สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
เราบอกนางว่า ‘เราคิดว่ารายได้นางคงดี เพราะรปภ. ที่ทำงานสามียังบอกว่านางขับรถBMมาหาสามีเราที่ทำงาน
เรากับสามีทำงานเก็บเงินทั้งปียังซื้อBMไม่ได้เลย’ (ประมาณว่าเอารปภ.มาขู่ เมิงมาอีกสิ รปภ.พวกกรุเว้ยยยย ไฝว้ไม๊ๆๆๆ)
เมียที่สมรสตามกฏหมาย (ย่ะ หล่อนช่างภูมิใจกะกระดาษ1ใบเหลือเกินนะยะ) ‘ไหนเธอเล่ามาซิ ไปไหนกันมาบ้าง’
(ระหว่างคุย อิสามีตัวดีนั่งหมอบคลานอยุ่หน้าเตียง ฟังอย่างสงบ)
หรี่ : ‘หนุเคยขับรถไปหาพี่เขาที่ทำงานจิง แต่ไปแค่ครั้งเดียว พี่เขาก็มาคุย แต่ไม่ได้มีอะไรกัน
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘แร้วนอกจากเจอกันทีทำงาน1ครั้ง ไปไหนกันมาบ้าง’
หรี่ : ‘หนูก็ไปกินข้าวที่ศูนย์อาหาร ที่ห้าง แค่2-3 ครั้งเองค่ะพี่’
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘เธอทำงาน(ขายหอย) ที่ไหนบ้าง’
หรี่ : ‘นะ นะ หนูก้อทำไปเรื่อยพี่ แล้วแต่ที่ไหนจ่ายดีก็ไป’
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘แล้วที่ไหนจ่ายดีบ้างล่ะ เอ็มมาฯ เดอหลอด นาตาฯ หรือแค่ร้านเจ้าสมุทร’
(ไรของมันฟระ อยู่ๆก็พูดติดอ่าง แค่ถามไปงั้นแหละ อยากรู้ แต่สะกิดใจ สมองเกิดความสงสัยว่านางคงเคยเจอสถานการ์ณ
ที่เมียหลวงเล่นสงครามประสาท หรือตามถึงที่ร้านอาหารทะเล หรือนางอาจมีข้อผูกมัดทางการค้า ไม่สามารถขายตรงหอยของตัวเอง
กรณีนี้คือแอบทำรึเปล่า เราก็ไม่รู้นะ แต่จับเสียงว่านางตกใจที่สามีเล่าให้ฟังเราฟังหมดว่า นางประจำร้านไหนบ้าง)
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘ ถ้าอยากอัพเกรดตัวเองออกมาจากอาชีพที่สังคมไม่ยอมรับ เพื่อมีสามีเป็นคนที่มีสังคมสว่าง
พี่ ก็จะยกสามีให้ แต่ถ้าอยากจะได้เงิน ขอให้ตัดใจเพราะเงินเดือนสามีพี่น้อย ที่เขาทำอยู่ตอนนี้ เขาแค่อยากกินฟรี
เพราะตอนนี้ไม่มีเงินไปเที่ยวแล้ว ลองทบทวนความจำดู สามีพาเธอไปกินอาหาร ก็กินแต่ฟาสฟู้ตห้าง หรือกินฟู้ดคอร์ท
หลายครั้งแล้วยังไม่สามารถพาไปกินตับนอกสถานที่เลย ) เพราะสามีพี่มันไม่มีตังค์ไง เธอเข้าใจไว้นะ”
(เดาว่าต่างฝ่ายคงเล็งกันไปเล็งกันมา ฝ่ายหรี่คงรอคุณชายเอ่ยปากซื้อหอยด้วยราคาที่สมน้ำสมเนื้อ
ส่วนฝ่ายคุณชายรอฝ่ายหญิงเชิญกินหอยตามอัธยาศัย แบบฟรีๆ)
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: “ตัวพี่ก็อยู่กับสามีมีหลายปี มีแค่รถญี่ปุ่นคันหนึ่ง ที่เขาดาวน์ให้ แต่พี่ผ่อนเอง พี่อยากขอร้องว่าอย่าทำลาย
ชีวิตครอบครัวพี่เลย แต่ถ้าเธอกับเขารักกันจริง ถ้าไม่ติดใจว่าสามีพี่แก่แถมจน พี่จะหลีกทางให้ ก็มาคุยกัน มาเจอกัน มาเอาไป พี่จะหย่าให้
