[CR] ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปน้ำตกผาสวรรค์ # 3 เดินไปหาสวรรค์ชั้น 7 ที่น้ำตกผาสวรรค์

ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปผาสวรรค์ # 1 ขึ้นรถเมล์ ลงเรือข้ามฝาก นั่งรถไฟเสียวๆ โค้งมรณะ แวะ อช.ไทรโยค นอนพักที่ผาตาด
http://pantip.com/topic/32374731

ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปน้ำตกผาสวรรค์ # 2 ทีลอซูแห่งเมืองกาญจนบุรี น้ำตกผาตาด ช่วงน่าน้ำสวยสุดยอด
http://pantip.com/topic/32382942

-----------------------------------------------------------------

VDO โบกรถเที่ยวผาสวรรค์ 6 ดูความงามของน้ำตกผาสวรรค์


ตอนกลางคืนนอนฟังเสียงน้ำตก และสายฝน

ตื่นมาก็เดินเล่นใกล้ๆ แค้มป์ กลุ่มรถ 4*4 ก็จะไปพักร่วมกลุ่มอันอีกฝั่ง ที่นี่นักท่องเที่ยวมาไม่เยอะ เพราะทางลำบาก



ช่วงเช้าตื่นเร็วหน่อย เริ่มเดินไปน้ำตกประมาณ 7.00 น. เพราะต้องรีบถ่ายรูป จะอาศัยรถเขาออก เดินไปชั้นแรกใช้เวลาประมาณ 30 นาที เดินสบายๆ

น้ำตกผาสวรรค์

เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่สวยงาม มีความสูงประมาณ 80 เมตร ไหลลดหลั่นกันถึง 7 ชั้น ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม - มกราคม น้ำตกอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 155 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ บริเวณกิโลเมตรที่ 108 เข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาบริเวณทางแยกดินลูกรังอีก 13 กิโลเมตร

ชั้นต่างๆ
1.ธารสวรรค์
2.อ่างหินกินรี
3.อ่างถ้ำแก้ว
4.ผาคนธรรม์
5.ผาเทพบุตร
6.ผาพิรุณ
7.ผาสวรรค์

เดินจากแค้มป์ที่ 1 (แถวบ้านเจ้าหน้าที่) ผ่านทางที่จะไปเที่ยวน้ำตกมาซักประมาณ 100 กว่าเมตร ก็จะผ่านพี้นที่กางเต็นท์ส่วนที่ 2 ไม่ค่อยมีคนพัก ห้องน้ำก็พอมีแต่ไม่เยอะ

และบริเวณนี้ก็จะมีป้อม สำหรับตรวจนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวน้ำตกด้วย

ผ่านป้อม ผ่านรัวก็เป็นทางเดินดิน ไม่ต้องเดินขึ้นอะไรมาก ทางราบไปเรื่อยๆ


เดินมาประมาณ 20-25 นาที่ จากแค้มป์ที่เราพัก ก็จะถึงน้ำตกผาสวรรค์ชั้นที่ 1 ธารสวรรรค์


เป็นสายธารไหลลงสู่แอ่งน้ำ เปรียบดังธารจากสวรรค์





เดินทวนสายน้ำขึ้นไป ก็จะถึงชั้นที่ 2 อ่างหินกินรี



ชั้นนี้ จะมีชั้นน้ำตกสูงด้านหลัง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ซึ่งแอ่งน้ำนี้ เปรียบเหมือนกัน แอ่งน้ำที่พรานบุญ มาแอบจับมโนรา(กินรี) ในเรื่องพระสุธน มโนรา

รายละเอียดเรื่องพระสุธน มโนรา
http://bangkrod.blogspot.com/2011/08/blog-post_2056.html






ช่วงไหนที่ชัน ก็จะมีบันไดไม้ให้เดินขึ้น


เดินขึ้นบันไดมาก็จะถึงส่วนหัวของน้ำตกชั้นที่ 2



ชั้นเล็กระหว่างทางไปชั้น 3




ชั้นเล็กระหว่างทางไปชั้น 3


เดินขึ้นบันได ถ่ายรูปมาเรื่อย ซัก 20 นาทก็ถึงชั้นที่ 3 อ่างถ้ำแก้ว






เดินไปชั้น 4 ต่อมีชั้นเล็กชั้นน้อย ระห่วางทาง








น้ำตกระหว่างทางไปชั้น 4 ก็สวยอยู่นะ


แล้วก็มาถึงชั้นที่ 4 ผาคนธรรม์ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากชั้น 3


