ในวัยเด็กไม่ค่อยมีความปลอดภัยในชีวิตมากนักเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ เพราะเด็กๆยังไม่สามารถดูแลตัวเองและตระหนักรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆได้ดีเพียงพอ เด็กๆยังรู้สึกมีความสุขและความสนุกสนานอยู่มาก มองโลกในแง่ดีตลอดจนไม่มองอันตรายที่อยู่ข้างหน้า แต่เราก็สามารถช่วยให้เด็กๆมีความปลอดภัยได้หากทำตาม 10 อันดับดังนี้คือ
10.อย่าแบกสัมภาระมากเกินความจำเป็น
เราอย่าปล่อยให้เด็กๆแบกสัมภาระมากเกินไป หรือแบกของหนักๆมากเกินไป ซึ่งอาจจะมีคนแปลกหน้าอาจจ้องมองความเคลื่อนไหวของเด็กๆก็ได้ แนวทางที่ปลอดภัยก็คืออย่าให้เด็กๆแบกของมากเกินไป หรือมีของอันตรายติดตัวอย่างของมีคมต่างๆ แม้ว่าจะเป็นการป้องกัน แต่สำหรับเด็กๆแล้วอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเขาเองก็ได้ เพราะอาจเป็นความไม่รู้เท่าถึงการณ์เอง
9.ตรวจสอบความปลอดภัยให้ดีๆ
แน่นอนว่าเราจะต้องสอนให้เด็กๆรู้จักระมัดระวังตัวเอง จะทำให้เด็กๆฝึกฝนเรื่องนี้จนเราคลายความกังวลใจได้น้อยลง อย่างเช่น การที่ปล่อยให้เด็กๆอยู่บ้านตามลำพังหรือมีคนแปลกหน้าเข้ามาเคาะประตูบ้านของเรา เด็กๆก็จะต้องตรวจสอบความปลอดภัยของตัวเองให้ดีๆก่อนว่า จะเปิดประตูดีหรือไม่ และหากเด็กๆจะเดินออกไปข้างนอก ก็ต้องหมั่นเช็คความปลอดภัยก่อนทุกๆครั้ง
8.ระมัดระวังภัยต่างๆที่อยู่รอบตัว
เด็กๆทุกคนควรที่จะได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิต เมื่อเจอกับภัยอะไรต่างๆเข้ามา พวกเขาอาจจะเข้าไปอยากรู้อยากเห็นสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเราจะต้องบ่มเพาะเรื่องนี้ให้กับเด็กๆว่า เมื่อเจออะไรที่มันไม่เข้าท่า อย่าไปเข้าใกล้เป็นอันขาด อยู่ห่างๆเอาไว้ เรื่องนี้เราจะต้องใช้เวลามากพอสมควร สุดท้ายเด็กๆก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เราได้บ่มเพาะเอาไว้ และสามารถดูแลตัวเองได้ดีขึ้นกว่าเดิม
7.จะต้องเดินทางในบริเวณพื้นที่คุ้นชินเท่านั้น
ในช่วงเวลาที่เด็กๆหลายคนได้ออกเดินทาง บางครั้งเด็กๆก็อาจจะเจอกับคนแปลกหน้าบ้าง ยิ่งหากเป็นพื้นที่ที่เด็กๆยังไม่มีความคุ้นชินด้วยแล้ว ก็ยิ่งกระทบต่อความปลอดภัยของเด็กๆมากขึ้นเท่านั้น จะเป็นเรื่องดีมากหากเราสอนให้เด็กๆคุ้นชินกับการเดินทางโดยใช้เส้นทางที่มีความปลอดภัยมากที่สุดและมีความเสี่ยงน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อไร
6.ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
โลกของเราทุกวันนี้ดูเหมือนจะมีความรุนแรงมากขึ้นทุกๆวัน เด็กๆจึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษและตื่นตัวกับภัยอันตรายใกล้ตัวอยู่เสมอ ไม่แปลกหรอกที่เด็กๆทุกวันนี้ก็ฉลาดมากกว่าพวกเราเสียด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็ยังไร้เดียงสากับเรื่องพวกนี้อยู่มาก หากเจอกับสถานการณ์ที่รุนแรงอย่างเช่น การก่อจลาจลหรือการทะเลาะวิวาทตามที่ต่างๆแล้ว ก็ต้องรีบออกไปให้ไกลๆโดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้อะไรทั้งสิ้น
5.คนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่เด็กๆจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เด็กๆได้รับความปลอดภัยก็คือ การที่เด็กๆระวังคนแปลกหน้าที่พยายามจะชักจูงให้ไปไหนมาไหนไปด้วย โดยเด็กๆจะต้องตั้งเป็นกฎเหล็กในการดำรงชีวิตไปเลยว่า ห้ามไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้าเป็นอันขาด เราสามารถปลูกฝังให้เด็กๆเกี่ยวกับเรื่องนี้จนติดเป็นนิสัยได้ ไม่สำคัญหรอกว่าคนแปลกหน้าเขาจะมาดียังไง แต่ความปลอดภัยของเด็กๆจะต้องมาก่อนเสมอ
4.จะต้องจำชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครองให้ได้
