ทำไมเด็กสมัยนี้ตัวเล็กจัง...แต่ค่อนข้างแก่แดด

ยิ้ม ผมเป็นคนรุ่นเก่าครับ เกิดในช่วงรอยต่อระหว่างยุคใหม่และยุคเก่า รุ่นผมเป็นรุ่นที่เจอกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ชัดๆเลยคือ ด้านการศึกษาที่เปลี่ยนมาเป็นหลักสูตรใหม่ ที่มีโอเน็ต เอเน็ต ซึ่งรุ่นผมเป็นรุ่นแรกของระบบนี้ รวมถึงพวก นศท. ที่รุ่นผมเป็นรุ่นสุดท้ายที่ไม่ต้องผ่านการเกณฑ์ทหารอีก ฯลฯ

ที่กล่าวมาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จะถาม แต่มันทำให้คุณรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่แน่นอน สิ่งที่ผมสังเกตุเห็นชัดเจนคือ เด็กรุ่นผมตอนนั้น ตัวโตๆกันทั้งนั้น ผมเข้าเรียนชั้นประถม รุ่นพี่ ป.6 แต่ละคน ตัวโตๆทั้งนั้นครับ โตเท่าเด็ก ม.6 สมัยนี้ด้วยซ้ำ ตอนผมอยู่ชั้นผระถมตัวผมเล็กมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ๆ พอจบชั้นประถมเข้าชั้นมัธยม โอ..แม่เจ้า เด็กมัธยมในสมัยนั้น เหมือนเป็นผู้ใหญ่เลยครับ เวลามีการแข่งขันกีฬา เช่น วอลเลย์บอล มันสนุกมาก เพราะพี่ๆเค้าตัวโตๆ กระโดดตบกันสบายๆ เหมือนดูทีมชาติยังไงยังงั้น ยิ่งพวกพี่ที่เป็นกระเทยก็ต้องบอกว่า กระเทยควายตามที่เค้าเรียกกันจริงๆ คือตัวโต เล่น วอลเลย์บอลเก่งมากๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นคือ เด็กสมัยนั้นตัวโตจริงครับ แต่ความคิดความอ่านไม่ได้โตเหมือนเด็กสมัยนี้ คือ เป็นไปตามวัย แทบไม่ค่อยมีเรื่องชู้สาวใน รร. เลย การเปิดเผยตัวว่ารักใครชอบใคร เป็นเรื่องที่น่าอายมาก ต้องปกปิด ไม่มีใครนั่งจีบกันสองต่อสอง ไม่มีการจับมือถือแขน แต่ที่จะมีมากหน่อยก็เรื่องตีรันฟันแทงนี่แหละครับ เวลาเด็กโตๆเค้าตีกัน โห..เหมือนสงครามเลย เรายังอยู่ ม.ต้น ต้องรีบหาที่กำบัง แบบว่าฝุ่นตลบ ทั้งมีด ทั้งของมีคมต่างๆ หนักๆก็ปืน สิ่งนี้มีมาตั้งแต่รุ่นเก่าจนถึงรุ่นใหม่ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ผมเข้า ม. 1 เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองก็ตอน ม.3 ครับ ตัวสูงชะลูด แซงหมดทุกคน แต่น่าแปลกที่รุ่นน้องๆจากเราไป เริ่มตัวเล็กลง เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้น เรื่องที่ไม่เคยเกิด ก็เกิดมีขึ้น เรื่องชู้สาวมีบ่อยขึ้น การเปิดเผยเรื่องความรัก เริ่มกลายเป็นสิ่งที่เด็กหลายคนกล้าแสดงออก จนผมอยู่ ม.6 เห็นเด็ก ม.1 ที่เข้ามาใหม่แล้ว อยากจะบ้าตาย คือน้องๆตัวเล็กมาก เหมือนเด็ก ป.3 รุ่นผมเลยทีเดียว แต่ว่าประสีประสาเรื่องเพศแบบไม่ต้องมีใครสอน พูดประสาบ้านผมคือ แก่แดด นั่นเอง ทั้งหญิงทั้งชายเลยครับ เวลามีงานกีฬาสี ส่วนหนึ่งเล่นกีฬา ส่วนหนึ่งพลอดรัก ที่น่าขำอย่างนึงคือ เวลาแข่งกีฬา เราจะมีความรู้สึกว่าเหมือนดูกีฬาเด็กเล็กอยู่ ทั้งที่นี่คือกีฬาระดับมัธยมน่ะ 555+

