จริงๆ แล้วผมเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. แต่ไม่มีเวลามานั่งเขียนแชร์ประสบการณ์สักที จนสัปดาห์นี้หยุดยาวก็เลยมีเวลาทบทวนความจำ ที่ตัวเองได้ทำลงไปในทริปนี้มาเล่าสู่กันฟังครับ...
ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนที่ผมไม่ได้แพลนอะไรไว้เลย ไม่ได้เตรียมตัวเท่าไร ผมเริ่มทำการบ้านจริงๆจังๆ ก็ตอนที่ผมรู้ตัวอีกที่ว่า "ตัวผมอยู่ที่ปายแล้ว..."
คืนวันที่ 7 ก.ค. (ก่อนวันเดินทาง)
ผมนั่งคุยกับพี่ที่สนิทเล่นๆว่า อยากไปเที่ยวสักทีนึงในช่วงหน้าฝน อยากได้ฟิวแบบเงียบๆ สงบๆ สวยๆ ตอนแรกก็มีในหัวอยู่หลายที่อยู่ เช่น เขื่อนเชี่ยวหลาน เกาะพยาม ประมาณนี้ บอกเลยว่าในหัวตอนนั้นยังไม่มี "ปาย" เลยสักนิด ผมก็นั่งๆหาไปเรื่อยๆ จนหลับสรุปว่าคืนนี้ยังไม่ได้เป้าหมายที่จะออกเดินทางเลย...
วันที่ 8 ก.ค. (จุดเริ่มต้นของการเดินทาง)
ตื่นเช้ามาผมก็นั่งกดหาไฟท์เครื่องบินเล่นๆ ว่าวันนี้มีไปที่ไหนถูกๆ ในราคาที่รับได้บ้าง สรุปว่าผมไปเจอไฟท์ไปเชียงใหม่ของสายการบินที่เป็นรูปสิงโตตัวส้มๆแดงๆ เดินทางในบ่ายวันนี้ราคาไปกลับรวมทั้งหมด 2030.00 บาทก็จัดการจองเลย มีเวลา 30 นาทีให้ไปจ่ายตังค์ ระหว่างนั้นผมก็ค้นหาข้อมูลเชียงใหม่คร่าวๆ และเจอแนวๆ แบบขึ้นไปเชียงใหม่และไปต่อปายเยอะมาก ผมก็เลยคิดว่า "เอาว่ะกูไปมั่ง" ผมเลยรีบจัดแจงวิ่งไปโลตัสตอน 8 โมงกว่าๆ เพื่อไปจ่ายตังค์ค่าเครื่อง หลังจากนั่นก็รีบมาจัดกระเป๋าเพื่อออกเดินทางไปในตอนบ่าย...
รายละเอียดการเดินทางทั้งหมดนะครับ ขอรวบไฟล์เดียวเลย ขี้เกียจถ่ายทีละแผ่น ฮ่าๆ
หลังจากที่ผมจัดการทุกอย่างเสร็จพร้อมที่จะออกเดินทางไปสนามบินดอนเมือง ในระหว่างที่ขึ้นแท๊กซี่ไปผมก็ถามตัวเองว่า "นี่กูทำอะไรลงไปวะ" cheerr!! แต่มันก็ไม่มีผลอะไรที่จะทำให้ให้ผมยกเลิกทริปนี้ไปได้...

เดินมาที่ gate ไกลใช้ได้เลยย

รอเครื่องออก

บินๆ

ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ
ผมถึงที่สนามบินเชียงใหม่เวลาที่ล้อเครื่องบินแตะกับพื้นรันเวย์ประมาณ 1635 (เครื่องดีเลย์

