คนที่มักบอกว่ารอเก็บเงินก่อนหรือให้ฐานะมั่นคงก่อนค่อยออกมาทำธุรกิจหรือทำตามฝันนี่ ส่วนใหญ่ได้ทำจริงหรือเปล่าครับ

คนที่มักบอกว่ารอเก็บเงินก่อนหรือให้ฐานะมั่นคงก่อนค่อยออกมาทำธุรกิจหรือทำตามฝันนี่
สุดท้ายส่วนใหญ่ได้ทำกันจริงหรือเปล่าครับ แล้วประสบความสำเร็จไหม หรือทำแบบไม่ได้หวังเรื่องรายได้แล้ว

พอดีไปอ่านกระทู้นี้มา

ถ้าวันนี้มีฝันจะทำอะไรสักอย่าง "ศึกษา" แล้ว "ลงมือทำ" เลยครับ
http://pantip.com/topic/30625985

ในความเห็นผมนะ เริ่มตอนยี่สิบปลายๆ - สามสิบต้นๆ เริ่มทุนน้อย งานชิ้นเล็ก ธุรกิจขนาดย่อมค่อยๆ เก็บประสบการณ์
ไปก็น่าจะดีกว่า หรือถ้าไม่ได้อยากทำธุรกิจแต่อยากเปลี่ยนสายงานก็ควรจะรีบทำหรือเปล่า
กรณีสมมติ เช่น
อายุ 25 อยากเป็นแพทย์ ไม่มีภาระครอบครัว = โอเค ยังเป็นไปได้มาก
อายุ 30 อยากเป็นแพทย์ สมองยังไหว เริ่มกังวลเรื่องครอบครัวแล้ว หนักกว่านั้นหลายคนเริ่มมีลูก = เริ่มยาก แต่ยังพอไหวน่า
อายุ 40 อยากเป็นแพทย์ อันนี้เข้าวัยกลางคน ทั้งสมอง ทั้งร่างกาย ทั้งภาระ เริ่มไม่อำนวยแล้ว = ยากมาก
อายุ 50 อยากเป็นแพทย์ = ยากที่สุด แย่ไปกว่านั้นคือเวลาทำงานนั้นแทบไม่เหลือ จบมาก็ใกล้เกษียณแล้ว
ในทางธุรกิจก็เป็นทำนองเดียวกัน เริ่มช้าเวลาฝึกฝนน้อย เวลาเรียนรู้จากความผิดพลาดก็น้อยลง

เชื่อว่าเป้าหมายเกือบทุกอย่างต้องใช้ Skill Set ที่ต้องใช้เวลาบ่มเพาะเป็นเวลาหลายปี (ตามตำราว่า 10,000 ชม.)
แล้วคนที่เก็บเงินก้อนโตมาลงทุนนี่เขาไม่กลัวความเสี่ยงกันเลยเหรอครับ ถ้าเกิดล้มขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้
ก็เคยเป็นมนุษย์เงินเดือน ให้เปลี่ยนมาเป็นอิสระหรือเจ้าของกิจการมันย่อมไม่ง่ายอยู่แล้ว
(พี่ที่รู้จักคนนึงก็เก็บเงินไปเปิดปั๊มน้ำมันตอนอายุ 43 แต่ปั๊มทุกที่ก็ใช่ว่าจะรายได้ดีไปซะหมด)

ในที่นี้มีใครไหมครับที่เริ่มตอนอายุ 40 ขึ้นไป แล้วถ้าล้มหรือพลาดนี่จะทำยังไงครับ ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งล้มดังด้วย
(ขอไม่นับผู้พันแซนเดอร์ KFC นะ)

ความฝันไม่มีวันหมดอายุเป็นเรื่องจริง
แต่ความฝันที่เป็นจริงได้นั้น มีวันหมดอายุ

เพื่อนๆ คิดว่ายังไงกันมั่งครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ความฝันไม่มีวันหมดอายุเป็นเรื่องจริง
แต่ความฝันที่เป็นจริงได้นั้น มีวันหมดอายุ


เห็นด้วยกับประโยคข้างต้นนี้ครับ

คนเราหลายๆคนมักจะมีความฝัน แต่กว่าที่จะ "กล้า" ทำมันก็สายไปเสียแล้ว หรือในบางกรณีไม่กล้าที่จะทำตามความฝันเมื่อครั้งที่ตนยังมีโอกาส เพราะ "ขัด" กระแสสังคม

อย่างเช่น การกลับไปเรียนแพทย์ เมื่อายุ 25ปี (ในขณะที่คนอื่นๆเรียนป.โทกันแล้ว)

ในบางครั้ง เราต้องฟังเสียงของหัวใจเรามากกว่าเสียงของคนอื่นๆครับ เพราะคนที่จะอยู่กับเราไปจนชีวิตจะหาไม่ คือ ตัวเรา ไม่ใช่คนอื่นๆ

หากมีความฝัน (และต้นทุนในชีวิต) ทำไมต้องรอ... อย่างน้อยการเริ่มศึกษาถึงความเสี่ยงก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีจุดหนึ่งแล้วครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่