ย้อนอ่านบทก่อนหน้า
บทที่ 4
แขกรับเชิญ
( Guest )
หลังจากการรับประทานอาหารกลางวันของสองพี่น้องสิ้นสุดลง พิมพ์ประภัสร์ได้ขับรถมาส่งวาดลัดดาที่มหาวิทยาลัยดังเดิม สาวน้อยโบกมือลาให้กับพี่สาวก่อนที่จะรีบขึ้นตึกไปเรียนต่อในตอนบ่าย ส่วนตัวเธอเองก็จัดแจงแต่งหน้าให้สวยงามก่อนที่จะลงจากรถสีส้มประกายทองคู่ใจ และขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะเปิดเพลงฟังจากคลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจารย์สาวโปรดปรานยามที่รู้สึกอยากจะผ่อนคลาย
“ สวัสดีครับคุณผู้ฟัง...ตอนนี้คุณกำลังฟังคลื่น 77.5 MHz Lady Radio สำหรับวันนี้ทางสถานีของเรามีแขกรับเชิญพิเศษมาให้สัมภาษณ์ถึงผลงานเพลงชิ้นแรก ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่นาที ซึ่งแขกรับเชิญที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอเป็นนักร้องสาวที่มีดีกรีเป็นถึงนางแบบ และนักแสดงที่กำลังมาแรงอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งในตอนนี้เธอก็นั่งอยู่ข้างๆ ผมแล้ว ขอต้อนรับคุณซีรี สาริสา ศิระมณีวัฒนาครับ สวัสดีครับคุณซีรี... ” เสียงดีเจหนุ่มกล่าวทักทายผู้ฟังและนักร้องสาว ท่ามกลางเสียงปรบมือให้การต้อนรับจากเครื่องกดเสียงในห้องอัดของทางสถานี
“ ค่า!! สวัสดีค่ะ ” เสียงเจื้อยแจ้วของนักร้องสาวทักตอบ
“ คุณซีรีรู้สึกอย่างไรบ้างครับกับผลงานเพลงที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่อึดใจนี้ ? ” ดีเจหนุ่มถาม
“ รู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ...และดีใจที่ได้ทำงานเพลง นับว่าเป็นอีกหนึ่งงานในวงการที่ซีรีได้ลองทำต่อจากงานเดินแบบ และงานแสดงเลย ” เธอกล่าว
“ คุณซีรีรู้ตัวไหมครับว่าคุณเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ และมีความสามารถมากที่ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างในคราวเดียวกัน ” ดีเจหนุ่มใส่ลูกยอ
“ คงไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ก็ขอขอบคุณนะคะ...และขอบคุณทุกๆ โอกาสที่ได้มีให้ ซีรีทราบค่ะว่าคนในวงการน้อยคนที่จะสามารถทำอะไรหลายๆ อย่างได้ในคราวเดียว ซึ่งซีรีเองก็ไม่ได้เป็นคนที่เก่งอะไรมาก แค่เริ่มต้นจากการเป็นนางแบบโนเนม จนกระทั่งได้ไปเล่นโฆษณากับละคร ก็พอมีคนรู้จักเพิ่มขึ้นบ้าง ซึ่ง... ”
“ อย่าพูดว่า พอมีคนรู้จักเพิ่ม เลยครับ ที่จริงแล้วคุณซีรีมีชื่อเสียงมาก ไม่มีใครไม่รู้จักเลย... ” เสียงดีเจหนุ่มกล่าวแทรกขัดจังหวะ ทำให้นักร้องสาวต้องเงียบลง
“ ...คนที่ทำได้แบบคุณหายากนะครับ เท่าที่ผมนึกได้ก็มีแต่คุณ โรส รสรินทร์ เท่านั้น ที่ทำได้ขนาดนี้... ” พิมพ์ประภัสร์หยุดกิจกรรมที่ทำลงครู่หนึ่ง เมื่อได้ยินชื่อของดาราสาวคนนี้ เธอละสายตาจากกระจกขณะที่กำลังตบแป้ง มือข้างหนึ่งของเธอเอื้อมไปหมุนปุ่มที่วิทยุ เพื่อเร่งเสียงให้ดังขึ้น ก่อนที่จะยิ้มมุมปากอย่างสะใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ดีเจหนุ่มถาม
“ เห็นใครๆ ต่างก็พูดกันว่า คุณซีรีกำลังจะขึ้นมาแทนที่คุณโรสอย่างนั้นเหรอครับ ? ” น้ำเสียงของเขาถามอย่างสงสัย ขนาดทำให้สาริสาถึงกับไปต่อไม่ถูก
“ ค...คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณโรสเธอเป็นตำนาน อีกอย่างหนึ่งซีรีเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ” ดาราสาวกล่าวอย่างถ่อมตัว
