กระทู้ต่อจาก
http://pantip.com/topic/32384928 ตอนที่1 ตอนวางแผนนะครับ
งานศิลปะ Aomori
ตอนที่2 เดินทางมาถึง ญี่ปุ่น
ออกจากสนามบิน Lax,USA วันที่ 25/7/2557 มาถึง ญี่ปุ่น วันที่ 26/7/2557 เวลา 4 โมงเย็นได้ ที่สนามบิน นาริตะ น่ะครับ กว่าจะขนของ ไปรับกระเป๋า ผ่าน ตม. มาได้ ก็ใช้เวลาไปค่อนข้างนาน บวกกับ เขาค่อนข้างตรวจกระเป๋าเข้ม ด้วยนะครับ ตอนช่วงผมไป เนื่องจากกระเป๋าเดินทางขนกันมา หนักอึ้งจากอเมริกา ล่ะของฝากเยอะมาก ก็กลัวว่าจะโดน ตรวจอะไรหรือเปล่า สรุปผม ก็ไม่ได้โดนตรวจอะไรครับ แต่ มีเพื่อนคนนึง โดน !!
ก็ไม่รุ้ว่า ไปสื่อสารกันผิดพลาดท่าไหนหรือเปล่าไม่รู้ เพราะว่าพนักงานญี่ปุ่นก็พูดภาษา อังกฤษ กัน ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เอะอะ ก็ ให้ๆๆ ( ไฮ ) สรุป เพื่อนผมโดนพนักงานหิ้วเข้าห้องเดี่ยว ไป คุยอยู่เกือบ ชม. ตอนผมออกมาก่อนล่ะไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้มันหายไปไหน นะ โห เหงื่อตกเลย เพราะเพิ่งจะลง เครื่องวันแรก เน็ต ก็ไม่มีกัน แถม เดินไปถาม พนักงานเจ้าหน้าที่ ขอกลับเข้าไปหา เพื่อน เขาก็ไม่ให้ สุดท้ายผม ต้องไป พูด ประกาศ ออกไมค์ ตามหามัน ดังสะ ทั่วสนามบิน 5555
สรุปแล้ว พูด ออกไมค์ อยู่ 2 รอบ มันก็ไม่โพ่ลมาสักที สุดท้ายก้ ดักๆ รออยุ่หน้าทางออก ผู้โดยสาร สุดท้ายมันก็ออกมา บอกว่า โดนจับตรวจกระเป๋า ( ของฝากเยอะ พวกกระเป๋า อะไรงี้ ) แต่ก็ไม่ได้ โดนจ่ายอะไรนะครับ ปล. มันอยู่ในห้อง ที่ประกาศออกไมค์ ไป ก็ไม่ได้ยิน ฮ่ะๆ แต่ที่ไปพูดออกไมค์ บ่อยๆ เพราะ พนักงาน ประชาสัมพันธ์ คาวาอิ้
555
เข้าเรื่องเลยล่ะกันครับ ตามที่ผมวางแผนไว้ พอถึงสนามบิน ก็ จะจัดการ ตามแผนอย่างนี้
1. ไปเปิด JR Pass ให้ใช้งาน ได้ ตามวันที่จะใช้
2. ไปเช่า Pocket Wi-Fi
3. ไปดูเรื่อง ฝากกระเป๋าไว้สนามบินดี หรือ ขนส่ง โดย บริการ แมวดำ ไปที่พักดี
4. จองตั๋วเข้า โตเกียว
เพราะว่า ผม รอเพื่อนคนที่ โดนตรวจ กระเป๋า อยู่ บางคน เลยไป ฝากกระเป๋า กับสนามบิน ก่อนสะแล้ว เพื่อน โดนไปแร้วแต่ขนาดไซด์กระเป๋าของแต่ล่ะคน นะครับ สำหรับเพื่อนผม ใบใหญ่เหมือนกัน ไซด์ 28 spinner ฝากวันล่ะประมาณ 500 เยน หรือ 150 บาท มันเลือกฝาก 14 วัน ใบเดียว อีกใบนึง ลากไปตลอดการเดินทาง ( หนักหน่วง ทุกคน ) เพื่อน โดนค่าฝากกระเป๋าที่สนามบินไป 150*14 วัน = 2100 บาท สำหรับใบเดียวน่ะครับ
