สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่ว่าคุณจะนับถือ หรือไม่นับถือศาสนาใดก็ตาม ..ถ้าคุณกินเกลือ คุณก็รู้สึกเค็ม คุณกินน้ำตาลคุณก็รู้สึกหวาน คุณโดดลงน้ำคุณก็เปียก คุณโดดลงในกองไฟคุณก็โดนไฟไหม้ ร้อน ..ฯลฯ ไม่มีข้อยกเว้น ... เพราะเรื่องเหล่านั้น เป็นความจริง เป็นธรรมชาติ
ทำนองเดียวกัน การที่คนเราหรือสัตว์ทั้งหลายจะไปเกิดในภพภูมิไหน ก็ตาม เช่น นรก สวรรค์ หรือเป็นเปรต เป็นสัตว์ หรืออื่นๆใดๆก็ตาม ฯลฯ ... ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของความเป็นไปของจิต ไม่เกี่ยวว่าจะนับถือหรือไม่นับถือศาสนาใดๆ
เช่น ถ้าคุณนับถือศาสนา แต่คุณ คิด พูด กระทำ แต่เรื่องที่เป็น โลภ โกรธ หลง เป็นส่วนมาก นั่นก็คือ โอกาสเป็นไปได้สูงที่คุณจะไปเกิดในภพภูมิที่มีสภาพจิตแบบเดียวกันนั้น มันดึงดูดไปอยู่ด้วยกันเองตามธรรมชาติ เช่น ถ้ามีความโลภมาก ก็ไปเกิดในภพภูมิที่จิตแต่ละดวงมีแต่ความโลภ คือ ภูมิของเปรต ..ถ้ามีความหลงมาก ก็ไปเกิดในภพภูมิของพวกจิตที่มีความหลงมาก คือพวกสัตว์ต่างๆ ...ถ้ามีความโกรธมาก ก็ไปเกิดในภพภูมิของจิตที่มีความโกรธมาก คือ นรก เป็นต้น ...
ในทางตรงข้าม แม้คุณจะไม่นับถือศาสนาใดๆก็ตาม ถ้าจิตของคุณมีสภาพดี มีสภาพของ ความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เป็นส่วนใหญ่ มีความเมตตากรุณา ไม่ริษยาใคร เป็นต้น เหล่านั้น จิตของคุณก็จะมีความสุข เบาสบาย เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและสติปัญญา ..เมื่อคุณตายไป จิตของคุณก็จะไปรวมกลุ่ม หรือไปเกิดกับพวกที่มีจิตประเภทเดียวกันนี้ เช่น พวกสวรรค์ชั้นต่างๆ หรืออย่างต่ำก็เกิดเป็นมนุษย์ ..
ใครมีจิตแบบไหน ก็มักจะไปเกาะกลุ่ม ไปสมาคมกับคนที่มีจิตแบบเดียวกับตน เช่น คนชอบเล่นกล้วยไม้ ก็มักจะไปสมาคมกับบรรดานักเล่นกล้วยไม้ คนชอบเลี้ยงแมว ก็มักจะไปสมาคมกับคนชอบเลี้ยงแมวด้วยกัน คนชอบลักขโมย ก็จะมักจะไปสมาคมกับพวกหัวขโมย เหมือนตน ...เป็นต้น ฯลฯ ซึ่งเราก็เห็นอยู่ในสังคมมนุษย์นี้ เมื่อใครตายไป จิตก็จะไปเกิดในภพภูมิกับพวกที่มีจิตแบบเดียวกับตน นั่นเอง...