“ แหม...ผมแค่แซวเล่นน่ะครับ!! หวังว่าหลังจากออกอากาศไปคงไม่มีข่าวเกาเหลาเกิดขึ้นกันนะ เอาล่ะครับ..สุดท้ายนี้ผมอยากให้คุณซีรีกล่าวฝากผลงานเพลงให้กับคุณผู้ฟังเสียหน่อย ” ดีเจหนุ่มรีบตัดบท
“ ค่ะ!! ยังไงก็ขอฝากผลงานเพลงเพลงแรกของซีรีด้วยนะคะ ชื่อเพลง เก็บหัวใจ ซีรีตั้งใจและถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มที่ และอีกไม่นานก็กำลังจะมีผลงานที่สองตามมา อย่าลืมติดตามกันนะคะ ” เธอกล่าวทิ้งท้ายอย่างสวยงาม ก่อนที่จะอำลาผู้ฟังและปิดท้ายด้วยบทเพลงน่ารักๆ ที่ถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกข้างใน…
เพลง เก็บหัวใจ เป็นเพลงที่ดาราสาวร้องออกมาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ บวกกับความลงตัวของทำนองเพลงที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาเมื่อได้รับฟัง และขณะเดียวกันเนื้อร้องที่เลือกสรรแต่ถ้อยคำหวานๆ ซึ้งๆ ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินได้ถึงบทเพลงที่ชวนฝัน ซึ่งเนื้อหาได้กล่าวถึงหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเปรียบความฝันของเธอเหมือนดั่งเช่นความรัก หากยังไม่ถึงเวลาของมันเราก็ทำได้แค่เพียงที่จะรอ จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะช่วยนำพาไปถึงจุดนั้น
++++++++++++++++++++++++++++++
เพลงของ สาริสา ถูกปล่อยออกสู่คลื่นวิทยุ Lady Radio และอีกเพียงไม่กี่นาทีต่อมา คลื่นวิทยุอื่นๆ ก็เริ่มเปิดเพลงนี้ตามๆ กัน จนทำให้ผู้ฟังหลายๆ คนรู้สึกเพลิดเพลินในบทเพลงที่แสนไพเราะเช่นนี้ เพลงของเธอเปิดอยู่ทั่วไปทั้งในย่านชุมชนเมือง ตึกรามบ้านช่อง ไม่เว้นแม้แต่บนท้องถนน รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า แม้แต่ในสถานที่ประกอบการต่างๆ อย่างโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการทำศัลยกรรมตกแต่ง บทเพลงนี้ก็ดังขึ้นในห้องประชาสัมพันธ์ที่เหล่าสาวๆ นางพยาบาลผู้มีใจรักในเสียงดนตรีต่างเปิดฟังกันยามว่างเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน สาวๆ เหล่านี้หารู้ไม่ว่า สิ่งที่จะทำลายบรรยากาศอันสำราญกำลังใกล้เข้ามา และเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ รถสีม่วงเปลือกมังคุดคันใหญ่ที่ดูลึกลับก็ได้เคลื่อนตัวเข้ามายังลานจอดรถของทางโรงพยาบาล แถมจอดในที่ V.I.P เสียด้วย นั่นย่อมหมายความว่าผู้ที่เดินทางมากับรถคันนี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดาเป็นแน่
ท่ามกลางสังคมเมืองใหญ่ที่กำลังรับฟังบทเพลงอันไพเราะจากเสียงของดาราสาวนามกระเดื่องอยู่นั้น คงมีเพียงรถคันนี้เพียงคันเดียวที่ไม่รู้สึกยินดีรับฟังบทเพลงเพราะๆ เพลงนี้ หรืออาจจะฟังแล้วและไม่อยากฟังมันอีกเลยก็เป็นได้
หลังจากที่เครื่องยนต์ของรถสีม่วงคันนี้ดับลง ปรากฏให้เห็นชายวัยกลางคนใส่เสื้อคอปกสีเทาอ่อน ลุกลี้ลุกลนจากฝั่งคนขับเพื่ออ้อมมาเปิดประตูรถให้กับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหลังทางฝั่งตรงข้าม และเมื่อยามที่ประตูรถถูกเปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาวที่มีท่วงท่าดุจนางพญากำลังก้าวลงมา ใบหน้าของเธอซีดขาว และสวมแว่นตากันแดดสีดำอำพรางนัยน์ตาไว้ หล่อนสวมชุดสีดำประกายม่วงและปล่อยผมสีเข้มยาวสยาย แม้ว่าความเป็นจริงหญิงสาวจะมีอายุย่างเข้าเลขสี่ แต่ดวงหน้าก็ยังไม่มีริ้วรอยใดๆ ที่บ่งบอกว่าเธอล่วงเลยเข้าสู่วัยของช่วงอายุนั้น