(ท้าเจอ ไฝ้วเรย แถมดิสเครดิตสามีสุดๆ บอกไปว่าจน เด๋วมันหลงภาพที่อีคุณชายสร้างไว้ว่ารวย แร้วถ้ามันอยากได้ เมียหลวงอย่างเราจิซวย)
หรี่ : “หนูขอโทษ หนูไม่ได้อยากเป็นทั้งเมียหลวงและเมียน้อยเลยพี่ หนูแค่อยากขายหอยแค่นั้นจิงๆ ขอให้อย่าติดใจอะไร
หนูจะเลิกยุ่งกับสามีพี่ค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ หนูต้องไปทำงานแล้ว’
เอวังส่วนของหรี่ก็จบลงด้วยประการฉะนี้ แต่สงครามครั้งนี้ยังไม่จบ เรายังไม่นับศพทหารค่ะ
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องแก้ไข ทั้งเราและสามี
ปล.1 การนอกใจอย่าอ้างข้อบกพร่องของอีกฝ่ายค่ะ เพราะไม่มีใครเอาปืนจ่อกบาลคุณให้ไปกินหอยอื่นนอกจากหอยภรรยาตนนะคะ ศีลธรรมค่ะ
ปล.2 เวลาเหล่าสามีทั้งหลาย ถ้ามีปัญหาหลั่งเร็ว ไม่เล้าโลม ปากเหม็น พุงย้อย นอนกรน ทำกับเราเหมือนครกร้านส้มตำแซ่บอีหลี โป้กๆๆๆๆๆ
ลีลาแข็งทื่อ ตำเสร็จก็แยกทาง เหล่าภรรยาส่วนใหญ่ กล้าพูดเพื่อให้สามีปรับปรุงไหมคะ เกือบร้อย เปอร์เซ็นต์ ไม่กล้าพูดหรอกค่ะ
มีแต่กังวลว่าพูดไปจะทำร้ายจิตใจลูกผุ้ชายชาตรีอกสามศอกนะคะ บางที่เราต้องแกล้งแสดงว่าสุขสมพอใจ
(ฮึ! สำนึกไม๊ ไม่เคย เออ เค้าผิดเองที่ไม่กล้าพูด) ที่สำคัญ เหล่าแม่บ้านส่วนใหญ่ไม่กล้าไปเที่ยวบาร์ผุ้ชายขายน้ำ เพราะกลัวโน่นนี่สารพัด
และมีศีลธรรมพอค่ะ
ปล.3คอมเมนต์ที่จะบอกว่า ภรรยาไม่ทำหน้าที่บนเตียง หอยไม่อร่อย หอยไม่หวาน สามีจึงต้องออกไปหากินนอกบ้าน อันนี้พอระลึกได้ค่ะ
เพราะอ่านกระทู้แบบนี้ในพันทิพมาพอสมควร แต่ขอถามกลับว่า วันที่คุณแต่งงานกับผุ้หญิงคนหนึ่ง คุณผู้ชายรักสัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์
ต่อผู้หญิงที่เขายอมจากครอบครัวมาอยู่ปรนนิบัติคุณ เช้าออกจากบ้านไปทำงาน เย็นกลับมาทำหน้าที่ภรรยา เราฝากความหวัง ความศรัทธา
ไว้ที่คุณ เพราะชื่นชมให้คุณเป็นผุ้นำครอบครัว ปัญหาเมื่อเกิดว่าไม่พอใจในรสตับ รสหอย จะเปรี้ยว จะเหม็น จะคาว เค็มอย่างไร ก็ตาม
คุนสามี คุยกันตรงๆ กล้าบอกภรรยาไหมคะ ให้โอกาสเขาได้เรียนรู้ วิธีการปรุงอาหารที่ถูกปากคุณไหมคะ สอนเขาสิคะ
อยากได้รสชาติอะไร ก็เลคเชอร์กัน
จำได้ไหม วันแรกๆ คุณพอใจที่ลูกหมาน้อยช่างไร้เดียงสา น่าเอ็นดู วันหนึ่งเมื่อมันเริ่มชรา คุณโมโหโกรธาที่หมามันไม่ประสีประสา
ช่างโง่เง่า ไม่แสนรู้ได้ดั่งใจคุณ เอาไปเปรียบเปรยกับหมาข้างบ้าน มันช่างแสนรู้แสนซน แต่คุณไม่เคยสอนหมาน้อยในบ้าน
ไม่เล่น โยนบอล ไม่สอนคาบไม้ ไม่สอนกลิ้ง ไม่สอนหมอบกับมัน คุณมัวแต่ไปเล่น ไปสอนกับหมาตัวอื่น
ทำไมหมานอกบ้านพเนจร สกปรก ไม่ได้ฉีดวัคซีนคุณถึงกล้าเล่นกับมัน แต่กับหมาในบ้าน อาบน้ำสะอาดสะอ้าน
ไร้หมัดเห็บฉีดวัคซีนครบทุกเข็ม คุณไม่สนใจเล่นกับมันคะ!
