ขอยืมไอดีเค้ามาโพสนะครับ ผมโพสเองไม่ได้
วันแม่ใครที่เขิลอายก็ถือโอกาศไปบอกรักพ่อและแม่ให้เต็มที่เลยนะครับ
ดูเลกันมานาน แม่นอนป่วย6ปี เพราะผ่าตัดสมอง ไม่สามารถช่วยตัวเองได้
พ่อต้องออกจากงาน เพื่อมาดูเลแม่ ใช้เงินเก็บที่มีทั้งหมดมารักษา
รวมถอนเงินประกันชีวิตของตัวเองมาเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ ( รู้ทั้งรู้ว่าถ้าตัวเองป่วย พ่อก็จะไม่มีเงินรักษาดูเลตัวเองอีก )
ผ่าแล้วผ่าอีกหลายครั้ง เพราะกระโหลกเทียมติดเชื้อ รวมผ่าเข้าผ่าออกจะเป็นสิบครั้งแล้ว
ชีวิตเจ็บปวดที่สุดเมื่อเห็นคนที่เรารักเข้ารับการรักษาโดยมีชีวิตเป็นเดิมพันกับการผ่าตัดสมอง พ่อร้องไห้ทุกครังที่แม่เข้าผ่าตัด
ปัจจุบันไม่ได้ใส่กระโหลกเทียมอีกแล้ว เพราะถ้าผ่าใส่อีก ก็คงจะติดเชื้ออีกแน่นอน
และมันก็เป็นการเสี่ยงชีวิตของแม่ ไม่ต้องการเห็นภาพตอนเข็นเตียงเข้าห้องผ่าตัดอีก
ตอนเข้าไปมีชีวิตยังคุยกันได้บ้าง แต่กลัวตอนออกมา จะไม่กลับมาเหมือนเดิม
เข้าไปแต่ละครั้ง กลับออกมาแย่ลงกว่าเดิมทุกครั้ง จากซีกซ้ายเคยขยับได้ ตอนนี้ขยับไม่ได้ ยิ่งผ่ายิ่งแย่ลง ไม่ได้ดีขึ้นเลย
ตอนที่แม่นอนอยู่โรงพยาบาล พ่อก็จะไปโรงบาลแต่เช้าก่อนเปิดให้เยียม เวลากลับก็จะกลับจนหมดเวลาเยียม
จนอาการดีขึ้นหมอก็ให้กลับมาอยู่บ้าน ดูเลกันมาตลอด ไม่เคยห่างกันเลย
ตอนพ่อป่วย พ่อก็ขอหมอกลับมานอนอยู่บ้าน ( หมอให้กลับเพราะไม่มีทางรักษาแล้ว )
พอมาถึงเตียงนอนพ่อก็เอื้อมมือไปจับมือแม่ บอกพ่อกลับมาแล้วนะ คึดถึงมั้ย เดียวพ่อก็หายแล้ว
( พ่อไม่รู้เลยว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร และอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะไม่มีใครกล้าบอกว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3เดือน )
แต่สุดท้าย ก็ต้องจากกันแบบไม่มีวันได้กลับ เพราะพ่อป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย
เพียงแค่สองเดือนที่ตรวจพบ ก็มาเสียอย่ากระทันหัน
ความหวังของพ่อคือ อยากให้แม่กลับมาเดินได้อีกครั้ง
ตอนนี้สงสารแม่ แม่มักจะบอกว่าคิดถึงพ่อ ช่วงที่พ่อป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล แม่ก็ถามว่าเมื่อไหลพ่อจะหาย เมื่อไหลพ่อจะกลับบ้าน
วันที่พ่อผมเสียยังไม่ได้บอกแม่ให้รู้ และทุกคนปิดเป็นความลับ เพราะกลัวแม่ทำใจไม่ได้
วันนั้นฝนตก แม่บอกว่าเอาผ้าห่มไปให้พ่อ พ่อไม่มีผ้าห่ม เดียวพ่อหนาว