เราจะต้องให้เด็กๆจดจำเบอร์โทรศัพท์และชื่อที่อยู่บ้านเราให้ได้ โดยเฉพาะเบอร์ของพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อที่จะสามารถขอความช่วยเหลือได้หากเด็กๆของเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย หากใครมีโทรศัพท์มือถือก็สอนให้ลูกใช้มือถือให้เป็น เพราะยังไงมือถือก็ต้องมีการบันทึกเบอร์พ่อแม่ผู้ปกครองอยู่แล้ว แต่หากเด็กๆไม่มีมือถือ ก็ต้องใช้ความจำและก็จะให้ดีด้วย ก็ต้องจำชื่อที่อยู่ของตัวเองให้ได้
3.อย่าพยายามเดินไปไหนมาไหนคนเดียว
เราจะต้องสอนเด็กว่า หากเป็นไปได้จริงๆ ก็อย่าไปเดินตัวคนเดียวเป็นอันขาด เพื่อที่จะช่วยสร้างเกราะป้องกันความปลอดภัยให้กับเด็กๆได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะยังไงเด็กๆก็ต้องพยายามอยู่บริเวณที่มีผู้คนเยอะๆไว้ก่อนเสมอ หากมีอะไรก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ทันที ก็มีวลีอย่างหนึ่งที่ว่า “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” ดูเหมือนจะเป็นความจริงซะด้วยสิ
2.หากมีอันตรายเกิดขึ้นกับเด็กๆ กรี๊ดร้องขอความช่วยเหลือให้ดังที่สุดในโลก
เราจะต้องสอนให้เด็กๆกรี๊ดร้องความช่วยเหลือให้ดังที่สุดในโลกหากมีอะไรก็ตามที่เป็นภัยอันตรายกับตัวพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องง่ายเพราะบางทีเด็กๆพวกนี้ก็อาจจะกรี๊ดร้องแบบไม่มีเหตุผลบ้าง เราก็ใช้จุดนี้สร้างเป็นเกราะป้องกันให้กับเด็กๆของเราได้ เพื่อที่จะทำให้ผู้คนบริเวณนั้นได้เข้ามาช่วยเหลือเด็กของเราได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บหนัก หรือมีใครเข้ามาทำร้ายอันตราย ก็ต้องใช้วิธีนี้เพื่อสร้างความปลอดภัยกับเด็กไว้ก่อน
1.สร้างความกล้าให้กับเด็กๆขึ้นมา
ความกล้าถือเป็นการสร้างความปลอดภัยที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆทุกคนที่จะต้องมี เราจะต้องสอนให้เด็กไม่ตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์ และจากนั้นก็ทำตามกฎวินัยที่เราได้สร้างขึ้นมาอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือ การสร้างทักษะป้องกันตัวและเอาตัวรอด หากทำได้ รับรองเด็กๆมีความปลอดภัยแน่นอน พ่อแม่ผู้ปกครองก็หายห่วงได้เลย
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับแนวทางที่จะช่วยให้เด็กๆมีความปลอดภัย
เราอย่าปล่อยให้เด็กๆแบกสัมภาระมากเกินไป หรือแบกของหนักๆมากเกินไป ซึ่งอาจจะมีคนแปลกหน้าอาจจ้องมองความเคลื่อนไหวของเด็กๆก็ได้ แนวทางที่ปลอดภัยก็คืออย่าให้เด็กๆแบกของมากเกินไป หรือมีของอันตรายติดตัวอย่างของมีคมต่างๆ แม้ว่าจะเป็นการป้องกัน แต่สำหรับเด็กๆแล้วอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเขาเองก็ได้ เพราะอาจเป็นความไม่รู้เท่าถึงการณ์เอง
แน่นอนว่าเราจะต้องสอนให้เด็กๆรู้จักระมัดระวังตัวเอง จะทำให้เด็กๆฝึกฝนเรื่องนี้จนเราคลายความกังวลใจได้น้อยลง อย่างเช่น การที่ปล่อยให้เด็กๆอยู่บ้านตามลำพังหรือมีคนแปลกหน้าเข้ามาเคาะประตูบ้านของเรา เด็กๆก็จะต้องตรวจสอบความปลอดภัยของตัวเองให้ดีๆก่อนว่า จะเปิดประตูดีหรือไม่ และหากเด็กๆจะเดินออกไปข้างนอก ก็ต้องหมั่นเช็คความปลอดภัยก่อนทุกๆครั้ง
