...ย้อนอดีตไปยังปีพุทธศักราช 2549 (ราว 8 ปีที่แล้ว) ตอนนั้นมีเด็กหนุ่มธรรมดาๆ หน้าตาดีคนหนึ่ง

ไปรายงานตัวเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัยที่อยู่ห่างไกลแถวๆทางเหนือ ในวันนั้นเขาได้พบเด็กหญิงขาวอวบ
คนหนึ่ง (เกือบจะอ้วนแล้วหล่ะ)

ซึ่งเรียนคณะเดียวกัน โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าต่อไปจะเป็นเพื่อนสนิทกัน
...เรียนด้วยกันโดยบังเอิญ สำหรับเด็กปี 1 วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานจะเรียนด้วยกันทุกคณะ มี 120 ห้อง เรียนห้องละ
40-50 คน (เลือกช่วงเวลาเรียนได้ตามสะดวก) ผมบังเอิญลงทะเบียนเรียนห้องเดียวกับเธอ เธอฉายแววเก่งตั้งแต่
ชั่วโมงแรก

ส่วนพวกผม (โง่ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เกิด) ก็ลอกการบ้านเธอสิครับ ผมเป็นตัวเปิดมาขอลอก
แล้วให้เพื่อนๆ ก็ลอกของผมอีกที ขอลอกการบ้านจนสนิทกัน...
...วันวาเลนไทนส์

คู่รักหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยดูครื้นเครงกันมาก ส่วนผมน่ะหรออออออ...

อ่านหนังสือเตรียมสอบเฟ้ยยยยย (ก็ยังดีที่อ่านกันสองคนกับเธอ) วันนั้นเป็นวันวาเลนไทนส์ที่ผมจะไม่มีวันลืม
แม้จะเป็นแค่การนั่งติวหนังสือกันสองคนก็ตาม วันนั้นเธอใส่เสื้อสีชมพูด้วยล่ะ (8ปีแล้วยัง จำได้)
...วันเกิดเธอ

ช่วงเดือนพฤศจิกายน เธอโทรมาชวนผมให้ผมพาไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัด และขอให้ผม
พาขึ้นไปไหว้ขอพรจากพระธาตุดอยสุเทพ ด้วยเจ้านี่

มอไซต์คู่ใจผมเอง (จริงๆ ผมก็มีเพื่อนเยอะนะครับ
ส่วนเธอก็มีกลุ่มเพื่อนเยอะเหมือนกัน เดี่ยวหาว่าคบกันอยู่ 2 คน แต่จะขอเล่าเฉพาะฉากที่มีแต่เรา 2 คน)
พอขึ้นไปถึงข้างบน เธอก็บ่นว่า แย่จังไม่มีใครอวยพรวันเกิดให้เลย ผมก็หยิบมือถือส่งข้องความไปว่า "Happy Birth Day"
เธอเปิดอ่าน และยิ้ม พูดว่าขอบใจจจจจจจ... ก่อนกลับเธอซื้อผ้าพันคอสีเขียวไปผืนหนึ่ง บอกจะเอาไปฝากผู้ชายคนหนึ่ง
(ผมคิดในใจว่าใครฟระะะะะ) อากาศเริ่มจะเย็น ก็แว๊นรถลงเขาสิครับ ให้ตายสิพับผ้า ฝนตกจ้า