แม่บอกให้ผมเอาผ้าห่มไปให้พ่อและดูเลพ่อที่โรงบาล ผมได้เลยบอกไปว่าที่โรงบาลมีผ้าห่มแล้ว หมอดูเลอย่างดีไม่ต้องเป็นห่วงนะแม่
ตอนนั้นผมพูดแทบไม่ออก บอกเสร็จก็รีบเอาน้ำให้แม่กิน เพื่อจะได้เปลี่ยนเรื่องคุย มันเป็นคำพูดที่สะเทือนใจที่สุด
อยากบอกความจริงแต่ไม่รู้จะบอกยังไง
เพราะต้องรออีก2วัน รอให้น้องของแม่มาช่วยบอกและอยู่เป็นเพื่อน เพื่อให้เค้าไม่รู้สึกว่าเค้าอยู่ตัวคนเดียว ย่างน้อยๆก็ยังมีน้องๆของเค้าอยู่เป็นเพื่อน
วันที่เอาดอกไม้จันไปให้แม่ แม่อธิษฐานว่า ขอให้ไปดีนะ ชาตินี้หูไม่ดีตาไม่ดี ก็ขอให้ชาติหน้า หูดี ตาดี อะไรที่ดีๆก็ขอให้ได้นะ
ปัจจุบันก็ให้น้องชายออกจากงานมาอยู่บ้าน ดูเลย่าและแม่ที่ป่วย มานั่งๆคิดดูแล้ว ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายจริงๆ
ปัจจุบันย่าก็ป่วย หมอบอกอาจจะอยู่ไม่เกิน 6-7เดือน ตอนนี้ก็เข้าเดือนที่8แล้ว ตอนนี้ย่าเหนื่อยง่ายมากเห็นได้ชัดแจน
บางครั้งก็ขึ้นบ้านไม่ไหวน้องชายผมต้องอุ้มขึ้นบ้าน ย่าไม่รู้เลยว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร
บอกแค่ว่าน้ำท่วมปอด ทั้งๆที่ความจริงย่าป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
ตอนนี้คิดไม่ออก บอกไม่ถูกเลยว่าถ้าย่าไม่อยู่จะเป็นยังไงต่อไป เพราะย่าก็เลี้ยงผม เหมือนเป็นแม่อีกคนนึง
ช่วงที่หยุดงานก็อยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านให้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้
เรื่องยาวกว่านี้นะครับแต่ผมเขียนไม่แก่ง เลยขอเขียนแบบสั้นๆแล้วกันนะครับ
พอดีได้มาเห็นโฆษณานี้เลยทำให้คิดถึงตัวเอง ว่าชะตากรรมเหมือนกันเลย
ในโฆษณาว่าหนักแล้ว ที่ผมเจอน่าจะหนักไม่แพ้กัน เพียงแต่ ของผมชีวิตจริง และทุกคนในบ้านป่วย
เคยนอนป่วยเป็นเดือนเป็นโรคบ้านหมุนเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ / รถล้ม / ก็ไม่เคยจะบอกให้ที่บ้านรู้ กลัวที่บ้านจะเป็นห่วง
เงินไม่มีก็ต้องบอกมี มี1200 ให้1000 ผมเหลือ 200 จะเอาอะไรผมหาให้ทุกอย่างเท่าที่จะหาให้ได้ ยาอะไรที่ว่าดีก็ซื้อให้
ไม่ได้มาช่วยโฆษณานะครับ แต่เห็นแล้วเลยทำให้อยากบอกคนที่กำลังคิดว่าชีวิตสิ้นหวังแล้ว ถ้าเรายังคงมีพ่อ มีแม่อยู่ ยังไงก็ไม่หมดหวังครับ
ทำเพื่อพ่อแม่ ตอนที่ท่านยังอยู่ ดูเลท่านให้ดีที่สุด ก่อนที่ท่านจะไม่อยู่กับเรา นะครับ

ขอขอบคุณเพลง ( เธอ - COCKTAIL )