เด็กๆทุกคนควรที่จะได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิต เมื่อเจอกับภัยอะไรต่างๆเข้ามา พวกเขาอาจจะเข้าไปอยากรู้อยากเห็นสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเราจะต้องบ่มเพาะเรื่องนี้ให้กับเด็กๆว่า เมื่อเจออะไรที่มันไม่เข้าท่า อย่าไปเข้าใกล้เป็นอันขาด อยู่ห่างๆเอาไว้ เรื่องนี้เราจะต้องใช้เวลามากพอสมควร สุดท้ายเด็กๆก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เราได้บ่มเพาะเอาไว้ และสามารถดูแลตัวเองได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ในช่วงเวลาที่เด็กๆหลายคนได้ออกเดินทาง บางครั้งเด็กๆก็อาจจะเจอกับคนแปลกหน้าบ้าง ยิ่งหากเป็นพื้นที่ที่เด็กๆยังไม่มีความคุ้นชินด้วยแล้ว ก็ยิ่งกระทบต่อความปลอดภัยของเด็กๆมากขึ้นเท่านั้น จะเป็นเรื่องดีมากหากเราสอนให้เด็กๆคุ้นชินกับการเดินทางโดยใช้เส้นทางที่มีความปลอดภัยมากที่สุดและมีความเสี่ยงน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อไร
โลกของเราทุกวันนี้ดูเหมือนจะมีความรุนแรงมากขึ้นทุกๆวัน เด็กๆจึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษและตื่นตัวกับภัยอันตรายใกล้ตัวอยู่เสมอ ไม่แปลกหรอกที่เด็กๆทุกวันนี้ก็ฉลาดมากกว่าพวกเราเสียด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็ยังไร้เดียงสากับเรื่องพวกนี้อยู่มาก หากเจอกับสถานการณ์ที่รุนแรงอย่างเช่น การก่อจลาจลหรือการทะเลาะวิวาทตามที่ต่างๆแล้ว ก็ต้องรีบออกไปให้ไกลๆโดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้อะไรทั้งสิ้น
สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เด็กๆได้รับความปลอดภัยก็คือ การที่เด็กๆระวังคนแปลกหน้าที่พยายามจะชักจูงให้ไปไหนมาไหนไปด้วย โดยเด็กๆจะต้องตั้งเป็นกฎเหล็กในการดำรงชีวิตไปเลยว่า ห้ามไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้าเป็นอันขาด เราสามารถปลูกฝังให้เด็กๆเกี่ยวกับเรื่องนี้จนติดเป็นนิสัยได้ ไม่สำคัญหรอกว่าคนแปลกหน้าเขาจะมาดียังไง แต่ความปลอดภัยของเด็กๆจะต้องมาก่อนเสมอ
เราจะต้องให้เด็กๆจดจำเบอร์โทรศัพท์และชื่อที่อยู่บ้านเราให้ได้ โดยเฉพาะเบอร์ของพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อที่จะสามารถขอความช่วยเหลือได้หากเด็กๆของเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย หากใครมีโทรศัพท์มือถือก็สอนให้ลูกใช้มือถือให้เป็น เพราะยังไงมือถือก็ต้องมีการบันทึกเบอร์พ่อแม่ผู้ปกครองอยู่แล้ว แต่หากเด็กๆไม่มีมือถือ ก็ต้องใช้ความจำและก็จะให้ดีด้วย ก็ต้องจำชื่อที่อยู่ของตัวเองให้ได้
เราจะต้องสอนเด็กว่า หากเป็นไปได้จริงๆ ก็อย่าไปเดินตัวคนเดียวเป็นอันขาด เพื่อที่จะช่วยสร้างเกราะป้องกันความปลอดภัยให้กับเด็กๆได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะยังไงเด็กๆก็ต้องพยายามอยู่บริเวณที่มีผู้คนเยอะๆไว้ก่อนเสมอ หากมีอะไรก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ทันที ก็มีวลีอย่างหนึ่งที่ว่า “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” ดูเหมือนจะเป็นความจริงซะด้วยสิ
เราจะต้องสอนให้เด็กๆกรี๊ดร้องความช่วยเหลือให้ดังที่สุดในโลกหากมีอะไรก็ตามที่เป็นภัยอันตรายกับตัวพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องง่ายเพราะบางทีเด็กๆพวกนี้ก็อาจจะกรี๊ดร้องแบบไม่มีเหตุผลบ้าง เราก็ใช้จุดนี้สร้างเป็นเกราะป้องกันให้กับเด็กๆของเราได้ เพื่อที่จะทำให้ผู้คนบริเวณนั้นได้เข้ามาช่วยเหลือเด็กของเราได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บหนัก หรือมีใครเข้ามาทำร้ายอันตราย ก็ต้องใช้วิธีนี้เพื่อสร้างความปลอดภัยกับเด็กไว้ก่อน
ความกล้าถือเป็นการสร้างความปลอดภัยที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆทุกคนที่จะต้องมี เราจะต้องสอนให้เด็กไม่ตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์ และจากนั้นก็ทำตามกฎวินัยที่เราได้สร้างขึ้นมาอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือ การสร้างทักษะป้องกันตัวและเอาตัวรอด หากทำได้ รับรองเด็กๆมีความปลอดภัยแน่นอน พ่อแม่ผู้ปกครองก็หายห่วงได้เลย
ผู้เขียน Mr.lawrence10