สาวใหญ่เดินออกมาจากลานจอดรถแล้วมุ่งตรงไปยังลิฟท์ เธอกดปุ่มไปที่ชั้นสิบห้า ซึ่งมันได้พาเธอขึ้นไปสู่ชั้นบนสุดของอาคาร...ชั้นกองการศัลยกรรม
เจ้าหล่อนก้าวเท้าไปตามทางเดินของชั้นนั้น โดยที่เหล่าพยาบาลต่างหลบสายตา ไม่ก็ก้มหน้าหรือยืนหลบมุม เพื่อที่จะได้ไม่เจอกับแรงปะทะ
หญิงสาวย่างเท้าผ่านห้องประชาสัมพันธ์ ซึ่งภายในนั้นนางพยาบาลต่างผ่อนคลายด้วยการเปิดเพลง และแสร้งทำเป็นตรวจเอกสารกันอย่างเคร่งครัดเมื่อเห็นเธอเดินมา สาวใหญ่หยุดนิ่ง เมื่อได้ยินอะไรบางอย่างที่ระคายหู เธอเดินมุ่งตรงไปหาพยาบาลในห้องที่อยู่ใกล้กับเธอที่สุด พยาบาลสาวก้มหน้าไม่กล้าสบสายตา เจ้าหล่อนจึงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวบางอย่างออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นประดุจน้ำแข็ง
“ ปิดเพลง...เดี๋ยวนี้ ” และไม่ทันที่จะต้องให้กล่าวซ้ำ พยาบาลสาวคนนั้นก็รีบลุกขึ้นไปปิดวิทยุโดยเร็ว
เมื่อรู้สึกว่ารู้สึกพึงพอใจแล้ว หญิงสาวจึงเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหล่าพยาบาลวิ่งมาจับกลุ่มนินทาถึงเหตุการณ์เมื่อครู่กันอย่างสนุกปากเมื่อเห็นเธอเดินลับตาไป
สาวใหญ่มาหยุดอยู่ที่ห้องริมสุดของทางเดิน เธอเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ ราวกับว่าห้องนี้เป็นห้องของเธอเอง ทว่ากลับรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้า เธอเห็นพยาบาลสาวร่างเล็กที่มีทีท่าค่อนข้างมั่นใจ เดินตรงเข้ามาหาอย่างไม่เกรงกลัว ซึ่งต่างจากคนอื่นๆ ผมสั้นซอยที่บ่งบอกถึงความปราดเปรียว ฉีกภาพลักษณ์จากนางพยาบาลทั่วไป ยิ่งกว่านั้นกระดุมที่ชุดก็ติดต่ำลงมากว่าปกติ เผยให้เห็นขอบยกทรงสีแดงดูร้อนแรง
“ สวัสดีค่ะ...คุณโรส!! ” พยาบาลสาวกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงที่เสแสร้ง พลางไหว้ด้วยท่าทีที่ประดิดประดอย
“ ใครใช้ให้หล่อนเข้ามาในห้องนี้ แล้วน้องชายฉันอยู่ไหน ? ” สาวใหญ่เปล่งเสียงถาม
“ ตอบทีละคำถามนะคะ!! ฉันเป็นเลขาฯ...ส่วนตัว ของคุณหมอ สามารถเข้ามาในห้องของคุณหมอได้ทุกครั้ง และตอนนี้คุณหมอไม่อยู่...ไปตรวจคนไข้ค่ะ!! ” หญิงสาวตอบด้วยท่าทีที่กวนอารมณ์
“ ใครแต่งตั้งหล่อนเป็นเลขาฯ ยะ ?!! ” เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงที่สุดทน ดวงตาเบิกกว้างแสดงถึงความไม่พอใจ
“ อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาหรอกค่ะ!! ” หล่อนตอบห้วนๆ
“ แก...กล้าต่อล้อต่อเถียงกับฉันเหรอ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ?!! ” สาวใหญ่เกรี้ยวกราด
“ ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะคะ...คุณ โรส รสรินทร์ นักร้องสาวดาวค้างฟ้าที่ไม่ยอมแก่ เพราะมีน้องชายเป็นศัลยแพทย์ระดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่ง...อีกไม่นานคุณก็จะกลายเป็นพี่สามีของฉัน ” พยาบาลสาวลอยหน้าลอยตาเพื่อยั่วอารมณ์
“ อีทับทิม อีนางชั่ว!! แกทำให้น้องชายของฉันเสียใจยังไม่พอ แกยังจะกล้าทำให้ฉันเสียใจอีกเหรอไง ?!! จำไว้นะ!! ชาตินี้ทั้งชาติ ฉันจะไม่มีวันยอมรับแกเป็นน้องสะใภ้ฉันหรอก!!! ” รสรินทร์ตวาด
