@@@ ออกตัวก่อน ไม่ได้เป็นคนเก่ง ไม่ได้จะเข้ามาโพสเพื่อแนะนำให้คนอื่นๆเอาไปปฏิบัติตาม @@@
เมื่อปี 2008 ใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยแบบไร้งานประจำ มีความฝันส่วนตัวว่าอยากไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเพื่อเปลี่ยนตัวเอง อยากจะบินไปหาผู้ชายดีดีสักคน อยากไปหางานทำ อยากไปหาเงินเอามาเลี้ยงดูคนทางบ้าน
ถ้าเอาจริงๆ ก่อนปี 2008 ได้มีความคิดว่าฉันจะต้องไปลอนดอน!ให้ได้ เพราะมีเพื่อนสองคนไปใช้ชีวิตที่ลอนดอน เห็นแล้วน่าสนใจ เราก็เลย เอาว่ะลองทำเรื่องขอไปบ้างดีกว่า ให้เพื่อนสมัครเรียนให้ หาที่พักให้ โอนเงินค่าเรียน จองตั๋วเครื่องบิน เตรียมเอกสารเพื่อเอาไปสมัครขอวีซ่า ทำด้วยตัวเองทุกอย่าง ยกเว้นการติดต่อเอกสารทางลอนดอน(เพื่อนทำให้)
ตื่นเต้นมากวันไปสัมพาด สรุป ไม่ได้จ้าาาา น้ำตานองในมากๆ เพราะคำถามง่ายๆ แต่เราดันตอบไม่ได้ ไม่เชิงว่าไม่ได้ เพียงแต่เราผลาดเอง การสัมพาดมีให้เลือกว่าต้องการคนไทยแปลคำถามไหม เราก็กลัวว่าจะถามยาก เลยขอคนแปลมาช่วย สรุป คำถามง่ายมากกกก ถามมาเป็นอังกิต เราฟังเข้าใจ รู้เรื่อง คนก็แปลให้ฟัง เราก็ตอบเป็นไทยกลับไป จิงๆให้ตอบเป้นอังกิตก็ตอบได้นะ แต่ไม่ตอบ
สรุป หญิงคนสัมพาดเราบอกว่า ไม่ผ่าน(ในพาสปอตบินไปสิงโป ฮ่องกง ก็ไม่ช่วยอะไรนะ) ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที ตัดสินว่าเราไม่สมควรไปเรียนต่อ เพราะ เราไม่สื่อสารเป็นภาษาอังกิต(กูฉันจะขอวีซ่าไปเรียนนนนภาษา เข้าใจตรงกันนะ) บอกว่าที่พักไม่แน่นอน (โรงเรียนมีจดหมายว่ามีที่พักให้ จะเอายังไง) แล้วหล่อนก็เก็บเงินหกพันกว่าๆของเราไป ใช้เวลา ไม่ถึงสองนาที เงินหกพันกว่าๆ หายไปกับตา ประทับตราในวีซ่า อะไรสักอย่างว่า NO UK ฉันน่าจะเอาเงินไปเที่ยวเซ่าน่าจะดีซะกว่า
นั่นคือประสพการณ์ครั้งแรกที่ไม่ผ่าน ทุกวันนี้คิดเสมอว่า ไม่ผ่านเพราะตัวเราเอง เพราะเอกสารดูแล้วว่าพร้อมนะ แม้กระทั้งหลักฐานการเงินดูว่าไม่น่าพอ ก็ยังไม่ใช่ปัญหา คนสัมพาดไม่ติงอะไรมาเลย เราน่าจะสื่อสารเป็นภาษาอังกิตไปเลย เพราะคำถามธรรมดามากๆ แต่ก็อย่างว่านะ มือใหม่เพิ่งไปขอ
กลับบ้านก็เศร้านะ เศร้ามาก เขาบอกว่าให้ทำเรื่องขอสัมพาดอีกรอบก็ได้ แต่เราไม่เอาล่ะ กูหมดอารมล่ะ
กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทำงานใช้ชีวิตปกติ(ตอนนั้นยังมีงานทำอยู่)
ผ่านไปปีกว่าก็เริ่มเปลี่ยนความคิดล่ะ ว่าลอนดอนไม่เปิดประตูรับ เราก็ไปเคาะประตูบ้านอื่นก็ได้ว่ะ เลยคิดหาประเทศอื่นดีกว่า แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจนะว่าจะไปไหนดี เพราะขวัญยังเสียนิดๆ หลายคนบอกว่าอย่าเลย ไม่ได้แล้วล่ะ แก่แล้ว ไม่ผ่านสัมพาดจากลอนดอน มีตราประทับ แล้วเวลาไปขอไปประเทศอื่นมันก็จะยากกว่าเดิม เราก็กลัวจะเสียเงินเปล่าๆไปกับการสัมพาด กลัวๆๆๆๆ
แต่เดี๋ยวจะมาเล่าต่อว่าทำยังไงจนถึงวันนี้แล้ว จะเจ็ดปีที่มาอยู่เมกา จากนักท่องเที่ยว หางานทำ จนตอนนี้ได้ใบเขียว 10ปี
