[เรื่องราวอมยิ้ม] ขอบคุณพี่แท็กซี่สีชมพู ทะเบียน ทษ2122 ที่ทำให้ผมยิ้มได้ในวันที่รู้สึกแย่

ช่วง 23-25 ก.ค. 2557 ผมไปพักที่โรงแรมกับแฟนแถวมาบุญครอง เนื่องจากแฟนเข้า กทม. มาประชุม เราเจอกันเดือนละครั้ง แต่ครั้งนี้รู้สึกแย่มาก เพราะผมรู้ว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่น เขาเองก็บอกผมทุกอย่าง แต่เขาขอรับผิดชอบความรู้สึกด้วยการดูแลจนกว่าผมจะเรียนจบ รวมถึงถ้าได้ไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย จนกว่าผมจะทำงานตั้งตัวได้ เพื่อไม่ให้ผมรู้สึกแย่ไปกว่านี้ (ตอนนี้ผมขึ้นปีสี่ครับ) แต่ด้วยความที่ผมรักเขา ก็ย่อมเสียใจเป็นธรรมดา

ก่อนเที่ยงวันที่ 25 ก.ค. 2557 หลังจากเช็คเอาท์จากโรงแรมแถวมาบุญครอง ก็เดินเรื่อยๆเหม่อลอย เดินคล้ายๆซอมบี้ สักพัก โทรหาเพื่อนชื่อทิพย์ ถามว่าอยู่ไหน ต้องการพบด่วน ไม่ไหวแล้ว จะร้องไห้แล้ว ได้ความว่ากำลังรอรถเมล์แถวถนนเพชรบุรี ตรงไทยพาณิชย์ชิดลม จะไปปัฐวิกรณ์ ด้วยความที่เกรงใจเพื่อน เลยรีบนั่งแท็กซี่จากพารากอน มุ่งตรงไปหาเธอทันที ส่วนคนขับเป็นผู้ชายอายุประมาณยี่สิบปลายๆ ถึงสามสิบต้นๆ

ผม : เมิงรอสักครู่นะ ตอนนี้กำลังวนเข้าพารากอนไปออกราชดำริ มีถนนคนเดิน รถติดว่ะ
ทิพย์ : เร็วๆ กรูรอเนี่ย อยู่ตรงป้ายรถเมล์
ผม : อย่าเพิ่งหนีกรูสิ วันนี้กรูเหม่อลอยมาก เหมือนเอ๋อแดรก กรูเฟลกับความรักมากอ่ะ รอกรูหน่อย

-แล้วแท็กซี่ก็พูดว่า-
แท็กซี่ : พี่เข้าใจนะครับ คนรอ ความรู้สึกมันนานกว่าคนให้รอ เดี๋ยวพี่จะพยายามเร่งให้ใช้เวลาน้อยที่สุดนะ
ผม : ครับพี่
แท็กซี่ : ดีนะ ที่ยังมีเพื่อนในวันที่เสียใจ เพื่อนคงไม่หนีเราไปก่อนเนอะ
ผม : ครับ เพื่อนยังรออยู่

แล้วแท็กซี่ก็พามาจนถึงประตูน้ำ พร้อมกับคุยเรื่องโน่นนี่ไป

ทิพย์ : เมิง กรูขึ้นสาย 60 ละ อย่าโกรธกรูนะ พอดีวันนี้มากับแม่ แล้วรถก็ไม่ค่อยมีด้วย ร้อนมาก
ผม : เออ กรูไม่โกรธหรอก เดี๋ยวกรูคงกลับห้อง เตรียมตัวสอนพิเศษด้วย คงงั้นมั้ง หรือไม่ก็คงเดินเล่นเรื่อยๆแถวสยามก่อน
ทิพย์ : แต่ถ้าเมิงกลับห้อง เมิงอยู่คนเดียวนะ ไหวมั้ย ตามกรูมาป่ะล่ะ (คิดในใจว่า นี่แหละน้ำใจเพื่อน เราต้องตามหาน้ำใจเพื่อน ฮ่าๆๆ)