ส่วนผมตอนที่เขาไปฝากกระเป๋ากันอยู่ ผมก็เดินไปเปิด JR pass ที่ได้จาก ตอนซื้อมา มันจะเป็นใบลักษณะ อย่างนี้นะครับ ซึ่งยังใช้งานไม่ได้นะครับ
ต้องไปเปิด ให้มันใช้งานได้ก่อนที่ บริษัทเขา ซึ่ง สามารถเปิดได้ทั้งที่สนามบิน หรือ ตามสถานีรถไฟ หลักๆ ครับ ของที่สนามบินนาริตะ รู้สึกจะอยู่ชั้นล่าง หลังจากออกจาก ตม มาล่ะนะครับ * ภาพอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะ ล่ก ล่ะ รีบ มากครับ 5555
เดินเข้าไป ปุ๊บ ก้ ...เอ้อร์ มา อิง ลิช อิส ฟัน กันนะ เข้าไปถึง พนักงานก้เรียก เชิญมาด้านนี้ครับ ผมก็ยื่น บัตร JR Pass ให้เขาก่อน ล่ะเขาก้ ขอ Passport เราไป เพื่อจะออก JR Pass เป็นเล่มมาให้เรา เพื่อไว้ใช้งาน ล่ะเขาก็ถามเราว่าอยากเปิดให้ ใช้งานในวันไหน * เริ่มใช้งานวันแรกวันไหน
ผมก็โชว์แผนให้เขาดู บอกว่า จะเปิดใช้งานวันแรกเลย วันที่ 29 นะ จะได้ใช้งานได้ถึง 30 1 2 3 4 5 รวมเป็น 7 วันพอดี เขาก็โอเค ออกให้ใช้งานได้ตามที่เรากำหนด
พอผมได้ JR Pass ที่เหลือแค่รอวันใช้งานแล้ว ผมก็ถามเขาว่า งั้นขอจอง ตั๋วล่วงหน้าได้ไหมเอ่ยครับ ตามวันที่จะใช้งาน เพราะกลัวว่า ถ้าไปจองวัน ที่จะขึ้นเรยจะหาที่นั่งลำบาก ซึ่งก้ไม่มีปัญหาครับ พอมี JR Pass แล้ว ก้สามารถ จอง รอบนั่งได้ล่วงหน้าเลย แต่ ได้ 3 รอบล่วงหน้านะครับ พอวันเริ่มใช้งานวันแรก ขึ้นครั้งแรกแล้ว ค่อยจองต่อได้เรื่อยๆ แต่ ถือตั๋วล่วงหน้าได้ ไม่เกิน3 รอบล่วงหน้านะ ล่ะผมก็ยื่นแผนให้เขาดู ล่ะเขาก้ออก ตั๋วรถไฟ ชินคันเซนที่ผมจะใช้งาน ในวันที่ 29 2 รอบ 1) โตเกียว-> อาโอโมริ ชินคันเซนนะ 2) อาโอโมริ->ซัปโปโร รถไฟนอน วันที่ 30 รอบ 3)ซัปโปโร-> ฮาโกดาเตะ ครบ 3 รอบพอดี ล่ะก็จะได้บัตร พร้อม รหัสที่นั่ง คันล่ะรอบขึ้นมาครับ *( เรื่องรอบ เรื่องคันไหน เวลาไหน เช็คได้จาก Hyperdia.com ครับ )
โอเค ครับ พอจัดการเรื่องเปิด JR Pass ได้ล่ะ ( ลืมบอกครับ JR PASS ที่เปิดสนามบินนาริตะ สาขา ในสนามบินมี2สาขานะครับ สาขานึงปิด 2ทุ่ม อีกสาขา 3 ทุ่มครับ ต้องก่ะเวลาดีๆนะครับ ) หลังจากนั้นผมก็มาจัดการ อีกเรื่องต่อ คือ เช่า POCKET - WI FI เพื่อไว้ใช้งาน ตอนเดินทางครับ ซึ่ง ที่เช่าไวไฟ อยู่ตอน ลง บันไดเลื่อนลงมาจากชั้นผู้โดยสารขาเข้าเมือง ชั้นล่างนะครับ อยู่ทางซ้ายเลย
*เดี้ยวหารูปมาลงให้นะครับ พอดีรูปเยอะมาก ล่ะหลายเครื่องด้วยหาไม่เจอ 555