(กุเป็นหมารึนี่!!!!)
ได้โปรดเห็นใจกันเถอะนะคะ เพราะเราไม่ได้มีอาชีพขายหอยมาก่อน ประสบการณ์ด้านนี้มันอาจไม่เชี่ยวชาญเท่ามืออาชีพ
แต่เชื่อเถอะ เราพร้อมจะเรียนรุ้ แค่ขอให้คุณแสดงออกว่าเราเป็นผู้หญิงที่คุณเทิดทูนบูชา
จะให้กินขรี้ ก็จะกินให้ดู (อ้วกกกก)
ทุกวันนี้ดิฉันพยายามปรับปรุงตัวค่ะ เพราะจะโทษอีกฝ่ายอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ กฏแห่งกรรม มีเหตุและผลของมัน
เราเองก็ต้องปรับข้อเสียตัวเองด้วยค่ะ ทั้งอารมณ์ คำพูด อาหาร และจัดอาหารยามดึกตามจินตนาการที่เขาร้องขอค่ะ
ขอเวลาไปนั่งสมาธิก่อนนะคะ (สาธุ)
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
เรากับสามีทำงานเก็บเงินทั้งปียังซื้อBMไม่ได้เลย’ (ประมาณว่าเอารปภ.มาขู่ เมิงมาอีกสิ รปภ.พวกกรุเว้ยยยย ไฝว้ไม๊ๆๆๆ)
เมียที่สมรสตามกฏหมาย (ย่ะ หล่อนช่างภูมิใจกะกระดาษ1ใบเหลือเกินนะยะ) ‘ไหนเธอเล่ามาซิ ไปไหนกันมาบ้าง’
(ระหว่างคุย อิสามีตัวดีนั่งหมอบคลานอยุ่หน้าเตียง ฟังอย่างสงบ)
หรี่ : ‘หนุเคยขับรถไปหาพี่เขาที่ทำงานจิง แต่ไปแค่ครั้งเดียว พี่เขาก็มาคุย แต่ไม่ได้มีอะไรกัน
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘แร้วนอกจากเจอกันทีทำงาน1ครั้ง ไปไหนกันมาบ้าง’
หรี่ : ‘หนูก็ไปกินข้าวที่ศูนย์อาหาร ที่ห้าง แค่2-3 ครั้งเองค่ะพี่’
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘เธอทำงาน(ขายหอย) ที่ไหนบ้าง’
หรี่ : ‘นะ นะ หนูก้อทำไปเรื่อยพี่ แล้วแต่ที่ไหนจ่ายดีก็ไป’
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘แล้วที่ไหนจ่ายดีบ้างล่ะ เอ็มมาฯ เดอหลอด นาตาฯ หรือแค่ร้านเจ้าสมุทร’
(ไรของมันฟระ อยู่ๆก็พูดติดอ่าง แค่ถามไปงั้นแหละ อยากรู้ แต่สะกิดใจ สมองเกิดความสงสัยว่านางคงเคยเจอสถานการ์ณ
ที่เมียหลวงเล่นสงครามประสาท หรือตามถึงที่ร้านอาหารทะเล หรือนางอาจมีข้อผูกมัดทางการค้า ไม่สามารถขายตรงหอยของตัวเอง
กรณีนี้คือแอบทำรึเปล่า เราก็ไม่รู้นะ แต่จับเสียงว่านางตกใจที่สามีเล่าให้ฟังเราฟังหมดว่า นางประจำร้านไหนบ้าง)
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: ‘ ถ้าอยากอัพเกรดตัวเองออกมาจากอาชีพที่สังคมไม่ยอมรับ เพื่อมีสามีเป็นคนที่มีสังคมสว่าง
