจน
ข้อสำคัญ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติต้องปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร
เป็นประมุขสูงสุดฝ่ายนิติบัญญัติเต็มตัว
นายพรเพชร วิชิตชลชัย จึงไม่ควรนั่งควบตำแหน่งอื่นใดอีกแม้ตำแหน่งเดียว
ทั้งนี้เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์แห่งอำนาจนิติบัญญัติและความสง่างามของตำแหน่งประธาน สนช.
“แม่ลูกจันทร์” ขอเรียกร้องให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย (ว่าที่) ประธานสภานิติบัญญัติคนใหม่
ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินโดยทันที
แต่ถ้าท่านยังเสียดายตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งยังเหลืออายุงานอีก 4 ปี
ท่านก็ต้องสละตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้คนอื่นเป็นแทน
“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่า ชีวิตคนเราน้อยนักที่จะกระโดดค้ำถ่อถึงตำแหน่งประมุขสูงสุดของรัฐสภา
เมื่อท่านมีบุญวาสนามาถึงขนาดนี้จงทุ่มเททำหน้าที่ประธานสภานิติบัญญัติตำแหน่งเดียวให้สุดฝีมือ
ขืนจับปลาสองมือ ระวังจะเหลือแต่ก้างปลา.
แม่ลูกจันทร์
http://www.thairath.co.th/content/442370
ก็คงต้องรอดูละครับ ว่านายพรเพชร จะกล้าเสียสละตนเองลาออกจากตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งหรือไม่....