รออ่านกันนะจ๊ะ
การขอวีซ่าเมกา เมื่อ 6 ปีแล้ว และเรื่องราวมากมายในเมกา
เมื่อปี 2008 ใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยแบบไร้งานประจำ มีความฝันส่วนตัวว่าอยากไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเพื่อเปลี่ยนตัวเอง อยากจะบินไปหาผู้ชายดีดีสักคน อยากไปหางานทำ อยากไปหาเงินเอามาเลี้ยงดูคนทางบ้าน
ถ้าเอาจริงๆ ก่อนปี 2008 ได้มีความคิดว่าฉันจะต้องไปลอนดอน!ให้ได้ เพราะมีเพื่อนสองคนไปใช้ชีวิตที่ลอนดอน เห็นแล้วน่าสนใจ เราก็เลย เอาว่ะลองทำเรื่องขอไปบ้างดีกว่า ให้เพื่อนสมัครเรียนให้ หาที่พักให้ โอนเงินค่าเรียน จองตั๋วเครื่องบิน เตรียมเอกสารเพื่อเอาไปสมัครขอวีซ่า ทำด้วยตัวเองทุกอย่าง ยกเว้นการติดต่อเอกสารทางลอนดอน(เพื่อนทำให้)
ตื่นเต้นมากวันไปสัมพาด สรุป ไม่ได้จ้าาาา น้ำตานองในมากๆ เพราะคำถามง่ายๆ แต่เราดันตอบไม่ได้ ไม่เชิงว่าไม่ได้ เพียงแต่เราผลาดเอง การสัมพาดมีให้เลือกว่าต้องการคนไทยแปลคำถามไหม เราก็กลัวว่าจะถามยาก เลยขอคนแปลมาช่วย สรุป คำถามง่ายมากกกก ถามมาเป็นอังกิต เราฟังเข้าใจ รู้เรื่อง คนก็แปลให้ฟัง เราก็ตอบเป็นไทยกลับไป จิงๆให้ตอบเป้นอังกิตก็ตอบได้นะ แต่ไม่ตอบ
สรุป หญิงคนสัมพาดเราบอกว่า ไม่ผ่าน(ในพาสปอตบินไปสิงโป ฮ่องกง ก็ไม่ช่วยอะไรนะ) ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที ตัดสินว่าเราไม่สมควรไปเรียนต่อ เพราะ เราไม่สื่อสารเป็นภาษาอังกิต(กูฉันจะขอวีซ่าไปเรียนนนนภาษา เข้าใจตรงกันนะ) บอกว่าที่พักไม่แน่นอน (โรงเรียนมีจดหมายว่ามีที่พักให้ จะเอายังไง) แล้วหล่อนก็เก็บเงินหกพันกว่าๆของเราไป ใช้เวลา ไม่ถึงสองนาที เงินหกพันกว่าๆ หายไปกับตา ประทับตราในวีซ่า อะไรสักอย่างว่า NO UK ฉันน่าจะเอาเงินไปเที่ยวเซ่าน่าจะดีซะกว่า
นั่นคือประสพการณ์ครั้งแรกที่ไม่ผ่าน ทุกวันนี้คิดเสมอว่า ไม่ผ่านเพราะตัวเราเอง เพราะเอกสารดูแล้วว่าพร้อมนะ แม้กระทั้งหลักฐานการเงินดูว่าไม่น่าพอ ก็ยังไม่ใช่ปัญหา คนสัมพาดไม่ติงอะไรมาเลย เราน่าจะสื่อสารเป็นภาษาอังกิตไปเลย เพราะคำถามธรรมดามากๆ แต่ก็อย่างว่านะ มือใหม่เพิ่งไปขอ
กลับบ้านก็เศร้านะ เศร้ามาก เขาบอกว่าให้ทำเรื่องขอสัมพาดอีกรอบก็ได้ แต่เราไม่เอาล่ะ กูหมดอารมล่ะ
กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทำงานใช้ชีวิตปกติ(ตอนนั้นยังมีงานทำอยู่)
ผ่านไปปีกว่าก็เริ่มเปลี่ยนความคิดล่ะ ว่าลอนดอนไม่เปิดประตูรับ เราก็ไปเคาะประตูบ้านอื่นก็ได้ว่ะ เลยคิดหาประเทศอื่นดีกว่า แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจนะว่าจะไปไหนดี เพราะขวัญยังเสียนิดๆ หลายคนบอกว่าอย่าเลย ไม่ได้แล้วล่ะ แก่แล้ว ไม่ผ่านสัมพาดจากลอนดอน มีตราประทับ แล้วเวลาไปขอไปประเทศอื่นมันก็จะยากกว่าเดิม เราก็กลัวจะเสียเงินเปล่าๆไปกับการสัมพาด กลัวๆๆๆๆ
แต่เดี๋ยวจะมาเล่าต่อว่าทำยังไงจนถึงวันนี้แล้ว จะเจ็ดปีที่มาอยู่เมกา จากนักท่องเที่ยว หางานทำ จนตอนนี้ได้ใบเขียว 10ปี
รออ่านกันนะจ๊ะ