ชีวิตจริง เรื่องจริง ยิ่งกว่านิยาย
วันแม่ใครที่เขิลอายก็ถือโอกาศไปบอกรักพ่อและแม่ให้เต็มที่เลยนะครับ
ดูเลกันมานาน แม่นอนป่วย6ปี เพราะผ่าตัดสมอง ไม่สามารถช่วยตัวเองได้
พ่อต้องออกจากงาน เพื่อมาดูเลแม่ ใช้เงินเก็บที่มีทั้งหมดมารักษา
รวมถอนเงินประกันชีวิตของตัวเองมาเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ ( รู้ทั้งรู้ว่าถ้าตัวเองป่วย พ่อก็จะไม่มีเงินรักษาดูเลตัวเองอีก )
ผ่าแล้วผ่าอีกหลายครั้ง เพราะกระโหลกเทียมติดเชื้อ รวมผ่าเข้าผ่าออกจะเป็นสิบครั้งแล้ว
ชีวิตเจ็บปวดที่สุดเมื่อเห็นคนที่เรารักเข้ารับการรักษาโดยมีชีวิตเป็นเดิมพันกับการผ่าตัดสมอง พ่อร้องไห้ทุกครังที่แม่เข้าผ่าตัด
ปัจจุบันไม่ได้ใส่กระโหลกเทียมอีกแล้ว เพราะถ้าผ่าใส่อีก ก็คงจะติดเชื้ออีกแน่นอน
และมันก็เป็นการเสี่ยงชีวิตของแม่ ไม่ต้องการเห็นภาพตอนเข็นเตียงเข้าห้องผ่าตัดอีก
ตอนเข้าไปมีชีวิตยังคุยกันได้บ้าง แต่กลัวตอนออกมา จะไม่กลับมาเหมือนเดิม
เข้าไปแต่ละครั้ง กลับออกมาแย่ลงกว่าเดิมทุกครั้ง จากซีกซ้ายเคยขยับได้ ตอนนี้ขยับไม่ได้ ยิ่งผ่ายิ่งแย่ลง ไม่ได้ดีขึ้นเลย
ตอนที่แม่นอนอยู่โรงพยาบาล พ่อก็จะไปโรงบาลแต่เช้าก่อนเปิดให้เยียม เวลากลับก็จะกลับจนหมดเวลาเยียม
จนอาการดีขึ้นหมอก็ให้กลับมาอยู่บ้าน ดูเลกันมาตลอด ไม่เคยห่างกันเลย
ตอนพ่อป่วย พ่อก็ขอหมอกลับมานอนอยู่บ้าน ( หมอให้กลับเพราะไม่มีทางรักษาแล้ว )
พอมาถึงเตียงนอนพ่อก็เอื้อมมือไปจับมือแม่ บอกพ่อกลับมาแล้วนะ คึดถึงมั้ย เดียวพ่อก็หายแล้ว
( พ่อไม่รู้เลยว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร และอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะไม่มีใครกล้าบอกว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3เดือน )
แต่สุดท้าย ก็ต้องจากกันแบบไม่มีวันได้กลับ เพราะพ่อป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย
เพียงแค่สองเดือนที่ตรวจพบ ก็มาเสียอย่ากระทันหัน
ความหวังของพ่อคือ อยากให้แม่กลับมาเดินได้อีกครั้ง
ตอนนี้สงสารแม่ แม่มักจะบอกว่าคิดถึงพ่อ ช่วงที่พ่อป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล แม่ก็ถามว่าเมื่อไหลพ่อจะหาย เมื่อไหลพ่อจะกลับบ้าน
วันที่พ่อผมเสียยังไม่ได้บอกแม่ให้รู้ และทุกคนปิดเป็นความลับ เพราะกลัวแม่ทำใจไม่ได้
วันนั้นฝนตก แม่บอกว่าเอาผ้าห่มไปให้พ่อ พ่อไม่มีผ้าห่ม เดียวพ่อหนาว