พี่ ก็จะยกสามีให้ แต่ถ้าอยากจะได้เงิน ขอให้ตัดใจเพราะเงินเดือนสามีพี่น้อย ที่เขาทำอยู่ตอนนี้ เขาแค่อยากกินฟรี
เพราะตอนนี้ไม่มีเงินไปเที่ยวแล้ว ลองทบทวนความจำดู สามีพาเธอไปกินอาหาร ก็กินแต่ฟาสฟู้ตห้าง หรือกินฟู้ดคอร์ท
หลายครั้งแล้วยังไม่สามารถพาไปกินตับนอกสถานที่เลย ) เพราะสามีพี่มันไม่มีตังค์ไง เธอเข้าใจไว้นะ”
(เดาว่าต่างฝ่ายคงเล็งกันไปเล็งกันมา ฝ่ายหรี่คงรอคุณชายเอ่ยปากซื้อหอยด้วยราคาที่สมน้ำสมเนื้อ
ส่วนฝ่ายคุณชายรอฝ่ายหญิงเชิญกินหอยตามอัธยาศัย แบบฟรีๆ)
เมียที่สมรสตามกฏหมาย: “ตัวพี่ก็อยู่กับสามีมีหลายปี มีแค่รถญี่ปุ่นคันหนึ่ง ที่เขาดาวน์ให้ แต่พี่ผ่อนเอง พี่อยากขอร้องว่าอย่าทำลาย
ชีวิตครอบครัวพี่เลย แต่ถ้าเธอกับเขารักกันจริง ถ้าไม่ติดใจว่าสามีพี่แก่แถมจน พี่จะหลีกทางให้ ก็มาคุยกัน มาเจอกัน มาเอาไป พี่จะหย่าให้
(ท้าเจอ ไฝ้วเรย แถมดิสเครดิตสามีสุดๆ บอกไปว่าจน เด๋วมันหลงภาพที่อีคุณชายสร้างไว้ว่ารวย แร้วถ้ามันอยากได้ เมียหลวงอย่างเราจิซวย)
หรี่ : “หนูขอโทษ หนูไม่ได้อยากเป็นทั้งเมียหลวงและเมียน้อยเลยพี่ หนูแค่อยากขายหอยแค่นั้นจิงๆ ขอให้อย่าติดใจอะไร
หนูจะเลิกยุ่งกับสามีพี่ค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ หนูต้องไปทำงานแล้ว’
เอวังส่วนของหรี่ก็จบลงด้วยประการฉะนี้ แต่สงครามครั้งนี้ยังไม่จบ เรายังไม่นับศพทหารค่ะ
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องแก้ไข ทั้งเราและสามี
ปล.1 การนอกใจอย่าอ้างข้อบกพร่องของอีกฝ่ายค่ะ เพราะไม่มีใครเอาปืนจ่อกบาลคุณให้ไปกินหอยอื่นนอกจากหอยภรรยาตนนะคะ ศีลธรรมค่ะ
ปล.2 เวลาเหล่าสามีทั้งหลาย ถ้ามีปัญหาหลั่งเร็ว ไม่เล้าโลม ปากเหม็น พุงย้อย นอนกรน ทำกับเราเหมือนครกร้านส้มตำแซ่บอีหลี โป้กๆๆๆๆๆ
ลีลาแข็งทื่อ ตำเสร็จก็แยกทาง เหล่าภรรยาส่วนใหญ่ กล้าพูดเพื่อให้สามีปรับปรุงไหมคะ เกือบร้อย เปอร์เซ็นต์ ไม่กล้าพูดหรอกค่ะ
มีแต่กังวลว่าพูดไปจะทำร้ายจิตใจลูกผุ้ชายชาตรีอกสามศอกนะคะ บางที่เราต้องแกล้งแสดงว่าสุขสมพอใจ
(ฮึ! สำนึกไม๊ ไม่เคย เออ เค้าผิดเองที่ไม่กล้าพูด) ที่สำคัญ เหล่าแม่บ้านส่วนใหญ่ไม่กล้าไปเที่ยวบาร์ผุ้ชายขายน้ำ เพราะกลัวโน่นนี่สารพัด