) กว่าจะรอรับกระเป๋าเดินออกมาหน้าสนามบินก็เกือบๆ จะ 5 โมงแล้วซึ่งผมดูคร่าวๆ มาว่ารถที่จะไปปายหมดประมาณ 5 โมงครึ่งผมคิดเลยว่ามันไม่ทันแน่ เพราะเชียงใหม่ช่วงเวลานี้รถติดพอสมควร อีกทั้งระยะจากสนามบินไปอาเขตก็ไม่ใกล้เท่าไร่ ผมจึงตัดสินใจหาโรงแรมพักแถวๆ สนามบินก่อนคืนนึงพรุ่งนี้เช้าค่อยขึ้นไปปาย...ผมมาได้ที่พักแถวๆ หลังเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเป็นเกรสเฮ้าคืนละ 650 ถือว่าโอเค อีกอย่างมันก็ใกล้มืดด้วย ผมก็ขี้เกียจหาละ ฮ่าๆ (ผมเดินจากสนามบินมาเรื่อยๆ) ขอจบวันแรกห้วนๆ แบบนี้เลยละกันครับ เวลาที่เหลือผมก็ไปนั่งชิวเรื่อยเปื่อย ไม่ได้มีอะไรพิเศษครับ...
วันที่ 9 ก.ค. (วันที่สองของการเดินทาง)
ตื่นเช้ามาก็รีบออกเดินทางโบกสองแถวแดงจากหน้าที่พักไปยังอาเขตเพื่อที่จะเดินทางมุ่งหน้าสู่ปาย...

รถคันนี้ที่พาผมไปยังจุดหมาย...

จุดพักรถ อีก 53 กม. จะถึงปายแล้วว...!!
รถที่ผมขึ้นออกจากอาเขต 1040 แต่ไปจอดรอถ่ายคนจากรถอีกคันระหว่างทางทำให้เสียเวลาพอสมควร สรุปผมถึงปายประมาณ 1420 ก็เดินหน้าหาที่พักในย่านถนนคนเดิน หลังจากนั้นก็เช่ามอเตอร์ไซด์ขับเล่นตามสไตล์ ผมกะใช้เวลาช่วงบ่ายถึงช่วงเย็นทั้งหมดในการสำรวจเส้นทางในเมือง และเก็บรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวจากป้ายบอกทางเรื่อยๆ มองหาร้านสวยๆ แนวๆ สำหรับมื้อเย็นไปในตัว พอสำรวจโซนในเมืองเสร็จคราวนี้ก็เริ่มย้อนไปทางที่รถตู้วิ่งมาจากเชียงใหม่เพราะเห็นสถานที่สวยๆ ระหว่างทางเยอะพอสมควร

ร้านนี้ส่วนใหญ่ใครๆ ก็รู้จักขนาดผมยังไม่เคยมายังรู้จักเลย

ขี่รถมานานคอมันแห้งก็เลยจัดสักแก้ว...

นั่งดูดชาเขียนนมลาเต้เย็นๆ ไปพร้อมๆกับการมองศิลปะจากธรรมชาติ
หลังจากนั้นก็ขับไปเรื่อยๆ ระหว่างทางดันฝนตกเลยมองหาร้านที่ใกล้ที่สุด สรุปมาจบที่ร้านนี้พร้อมกับความชุ่มฉ่ำนิดหน่อย

นั่งหลบฝนที่นี่ก่อน...
และแล้ว...!! สิ่งที่คนที่มาเที่ยวปายหน้าอื่นๆ แทบจะไม่ได้เจอนั่นก็คือออ.....

รุ้งกินน้ำขึ้น 2 วงซ้อนกัน บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งเลยที่ผมเคยเห็นแบบนี้เลย...

มีเพื่อนมาติดฝนด้วยอีกคน...

หลังฝนซาก็มาต่อที่กองแลนปายแคนยอน

ต่อด้วยสะพานประวัติศาสตร์ปาย

อีกสักรูป

อีกสักรูป
พอชมความงามแถวๆสะพานประวัติศาสตร์เสร็จเหลือบมองนาฬิกาก็เกือบ 6 โมงแล้วเลยรีบซิ่งกลับที่พัก และดึกๆ กะมาเดินถนนคนเดินสักหน่อย...แต่โชคไม่เข้าข้างเท่าไร่ หลังจากถึงที่พักสักพักฝนก็เริ่มตกลงมาเรื่อยๆ และค่อนข้างหนัก ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดหรือเบาเลย นั่งดูทีวี เล่นมือถืออ่านรีวิวปายจากท่านอื่นๆ ไปเรื่อยๆ ระหว่างเวลาที่รอฝนหยุดอย่างมีความหวัง เหลือบมองนาฬิกาอีกที่ บร๊ะเจ้าาา!! 3 ทุ่มกว่าแล้วฝนยังไม่หยุดเลย ผมเลยตัดสินใจไปอาบน้ำนอนดีกว่า ก่อนนอนก็อ่านรีวิว ดูสถานที่ที่จะไปพรุ่งนี้ หันมาดูเวลาอีกที 5 ทุ่มฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ผมคิดว่าผมควรยอมแพ้แล้วไปนอนซะ 555 ยังเหลือพรุ่งนี้อีก 1 วันเต็ม...
วันที่ 10 ก.ค. (วันที่สามของการเดินทาง)