อยู่บนดอย
แล้วฝนตก ยังกะอาบน้ำเย็น แต่ไม่เสียใจเลย

เพราะเธอเอาผ้าพันคือผืนนั้นมาบังฝนให้ผม สรุปว่าเราเป็น
คนแรกที่ได้ใช้ผ้าพันคอผืนนั้น แม้สุดท้ายมันจะเป็นของคนอื่น (ใช่ครับเจ้าของตัวจริง คือว่าที่แฟนเธอ เป็นนายทหารคนหนึ่ง
ทีเคยเป็นรุ่นพี่ของเธอสมัยเรียนมัธยม ที่เพิ่งเริ่มจีบกัน แล้วสุดท้าย 2 คนก็ได้เป็นแฟนกัน) แต่นั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ
พอกลับลงมาข้างล่าง หน้าผมเขียวอื๋อเลย ผ้าพันคอสีตก และก็นอนซมเพราะพิษไข้ไปอีก 2 วัน (ไข้ใจด้วย)
...หลังจากวันนั้น เราก็สนิทกันมากกว่าเดิมอีก (ในฐานะเพื่อนเท่านั้น เพราะเธอมีแฟนแล้วจ้า) สนิทกันมาก มากจนคนอื่น
มองว่าเกินเลย คือผมชอบไปหาเธอที่ห้อง ซื้อข้าว ซื้อขนมไปกินกัน เช่าหนังไปดู นั่งเล่นเกม นั่งบนเตียงเดียวกัน
เธอก็อ่านหนังสือไป ผมก็เล่นเกมไป อยู่ด้วยกันสองต่อสองบ่อยๆ จนบางวันถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง
(แต่ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆนะครับ และก็บริสุทธิ์ใจด้วย) จนมีคนเตือนว่ามันดูไม่เหมาะสม ผมก็เลยเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
...ขึ้นปี 3 เธอเลิกกับแฟนที่เป็นนายทหาร สาเหตุเพราะพี่ทหารอยู่กรุงเทพ ส่วนเธออยู่เชียงใหม่ ระยะทางมันไกลเกินไป
ตอนนี้เธอผอมลงมากกว่าตอนปี 1 พอผอมแล้วอย่างสวย ก็มีหนุ่มคณะวิศวะมาจีบ เธอก็ปรึกษาผมอยู่บ่อยๆ ว่าคนนั้นเป็นยังไง
นิสัยดีไหม จริงใจรึปล่าว เราก็ให้คำแนะนำไป (แต่ในใจก็...รู้สึกไม่อยากให้มันมาจีบเธอเลย) สุดท้ายคู่นี้เป็นแฟนกัน คบกันจน
เรียนจบ ซึ่งช่วงขึ้นปี 3 นี้ ผมกับเธอก็ห่างๆ กันไป เพราะเธอมีแฟนแล้ว ผมก็ให้เวลากับเพื่อนๆ มากขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น
แต่ช่วงตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ผมก็ไม่เคยมีแฟน ถ้างั้นคงไม่มีเวลาเทคแคร์เธอได้ขนาดนั้นแน่นอน
...พอห่างกันไป ได้ซัก 3 เดือน ผมก็มีแฟนจ้า แต่เหมือนคบกันตามกระแส เป็นรุ่นน้องปี 2 เพื่อนยุให้จีบ เพราะน้องน่ารัก
ผมก็เลยจีบ จีบติดด้วย แต่ก็เป็นความรักแบบเด็กๆ ไม่เชิงความรักอ่ะ บอกไม่ถูก เหมือนคบกันตามกระแส ที่ต่างคนต่างไม่มีแฟน
พอเรียนจบก็เลิกกันไป
...เรียนจบ ได้มาทำงานจังหวัดเดียวกันกับเธอ แต่คนละบริษัทกับเธอ เพราะความห่างกันไป ทำให้ไม่สนิทกันเหมือนก่อน
ผมก็แวะเวียนไปหาเธอบ้าง 2-3 เดือนครั้ง แต่โทรหากันบ่อย ปรึกษาเรื่องงานบ้าง เรื่องชีวิตบ้าง ตอนเรียนจบเราทั้งคู่ต่างเลิกกับแฟน
...เธอมีคนมาจีบเป็นคนที่บริษัทเดียวกัน แต่ผมไม่เคยเห็นตัวจริง เห็นแต่ในเฟสบุ๊ค รู้แต่ว่า นิสัยดี เอาใจเก่ง แต่ไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่