“ ถ้าฉันชั่ว!! คุณก็ชั่วยิ่งกว่าฉันแหละค่ะ!! ไม่ใช่เพราะคุณเหรอที่ให้ฉันไปทำลายความสัมพันธ์ของคุณหมอกับแฟนเขา!! เพียงเพราะคุณรับไม่ได้ที่คุณหมอไปคบกับอาจารย์มหาวิทยาลัยจนๆ ฉันก็ทำสำเร็จแล้วนี่คะ!! แล้วมันก็ไม่ผิดอะไรที่ฉันจะสานสัมพันธ์ของฉันกับคุณหมอเสียเอง คุณน่าจะดีใจนะคะที่แผนการของคุณสำเร็จเกินคาด!! ” หญิงสาวกอดอกอย่างพึงพอใจในคำพูดของตนเองเมื่อครู่
“ อีทับทิม!! อีงูพิษ!!... ” ไม่ทันขาดคำ ฝ่ามือของนักร้องสาวก็ฟาดลงไปที่หน้าของนางพยาบาลฝีปากกล้าโดยทันที และขณะเดียวกันนั้นเองประตูห้องก็เปิดออก เผยให้เห็นชายสวมแว่นคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมเสื้อกาวน์และถือถาดเอกสาร ซึ่งบ่งบอกว่าเขาผู้นี้ประกอบวิชาชีพเป็นนายแพทย์อย่างแน่นอน
รสรินทร์ เหลือบมองน้องชาย ก่อนที่จะรู้ตัวว่าเธอได้เผลอทำอะไรลงไป ทางฝ่ายพยาบาลสาวเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบบีบน้ำตา แล้วส่งเสียงสะอึกสะอื้นทันที ราวกับว่าเธอมีปุ่มบังคับอยู่ในตัว
“ พี่โรส...ต้องถึงขั้นตบตีกันเลยเหรอครับ ทับทิมเขาทำอะไรให้ ?? ” คุณหมอถามพี่สาวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างตกใจ
“ ข...ขอโทษค่ะพี่หมอ ทับทิมผิดเองที่เข้าห้องพี่หมอโดยพละการ ท..ทับทิมแค่จะเอาแฟ้มคนไข้มาให้ แล้วเผอิญคุณโรสแกเข้ามาเห็นพอดี... ” พยาบาลสาวอธิบายพลางร่ำไห้ไปพร้อมๆ กัน
“ อี

!!! เมฆ...แกเชื่ออีนางนี่มันเหรอ มันสร้างภาพหลอกแกอยู่นะ!! ” รสรินทร์สาธยายให้น้องชายของเธอฟัง
“ พอเถอะครับพี่...ผมก็เห็นอยู่ว่าพี่เพิ่งตบเขาไป ทับทิม...คุณออกไปก่อนเถอะ ” หมอหนุ่มสั่งพยาบาลผู้ช่วย
“ ค่ะ... ” หญิงสาวกล่าวอย่างนอบน้อม พลางเหลือบมามองนักร้องสาวด้วยสายตาที่เย้ยหยัน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป…
รสรินทร์มองดูเธอด้วยความจงเกลียดจงชัง สาวใหญ่รู้โดยทันทีว่าชาตินี้จะไม่ขอข้องเกี่ยวใดๆ กับผู้หญิงคนนี้เป็นอันขาด
หลังจากที่พยาบาลสาวออกไปจากห้องพักของคุณหมอ มงคลมาส ศัลยแพทย์ผู้มีชื่อเสียง บรรยากาศภายในห้องก็เงียบไปครู่หนึ่ง บัดนี้ก็เหลือเพียงแค่เขาและพี่สาวเท่านั้น คุณหมอเดินมาที่โต๊ะทำงานแล้วนั่งลง ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประเด็นกับพี่สาวของตน
“ พี่มีธุระอะไรกับผมหรือครับ ? ” คุณหมอถามพลางมองเธอด้วยสายตาที่เบื่อหน่าย
“ นี่แกยังติดใจฉันในเรื่องนั้นอยู่เหรอไง ??...ฉันเป็นพี่แกนะ ฉันไม่มีทางทำให้น้องชายเพียงคนเดียวของฉันต้องเสียใจหรอก!! ” รสรินทร์รีบแก้ต่างให้ตนเอง แม้รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะเธอ
“ แต่พี่ก็ไม่ได้เห็นด้วย หรือสนับสนุนพิมพ์เขาอยู่แล้วนี่!! ” เขากล่าวถึงคนรักเก่าอย่างพิมพ์ประภัสร์
“ ถึงฉันไม่เห็นด้วย แต่ฉันก็ไม่ได้ขัดขวาง!! ” รสรินทร์แสร้งทำเสียงแข็ง
“ เหรอครับ ? ” หมอหนุ่มถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ราวกับไม่เชื่อ
“ จะยังไงก็แล้วแต่ ฉันก็ไม่เห็นดีเห็นงามให้แกกับยายครูนั่นคบกันหรอก รวมไปถึงอีนางทับทิมด้วย!! ” เธอยื่นคำขาด
“ พี่วางใจได้เลย...ผมกับทับทิมไม่มีทางไปด้วยกันได้แน่ ผมมองเห็นเธอเป็นแค่รุ่นน้องคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนพิมพ์... ” คุณหมอพูดแล้วถอนหายใจ