ตื่นเช้ามาเดินสูดอากาศดีๆยามเช้า

แวะกินโจ๊กเจ้าดังสักหน่อย...

อร่อยๆ...

ชาร้อน + ปาท่องโก๋ ฝั่งตรงข้ามอร่อยใช้ได้เลย

หลังจากนั้นก็ขับรถชมวิวต่อเรื่อยๆ

จอดพักดูวิถีชีวิตคนที่นี่สักแปป

มาไหว้พระสักหน่อย

เห็นสีเขียวแล้วมันสบายตาจริงๆ

โป่งน้ำร้อนท่าปาย

ขับไปไม่ต้องกลัวหลง (มีคนช่วยแนะนำทาง)

ขับมาจุดเริ่มต้น

ลุงใจดี ณ แผ่นดินแยก

ลุงจัดชุดใหญ่ให้เลย...

เข้าเมืองมาหาอะไรกินต่อ

จัดแค็ปหมู+น้ำพริกที่

ในที่สุดก็ได้เดินถนนคนเดินสักที
จบวันที่ 3 อย่างชุ่มฉ่ำ
วันที่ 11 ก.ค. (วันสุดท้ายของการเดินทาง)
ตื่นเช้ามาก็มาเดินเก็บบรรยากาศรอบๆเมืองอีกครั้งก่อนกลับ แวะซื้อและก็เขียนโปสการ์ดส่งไปให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ให้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะขึ้นรถกลับไปเชียงใหม่ ผมถึงเชียงใหม่ประมาณ 4 โมงเย็นได้ เหลือเวลาอีกเยอะก็เลยไปนั่งรถสองแถวแดงเที่ยวรอบเมืองเก่า และแวะซื้อของฝาก ก่อนกลับ...
จริงๆ การเดินทางครั้งนี้ยังมีรายละเอียดอีกเยอะแยะมากมายที่ผมยังเล่าไม่หมด ผมอยากให้ทุกท่านได้ลองสัมผัสกันดูสักครั้ง...ปาย เป็นเมืองที่มีสเน่ห์ สงบ เงียบดีสำหรับผม เหมาะมากสำหรับการพักผ่อน ถึงแม้จะเจริญไปมากพอสมควรแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังมีกลิ่นไอของความคลาสสิค หลงเหลืออีกเยอะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมาที่ปาย โดยรวมผมก็ประทับใจมากๆ เสียดายที่ติดฝนเยอะไปหน่อย เลยไปไหนได้น้อย อีกทั้งไม่มีการวางแผนเดินทางเลย ทำให้เหมือนเดินทางดูมั่วๆพอสมควร 555 แต่การเดินทางสำหรับผมมันคือการผจญภัย เพราะฉะนั้นผมไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องแผนการเดินทางเท่าไร่ ผมซีเรียสเรื่องงบมากกว่า 555
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ นะครับ
ค่าเดินทาง
- ค่าเครื่องบิน รวม 2030
- ค่ารถตู้ไป-กลับปาย รวม 300
- ค่าสองแถวแดง รวม 130 บาท
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ 2 วัน รวม 300 บาท
ค่าที่พัก
- คืนแรกที่เชียงใหม่ 650 บาท
- คืนที่ 2 ที่ปาย 350 บาท (พัดลม)
- คืนที่ 3 ที่ปาย 850 บาท (แอร์)
ค่าอาหาร + เครื่องดื่ม
- ประมาณ 800
ค่าของฝาก + ของจิปาถะ
- ประมาณ 600
สรุปทั้งหมดแล้วประมาณ 6000 ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่าแท๊กซี่ไป-กลับจากบ้านผมไปดอนเมืองอีก...