(ไม่หล่อจริงๆ) เธอปลื้มเขามาก และคบกันได้ประมาณ 4 ปี (ซึ่งผมก็ไม่เคยไปหาเธออีกเลย หลังจากเธอมีแฟน เพราะมันไม่เหมาะ)
สุดท้ายก็เลิกกันครับ เพราะผู้ชายเคยมีเมียอยู่แล้ว และมีกิ๊กอีกด้วย (ไอ้พวกไม่หล่อแต่คารมณ์ดี นี่ร้ายจริงๆ) เธอจับได้ ก็เลยเลิกกัน
>>> วันที่เธอบอกเลิกกับผู้ชายคนนั้น เธอโทรมาคุยกับผมตั้งแต่ 2 ทุ่ม ยั้นเช้า ร้องไห้จนแทบหมดแรง ผมก็พยายามปลอบใจเธอ
ต่างๆ นานา ก่อนวางสายเธอพูดว่า "ถ้าฉันหาผู้ชายดีๆไม่ได้ แก...เรามาคบกันมั้ย" (ปกติเธอใช้คำว่า แก กับผม และเรียกตัวเองว่า ฉัน)
เธออาจจะพูดไปงั้นๆ หรือพูดเพื่อปลอบใจตัวเอง แต่ผมคนนี้นะคิดไปไกล แต่ก็พูดกลับไปแค่..."จะบ้าหรอ"
เธอทำใจได้เพียง 1 เดือน ก็พบรักครั้งใหม่ (ผมยังตกใจ ว่าทำไมมันไวไฟอย่างนี้) ผู้ชายคนนั้นอายุ 35 ปี ส่วนเธออายุ 27 ปี
ผู้ชายเป็นผู้จัดการ แต่อยู่คนละแผนกกับเธอ
.
.
.
จนล่าสุดเธอส่งไลน์มากบอกว่า "แก...ฉันจะแต่งงานแล้ว"
ผมตกใจมาก เพราะเพิ่งคบกันได้แค่ 6 เดือน ถึงกับจะแต่งงานกันเลยหรอวะ
ผมก็รับปากว่าจะไปร่วมงานแต่งที่บ้านของเธอ (เธอเป็นคนเหนือ) ผมขอลางานล่วงหน้า โดยขอลา 3 วัน
พอใกล้จะถึงวันแต่ง อีกวันเดียว ผมก็เปลี่ยนใจไม่ไปซะงั้น ความรู้สีกมันทำใจไม่ค่อยได้
สุดท้ายโทรไปบอกเธอว่า ติดงานด่วน ไปไม่ได้ (จริงๆ กินเหล้าอยู่ที่ห้อง 3 วันติดๆ)
เธอพึ่งแต่งงานไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง ขอให้เธอมีความสุขกับชีวิตคู่ สมหวังในรักตลอดไปนะเพื่อน
ผมก็ไม่รู้ใจตัวเอง ว่าที่ผ่านมาผมคิดอะไร กับเธอ แต่ก็ชอบนะ ที่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่มันอาจไม่ใช่ความรัก เพราะที่ผ่านมา
ผมไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลย แม้กระทั่งตอนนี้
*อยากรู้จัง ว่าที่ผ่านมา เธอ เคยมีความรู้สึกแบบนั้นกับเราบ้างไหมนะ*
แอบชอบเพื่อนสนิทมา 8 ปี...จนกระทั่งในตอนสุดท้าย !!!
ไปรายงานตัวเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัยที่อยู่ห่างไกลแถวๆทางเหนือ ในวันนั้นเขาได้พบเด็กหญิงขาวอวบ
คนหนึ่ง (เกือบจะอ้วนแล้วหล่ะ)
...เรียนด้วยกันโดยบังเอิญ สำหรับเด็กปี 1 วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานจะเรียนด้วยกันทุกคณะ มี 120 ห้อง เรียนห้องละ
40-50 คน (เลือกช่วงเวลาเรียนได้ตามสะดวก) ผมบังเอิญลงทะเบียนเรียนห้องเดียวกับเธอ เธอฉายแววเก่งตั้งแต่
ชั่วโมงแรก
แล้วให้เพื่อนๆ ก็ลอกของผมอีกที ขอลอกการบ้านจนสนิทกัน...
...วันวาเลนไทนส์