และมีศีลธรรมพอค่ะ
ปล.3คอมเมนต์ที่จะบอกว่า ภรรยาไม่ทำหน้าที่บนเตียง หอยไม่อร่อย หอยไม่หวาน สามีจึงต้องออกไปหากินนอกบ้าน อันนี้พอระลึกได้ค่ะ
เพราะอ่านกระทู้แบบนี้ในพันทิพมาพอสมควร แต่ขอถามกลับว่า วันที่คุณแต่งงานกับผุ้หญิงคนหนึ่ง คุณผู้ชายรักสัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์
ต่อผู้หญิงที่เขายอมจากครอบครัวมาอยู่ปรนนิบัติคุณ เช้าออกจากบ้านไปทำงาน เย็นกลับมาทำหน้าที่ภรรยา เราฝากความหวัง ความศรัทธา
ไว้ที่คุณ เพราะชื่นชมให้คุณเป็นผุ้นำครอบครัว ปัญหาเมื่อเกิดว่าไม่พอใจในรสตับ รสหอย จะเปรี้ยว จะเหม็น จะคาว เค็มอย่างไร ก็ตาม
คุนสามี คุยกันตรงๆ กล้าบอกภรรยาไหมคะ ให้โอกาสเขาได้เรียนรู้ วิธีการปรุงอาหารที่ถูกปากคุณไหมคะ สอนเขาสิคะ
อยากได้รสชาติอะไร ก็เลคเชอร์กัน
จำได้ไหม วันแรกๆ คุณพอใจที่ลูกหมาน้อยช่างไร้เดียงสา น่าเอ็นดู วันหนึ่งเมื่อมันเริ่มชรา คุณโมโหโกรธาที่หมามันไม่ประสีประสา
ช่างโง่เง่า ไม่แสนรู้ได้ดั่งใจคุณ เอาไปเปรียบเปรยกับหมาข้างบ้าน มันช่างแสนรู้แสนซน แต่คุณไม่เคยสอนหมาน้อยในบ้าน
ไม่เล่น โยนบอล ไม่สอนคาบไม้ ไม่สอนกลิ้ง ไม่สอนหมอบกับมัน คุณมัวแต่ไปเล่น ไปสอนกับหมาตัวอื่น
ทำไมหมานอกบ้านพเนจร สกปรก ไม่ได้ฉีดวัคซีนคุณถึงกล้าเล่นกับมัน แต่กับหมาในบ้าน อาบน้ำสะอาดสะอ้าน
ไร้หมัดเห็บฉีดวัคซีนครบทุกเข็ม คุณไม่สนใจเล่นกับมันคะ!
(กุเป็นหมารึนี่!!!!)
ได้โปรดเห็นใจกันเถอะนะคะ เพราะเราไม่ได้มีอาชีพขายหอยมาก่อน ประสบการณ์ด้านนี้มันอาจไม่เชี่ยวชาญเท่ามืออาชีพ
แต่เชื่อเถอะ เราพร้อมจะเรียนรุ้ แค่ขอให้คุณแสดงออกว่าเราเป็นผู้หญิงที่คุณเทิดทูนบูชา
จะให้กินขรี้ ก็จะกินให้ดู (อ้วกกกก)
ทุกวันนี้ดิฉันพยายามปรับปรุงตัวค่ะ เพราะจะโทษอีกฝ่ายอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ กฏแห่งกรรม มีเหตุและผลของมัน
เราเองก็ต้องปรับข้อเสียตัวเองด้วยค่ะ ทั้งอารมณ์ คำพูด อาหาร และจัดอาหารยามดึกตามจินตนาการที่เขาร้องขอค่ะ
ขอเวลาไปนั่งสมาธิก่อนนะคะ (สาธุ)
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าสามีไปเที่ยวเช่น ร้านท่านเจ้าสมุทร ฯลฯ แล้วนัดหมอนวดออกมากินหอยนอกร้าน ถึงขนาดนัดเจอที่ทำงาน....