[นิยาย] ในดวงมาน...♡ #บทที่ 4
แขกรับเชิญ
( Guest )
หลังจากการรับประทานอาหารกลางวันของสองพี่น้องสิ้นสุดลง พิมพ์ประภัสร์ได้ขับรถมาส่งวาดลัดดาที่มหาวิทยาลัยดังเดิม สาวน้อยโบกมือลาให้กับพี่สาวก่อนที่จะรีบขึ้นตึกไปเรียนต่อในตอนบ่าย ส่วนตัวเธอเองก็จัดแจงแต่งหน้าให้สวยงามก่อนที่จะลงจากรถสีส้มประกายทองคู่ใจ และขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะเปิดเพลงฟังจากคลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจารย์สาวโปรดปรานยามที่รู้สึกอยากจะผ่อนคลาย
“ สวัสดีครับคุณผู้ฟัง...ตอนนี้คุณกำลังฟังคลื่น 77.5 MHz Lady Radio สำหรับวันนี้ทางสถานีของเรามีแขกรับเชิญพิเศษมาให้สัมภาษณ์ถึงผลงานเพลงชิ้นแรก ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่นาที ซึ่งแขกรับเชิญที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอเป็นนักร้องสาวที่มีดีกรีเป็นถึงนางแบบ และนักแสดงที่กำลังมาแรงอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งในตอนนี้เธอก็นั่งอยู่ข้างๆ ผมแล้ว ขอต้อนรับคุณซีรี สาริสา ศิระมณีวัฒนาครับ สวัสดีครับคุณซีรี... ” เสียงดีเจหนุ่มกล่าวทักทายผู้ฟังและนักร้องสาว ท่ามกลางเสียงปรบมือให้การต้อนรับจากเครื่องกดเสียงในห้องอัดของทางสถานี
“ ค่า!! สวัสดีค่ะ ” เสียงเจื้อยแจ้วของนักร้องสาวทักตอบ
“ คุณซีรีรู้สึกอย่างไรบ้างครับกับผลงานเพลงที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่อึดใจนี้ ? ” ดีเจหนุ่มถาม
“ รู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ...และดีใจที่ได้ทำงานเพลง นับว่าเป็นอีกหนึ่งงานในวงการที่ซีรีได้ลองทำต่อจากงานเดินแบบ และงานแสดงเลย ” เธอกล่าว
“ คุณซีรีรู้ตัวไหมครับว่าคุณเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ และมีความสามารถมากที่ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างในคราวเดียวกัน ” ดีเจหนุ่มใส่ลูกยอ
“ คงไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ก็ขอขอบคุณนะคะ...และขอบคุณทุกๆ โอกาสที่ได้มีให้ ซีรีทราบค่ะว่าคนในวงการน้อยคนที่จะสามารถทำอะไรหลายๆ อย่างได้ในคราวเดียว ซึ่งซีรีเองก็ไม่ได้เป็นคนที่เก่งอะไรมาก แค่เริ่มต้นจากการเป็นนางแบบโนเนม จนกระทั่งได้ไปเล่นโฆษณากับละคร ก็พอมีคนรู้จักเพิ่มขึ้นบ้าง ซึ่ง... ”
“ อย่าพูดว่า พอมีคนรู้จักเพิ่ม เลยครับ ที่จริงแล้วคุณซีรีมีชื่อเสียงมาก ไม่มีใครไม่รู้จักเลย... ” เสียงดีเจหนุ่มกล่าวแทรกขัดจังหวะ ทำให้นักร้องสาวต้องเงียบลง
“ ...คนที่ทำได้แบบคุณหายากนะครับ เท่าที่ผมนึกได้ก็มีแต่คุณ โรส รสรินทร์ เท่านั้น ที่ทำได้ขนาดนี้... ” พิมพ์ประภัสร์หยุดกิจกรรมที่ทำลงครู่หนึ่ง เมื่อได้ยินชื่อของดาราสาวคนนี้ เธอละสายตาจากกระจกขณะที่กำลังตบแป้ง มือข้างหนึ่งของเธอเอื้อมไปหมุนปุ่มที่วิทยุ เพื่อเร่งเสียงให้ดังขึ้น ก่อนที่จะยิ้มมุมปากอย่างสะใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ดีเจหนุ่มถาม
“ เห็นใครๆ ต่างก็พูดกันว่า คุณซีรีกำลังจะขึ้นมาแทนที่คุณโรสอย่างนั้นเหรอครับ ? ” น้ำเสียงของเขาถามอย่างสงสัย ขนาดทำให้สาริสาถึงกับไปต่อไม่ถูก