ถ้าหาเช่าจากไทย ไปก่อนได้ จะราคาถูกกว่า ไปเช่าสนามบินมากครับ อันนี้ผมมาจาก เมกา พอดีเลย ต้องมาจำใจ เช่าที่สนามบินครับ อันนี้ของญี่ห้อที่ผมเช่านะ 5 วันแรก วันล่ะ990 yen หลัง5วันล่ะ วันล่ะ 300 yen รวมกัน ผมเช่า 14 วัน ทั้งหมด 7650 เยนได้ ประมาณนี้ครับ อย่างผมหารกัน 4คน ต่อเครื่อง แบ่งใช้งานกันเป็นกลุ่มๆ ก้หารๆ กันไป ตกลงคนล่ะไม่เกิน 600 บาทไทย กับการมีเน็ตใช้ระหว่างเดินทาง ก็โอเคครับ ผมกันคนหลงมากกว่า 555
http://www.globaladvancedcomm.com/pocketwifi.html ลองเข้าไปดูราคาได้ครับ
พอหลังจากเช่า Pocket wifi เสร็จแล้ว ก็ไปเรื่องสำคัญที่กังวลมาตลอด คือ เรื่องกระเป๋าเดินทางครับ ผมก็เดิน หิ้วกระเป๋าเดินทางตรงไปหา ที่ฝากกระเป๋า แมวดำ ก่อนเลย เพื่ออยากทราบราคา กับ การขนส่งว่าเป็นยังไงมั่ง
ขนมา ไอ้พวกของเจ้าปัญหา !!!
ไม่น่าขนมาเยอะเลย 555
พอมาถึงก้เดินเข้าไปคุยกับ พนักงาน สื่อสารกันสนุกสนาน มีอะไร ก็ยิ้มๆ กันทั้งคู่ 5555 เข้าใจกันยาก ฮ่ะๆ แต่คุยกันสักพักเขาก้เข้าใจว่า เราอยากให้ส่ง จากวันนี้ 26/6/2557 เนี่ย ที่สนามบินเนี่ย เราอยากให้เขาส่งให้ ไปโพ่ลที่พัก วันที่ 2/7/2557 ซึ่งเขาก้โอเค เขาบอกจะเก้บของไว้ให้ล่ะส่งใก้ลๆ รับรองว่าของถึง วันที่2/7/2557 ที่พัก Oak Hostel Zen ชัวร์แน่นอนครับ ( ผมก้ ไม่ต้องขนไอ้เจ้ากระเป๋าใบใหญ่ๆ ระหว่างเดินทาง จนเจอหน้ามันอีกที วันที่2 เดือนหน้าก้สบายใจ ) คราวนี้พอมาพูดถึงราคา ไซด์ ขนาดกระเป๋าของผม 28 spinner 2 ใบ ใบล่ะ 23 โล พอดีครับ ค่าขนส่งเขาชั่งมาให้ ของผมโดนไปประมาณ 3600 เยน ครับ ซึ่งถูกมากๆ ได้ส่งไป2ใบ เป็นมูลค่า ค่าฝากของ 7 วัน สำหรับ 2 ใบ หรือ ประมาณ เงินไทย 1080 บาทครับ (*สังเกตุได้ว่าถ้าฝาก ที่สนามบิน เพื่อนผมฝาก 14วัน 2100 บาท ได้แค่ใบเดียวนะ ) สำหรับใครที่มีของเยอะแล้วเที่ยวเยอะ ก้ใช้วิธีขนส่งล่ะไป รอรับภายหน้าได้นะครับ ก็ประหยัดล่ะสะดวกดีเหมือนกันครับ
ทีนี้พอทำตามแผนที่ตั้งไว้ล่ะ ก็เหลือมาแลกเงิน เตรียมไว้ติดตัว เลย มีเงินดอลติดตัวไว้ก้แลกเปลี่ยนให้หมด
ตอนช่วงผมเปิดบัตร ฝากกระเป๋า ผมฝากเพื่อนไปจอง รถไฟ เข้า โตเกียวนะครับ รถไฟเข้าเมืองรอบสุดท้ายก่อนเที่ยงคืนนะครับ ล่ะค่อนข้างใช้เวลา เกือบ ๆ 2 ชม ในการนั่งสายปกติ เข้าโตเกียวครับ 1240 เยน ถ้า เร็วหน่อย เป็นสาย Express เนี่ย จะ 2400 เยนได้ ครับ เร็วกว่า 40 นาทีได้ครับ
โอเค ครับพอทุกอย่างแล้ว ก็ เหลือแต่เริ่มลุยตามแผนที่วางมา และ หวังว่าจไม่ผิดแผน หรือ หลงระหว่างทางครับ
การเตรียมตัวก็ประมาณๆ นี้ล่ะครับ สำหรับผม คราวนี้ก็ เริ่มเที่ยวได้ล่ะ !!!