วันหนึ่ง ตอนบ่ายๆ มีสายสามีโทรเข้า
เรารับสาย เขาก็ไม่พูด เราก็คิดว่าเขาอาจจะโทรหาแล้วพอดีลูกค้าโทรเข้าอีกเบอร์ก็เลยถือสายเราค้างอยู่ เราก็เรยรอฟัง
สักพักก็ได้ยินสามีคุยกับใครสักคน แต่สำเนียงหวานมาก มีคำว่า...เค้า ตัวเอง ..... ชวนกันไปกินก๊วนเตี๋ยวเย็นตาโฟเจ้าอร่อย ชมนางว่า สวย ตัวเล็ก ฯลฯ (ซึ่งเขาไม่เคยพูดกับเรา)
ตอนนั้นสมองสั่งการ "โดนแระ กุโดนแระ" ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอกับตัว
เคยแต่อ่านเรื่องคนอื่น ตอนนั้นเดินห้างอยู่ ใจสั่น ท้องไส้บิดเหมือนใครเอาเครื่องปั่นแยกกากน้ำผักผลไม้ใส่เข้าไปที่คอ
แล้วเปิดเครื่องปั่น แยก กาก จากหัวใจ ถึงลำไส้ใหญ่เราเลยค่ะ เราพยายามท้าวความคิดถึงอดีต เริ่มตาสว่างและสะกิดถึงพิรุธหลายๆครั้งของสามี เช่น
ชวนกินข้าวตอนเย็น บอกไม่มีตังค์ (ไรวะ ทุกทีกินเอ็มเคแค่นั้นล่ะ มันจะแพงไรนักหนา)
โทรไปคุยสั้นๆ รีบวาง (เมื่อก่อนไม่รีบขนาดนี้)
ไปรับหรือไปหาที่ทำงานจะหงุดหงิด (เมื่อก่อนไม่เคยว่า)
ตวาดเราบ่อยอย่างไม่มีเหตุผล (แค่หายใจ ก็โดนด่าว่า อย่าหายใจผิดจังหวะ)
นอนกอดไม่ได้ บอกร้อน (เปิดแอร์
และนึกได้ว่า2เกือนก่อนหน้า ยามที่ทำงานสามีมาทักเราว่า วันนี้ไม่ขับBMมาหรา วันนั้นเรางงมาก เพราะรถเราไม่ใช่ BM แต่คิดว่า เพื่อนสามีหรือน้องชายสามีมาหาที่ทำงาน แต่ก็ปล่อยไป ไม่ได้ติดใจอะไร พอมาวันนี้ ภาพในหัวทุกชิ้นเหมือนแผ่นจิกซอว์ที่ต่อกันแบบลงตัวพอดี
หน้ามืดมาก เราโมโหแทบขาดสติ รีบขับรถบึ่งไปสอบถามความจริง เราถามเมื่อกี้คุยกับใคร เขาอึกอัก ทำหงุดหงิด ด่าเราว่าเป็นบ้าอะไร มาจิกไรเขาอีก ท้าเลิกโดยบอกว่า เราน่าเบื่อ อยู่ไปก็มีแต่ทะเลาะ เรากัดฟัน ทนฟังคำบาดหู หายใจเข้าออก ลึกๆ คิดว่าถ้าต้องเลิก ก็จะสู้ก่อน ชั้นจะใช้ทั้งหัวใจและใช้สมอง สู้กับอินังคนนี้ เราสูดหายใจ แม้นำ้ตาจะไหลพรากๆๆๆ เหมือนกินส้มตำโคราชใส่พริก5เม็ดก็ตาม
เราลากสามีออกมาลานจอดรถ โดยให้มายืนข้างศาลพระภูมิเจ้าที่ของบริษัท เราให้เขาสาบานต่อศาลพระภูมิ ว่าจะไม่โกหก ถ้าโกหกให้ไม่ตายดี และเล่ารายละเอียดมา เล่าให้หมด แล้วเราจะตัดสินใจว่าจะหย่าหรือไม่
แต่จิงๆ ไม่คิดว่าจะหย่า หรอกนะ คิดว่าถ้าเราแพ้ เราจะเอาทะเบียนสมรสใส่กรอบ ห้อยคอ ไปเดินแฟชั่นโชว์ที่ทำงานสามี เพื่อให้ทุกคนรับรู้ว่า เราเป็นภรรยาตามกฏหมาย อิหน้าไหนที่เสนอมา ให้รู้ไว้ว่ามันเป็นปอบ มาสิง มาแอบกิน จะลาออกจากงาน ไปนั่งร้องไห้กับฝ่ายบุคคลทุกวัน ให้สามีทำงานไม่ได้ เด็กที่ทำงานก็จะไม่นับถือ เอาให้มัน2คนอกแตกตายเรย ฮือออออ โกรธว่ะ พิมพ์ไปขึ้นไป งึดนะ บ่องตง
เด๋วมาต่อค่ะ