อ่านหนังสือเตรียมสอบเฟ้ยยยยย (ก็ยังดีที่อ่านกันสองคนกับเธอ) วันนั้นเป็นวันวาเลนไทนส์ที่ผมจะไม่มีวันลืม
แม้จะเป็นแค่การนั่งติวหนังสือกันสองคนก็ตาม วันนั้นเธอใส่เสื้อสีชมพูด้วยล่ะ (8ปีแล้วยัง จำได้)
...วันเกิดเธอ
พาขึ้นไปไหว้ขอพรจากพระธาตุดอยสุเทพ ด้วยเจ้านี่
ส่วนเธอก็มีกลุ่มเพื่อนเยอะเหมือนกัน เดี่ยวหาว่าคบกันอยู่ 2 คน แต่จะขอเล่าเฉพาะฉากที่มีแต่เรา 2 คน)
พอขึ้นไปถึงข้างบน เธอก็บ่นว่า แย่จังไม่มีใครอวยพรวันเกิดให้เลย ผมก็หยิบมือถือส่งข้องความไปว่า "Happy Birth Day"
เธอเปิดอ่าน และยิ้ม พูดว่าขอบใจจจจจจจ... ก่อนกลับเธอซื้อผ้าพันคอสีเขียวไปผืนหนึ่ง บอกจะเอาไปฝากผู้ชายคนหนึ่ง
(ผมคิดในใจว่าใครฟระะะะะ) อากาศเริ่มจะเย็น ก็แว๊นรถลงเขาสิครับ ให้ตายสิพับผ้า ฝนตกจ้า
แล้วฝนตก ยังกะอาบน้ำเย็น แต่ไม่เสียใจเลย
คนแรกที่ได้ใช้ผ้าพันคอผืนนั้น แม้สุดท้ายมันจะเป็นของคนอื่น (ใช่ครับเจ้าของตัวจริง คือว่าที่แฟนเธอ เป็นนายทหารคนหนึ่ง
ทีเคยเป็นรุ่นพี่ของเธอสมัยเรียนมัธยม ที่เพิ่งเริ่มจีบกัน แล้วสุดท้าย 2 คนก็ได้เป็นแฟนกัน) แต่นั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ
พอกลับลงมาข้างล่าง หน้าผมเขียวอื๋อเลย ผ้าพันคอสีตก และก็นอนซมเพราะพิษไข้ไปอีก 2 วัน (ไข้ใจด้วย)
...หลังจากวันนั้น เราก็สนิทกันมากกว่าเดิมอีก (ในฐานะเพื่อนเท่านั้น เพราะเธอมีแฟนแล้วจ้า) สนิทกันมาก มากจนคนอื่น
มองว่าเกินเลย คือผมชอบไปหาเธอที่ห้อง ซื้อข้าว ซื้อขนมไปกินกัน เช่าหนังไปดู นั่งเล่นเกม นั่งบนเตียงเดียวกัน
เธอก็อ่านหนังสือไป ผมก็เล่นเกมไป อยู่ด้วยกันสองต่อสองบ่อยๆ จนบางวันถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง
(แต่ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆนะครับ และก็บริสุทธิ์ใจด้วย) จนมีคนเตือนว่ามันดูไม่เหมาะสม ผมก็เลยเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
...ขึ้นปี 3 เธอเลิกกับแฟนที่เป็นนายทหาร สาเหตุเพราะพี่ทหารอยู่กรุงเทพ ส่วนเธออยู่เชียงใหม่ ระยะทางมันไกลเกินไป
ตอนนี้เธอผอมลงมากกว่าตอนปี 1 พอผอมแล้วอย่างสวย ก็มีหนุ่มคณะวิศวะมาจีบ เธอก็ปรึกษาผมอยู่บ่อยๆ ว่าคนนั้นเป็นยังไง
นิสัยดีไหม จริงใจรึปล่าว เราก็ให้คำแนะนำไป (แต่ในใจก็...รู้สึกไม่อยากให้มันมาจีบเธอเลย) สุดท้ายคู่นี้เป็นแฟนกัน คบกันจน
เรียนจบ ซึ่งช่วงขึ้นปี 3 นี้ ผมกับเธอก็ห่างๆ กันไป เพราะเธอมีแฟนแล้ว ผมก็ให้เวลากับเพื่อนๆ มากขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น
แต่ช่วงตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ผมก็ไม่เคยมีแฟน ถ้างั้นคงไม่มีเวลาเทคแคร์เธอได้ขนาดนั้นแน่นอน