เช่นตอนนี้ พวกที่ชอบการฆ่า ชอบสงคราม จิตมีรสนิยมในด้านนี้ ก็เดินทางเข้าไปในประเทศตะวันออกกลาง เพื่อถืออาวุธออกไปรบ ไปฆ่ากัน ไปรวมกลุ่มกันที่นั่น
ทำนองเดียวกัน การที่คนเราหรือสัตว์ทั้งหลายจะไปเกิดในภพภูมิไหน ก็ตาม เช่น นรก สวรรค์ หรือเป็นเปรต เป็นสัตว์ หรืออื่นๆใดๆก็ตาม ฯลฯ ... ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของความเป็นไปของจิต ไม่เกี่ยวว่าจะนับถือหรือไม่นับถือศาสนาใดๆ
เช่น ถ้าคุณนับถือศาสนา แต่คุณ คิด พูด กระทำ แต่เรื่องที่เป็น โลภ โกรธ หลง เป็นส่วนมาก นั่นก็คือ โอกาสเป็นไปได้สูงที่คุณจะไปเกิดในภพภูมิที่มีสภาพจิตแบบเดียวกันนั้น มันดึงดูดไปอยู่ด้วยกันเองตามธรรมชาติ เช่น ถ้ามีความโลภมาก ก็ไปเกิดในภพภูมิที่จิตแต่ละดวงมีแต่ความโลภ คือ ภูมิของเปรต ..ถ้ามีความหลงมาก ก็ไปเกิดในภพภูมิของพวกจิตที่มีความหลงมาก คือพวกสัตว์ต่างๆ ...ถ้ามีความโกรธมาก ก็ไปเกิดในภพภูมิของจิตที่มีความโกรธมาก คือ นรก เป็นต้น ...
ในทางตรงข้าม แม้คุณจะไม่นับถือศาสนาใดๆก็ตาม ถ้าจิตของคุณมีสภาพดี มีสภาพของ ความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เป็นส่วนใหญ่ มีความเมตตากรุณา ไม่ริษยาใคร เป็นต้น เหล่านั้น จิตของคุณก็จะมีความสุข เบาสบาย เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและสติปัญญา ..เมื่อคุณตายไป จิตของคุณก็จะไปรวมกลุ่ม หรือไปเกิดกับพวกที่มีจิตประเภทเดียวกันนี้ เช่น พวกสวรรค์ชั้นต่างๆ หรืออย่างต่ำก็เกิดเป็นมนุษย์ ..
ใครมีจิตแบบไหน ก็มักจะไปเกาะกลุ่ม ไปสมาคมกับคนที่มีจิตแบบเดียวกับตน เช่น คนชอบเล่นกล้วยไม้ ก็มักจะไปสมาคมกับบรรดานักเล่นกล้วยไม้ คนชอบเลี้ยงแมว ก็มักจะไปสมาคมกับคนชอบเลี้ยงแมวด้วยกัน คนชอบลักขโมย ก็จะมักจะไปสมาคมกับพวกหัวขโมย เหมือนตน ...เป็นต้น ฯลฯ ซึ่งเราก็เห็นอยู่ในสังคมมนุษย์นี้ เมื่อใครตายไป จิตก็จะไปเกิดในภพภูมิกับพวกที่มีจิตแบบเดียวกับตน นั่นเอง...
เช่นตอนนี้ พวกที่ชอบการฆ่า ชอบสงคราม จิตมีรสนิยมในด้านนี้ ก็เดินทางเข้าไปในประเทศตะวันออกกลาง เพื่อถืออาวุธออกไปรบ ไปฆ่ากัน ไปรวมกลุ่มกันที่นั่น
แสดงความคิดเห็น
ถ้าไม่มีศาสนา.....จะผิดไหมแล้วต้องตกนรกมั้ย??
อยากถามว่าผมผิดไหมแปลกหรือไม่ที่ไม่มีศาสนาแล้วเรื่องเวรกรรมจะมีไหมถ้าผมฆ่าสัตว์(ยกตัวอย่างว่าฆ่าสัตว์)
และผมเคยได้ฟังจากเพื่อนที่ไปบวชมาบอกว่า ถ้าคนที่ไม่มีศาสนาตายไปจะต้องไปอยู่ที่ห้อง1000ห้อง(อะไรสักอย่างจำไม่ได้ครับ) พอไปอยู่ที่ห้องนั้นก็จะได้รับคำตัดสินจาก ยมพบาล ว่าจะไปสวรรค์หรือนรก ผมอยากรู้ว่าจริงหรือไม่