ชั้นที่ 4 ผาคนธรรพ์ (หรือ คนธรรพ) เป็นชั้นที่มีหน้าผาไม่สูงมากนัก เวลาเสียงจากหน้าผาตกกระทบ ไพเราะเหมือน คนธรรพ์กำลัง ขับร้องและเล่นดนตรีบำเรอเทวดา

อ่านข้อมูล คนธรรพ์ได้ที่
http://th.wikipedia.org/wiki/คนธรรพ์

http://www.oknation.net/blog/buddha2600/2013/01/21/entry-1









แล้วก็เดินไปชั้น 5 ต่อ ถ่ายเล็กระหว่างทาง





น้ำตกระหว่างทางก่อนถึงชั้นที่ 5


จากชั้น 4 เดินมาชั้น 5 ประมาณ 15 นาที ชั้น 5 ชื่อว่า ผาเทพบุตร


ชั้นนี้ ก็เป็นน้ำตกที่ไหลลงมา เป็น 2 ชั้นใหญ่ สู่แอ่งน้ำด้านล่าง สูงประมาณ เกือบ 10 เมตร






ตรงนี้เป็นอีกชั้นของชั้น 5 แต่เดินขึ้นมาข้างบนอีก


ระว่างทางไปชั้น 6 ก็มีเห็ดให้พอได้ถ่ายรูปบ้าง

ชื่อที่เรียก เห็ดหิ้ง
ชื่ออื่นๆ เห็ดหมื่นปี เห็ดหิ้ง เห็ดขอนไม้ เห็ดสวรรค์พันปี เห็ดศักดิ์สิทธิ์ เห็ดนำโชค
หมวดหมู่ทรัพยากร พืช
ลักษณะ รูปร่างคล้ายหมวก โดยจะโค้งเป็นลักษณะทรงสามเหลี่ยม ซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกันโดยความกว้างประมาณ 30-40 ซม. ยาว 25 ซม. และสูง 10 ซม. มีลักษณะแข็งเหมือนไม้ที่เห็ดใช้เป็นอาหารโดยเห็ดชนิดนี้จะมีผิวที่ไม่ค่อยเรียบ และเนื่องจากเป็นเห็ดที่มีอายุยืนนาน จึงทำให้เรา สามารถพบเห็น ได้ตลอดปี และเก็บ รักษาง่าย ไม่บอบบางเหมือนเห็ดทั่วไป โดยเราจะพบเห็ดหิ้งได้มากในช่วงหลังฝน และมักพบอยู่กันเป็นกลุ่ม มีสีเหลืองบนซากไม้ ที่กำลังเน่าเปื่อยและผุพัง เห็ดชนิดนี้ถ้ายังสด จะเหนียวและยืดหยุ่น ถ้าแห้งแล้ว จะมีความแข็งมาก และมีสีเข้มขึ้นสำหรับดอกเห็ดแก่

ข้อมูลจาก
http://www.biogang.net/biodiversity_view.php?menu=biodiversity&uid=3493&id=11273


จากชั้น 5 เดินมาประมาณ 10 นาที ก็จะถึงชั้น 6 ผาพิรุณ



ชั้นนี้ก็จะเป็นหน้าผาสูงชันเดียว ละอองน้ำจากหน้าผานี้ เปรียบเสมือนสายฝนที่โปรยปราย จึงได้ชื่อว่าผาพิรุณ






จากชั้น 6 เดินมานิดเดียวก็ถึงชั้นที่ 7 ผาสวรรค์ ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุด สูงประมาณ 80 เมตร



ด้วยความสูงและสวยงาม เปรียบเสมือน สายน้ำที่ตกจากสวรรค์ ด้านข้างมีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำได้












สรุป ระหว่างชั้นน้ำตกก็ต่อๆ กัน บางช่วงชัน ก็จะมีบันได ใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 2-4 ชั่วโมงแล้วแต่คน ผมใช้เวลา ประมาณ 4 ชม เดินกลับแค่ ครึ่งชั่วโมงเอง มาถึง ก็รีบเก็บของเพื่อจะได้ทันรถ

ก็ขอขอบคุณพี่ใจดีให้ติดรถกับ กทม ด้วยครับ


ขากลับรถกลับอีกทาง ก็คือทางดีๆ ไม่ได้ลุยเหมือนขามาแล้ว


ถึงเละแต่ไม่มาก


แต่ก็เอาเรื่องอยู่