จริงๆแล้วมันจะถูกกว่านี้หลายร้อยถ้าจองที่พักล่วงหน้า และลดบริมาณการกินลง 555 (ทริปนี้วันนึงผมกินกาแฟสดประมาณ 3-4 แก้ว)
สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่านทุกท่านด้วยนะครับ นี่เป็นการกระทู้แรกของผมยังขาดอะไรไปอีกมากมาย รูปที่ถ่ายมาก็ไม่สวยเท่าไร 555 ถ้ามีโอกาสทริปต่อไปจะทำให้ดีกว่านี้ครับ
สวัสดีครับ...
ไปเที่ยว "ปาย" เดือน ก.ค. ที่ผ่านมาสไตล์ไร้แบบแผน...
ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนที่ผมไม่ได้แพลนอะไรไว้เลย ไม่ได้เตรียมตัวเท่าไร ผมเริ่มทำการบ้านจริงๆจังๆ ก็ตอนที่ผมรู้ตัวอีกที่ว่า "ตัวผมอยู่ที่ปายแล้ว..."
คืนวันที่ 7 ก.ค. (ก่อนวันเดินทาง)
ผมนั่งคุยกับพี่ที่สนิทเล่นๆว่า อยากไปเที่ยวสักทีนึงในช่วงหน้าฝน อยากได้ฟิวแบบเงียบๆ สงบๆ สวยๆ ตอนแรกก็มีในหัวอยู่หลายที่อยู่ เช่น เขื่อนเชี่ยวหลาน เกาะพยาม ประมาณนี้ บอกเลยว่าในหัวตอนนั้นยังไม่มี "ปาย" เลยสักนิด ผมก็นั่งๆหาไปเรื่อยๆ จนหลับสรุปว่าคืนนี้ยังไม่ได้เป้าหมายที่จะออกเดินทางเลย...
วันที่ 8 ก.ค. (จุดเริ่มต้นของการเดินทาง)
ตื่นเช้ามาผมก็นั่งกดหาไฟท์เครื่องบินเล่นๆ ว่าวันนี้มีไปที่ไหนถูกๆ ในราคาที่รับได้บ้าง สรุปว่าผมไปเจอไฟท์ไปเชียงใหม่ของสายการบินที่เป็นรูปสิงโตตัวส้มๆแดงๆ เดินทางในบ่ายวันนี้ราคาไปกลับรวมทั้งหมด 2030.00 บาทก็จัดการจองเลย มีเวลา 30 นาทีให้ไปจ่ายตังค์ ระหว่างนั้นผมก็ค้นหาข้อมูลเชียงใหม่คร่าวๆ และเจอแนวๆ แบบขึ้นไปเชียงใหม่และไปต่อปายเยอะมาก ผมก็เลยคิดว่า "เอาว่ะกูไปมั่ง" ผมเลยรีบจัดแจงวิ่งไปโลตัสตอน 8 โมงกว่าๆ เพื่อไปจ่ายตังค์ค่าเครื่อง หลังจากนั่นก็รีบมาจัดกระเป๋าเพื่อออกเดินทางไปในตอนบ่าย...
รายละเอียดการเดินทางทั้งหมดนะครับ ขอรวบไฟล์เดียวเลย ขี้เกียจถ่ายทีละแผ่น ฮ่าๆ
หลังจากที่ผมจัดการทุกอย่างเสร็จพร้อมที่จะออกเดินทางไปสนามบินดอนเมือง ในระหว่างที่ขึ้นแท๊กซี่ไปผมก็ถามตัวเองว่า "นี่กูทำอะไรลงไปวะ" cheerr!! แต่มันก็ไม่มีผลอะไรที่จะทำให้ให้ผมยกเลิกทริปนี้ไปได้...
เดินมาที่ gate ไกลใช้ได้เลยย
รอเครื่องออก
บินๆ
ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ
ผมถึงที่สนามบินเชียงใหม่เวลาที่ล้อเครื่องบินแตะกับพื้นรันเวย์ประมาณ 1635 (เครื่องดีเลย์
วันที่ 9 ก.ค. (วันที่สองของการเดินทาง)
ตื่นเช้ามาก็รีบออกเดินทางโบกสองแถวแดงจากหน้าที่พักไปยังอาเขตเพื่อที่จะเดินทางมุ่งหน้าสู่ปาย...
รถคันนี้ที่พาผมไปยังจุดหมาย...
จุดพักรถ อีก 53 กม. จะถึงปายแล้วว...!!
