
สวัสดีค่ะ นานๆจะโผล่มาตั้งกระทู้กะเขาสักที ทริปนี้ออกตัวก่อนเลยว่านานมาแล้ว ตั้งแต่กลางปีที่แล้วละค่ะ ดองเค็มไว้นานมาก ดองไว้จนเปื่อย เรื่อยๆ จนแอบขี้เกียจมาตั้งกระทู้ซะอย่างนั้น แหะๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จริงๆเรื่องของเรื่องคือว่า เจ้าของกระทู้เนี่ยตั้งใจจะทำรีวิวไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วละนะ ทุกอย่างพร้อม รูปเยอะมาก ความทรงจำยังอุ่นๆหอมกรุ่นอยู่เลย และแล้วคอมของเจ้าของกระทู้ก็เกิดอาการเพี๊ยน พังไปอย่างดื้อๆ เปิดไม่ติด เลยต้องรีบส่งซ่อม แล้วก็ยังแอบมีความหวังอยู่น้อยนิดนะคะว่าจะได้รูปทั้งหมดคืนมา แต่! แต่ แต่ แต่ แต่เรื่องราวมันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเลย ข้อมูลทั้งหมดในคอม รวมทั้งรูปทั้งหมดกู้คืนไม่ได้ อะไรน๊าาาา อ๊ากกกก โชคช่างไม่เข้าข้างเราเอาซะเลย โฮ
(แต่จริงๆก็ต้องโทษความสะเพร่าของตัวเองด้วยแหละค่ะ) แอบนอยไปนานเลย ไหนๆก็ไม่มีรูปแล้ว ที่เหลือก็คงเป็นแค่ความทรงจำและความคิดถึงเท่านั้นแหละเนอะ...
จนเวลาผ่านไปเจ้าของกระทู้ก็ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ รีวิวที่อื่นไปบ้างแล้ว แต่ความคิดถึงเบลเยียมก็ยังคงอยู่ในใจของเจ้าของกระทู้ตลอด จนวันนี้แหละค่ะ เปิดดูรูปเก่าๆในมือถือและไอพอด ว๊ายย ยังเหลือรูปเก่าๆตอนที่ไปเที่ยวเบลเยียมอยู่บ้างแฮะ ก็เลยกลายมาเป็นกระทู้นี้นี่แหละค่ะ 
แอร้ยยยย บ่นอะไรมาซะยาวเหยียด ไปตะลอนเที่ยวกันเลยดีกว่าค่ะ
ป.ล. ออกตัวก่อนเลยนะคะว่ากระทู้นี้ไม่ใช่เป็นกระทู้ที่นำเสนอด้านการท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบ หรือไปเที่ยวทุกสถานที่ยอดฮิตของเบลเยียมนะคะ ออกแนวทริปเรื่อยๆเปื่อยๆมากกว่าค่ะ จะมีบางเมืองที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวหลักด้วยค่ะแต่ก็มีความน่ารักไม่เบานี่พูดเลย และรูปอาจจะน้อยไปหน่อยนะคะ แฮะๆ
หากจะมีสักการเดินทางที่ทำให้เราคิดถึง หนึ่งในนั้นก็คงเป็นประเทศเบลเยียมนี่แหละค่ะ...
ด้วยช่วงเวลาที่ว่างพอดี ผู้ใหญ่ก็ใจดี และก็ช่างโชคดีที่สายการบิน Etihad ออกโปรโมชั่นราคาโดนใจมา ทริปนี้เลยเกิดขึ้นค่ะ วิ่งวุ่นกับการเตรียมเอกสารและขอวีซ่าอยู่ช่วงหนึ่งเลย พอได้วีซ่ามาแล้วก็โล่งใจ จะได้ไปเที่ยวซะทีสินะ (ขอข้ามขั้นตอนในการวีซ่าไปเลยนะคะ แอบนานจำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้วค่ะ)
ออกเดินทางกันเลย
พี่ชาย... ฉันหนาว
พอเครื่องบินลงจอดที่สนามบินบรัสเซลส์ปุ๊บ ความประทับใจแรกในประเทศเบลเยียมก็มาต้อนรับที่ ตม.เลย แหะๆ เราต่อแถวไม่นานหรอกค่ะก็ถึงคิวพบปะคุณตม.แล้ว ในใจนี่คือแอบลุ้นมาก (ตื่นเต้นยังกะแอบหลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายซะอย่างนั้นอ่า) กำลังจะเดินไปถึง แต่ยังไม่ถึงดีก็ได้ยินประโยคคุ้นหูแว่วๆมา "สบายดีครับ" ห๊าาาา นี่มันภาษาไทยนี่นา หูเราคงจะฟาดไปแน่ๆ มองไปที่เจ้าหน้าที่ ตม. ก็เป็นชายฝรั่ง รุ่นราวคราวลุง สีหน้าเรียบเฉย แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าตาเคร่งเครียดแต่อย่างไร พอลดความกังวลลงไปบ้าง แต่ เดี๋ยวนะที่ได้ยินเมื่อกี้นี่มันภาษาไทยนี่นา ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
เรา : again please.