“ ค...คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณโรสเธอเป็นตำนาน อีกอย่างหนึ่งซีรีเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ” ดาราสาวกล่าวอย่างถ่อมตัว
“ แหม...ผมแค่แซวเล่นน่ะครับ!! หวังว่าหลังจากออกอากาศไปคงไม่มีข่าวเกาเหลาเกิดขึ้นกันนะ เอาล่ะครับ..สุดท้ายนี้ผมอยากให้คุณซีรีกล่าวฝากผลงานเพลงให้กับคุณผู้ฟังเสียหน่อย ” ดีเจหนุ่มรีบตัดบท
“ ค่ะ!! ยังไงก็ขอฝากผลงานเพลงเพลงแรกของซีรีด้วยนะคะ ชื่อเพลง เก็บหัวใจ ซีรีตั้งใจและถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มที่ และอีกไม่นานก็กำลังจะมีผลงานที่สองตามมา อย่าลืมติดตามกันนะคะ ” เธอกล่าวทิ้งท้ายอย่างสวยงาม ก่อนที่จะอำลาผู้ฟังและปิดท้ายด้วยบทเพลงน่ารักๆ ที่ถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกข้างใน…
เพลง เก็บหัวใจ เป็นเพลงที่ดาราสาวร้องออกมาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ บวกกับความลงตัวของทำนองเพลงที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาเมื่อได้รับฟัง และขณะเดียวกันเนื้อร้องที่เลือกสรรแต่ถ้อยคำหวานๆ ซึ้งๆ ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินได้ถึงบทเพลงที่ชวนฝัน ซึ่งเนื้อหาได้กล่าวถึงหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเปรียบความฝันของเธอเหมือนดั่งเช่นความรัก หากยังไม่ถึงเวลาของมันเราก็ทำได้แค่เพียงที่จะรอ จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะช่วยนำพาไปถึงจุดนั้น
เพลงของ สาริสา ถูกปล่อยออกสู่คลื่นวิทยุ Lady Radio และอีกเพียงไม่กี่นาทีต่อมา คลื่นวิทยุอื่นๆ ก็เริ่มเปิดเพลงนี้ตามๆ กัน จนทำให้ผู้ฟังหลายๆ คนรู้สึกเพลิดเพลินในบทเพลงที่แสนไพเราะเช่นนี้ เพลงของเธอเปิดอยู่ทั่วไปทั้งในย่านชุมชนเมือง ตึกรามบ้านช่อง ไม่เว้นแม้แต่บนท้องถนน รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า แม้แต่ในสถานที่ประกอบการต่างๆ อย่างโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการทำศัลยกรรมตกแต่ง บทเพลงนี้ก็ดังขึ้นในห้องประชาสัมพันธ์ที่เหล่าสาวๆ นางพยาบาลผู้มีใจรักในเสียงดนตรีต่างเปิดฟังกันยามว่างเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน สาวๆ เหล่านี้หารู้ไม่ว่า สิ่งที่จะทำลายบรรยากาศอันสำราญกำลังใกล้เข้ามา และเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ รถสีม่วงเปลือกมังคุดคันใหญ่ที่ดูลึกลับก็ได้เคลื่อนตัวเข้ามายังลานจอดรถของทางโรงพยาบาล แถมจอดในที่ V.I.P เสียด้วย นั่นย่อมหมายความว่าผู้ที่เดินทางมากับรถคันนี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดาเป็นแน่
ท่ามกลางสังคมเมืองใหญ่ที่กำลังรับฟังบทเพลงอันไพเราะจากเสียงของดาราสาวนามกระเดื่องอยู่นั้น คงมีเพียงรถคันนี้เพียงคันเดียวที่ไม่รู้สึกยินดีรับฟังบทเพลงเพราะๆ เพลงนี้ หรืออาจจะฟังแล้วและไม่อยากฟังมันอีกเลยก็เป็นได้
หลังจากที่เครื่องยนต์ของรถสีม่วงคันนี้ดับลง ปรากฏให้เห็นชายวัยกลางคนใส่เสื้อคอปกสีเทาอ่อน ลุกลี้ลุกลนจากฝั่งคนขับเพื่ออ้อมมาเปิดประตูรถให้กับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหลังทางฝั่งตรงข้าม และเมื่อยามที่ประตูรถถูกเปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาวที่มีท่วงท่าดุจนางพญากำลังก้าวลงมา ใบหน้าของเธอซีดขาว และสวมแว่นตากันแดดสีดำอำพรางนัยน์ตาไว้ หล่อนสวมชุดสีดำประกายม่วงและปล่อยผมสีเข้มยาวสยาย แม้ว่าความเป็นจริงหญิงสาวจะมีอายุย่างเข้าเลขสี่ แต่ดวงหน้าก็ยังไม่มีริ้วรอยใดๆ ที่บ่งบอกว่าเธอล่วงเลยเข้าสู่วัยของช่วงอายุนั้น