แม่บอกให้ผมเอาผ้าห่มไปให้พ่อและดูเลพ่อที่โรงบาล ผมได้เลยบอกไปว่าที่โรงบาลมีผ้าห่มแล้ว หมอดูเลอย่างดีไม่ต้องเป็นห่วงนะแม่
ตอนนั้นผมพูดแทบไม่ออก บอกเสร็จก็รีบเอาน้ำให้แม่กิน เพื่อจะได้เปลี่ยนเรื่องคุย มันเป็นคำพูดที่สะเทือนใจที่สุด
อยากบอกความจริงแต่ไม่รู้จะบอกยังไง
เพราะต้องรออีก2วัน รอให้น้องของแม่มาช่วยบอกและอยู่เป็นเพื่อน เพื่อให้เค้าไม่รู้สึกว่าเค้าอยู่ตัวคนเดียว ย่างน้อยๆก็ยังมีน้องๆของเค้าอยู่เป็นเพื่อน
วันที่เอาดอกไม้จันไปให้แม่ แม่อธิษฐานว่า ขอให้ไปดีนะ ชาตินี้หูไม่ดีตาไม่ดี ก็ขอให้ชาติหน้า หูดี ตาดี อะไรที่ดีๆก็ขอให้ได้นะ
ปัจจุบันก็ให้น้องชายออกจากงานมาอยู่บ้าน ดูเลย่าและแม่ที่ป่วย มานั่งๆคิดดูแล้ว ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายจริงๆ
ปัจจุบันย่าก็ป่วย หมอบอกอาจจะอยู่ไม่เกิน 6-7เดือน ตอนนี้ก็เข้าเดือนที่8แล้ว ตอนนี้ย่าเหนื่อยง่ายมากเห็นได้ชัดแจน
บางครั้งก็ขึ้นบ้านไม่ไหวน้องชายผมต้องอุ้มขึ้นบ้าน ย่าไม่รู้เลยว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร
บอกแค่ว่าน้ำท่วมปอด ทั้งๆที่ความจริงย่าป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
ตอนนี้คิดไม่ออก บอกไม่ถูกเลยว่าถ้าย่าไม่อยู่จะเป็นยังไงต่อไป เพราะย่าก็เลี้ยงผม เหมือนเป็นแม่อีกคนนึง
ช่วงที่หยุดงานก็อยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านให้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้
เรื่องยาวกว่านี้นะครับแต่ผมเขียนไม่แก่ง เลยขอเขียนแบบสั้นๆแล้วกันนะครับ
พอดีได้มาเห็นโฆษณานี้เลยทำให้คิดถึงตัวเอง ว่าชะตากรรมเหมือนกันเลย
ในโฆษณาว่าหนักแล้ว ที่ผมเจอน่าจะหนักไม่แพ้กัน เพียงแต่ ของผมชีวิตจริง และทุกคนในบ้านป่วย
เคยนอนป่วยเป็นเดือนเป็นโรคบ้านหมุนเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ / รถล้ม / ก็ไม่เคยจะบอกให้ที่บ้านรู้ กลัวที่บ้านจะเป็นห่วง
เงินไม่มีก็ต้องบอกมี มี1200 ให้1000 ผมเหลือ 200 จะเอาอะไรผมหาให้ทุกอย่างเท่าที่จะหาให้ได้ ยาอะไรที่ว่าดีก็ซื้อให้
ไม่ได้มาช่วยโฆษณานะครับ แต่เห็นแล้วเลยทำให้อยากบอกคนที่กำลังคิดว่าชีวิตสิ้นหวังแล้ว ถ้าเรายังคงมีพ่อ มีแม่อยู่ ยังไงก็ไม่หมดหวังครับ
ทำเพื่อพ่อแม่ ตอนที่ท่านยังอยู่ ดูเลท่านให้ดีที่สุด ก่อนที่ท่านจะไม่อยู่กับเรา นะครับ
ขอขอบคุณเพลง ( เธอ - COCKTAIL )