ผมก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรน่ะ ทุกคนทราบดีในเรื่องของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ส่วนเรื่องพันธุกรรมนั้นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญอธิบายล่ะครับ ผมคิดว่ามนุษย์ทุกวันนี้ สืบพันธ์กันในสายเลือดที่ใกล้กันมากขึ้น ทำให้สายพันธ์นั้นเลวลงทุกขณะ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นญาติกันห่างๆ แล้วมาแต่งงานกัน เพราะว่าสังคมสมัยนี้ไม่ค่อยมีการนับญาติ ซึ่งต่างกับคนสมัยก่อน คนสมัยก่อนหากรู้ว่าเป็นญาติกันถึงจะห่าง เค้าก็ไม่ยอมให้อยู่กินกัน หรือคนในหมู่บ้านเดียวกันก็ไม่ค่อยนิยมให้แต่งงานกัน ส่วนมากจะต้องเป็นคนต่างบ้านกัน ต่างตระกูล ผลลัพธ์ที่ได้คือ สายพันธ์ไม่ถูกทำลาย (เดาเอาตามที่เรียนชีววิทยามา)

อีกเรื่องคือ สายพันธ์ทุกสายพันธุ์จะต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา เป็นเรื่องธรรมดา ในกรณีของมนุษย์ก็น่าจะเข้าข่ายเหมือนกัน คุณตาคุณยายเคยบอกผมว่า มนุษย์เราในอนาคตซึ่งไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ ตัวจะเล็กมาก ขนาดถึงขั้นต้องใช้ไม้สอยดีปรี (พริก) คือตัวสูงเท่าหญ้าเจ้าชู้ และคุณตาคุณยายเคยบอกว่า ที่ อ. เขาชัยสน จะมีตอไม้ของคนยุคเก่าอยู่ ซึ่งจะสูงประมาณสะเอวของเรา ซึงตอไม้ของคนสมัยนี้ จะสูงราวๆครึ่งไม้บรรทัดเท่านั้น รวมถึงพวกเครื่องประดับของคนรุ่นก่อน เช่น แหวน กำไล จะใหญ่กว่าของคนสมัยนี้มาก

ทิ้งท้ายตามคำนายที่พระพุทธเจ้าทิ้งไว้ (ลองหาอ่านเอง) เหมือนจะเป็นจริงไปเรื่อยๆ แม้แต่สิ่งที่ตาบอกไว้ว่า พระพุทธเจ้านั้น มีพระวรกายที่ใหญ่โตมาก มีกำลังเท่ากับช้าง 7 เชือก (ไม่แน่ใจ) ผมคิดว่าก็อาจจะเป็นไปได้ แม้แต่สิ่งก็สร้างคนสมัยก่อนก็ใหญ่โต แม้แต่พระประทานในวัดต่างๆ ล้วนสร้างใหญ่กว่าพระอัครสาวกแบบมีนัยสำคัญ

ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นได้น่ะครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ขออนุญาตวิจารณ์ จขกท นะครับ
คุณและผม เป็นคนรุ่นเดียวกัน แต่ผมกลับไม่คิดว่าเด็กสมัยนี้จะเตี้ยกว่าเด็กสมัยผม(และคุณ)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งคุณและผมล้วนแต่ใช้ความรู้สึกในการพิจารณา ผมว่า เราควรใช้ดัชนีที่เป็นรูปธรรมทางวิทยาศาสตร์มาตัดสินดีกว่า ผมว่า ข้อมูลค่าเฉลี่ยความสูงของคนในช่วงเวลาแค่ไม่ถึง 50 ปี ไม่น่าจะหายากเลยครับ

แล้วอันนี้ผมลองไปหาย้อนไปถึงมนุษย์สมัยโบราณว่าสูงหรือเตี้ยกว่าคนในปัจจุบันเท่าไหร่
ค่าเฉลี่ยความสูงของมนุษย์สมัยบ้านเชียง ไม่ต่างจากคนไทยในปัจจุบัน
http://www.sac.or.th/databases/physanth/app/works.php?id=14

ถ้าเราลองคิดโดยยึดมั่นในเหตุและผลที่พิสูจน์ได้เป็นที่ประจักษ์ทางวิทยาศาสตร์แล้วละก็
มันไม่มีทางเลยที่มนุษย์ในปัจจุบันจะเตี้ยลง มีแต่จะสูงขึ้นเท่านั้น
วิวัฒนาการทางสาธารณสุขศาสตร์ที่เจริญกว่ายุคโบราณชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า จะทำให้มนุษย์เตี้ยลงได้เหรอครับ
ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษกว่าเดิม (ที่ผมมั่นใจว่าต้องมีคนเอามาเถียง) ต้องถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่าสภาพแวดล้อมตอนนั้นดีกว่าตอนนี้อย่างมีผลต่อชีวิตมนุษย์ อย่าลืมว่า อายุขัยเฉลี่ยของคนในอดีต(ที่อ้างว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีเลิศ) น้อยกว่าอายุขัยเฉลี่ยของคนในปัจจุบัน(ที่ชอบอ้างว่ามลภาวะเป็นพิษกว่าสมัยโบราณเหลือเกิน)อย่างมากมาย