สาวใหญ่เดินออกมาจากลานจอดรถแล้วมุ่งตรงไปยังลิฟท์ เธอกดปุ่มไปที่ชั้นสิบห้า ซึ่งมันได้พาเธอขึ้นไปสู่ชั้นบนสุดของอาคาร...ชั้นกองการศัลยกรรม
เจ้าหล่อนก้าวเท้าไปตามทางเดินของชั้นนั้น โดยที่เหล่าพยาบาลต่างหลบสายตา ไม่ก็ก้มหน้าหรือยืนหลบมุม เพื่อที่จะได้ไม่เจอกับแรงปะทะ
หญิงสาวย่างเท้าผ่านห้องประชาสัมพันธ์ ซึ่งภายในนั้นนางพยาบาลต่างผ่อนคลายด้วยการเปิดเพลง และแสร้งทำเป็นตรวจเอกสารกันอย่างเคร่งครัดเมื่อเห็นเธอเดินมา สาวใหญ่หยุดนิ่ง เมื่อได้ยินอะไรบางอย่างที่ระคายหู เธอเดินมุ่งตรงไปหาพยาบาลในห้องที่อยู่ใกล้กับเธอที่สุด พยาบาลสาวก้มหน้าไม่กล้าสบสายตา เจ้าหล่อนจึงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวบางอย่างออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นประดุจน้ำแข็ง
“ ปิดเพลง...เดี๋ยวนี้ ” และไม่ทันที่จะต้องให้กล่าวซ้ำ พยาบาลสาวคนนั้นก็รีบลุกขึ้นไปปิดวิทยุโดยเร็ว
เมื่อรู้สึกว่ารู้สึกพึงพอใจแล้ว หญิงสาวจึงเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหล่าพยาบาลวิ่งมาจับกลุ่มนินทาถึงเหตุการณ์เมื่อครู่กันอย่างสนุกปากเมื่อเห็นเธอเดินลับตาไป
สาวใหญ่มาหยุดอยู่ที่ห้องริมสุดของทางเดิน เธอเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ ราวกับว่าห้องนี้เป็นห้องของเธอเอง ทว่ากลับรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้า เธอเห็นพยาบาลสาวร่างเล็กที่มีทีท่าค่อนข้างมั่นใจ เดินตรงเข้ามาหาอย่างไม่เกรงกลัว ซึ่งต่างจากคนอื่นๆ ผมสั้นซอยที่บ่งบอกถึงความปราดเปรียว ฉีกภาพลักษณ์จากนางพยาบาลทั่วไป ยิ่งกว่านั้นกระดุมที่ชุดก็ติดต่ำลงมากว่าปกติ เผยให้เห็นขอบยกทรงสีแดงดูร้อนแรง
“ สวัสดีค่ะ...คุณโรส!! ” พยาบาลสาวกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงที่เสแสร้ง พลางไหว้ด้วยท่าทีที่ประดิดประดอย
“ ใครใช้ให้หล่อนเข้ามาในห้องนี้ แล้วน้องชายฉันอยู่ไหน ? ” สาวใหญ่เปล่งเสียงถาม
“ ตอบทีละคำถามนะคะ!! ฉันเป็นเลขาฯ...ส่วนตัว ของคุณหมอ สามารถเข้ามาในห้องของคุณหมอได้ทุกครั้ง และตอนนี้คุณหมอไม่อยู่...ไปตรวจคนไข้ค่ะ!! ” หญิงสาวตอบด้วยท่าทีที่กวนอารมณ์
“ ใครแต่งตั้งหล่อนเป็นเลขาฯ ยะ ?!! ” เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงที่สุดทน ดวงตาเบิกกว้างแสดงถึงความไม่พอใจ
“ อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาหรอกค่ะ!! ” หล่อนตอบห้วนๆ
“ แก...กล้าต่อล้อต่อเถียงกับฉันเหรอ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ?!! ” สาวใหญ่เกรี้ยวกราด
“ ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะคะ...คุณ โรส รสรินทร์ นักร้องสาวดาวค้างฟ้าที่ไม่ยอมแก่ เพราะมีน้องชายเป็นศัลยแพทย์ระดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่ง...อีกไม่นานคุณก็จะกลายเป็นพี่สามีของฉัน ” พยาบาลสาวลอยหน้าลอยตาเพื่อยั่วอารมณ์