รถที่ผมขึ้นออกจากอาเขต 1040 แต่ไปจอดรอถ่ายคนจากรถอีกคันระหว่างทางทำให้เสียเวลาพอสมควร สรุปผมถึงปายประมาณ 1420 ก็เดินหน้าหาที่พักในย่านถนนคนเดิน หลังจากนั้นก็เช่ามอเตอร์ไซด์ขับเล่นตามสไตล์ ผมกะใช้เวลาช่วงบ่ายถึงช่วงเย็นทั้งหมดในการสำรวจเส้นทางในเมือง และเก็บรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวจากป้ายบอกทางเรื่อยๆ มองหาร้านสวยๆ แนวๆ สำหรับมื้อเย็นไปในตัว พอสำรวจโซนในเมืองเสร็จคราวนี้ก็เริ่มย้อนไปทางที่รถตู้วิ่งมาจากเชียงใหม่เพราะเห็นสถานที่สวยๆ ระหว่างทางเยอะพอสมควร
ร้านนี้ส่วนใหญ่ใครๆ ก็รู้จักขนาดผมยังไม่เคยมายังรู้จักเลย
ขี่รถมานานคอมันแห้งก็เลยจัดสักแก้ว...
นั่งดูดชาเขียนนมลาเต้เย็นๆ ไปพร้อมๆกับการมองศิลปะจากธรรมชาติ
หลังจากนั้นก็ขับไปเรื่อยๆ ระหว่างทางดันฝนตกเลยมองหาร้านที่ใกล้ที่สุด สรุปมาจบที่ร้านนี้พร้อมกับความชุ่มฉ่ำนิดหน่อย
นั่งหลบฝนที่นี่ก่อน...
และแล้ว...!! สิ่งที่คนที่มาเที่ยวปายหน้าอื่นๆ แทบจะไม่ได้เจอนั่นก็คือออ.....
รุ้งกินน้ำขึ้น 2 วงซ้อนกัน บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งเลยที่ผมเคยเห็นแบบนี้เลย...
มีเพื่อนมาติดฝนด้วยอีกคน...
หลังฝนซาก็มาต่อที่กองแลนปายแคนยอน
ต่อด้วยสะพานประวัติศาสตร์ปาย
อีกสักรูป
อีกสักรูป
พอชมความงามแถวๆสะพานประวัติศาสตร์เสร็จเหลือบมองนาฬิกาก็เกือบ 6 โมงแล้วเลยรีบซิ่งกลับที่พัก และดึกๆ กะมาเดินถนนคนเดินสักหน่อย...แต่โชคไม่เข้าข้างเท่าไร่ หลังจากถึงที่พักสักพักฝนก็เริ่มตกลงมาเรื่อยๆ และค่อนข้างหนัก ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดหรือเบาเลย นั่งดูทีวี เล่นมือถืออ่านรีวิวปายจากท่านอื่นๆ ไปเรื่อยๆ ระหว่างเวลาที่รอฝนหยุดอย่างมีความหวัง เหลือบมองนาฬิกาอีกที่ บร๊ะเจ้าาา!! 3 ทุ่มกว่าแล้วฝนยังไม่หยุดเลย ผมเลยตัดสินใจไปอาบน้ำนอนดีกว่า ก่อนนอนก็อ่านรีวิว ดูสถานที่ที่จะไปพรุ่งนี้ หันมาดูเวลาอีกที 5 ทุ่มฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ผมคิดว่าผมควรยอมแพ้แล้วไปนอนซะ 555 ยังเหลือพรุ่งนี้อีก 1 วันเต็ม...
วันที่ 10 ก.ค. (วันที่สามของการเดินทาง)
ตื่นเช้ามาเดินสูดอากาศดีๆยามเช้า
แวะกินโจ๊กเจ้าดังสักหน่อย...
อร่อยๆ...
ชาร้อน + ปาท่องโก๋ ฝั่งตรงข้ามอร่อยใช้ได้เลย
หลังจากนั้นก็ขับรถชมวิวต่อเรื่อยๆ
จอดพักดูวิถีชีวิตคนที่นี่สักแปป
มาไหว้พระสักหน่อย
เห็นสีเขียวแล้วมันสบายตาจริงๆ
โป่งน้ำร้อนท่าปาย
ขับไปไม่ต้องกลัวหลง (มีคนช่วยแนะนำทาง)
