การอุบัติของ พระเจ้า

[๑๓] ดูกรภัคควะ อนึ่ง เราย่อมทราบชัดซึ่งสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศทั้ง รู้ชัดยิ่งกว่านั้น
และไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย เมื่อไม่ยึดมั่น จึงทราบความดับ ได้เฉพาะตน ฉะนั้น ตถาคตจึงไม่ถึงทุกข์ ฯ

ดูกรภัคควะ มีสมณพราหมณ์บางพวกบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ว่า พระอิศวรทำให้ว่าพระพรหมทำให้ ตามลัทธิอาจารย์
เราจึงเข้าไปถามเขาอย่างนี้ว่า ได้ยินว่า ท่านทั้งหลายบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ว่าพระอิศวรทำให้ ว่าพระ พรหมทำให้ ตามลัทธิอาจารย์จริงหรือ?
สมณพราหมณ์เหล่านั้น ถูกเราถามอย่างนี้ แล้วยืนยันว่า เป็นเช่นนั้น

เราจึงถามต่อไปว่า พวกท่านบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่า เลิศว่าพระอิศวรทำให้ ว่าพระพรหมทำให้
ตามลัทธิอาจารย์มีแบบอย่างไร ?
สมณพราหมณ์เหล่านั้นถูกเราถามอย่างนี้ เมื่อตอบ ไม่ถูก จึงย้อนถามเรา

เราถูกถามแล้วจึงพยากรณ์ว่า

ท่านทั้งหลาย มีสมัยบางครั้งบางคราวโดยระยะกาลยืดยาวช้านาน
ที่โลกนี้จะพินาศ เมื่อโลกกำลังพินาศอยู่ โดยมากเหล่าสัตว์ย่อมเกิดใน ชั้นอาภัสสร
สัตว์เหล่านั้นได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหาร มีรัศมีซ่านออก จากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ
อยู่ในวิมานอันงาม สถิตอยู่ในภพนั้นสิ้น กาลยืดยาวช้านาน ฯ

ดูกรท่านทั้งหลาย มีสมัยบางครั้งบางคราวโดยระยะกาลยืดยาวช้านาน ที่โลกนี้จะกลับเจริญ
เมื่อโลกกำลังเจริญอยู่ วิมานของพรหมปรากฎว่าว่างเปล่า
ครั้งนั้น สัตว์ผู้ใดผู้หนึ่งจุติ(ตาย) จากชั้นอาภัสสร เพราะสิ้นอายุหรือสิ้นบุญ
ย่อมเข้าถึงวิมานพรหมที่ว่างเปล่า

แม้สัตว์ผู้นั้นก็ได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหารมี รัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงามสถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน
เพราะสัตว์นั้นอยู่แต่ ผู้เดียว เป็นเวลานานจึงเกิดความ กระสันความดิ้นรนขึ้นว่า!
โอหนอ !
แม้สัตว์เหล่าอื่นก็พึงมาเป็นอย่างนี้บ้าง
ต่อมา
สัตว์เหล่าอื่นก็จุติจากชั้นอาภัสสร(ตายทีหลัง)
เพราะสิ้นอายุหรือเพราะสิ้นบุญ ย่อมเข้า ถึงวิมานพรหมที่ว่าง เป็นสหายของสัตว์ผู้นั้น แม้สัตว์พวกนั้นก็ได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหาร มี
รัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงาม สถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน ฯ

ดูกรท่านทั้งหลาย บรรดาสัตว์จำพวกนั้น ผู้ใดเกิดก่อน ผู้นั้นย่อมมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า
เราเป็นพรหม เราเป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ไม่มีใครข่มได้ เห็นถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ
เป็นอิศวร เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้บงการ เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดาของหมู่สัตว์
ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น สัตว์ เหล่านี้ เราเนรมิตขึ้น


ข้อนั้นเพราะเหตุไร?

เพราะว่า เรา(สัตว์)ได้มีความคิดอย่างนี้ ก่อนแล้วว่า โอหนอแม้สัตว์เหล่าอื่นก็พึงมาเป็นอย่างนี้บ้าง!
ความตั้งใจของเราเป็นเช่นนี้และ สัตว์เหล่านี้ก็ได้มาเป็นอย่างนี้แล้ว

แม้พวกสัตว์ที่เกิดภายหลัง
ก็มีความคิดเห็นอย่างนี้ว่าท่านผู้เจริญนี้แลเป็นพรหม เป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ ไม่มีใครข่มได้ เห็นถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ
เป็นอิศวร เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้บงการ เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดา
ของหมู่สัตว์ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น พวก เราอันพระพรหมผู้เจริญนี้นิรมิตแล้ว

ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะว่าพวกเราได้เห็น ท่านพรหมผู้นี้เกิดก่อน!
ส่วนพวกเราเกิดภายหลัง !ฯ

ดูกรท่านทั้งหลาย บรรดาสัตว์จำพวกนั้นสัตว์ใดเกิดก่อน สัตว์นั้นมีอายุ ยืนกว่า
มีผิวพรรณงามกว่า มีศักดิ์มากกว่า
ส่วนสัตว์ที่เกิดภายหลังมีอายุน้อย กว่า มีผิวพรรณทรามกว่า
มีศักดิ์น้อยกว่า


(จบกำเนิดพระเจ้า)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่