“ อีทับทิม อีนางชั่ว!! แกทำให้น้องชายของฉันเสียใจยังไม่พอ แกยังจะกล้าทำให้ฉันเสียใจอีกเหรอไง ?!! จำไว้นะ!! ชาตินี้ทั้งชาติ ฉันจะไม่มีวันยอมรับแกเป็นน้องสะใภ้ฉันหรอก!!! ” รสรินทร์ตวาด
“ ถ้าฉันชั่ว!! คุณก็ชั่วยิ่งกว่าฉันแหละค่ะ!! ไม่ใช่เพราะคุณเหรอที่ให้ฉันไปทำลายความสัมพันธ์ของคุณหมอกับแฟนเขา!! เพียงเพราะคุณรับไม่ได้ที่คุณหมอไปคบกับอาจารย์มหาวิทยาลัยจนๆ ฉันก็ทำสำเร็จแล้วนี่คะ!! แล้วมันก็ไม่ผิดอะไรที่ฉันจะสานสัมพันธ์ของฉันกับคุณหมอเสียเอง คุณน่าจะดีใจนะคะที่แผนการของคุณสำเร็จเกินคาด!! ” หญิงสาวกอดอกอย่างพึงพอใจในคำพูดของตนเองเมื่อครู่
“ อีทับทิม!! อีงูพิษ!!... ” ไม่ทันขาดคำ ฝ่ามือของนักร้องสาวก็ฟาดลงไปที่หน้าของนางพยาบาลฝีปากกล้าโดยทันที และขณะเดียวกันนั้นเองประตูห้องก็เปิดออก เผยให้เห็นชายสวมแว่นคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมเสื้อกาวน์และถือถาดเอกสาร ซึ่งบ่งบอกว่าเขาผู้นี้ประกอบวิชาชีพเป็นนายแพทย์อย่างแน่นอน
รสรินทร์ เหลือบมองน้องชาย ก่อนที่จะรู้ตัวว่าเธอได้เผลอทำอะไรลงไป ทางฝ่ายพยาบาลสาวเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบบีบน้ำตา แล้วส่งเสียงสะอึกสะอื้นทันที ราวกับว่าเธอมีปุ่มบังคับอยู่ในตัว
“ พี่โรส...ต้องถึงขั้นตบตีกันเลยเหรอครับ ทับทิมเขาทำอะไรให้ ?? ” คุณหมอถามพี่สาวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างตกใจ
“ ข...ขอโทษค่ะพี่หมอ ทับทิมผิดเองที่เข้าห้องพี่หมอโดยพละการ ท..ทับทิมแค่จะเอาแฟ้มคนไข้มาให้ แล้วเผอิญคุณโรสแกเข้ามาเห็นพอดี... ” พยาบาลสาวอธิบายพลางร่ำไห้ไปพร้อมๆ กัน
“ อี
“ พอเถอะครับพี่...ผมก็เห็นอยู่ว่าพี่เพิ่งตบเขาไป ทับทิม...คุณออกไปก่อนเถอะ ” หมอหนุ่มสั่งพยาบาลผู้ช่วย
“ ค่ะ... ” หญิงสาวกล่าวอย่างนอบน้อม พลางเหลือบมามองนักร้องสาวด้วยสายตาที่เย้ยหยัน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป…
รสรินทร์มองดูเธอด้วยความจงเกลียดจงชัง สาวใหญ่รู้โดยทันทีว่าชาตินี้จะไม่ขอข้องเกี่ยวใดๆ กับผู้หญิงคนนี้เป็นอันขาด
หลังจากที่พยาบาลสาวออกไปจากห้องพักของคุณหมอ มงคลมาส ศัลยแพทย์ผู้มีชื่อเสียง บรรยากาศภายในห้องก็เงียบไปครู่หนึ่ง บัดนี้ก็เหลือเพียงแค่เขาและพี่สาวเท่านั้น คุณหมอเดินมาที่โต๊ะทำงานแล้วนั่งลง ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประเด็นกับพี่สาวของตน
“ พี่มีธุระอะไรกับผมหรือครับ ? ” คุณหมอถามพลางมองเธอด้วยสายตาที่เบื่อหน่าย
“ นี่แกยังติดใจฉันในเรื่องนั้นอยู่เหรอไง ??...ฉันเป็นพี่แกนะ ฉันไม่มีทางทำให้น้องชายเพียงคนเดียวของฉันต้องเสียใจหรอก!! ” รสรินทร์รีบแก้ต่างให้ตนเอง แม้รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะเธอ
“ แต่พี่ก็ไม่ได้เห็นด้วย หรือสนับสนุนพิมพ์เขาอยู่แล้วนี่!! ” เขากล่าวถึงคนรักเก่าอย่างพิมพ์ประภัสร์
“ ถึงฉันไม่เห็นด้วย แต่ฉันก็ไม่ได้ขัดขวาง!! ” รสรินทร์แสร้งทำเสียงแข็ง
“ เหรอครับ ? ” หมอหนุ่มถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ราวกับไม่เชื่อ
“ จะยังไงก็แล้วแต่ ฉันก็ไม่เห็นดีเห็นงามให้แกกับยายครูนั่นคบกันหรอก รวมไปถึงอีนางทับทิมด้วย!! ” เธอยื่นคำขาด
“ พี่วางใจได้เลย...ผมกับทับทิมไม่มีทางไปด้วยกันได้แน่ ผมมองเห็นเธอเป็นแค่รุ่นน้องคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนพิมพ์... ” คุณหมอพูดแล้วถอนหายใจ