เจ้าหน้าที่ตม. : สวัสดีครับ สบายดีนะครับ
เรา : ค่ะ สบายดีค่ะ สวัสดีค่ะ (พร้อมยกมือไหว้อย่างไทย ด้วยความดีใจปนตกใจเล็กน้อย)
เจ้าหน้าที่ตม. : มาทำอะไร มาเที่ยวหรอ แล้วมากี่วัน? ขอดูเอกสารและตั๋วเครื่องบินขากลับหน่อย
พอผ่านการสอบถามแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ดูพาสปอร์ต ปั้มโน่นนี่ แล้วก็ให้ผ่านไปได้ ตอนนั้นคือเราดีใจกับภาษาไทยที่ได้ยินมาก ยิ้มจนแกล้มปริเลย แล้วตม.ก็ใจดีกว่าที่คิด แถมคุยเป็นภาษาไทยหมดเลย อยากบอกว่านี่เป็น ตม. ที่เฟรนลี่ที่สุดแล้วเท่าที่เคยเจอมาค่ะ

แล้วก็ถึงเวลาเดินตัวปลิวแบบพริ้วๆไปตะลอนเที่ยวในเบลเยียมแล้ว
ตะลอนไปในเบลเยียม... หนึ่งในทริปที่คิดถึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ป.ล. ออกตัวก่อนเลยนะคะว่ากระทู้นี้ไม่ใช่เป็นกระทู้ที่นำเสนอด้านการท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบ หรือไปเที่ยวทุกสถานที่ยอดฮิตของเบลเยียมนะคะ ออกแนวทริปเรื่อยๆเปื่อยๆมากกว่าค่ะ จะมีบางเมืองที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวหลักด้วยค่ะแต่ก็มีความน่ารักไม่เบานี่พูดเลย และรูปอาจจะน้อยไปหน่อยนะคะ แฮะๆ
หากจะมีสักการเดินทางที่ทำให้เราคิดถึง หนึ่งในนั้นก็คงเป็นประเทศเบลเยียมนี่แหละค่ะ...
ออกเดินทางกันเลย
พี่ชาย... ฉันหนาว
พอเครื่องบินลงจอดที่สนามบินบรัสเซลส์ปุ๊บ ความประทับใจแรกในประเทศเบลเยียมก็มาต้อนรับที่ ตม.เลย แหะๆ เราต่อแถวไม่นานหรอกค่ะก็ถึงคิวพบปะคุณตม.แล้ว ในใจนี่คือแอบลุ้นมาก (ตื่นเต้นยังกะแอบหลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายซะอย่างนั้นอ่า) กำลังจะเดินไปถึง แต่ยังไม่ถึงดีก็ได้ยินประโยคคุ้นหูแว่วๆมา "สบายดีครับ" ห๊าาาา นี่มันภาษาไทยนี่นา หูเราคงจะฟาดไปแน่ๆ มองไปที่เจ้าหน้าที่ ตม. ก็เป็นชายฝรั่ง รุ่นราวคราวลุง สีหน้าเรียบเฉย แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าตาเคร่งเครียดแต่อย่างไร พอลดความกังวลลงไปบ้าง แต่ เดี๋ยวนะที่ได้ยินเมื่อกี้นี่มันภาษาไทยนี่นา ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
เรา : again please.
เจ้าหน้าที่ตม. : สวัสดีครับ สบายดีนะครับ
เรา : ค่ะ สบายดีค่ะ สวัสดีค่ะ (พร้อมยกมือไหว้อย่างไทย ด้วยความดีใจปนตกใจเล็กน้อย)
เจ้าหน้าที่ตม. : มาทำอะไร มาเที่ยวหรอ แล้วมากี่วัน? ขอดูเอกสารและตั๋วเครื่องบินขากลับหน่อย
พอผ่านการสอบถามแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ดูพาสปอร์ต ปั้มโน่นนี่ แล้วก็ให้ผ่านไปได้ ตอนนั้นคือเราดีใจกับภาษาไทยที่ได้ยินมาก ยิ้มจนแกล้มปริเลย แล้วตม.ก็ใจดีกว่าที่คิด แถมคุยเป็นภาษาไทยหมดเลย อยากบอกว่านี่เป็น ตม. ที่เฟรนลี่ที่สุดแล้วเท่าที่เคยเจอมาค่ะ