...พอห่างกันไป ได้ซัก 3 เดือน ผมก็มีแฟนจ้า แต่เหมือนคบกันตามกระแส เป็นรุ่นน้องปี 2 เพื่อนยุให้จีบ เพราะน้องน่ารัก
ผมก็เลยจีบ จีบติดด้วย แต่ก็เป็นความรักแบบเด็กๆ ไม่เชิงความรักอ่ะ บอกไม่ถูก เหมือนคบกันตามกระแส ที่ต่างคนต่างไม่มีแฟน
พอเรียนจบก็เลิกกันไป
...เรียนจบ ได้มาทำงานจังหวัดเดียวกันกับเธอ แต่คนละบริษัทกับเธอ เพราะความห่างกันไป ทำให้ไม่สนิทกันเหมือนก่อน
ผมก็แวะเวียนไปหาเธอบ้าง 2-3 เดือนครั้ง แต่โทรหากันบ่อย ปรึกษาเรื่องงานบ้าง เรื่องชีวิตบ้าง ตอนเรียนจบเราทั้งคู่ต่างเลิกกับแฟน
...เธอมีคนมาจีบเป็นคนที่บริษัทเดียวกัน แต่ผมไม่เคยเห็นตัวจริง เห็นแต่ในเฟสบุ๊ค รู้แต่ว่า นิสัยดี เอาใจเก่ง แต่ไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่
(ไม่หล่อจริงๆ) เธอปลื้มเขามาก และคบกันได้ประมาณ 4 ปี (ซึ่งผมก็ไม่เคยไปหาเธออีกเลย หลังจากเธอมีแฟน เพราะมันไม่เหมาะ)
สุดท้ายก็เลิกกันครับ เพราะผู้ชายเคยมีเมียอยู่แล้ว และมีกิ๊กอีกด้วย (ไอ้พวกไม่หล่อแต่คารมณ์ดี นี่ร้ายจริงๆ) เธอจับได้ ก็เลยเลิกกัน
>>> วันที่เธอบอกเลิกกับผู้ชายคนนั้น เธอโทรมาคุยกับผมตั้งแต่ 2 ทุ่ม ยั้นเช้า ร้องไห้จนแทบหมดแรง ผมก็พยายามปลอบใจเธอ
ต่างๆ นานา ก่อนวางสายเธอพูดว่า "ถ้าฉันหาผู้ชายดีๆไม่ได้ แก...เรามาคบกันมั้ย" (ปกติเธอใช้คำว่า แก กับผม และเรียกตัวเองว่า ฉัน)
เธออาจจะพูดไปงั้นๆ หรือพูดเพื่อปลอบใจตัวเอง แต่ผมคนนี้นะคิดไปไกล แต่ก็พูดกลับไปแค่..."จะบ้าหรอ"
เธอทำใจได้เพียง 1 เดือน ก็พบรักครั้งใหม่ (ผมยังตกใจ ว่าทำไมมันไวไฟอย่างนี้) ผู้ชายคนนั้นอายุ 35 ปี ส่วนเธออายุ 27 ปี
ผู้ชายเป็นผู้จัดการ แต่อยู่คนละแผนกกับเธอ
.
.
.
จนล่าสุดเธอส่งไลน์มากบอกว่า "แก...ฉันจะแต่งงานแล้ว"
ผมตกใจมาก เพราะเพิ่งคบกันได้แค่ 6 เดือน ถึงกับจะแต่งงานกันเลยหรอวะ
ผมก็รับปากว่าจะไปร่วมงานแต่งที่บ้านของเธอ (เธอเป็นคนเหนือ) ผมขอลางานล่วงหน้า โดยขอลา 3 วัน
พอใกล้จะถึงวันแต่ง อีกวันเดียว ผมก็เปลี่ยนใจไม่ไปซะงั้น ความรู้สีกมันทำใจไม่ค่อยได้
สุดท้ายโทรไปบอกเธอว่า ติดงานด่วน ไปไม่ได้ (จริงๆ กินเหล้าอยู่ที่ห้อง 3 วันติดๆ)
เธอพึ่งแต่งงานไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง ขอให้เธอมีความสุขกับชีวิตคู่ สมหวังในรักตลอดไปนะเพื่อน
ผมก็ไม่รู้ใจตัวเอง ว่าที่ผ่านมาผมคิดอะไร กับเธอ แต่ก็ชอบนะ ที่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่มันอาจไม่ใช่ความรัก เพราะที่ผ่านมา
ผมไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลย แม้กระทั่งตอนนี้
*อยากรู้จัง ว่าที่ผ่านมา เธอ เคยมีความรู้สึกแบบนั้นกับเราบ้างไหมนะ*