เรื่องพระพุทธเจ้านั้น ผมพูดเลยว่า เป็นจินตนาการของคนเขียนคัมภีร์ เชื่อไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ แต่ถ้าจะเชื่อเพราะศรัทธาก็เป็นอีกเรื่อง (แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะต่างจากงมงายอย่างไร) ซากกระดูก ซากมัมมี่ ของคนในยุกพุทธกาล(หรือแม้แต่ก่อนพุทธกาล) มีสูงกว่า2เมตรเหรอครับ (ถ้ามีขอหลักฐาน)

การสร้างพระพุทธรูปให้สูงใหญ่ นั้น ก็มาจากจินตนาการของคนเขียนคัมภีร์นั่นเอง ต้องการจะอวยให้พระศาสดาต่างจากมนุษย์ทั่วไป (เพราะเข้าใจว่า ถ้าแตกต่างมากๆแล้วจะได้ดูวิเศษ ดูพิเศษ ดูไม่ธรรมดา) แต่พอคนยุคหลังๆยึดมั่นในการพิสูจน์ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้อ่านแล้ว ก็ต้องบอกว่า ---> ขอให้เกียรติผู้เขียน แต่ขอไม่เชื่อนะครับ

การสร้างพระประธานให้ใหญ่โตนั้น มาจากคติเรื่อง พระพุทธเจ้าสูง 18ศอก (อัฎฐารส) หรือ9เมตร ปรากฎในคัมภีร์ มธุรัตน์วิลาสินี แต่พอในคัมภีร์ล้านนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ว่าสูง14ศอก ในสุตันตปิฎก ว่าสูง 16ศอกก็มี 30ศอก 80ศอก ก็มี ก็เพื่อให้พระพุทธเจ้าดูวิเศษ ดูไม่ธรรมดา ตามลักษณะของ มหาบุรุษลักณะ และ อนุพยันชนะ ซึ่งหลายอย่างล้วนแต่ผิดรูปมนุษย์ทั้งนั้น(ถ้าเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์) คนเขียนก็ไม่เห็น คนอ่านก็ไม่เห็น จะพิสูจน์อย่างไรเล่าครับ เขียนให้ดูเว่อร์หวังเพิ่มศรัทธาคน แต่พอจำเนียรกาลผ่านมาถึงสมัยที่เหตุผลอันหนักแน่นทางวิทยาศาสตร์มันน่าเลื่อมใสขนาดนี้แล้ว ก็เหลือวิสัยจะเชื่อว่าสิ่งที่เขียนนั้นจริงได้
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B0
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมว่า จขกท คิดเยอะไปมาก แถมไม่เป็นความจรืงอีก

ถ้าจะบิกความต่างระหว่างวัย ผมพูดเลยนะ ว่ารุ่นผมกับรุ่นคุณหนะ ผมก็คิดเหมือนกันว่ารุ่นคุณมันแก่แดด และแน่นอนรุ่นปัจจุบันยิ่งแก่แดดขึ้นไปอีก

และคนรุ่นก่อนหน้าผมก็บอกว่ารุ่นผมแก่แดดเช่นกัน ดังนั้นมันไม่ได้มีอะไรแปลกหรอก โลกมันหมุนเร็วขึ้นทุกวันก็แค่นั้น

ส่วนเรื่องสืบเผ่าพันธ์ใกล้กันแล้วเลวขึ้นอะไรนั่น เหลวไหลทั้งเพ สมัยนี้ลูกครึ่งเยอะกว่าเก่าอีกนะพ่อคู๊ณ

ส่วนเรื่องตัวเล็กตัวสูงก็อย่าเว่อร์ไปเลย คนสมัยก่อนเตี้ยกว่าสมัยนี้อีก ยิ่งรุ่นปู้รุ่นย่ายิ่งเตี้ยเลย จะมาโม้ว่าสมัยก่อนสูงมากๆ คุณมีการศึกษา คุณเชื่อเข้าไปได้ยังไง

ส่วนเรื่องพระพุทธเจ้า เขามีพูดไว้จริง แต่ไปอ่านให้ละเอียดครับ ว่ากี่ปี ต่างกันกี่เซ็น มันไม่ใช่รุ่นปู่รุ่นย่าแน่นอน แถมหลุมศพมัมมี่ที่อายุมากกว่า ตัวเขาใหญ่ตามที่เล่าหรือเปล่า

จากใจเลยนะ ผมรู้สึกว่าเด็กสมัยใหม่เชื่ออะไรโง่ๆเข้าไปได้ทุกวัน วิจารณญาณไม่ค่อยจะมีเลย ผมหวังว่าคุณคงไม่เป็นหนึ่งในนั้นนะ

(อย่างมุกที่ว่า update ios แล้ว iphone จะกันน้ำได้ยังมีคนเชื่อเลย เห้อ ไปหมดละ สมงสมอง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่