ตะลุย กิน เที่ยว ญี่ปุ่น 14 วัน ภาค " คันโต ,คันไซ ,ฮอกไกโด , ชิบุ , โทโฮคุ " กับการเที่ยวเองครั้งแรก [ตอน2]
งานศิลปะ Aomori
ตอนที่2 เดินทางมาถึง ญี่ปุ่น
ออกจากสนามบิน Lax,USA วันที่ 25/7/2557 มาถึง ญี่ปุ่น วันที่ 26/7/2557 เวลา 4 โมงเย็นได้ ที่สนามบิน นาริตะ น่ะครับ กว่าจะขนของ ไปรับกระเป๋า ผ่าน ตม. มาได้ ก็ใช้เวลาไปค่อนข้างนาน บวกกับ เขาค่อนข้างตรวจกระเป๋าเข้ม ด้วยนะครับ ตอนช่วงผมไป เนื่องจากกระเป๋าเดินทางขนกันมา หนักอึ้งจากอเมริกา ล่ะของฝากเยอะมาก ก็กลัวว่าจะโดน ตรวจอะไรหรือเปล่า สรุปผม ก็ไม่ได้โดนตรวจอะไรครับ แต่ มีเพื่อนคนนึง โดน !!
ก็ไม่รุ้ว่า ไปสื่อสารกันผิดพลาดท่าไหนหรือเปล่าไม่รู้ เพราะว่าพนักงานญี่ปุ่นก็พูดภาษา อังกฤษ กัน ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เอะอะ ก็ ให้ๆๆ ( ไฮ ) สรุป เพื่อนผมโดนพนักงานหิ้วเข้าห้องเดี่ยว ไป คุยอยู่เกือบ ชม. ตอนผมออกมาก่อนล่ะไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้มันหายไปไหน นะ โห เหงื่อตกเลย เพราะเพิ่งจะลง เครื่องวันแรก เน็ต ก็ไม่มีกัน แถม เดินไปถาม พนักงานเจ้าหน้าที่ ขอกลับเข้าไปหา เพื่อน เขาก็ไม่ให้ สุดท้ายผม ต้องไป พูด ประกาศ ออกไมค์ ตามหามัน ดังสะ ทั่วสนามบิน 5555
เข้าเรื่องเลยล่ะกันครับ ตามที่ผมวางแผนไว้ พอถึงสนามบิน ก็ จะจัดการ ตามแผนอย่างนี้
1. ไปเปิด JR Pass ให้ใช้งาน ได้ ตามวันที่จะใช้
2. ไปเช่า Pocket Wi-Fi
3. ไปดูเรื่อง ฝากกระเป๋าไว้สนามบินดี หรือ ขนส่ง โดย บริการ แมวดำ ไปที่พักดี
4. จองตั๋วเข้า โตเกียว
เพราะว่า ผม รอเพื่อนคนที่ โดนตรวจ กระเป๋า อยู่ บางคน เลยไป ฝากกระเป๋า กับสนามบิน ก่อนสะแล้ว เพื่อน โดนไปแร้วแต่ขนาดไซด์กระเป๋าของแต่ล่ะคน นะครับ สำหรับเพื่อนผม ใบใหญ่เหมือนกัน ไซด์ 28 spinner ฝากวันล่ะประมาณ 500 เยน หรือ 150 บาท มันเลือกฝาก 14 วัน ใบเดียว อีกใบนึง ลากไปตลอดการเดินทาง ( หนักหน่วง ทุกคน ) เพื่อน โดนค่าฝากกระเป๋าที่สนามบินไป 150*14 วัน = 2100 บาท สำหรับใบเดียวน่ะครับ
ส่วนผมตอนที่เขาไปฝากกระเป๋ากันอยู่ ผมก็เดินไปเปิด JR pass ที่ได้จาก ตอนซื้อมา มันจะเป็นใบลักษณะ อย่างนี้นะครับ ซึ่งยังใช้งานไม่ได้นะครับ
ต้องไปเปิด ให้มันใช้งานได้ก่อนที่ บริษัทเขา ซึ่ง สามารถเปิดได้ทั้งที่สนามบิน หรือ ตามสถานีรถไฟ หลักๆ ครับ ของที่สนามบินนาริตะ รู้สึกจะอยู่ชั้นล่าง หลังจากออกจาก ตม มาล่ะนะครับ * ภาพอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะ ล่ก ล่ะ รีบ มากครับ 5555