-สักพัก-
ผม : พี่ครับ เพื่อนผมเขาขึ้นรถเมล์ไปแล้ว งั้นเดี๋ยวลงตรงนี้ก็ได้ (เหลือบไปเห็นค่าโดยสาร 53 บาท จากพารากอนมาประตูน้ำในช่วงรถติด แม่เจ้า)
แท็กซี่ : เฮ้อ โดนทิ้งแล้วเหรอ เอางี้นะน้อง พี่จะช่วยน้อง เดี๋ยวพี่ขับไล่บี้รถเมล์เพื่อนน้อง เดี๋ยวพี่ลดราคาให้ ดูท่าวันนี้เราไม่ค่อยโอเค เดี๋ยวจะแย่ไปกว่านี้ ให้เพื่อนน้องรู้ไปเลยว่า เพื่อเพื่อนอย่างเมิง กรูทำได้ (แท็กซี่อินกว่ากรูอีก เอิ่ม)
ผม : ก็ได้ครับ

แล้วแท็กซี่ก็ไล่หลังทันรถเมล์คันดังกล่าว เลยแยกอโศกเพชรมานิดๆ ทิพย์ก็ส่งข้อมูลรถเมล์มาให้ในไลน์
ผม : พี่ครับ รถเมล์ครีมแดงสาย 60 ทะเบียน 11-9946 ครับ
แท็กซี่ : โอเค เหมือนในหนังฝรั่งเลยเนอะ ขับรถไล่ล่ากัน ดีๆ พี่จะได้มีเรื่องเล่า (คิดในใจว่า ถ้าเป็นหนังไล่ล่าของฝรั่ง คงไม่ขับตามรถเมล์ที่วิ่งเอื่อยๆ แบบนี้หรอก อย่างน้อยก็ต้องมาตรฐานสาย 8 เจ้าพ่อลาดพร้าวอ่ะ)

-จนกระทั่งถึงปิยเวช-
แท็กซี่ : คันนี้ใช่มั้ยครับ
ผม : ครับ
แท็กซี่ : เตือนตัวเองนะครับ คนนี้แค่เพื่อนนะ ถ้าเป็นแฟนคงโดนเล่นงานแน่ (เอิ่ม ตรงๆเลยนะพี่ เนี่ย เพื่อนสาว) อย่าลืม ขึ้นไปแล้ว พูดดังๆเลยว่า อุตส่าห์นั่งแท็กซี่ตามมา ถ้าไม่ใช่เพื่อน ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก แล้วก็อย่าลืมโบกมือส่งสัญญาณให้พี่ด้วยนะครับ พี่จะพยายามให้รถเมล์แซง
ผม : ครับ (แบบงงๆ)
ผม : เอ่อ พี่ครับ 75 บาทป่ะ
แท็กซี่ : อ่อ พี่คิดน้อง 60 บาท ถือว่าช่วยน้อง ให้น้องสบายใจขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต

-ผมยกมือไหว้ขอบคุณ พร้อมกับคิดในใจว่า เอ่อ บางทีแท็กซี่ก็อินเกินผู้โดยสารนะ แต่ต้องขอโทษพี่เขาด้วยที่รถติด จนไม่สามารถโบกมือให้พี่เขาได้-

ขอบคุณพี่แท็กซี่สีชมพู ทษ 2122 กรุงเทพมหานครนะครับ ที่ทำให้มีเรื่องเล่า แม้ว่าส่วนลดค่าโดยสารจะไม่มาก แต่ก็ถือว่าส่วนน้อยที่จะได้รับ  ฮ่าๆๆ อย่างน้อย ผมก็ลืมเลยว่าผมกำลังจะร้องไห้ และตั้งใจนั่งรถแท็กซี่เพื่อต้องการพื้นที่ส่วนตัวได้หลั่งน้ำตาออกมา แต่กลับกลายเป็นว่า ผมยิ้ม ผมหัวเราะ แถมยังมีเรื่องเล่าให้ทิพย์ฟังด้วย

แม้ว่าทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าห้องตัวเอง ผมจะร้องไห้โฮ ล้มลงบนเตียงแล้วหลับไปทั้งน้ำตา แต่พอตื่นขึ้นมาก็ยังจำเหตุการณ์สั้นๆในวันนี้ได้อยู่ เรื่องเล็กๆที่จำให้ลืมเรื่องหนักหนาได้ชั่วขณะ

ขอบคุณอีกครั้งครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่