หาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หาก นายเทพไท เสนพงศ์
แกนนำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดภาคใต้ ไม่ออกมาพูด
เราคงไม่รู้ว่ายางพารามีราคาเพียง 50 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
เพราะเรื่องนี้ไม่เคยมีการรายงานรายละเอียดไปให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้รับทราบมาก่อน
ไม่ว่าจากสภาเกษตรกรแห่งประเทศไทย
ไม่ว่าจากสมาคมและกลุ่มผู้ประกอบการสวนยางพาราจากภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่สำนวนอีสานว่า มิดอิมซิม
พลันที่ข้อมูลและความเป็นจริงหลุดออกมาจากปากของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
และ นายเทพไท เสนพงศ์ ก็ต้องยอมรับว่าน่าตกใจ เพราะราคาตกลงมาเหลือเพียงกิโลกรัมละ 50 บาท
หากหวนไปถึงสภาพการลุกขึ้นมาเรียกร้องของชาวสวนยางพาราภาคใต้
ในเดือนสิงหาคม 2556 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคใต้
ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
เมื่อเดือนสิงหาคม 2556 ราคายางพาราอยู่ที่ 80 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
ปรากฏว่าสร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้กับชาวสวนยางพารา
กระทั่งเกิด ชะอวดโมเดล ขึ้นที่นครศรีธรรมราช
กระทั่งชาวสวนยางนัดชุมนุมครั้งใหญ่ทั่วประเทศ แต่บังเอิญที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สามารถปลดชนวนได้ทางภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จึงเหลือการปิดถนนใหญ่เฉพาะที่สุราษฎร์ธานีในเดือนกันยายน
เรียกร้องให้ปรับราคาเป็น 120 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
จาก 80 บาทต่อ 1 กิโลกรัมตกลงมาอยู่ที่ 50 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
แต่ปฏิกิริยาอันปรากฏต่อสาธารณะมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ไม่มี ข่าว จากแกนนำผู้ประกอบการสวนยางพารา
ไม่มี ข่าว การเคลื่อนไหวจากนักการเมืองอันแนบแน่นอยู่กับทุกข์สุขของประชาชน
ไม่ว่าจะจากนครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะจากตรัง ไม่ว่าจะจากสงขลา
เท่ากับว่าชาวสวนยางมีความพอใจ รับได้ ไม่เดือดร้อน
เท่ากับสะท้อนว่าการลุกฮือขึ้นมาในเดือนสิงหาคม กันยายน 2556
เสมอเป็นเพียงการลุกฮือในทางการเมืองโดยอ้างเหตุผลในทางเศรษฐกิจ
เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายก็เงียบและนิ่งสนิท
หากศึกษาปรากฏการณ์อันแสดงออกในเดือนพฤศจิกายน 2556 ถึงเดือนพฤษภาคม 2557 ก็จะเห็น
เห็นอย่างเด่นชัดว่า การเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นการ ชัตดาวน์
ไม่ว่าจะเป็นการ ยึด สถานที่ราชการก็ดำเนินไปเหมือนกับกรณี ชะอวด โมเดล
เสมอเป็นเพียงการพิสูจน์ ทฤษฎีสมคบคิด ในทางการเมือง
ที่มา..
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qWTBOakV6TkE9PQ==§ionid= 
การเมือง การยาง บทเรียน ชะอวด โมเดล ราคายาง ณ วันนี้
แกนนำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดภาคใต้ ไม่ออกมาพูด
เราคงไม่รู้ว่ายางพารามีราคาเพียง 50 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
เพราะเรื่องนี้ไม่เคยมีการรายงานรายละเอียดไปให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้รับทราบมาก่อน
ไม่ว่าจากสภาเกษตรกรแห่งประเทศไทย
ไม่ว่าจากสมาคมและกลุ่มผู้ประกอบการสวนยางพาราจากภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่สำนวนอีสานว่า มิดอิมซิม
พลันที่ข้อมูลและความเป็นจริงหลุดออกมาจากปากของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
และ นายเทพไท เสนพงศ์ ก็ต้องยอมรับว่าน่าตกใจ เพราะราคาตกลงมาเหลือเพียงกิโลกรัมละ 50 บาท
หากหวนไปถึงสภาพการลุกขึ้นมาเรียกร้องของชาวสวนยางพาราภาคใต้
ในเดือนสิงหาคม 2556 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคใต้
ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
เมื่อเดือนสิงหาคม 2556 ราคายางพาราอยู่ที่ 80 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
ปรากฏว่าสร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้กับชาวสวนยางพารา
กระทั่งเกิด ชะอวดโมเดล ขึ้นที่นครศรีธรรมราช
กระทั่งชาวสวนยางนัดชุมนุมครั้งใหญ่ทั่วประเทศ แต่บังเอิญที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สามารถปลดชนวนได้ทางภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จึงเหลือการปิดถนนใหญ่เฉพาะที่สุราษฎร์ธานีในเดือนกันยายน
เรียกร้องให้ปรับราคาเป็น 120 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
จาก 80 บาทต่อ 1 กิโลกรัมตกลงมาอยู่ที่ 50 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
แต่ปฏิกิริยาอันปรากฏต่อสาธารณะมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ไม่มี ข่าว จากแกนนำผู้ประกอบการสวนยางพารา
ไม่มี ข่าว การเคลื่อนไหวจากนักการเมืองอันแนบแน่นอยู่กับทุกข์สุขของประชาชน
ไม่ว่าจะจากนครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะจากตรัง ไม่ว่าจะจากสงขลา
เท่ากับว่าชาวสวนยางมีความพอใจ รับได้ ไม่เดือดร้อน
เท่ากับสะท้อนว่าการลุกฮือขึ้นมาในเดือนสิงหาคม กันยายน 2556
เสมอเป็นเพียงการลุกฮือในทางการเมืองโดยอ้างเหตุผลในทางเศรษฐกิจ
เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายก็เงียบและนิ่งสนิท
หากศึกษาปรากฏการณ์อันแสดงออกในเดือนพฤศจิกายน 2556 ถึงเดือนพฤษภาคม 2557 ก็จะเห็น
เห็นอย่างเด่นชัดว่า การเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นการ ชัตดาวน์
ไม่ว่าจะเป็นการ ยึด สถานที่ราชการก็ดำเนินไปเหมือนกับกรณี ชะอวด โมเดล
เสมอเป็นเพียงการพิสูจน์ ทฤษฎีสมคบคิด ในทางการเมือง
ที่มา..
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qWTBOakV6TkE9PQ==§ionid=