เดินเข้าไป ปุ๊บ ก้ ...เอ้อร์ มา อิง ลิช อิส ฟัน กันนะ เข้าไปถึง พนักงานก้เรียก เชิญมาด้านนี้ครับ ผมก็ยื่น บัตร JR Pass ให้เขาก่อน ล่ะเขาก้ ขอ Passport เราไป เพื่อจะออก JR Pass เป็นเล่มมาให้เรา เพื่อไว้ใช้งาน ล่ะเขาก็ถามเราว่าอยากเปิดให้ ใช้งานในวันไหน * เริ่มใช้งานวันแรกวันไหน
ผมก็โชว์แผนให้เขาดู บอกว่า จะเปิดใช้งานวันแรกเลย วันที่ 29 นะ จะได้ใช้งานได้ถึง 30 1 2 3 4 5 รวมเป็น 7 วันพอดี เขาก็โอเค ออกให้ใช้งานได้ตามที่เรากำหนด
พอผมได้ JR Pass ที่เหลือแค่รอวันใช้งานแล้ว ผมก็ถามเขาว่า งั้นขอจอง ตั๋วล่วงหน้าได้ไหมเอ่ยครับ ตามวันที่จะใช้งาน เพราะกลัวว่า ถ้าไปจองวัน ที่จะขึ้นเรยจะหาที่นั่งลำบาก ซึ่งก้ไม่มีปัญหาครับ พอมี JR Pass แล้ว ก้สามารถ จอง รอบนั่งได้ล่วงหน้าเลย แต่ ได้ 3 รอบล่วงหน้านะครับ พอวันเริ่มใช้งานวันแรก ขึ้นครั้งแรกแล้ว ค่อยจองต่อได้เรื่อยๆ แต่ ถือตั๋วล่วงหน้าได้ ไม่เกิน3 รอบล่วงหน้านะ ล่ะผมก็ยื่นแผนให้เขาดู ล่ะเขาก้ออก ตั๋วรถไฟ ชินคันเซนที่ผมจะใช้งาน ในวันที่ 29 2 รอบ 1) โตเกียว-> อาโอโมริ ชินคันเซนนะ 2) อาโอโมริ->ซัปโปโร รถไฟนอน วันที่ 30 รอบ 3)ซัปโปโร-> ฮาโกดาเตะ ครบ 3 รอบพอดี ล่ะก็จะได้บัตร พร้อม รหัสที่นั่ง คันล่ะรอบขึ้นมาครับ *( เรื่องรอบ เรื่องคันไหน เวลาไหน เช็คได้จาก Hyperdia.com ครับ )
โอเค ครับ พอจัดการเรื่องเปิด JR Pass ได้ล่ะ ( ลืมบอกครับ JR PASS ที่เปิดสนามบินนาริตะ สาขา ในสนามบินมี2สาขานะครับ สาขานึงปิด 2ทุ่ม อีกสาขา 3 ทุ่มครับ ต้องก่ะเวลาดีๆนะครับ ) หลังจากนั้นผมก็มาจัดการ อีกเรื่องต่อ คือ เช่า POCKET - WI FI เพื่อไว้ใช้งาน ตอนเดินทางครับ ซึ่ง ที่เช่าไวไฟ อยู่ตอน ลง บันไดเลื่อนลงมาจากชั้นผู้โดยสารขาเข้าเมือง ชั้นล่างนะครับ อยู่ทางซ้ายเลย
*เดี้ยวหารูปมาลงให้นะครับ พอดีรูปเยอะมาก ล่ะหลายเครื่องด้วยหาไม่เจอ 555
ถ้าหาเช่าจากไทย ไปก่อนได้ จะราคาถูกกว่า ไปเช่าสนามบินมากครับ อันนี้ผมมาจาก เมกา พอดีเลย ต้องมาจำใจ เช่าที่สนามบินครับ อันนี้ของญี่ห้อที่ผมเช่านะ 5 วันแรก วันล่ะ990 yen หลัง5วันล่ะ วันล่ะ 300 yen รวมกัน ผมเช่า 14 วัน ทั้งหมด 7650 เยนได้ ประมาณนี้ครับ อย่างผมหารกัน 4คน ต่อเครื่อง แบ่งใช้งานกันเป็นกลุ่มๆ ก้หารๆ กันไป ตกลงคนล่ะไม่เกิน 600 บาทไทย กับการมีเน็ตใช้ระหว่างเดินทาง ก็โอเคครับ ผมกันคนหลงมากกว่า 555
http://www.globaladvancedcomm.com/pocketwifi.html ลองเข้าไปดูราคาได้ครับ
พอหลังจากเช่า Pocket wifi เสร็จแล้ว ก็ไปเรื่องสำคัญที่กังวลมาตลอด คือ เรื่องกระเป๋าเดินทางครับ ผมก็เดิน หิ้วกระเป๋าเดินทางตรงไปหา ที่ฝากกระเป๋า แมวดำ ก่อนเลย เพื่ออยากทราบราคา กับ การขนส่งว่าเป็นยังไงมั่ง
ขนมา ไอ้พวกของเจ้าปัญหา !!!