ขับมาจุดเริ่มต้น
ลุงใจดี ณ แผ่นดินแยก
ลุงจัดชุดใหญ่ให้เลย...
เข้าเมืองมาหาอะไรกินต่อ
จัดแค็ปหมู+น้ำพริกที่
ในที่สุดก็ได้เดินถนนคนเดินสักที
จบวันที่ 3 อย่างชุ่มฉ่ำ
วันที่ 11 ก.ค. (วันสุดท้ายของการเดินทาง)
ตื่นเช้ามาก็มาเดินเก็บบรรยากาศรอบๆเมืองอีกครั้งก่อนกลับ แวะซื้อและก็เขียนโปสการ์ดส่งไปให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ให้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะขึ้นรถกลับไปเชียงใหม่ ผมถึงเชียงใหม่ประมาณ 4 โมงเย็นได้ เหลือเวลาอีกเยอะก็เลยไปนั่งรถสองแถวแดงเที่ยวรอบเมืองเก่า และแวะซื้อของฝาก ก่อนกลับ...
จริงๆ การเดินทางครั้งนี้ยังมีรายละเอียดอีกเยอะแยะมากมายที่ผมยังเล่าไม่หมด ผมอยากให้ทุกท่านได้ลองสัมผัสกันดูสักครั้ง...ปาย เป็นเมืองที่มีสเน่ห์ สงบ เงียบดีสำหรับผม เหมาะมากสำหรับการพักผ่อน ถึงแม้จะเจริญไปมากพอสมควรแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังมีกลิ่นไอของความคลาสสิค หลงเหลืออีกเยอะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมาที่ปาย โดยรวมผมก็ประทับใจมากๆ เสียดายที่ติดฝนเยอะไปหน่อย เลยไปไหนได้น้อย อีกทั้งไม่มีการวางแผนเดินทางเลย ทำให้เหมือนเดินทางดูมั่วๆพอสมควร 555 แต่การเดินทางสำหรับผมมันคือการผจญภัย เพราะฉะนั้นผมไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องแผนการเดินทางเท่าไร่ ผมซีเรียสเรื่องงบมากกว่า 555
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ นะครับ
ค่าเดินทาง
- ค่าเครื่องบิน รวม 2030
- ค่ารถตู้ไป-กลับปาย รวม 300
- ค่าสองแถวแดง รวม 130 บาท
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ 2 วัน รวม 300 บาท
ค่าที่พัก
- คืนแรกที่เชียงใหม่ 650 บาท
- คืนที่ 2 ที่ปาย 350 บาท (พัดลม)
- คืนที่ 3 ที่ปาย 850 บาท (แอร์)
ค่าอาหาร + เครื่องดื่ม
- ประมาณ 800
ค่าของฝาก + ของจิปาถะ
- ประมาณ 600
สรุปทั้งหมดแล้วประมาณ 6000 ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่าแท๊กซี่ไป-กลับจากบ้านผมไปดอนเมืองอีก...
จริงๆแล้วมันจะถูกกว่านี้หลายร้อยถ้าจองที่พักล่วงหน้า และลดบริมาณการกินลง 555 (ทริปนี้วันนึงผมกินกาแฟสดประมาณ 3-4 แก้ว)
สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่านทุกท่านด้วยนะครับ นี่เป็นการกระทู้แรกของผมยังขาดอะไรไปอีกมากมาย รูปที่ถ่ายมาก็ไม่สวยเท่าไร 555 ถ้ามีโอกาสทริปต่อไปจะทำให้ดีกว่านี้ครับ
สวัสดีครับ...