พอมาถึงก้เดินเข้าไปคุยกับ พนักงาน สื่อสารกันสนุกสนาน มีอะไร ก็ยิ้มๆ กันทั้งคู่ 5555 เข้าใจกันยาก ฮ่ะๆ แต่คุยกันสักพักเขาก้เข้าใจว่า เราอยากให้ส่ง จากวันนี้ 26/6/2557 เนี่ย ที่สนามบินเนี่ย เราอยากให้เขาส่งให้ ไปโพ่ลที่พัก วันที่ 2/7/2557 ซึ่งเขาก้โอเค เขาบอกจะเก้บของไว้ให้ล่ะส่งใก้ลๆ รับรองว่าของถึง วันที่2/7/2557 ที่พัก Oak Hostel Zen ชัวร์แน่นอนครับ ( ผมก้ ไม่ต้องขนไอ้เจ้ากระเป๋าใบใหญ่ๆ ระหว่างเดินทาง จนเจอหน้ามันอีกที วันที่2 เดือนหน้าก้สบายใจ ) คราวนี้พอมาพูดถึงราคา ไซด์ ขนาดกระเป๋าของผม 28 spinner 2 ใบ ใบล่ะ 23 โล พอดีครับ ค่าขนส่งเขาชั่งมาให้ ของผมโดนไปประมาณ 3600 เยน ครับ ซึ่งถูกมากๆ ได้ส่งไป2ใบ เป็นมูลค่า ค่าฝากของ 7 วัน สำหรับ 2 ใบ หรือ ประมาณ เงินไทย 1080 บาทครับ (*สังเกตุได้ว่าถ้าฝาก ที่สนามบิน เพื่อนผมฝาก 14วัน 2100 บาท ได้แค่ใบเดียวนะ ) สำหรับใครที่มีของเยอะแล้วเที่ยวเยอะ ก้ใช้วิธีขนส่งล่ะไป รอรับภายหน้าได้นะครับ ก็ประหยัดล่ะสะดวกดีเหมือนกันครับ
ทีนี้พอทำตามแผนที่ตั้งไว้ล่ะ ก็เหลือมาแลกเงิน เตรียมไว้ติดตัว เลย มีเงินดอลติดตัวไว้ก้แลกเปลี่ยนให้หมด
ตอนช่วงผมเปิดบัตร ฝากกระเป๋า ผมฝากเพื่อนไปจอง รถไฟ เข้า โตเกียวนะครับ รถไฟเข้าเมืองรอบสุดท้ายก่อนเที่ยงคืนนะครับ ล่ะค่อนข้างใช้เวลา เกือบ ๆ 2 ชม ในการนั่งสายปกติ เข้าโตเกียวครับ 1240 เยน ถ้า เร็วหน่อย เป็นสาย Express เนี่ย จะ 2400 เยนได้ ครับ เร็วกว่า 40 นาทีได้ครับ
โอเค ครับพอทุกอย่างแล้ว ก็ เหลือแต่เริ่มลุยตามแผนที่วางมา และ หวังว่าจไม่ผิดแผน หรือ หลงระหว่างทางครับ
การเตรียมตัวก็ประมาณๆ นี้ล่ะครับ สำหรับผม คราวนี้ก็ เริ่มเที่ยวได้ล่ะ !!!