(เตือนไว้ก่อน) 2 ชั่วโมงครึ่งที่สังขละกับ 400 โลที่สุดเงิบเพราะ Love bridge house (บ้านสะพานรัก)

ไม่ได้มาแนะนำวิธีเที่ยวสังขละอย่างรวดเร็วนะคะ แต่เราอยากบอกเล่าสิ่งแย่ๆ ที่เจอมาในช่วงวันหยุดยาว (11-13 ก.ค.) ที่ผ่านมาเพื่อเป็นข้อควรระวัง จะได้เที่ยวกันสนุกเต็มที่ แบบไม่ต้องรู้สึกแย่หนักกันทั้งทริปอย่างที่เราและเพื่อนเจอมา

รักจะเที่ยวช่วงวันหยุดยาว นอกจากจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจกับการกินการเที่ยวพร้อมกับฝูงชนมหาศาลแล้ว เรื่องที่พักนี่ก็สุดๆ เอาเป็นว่า ถ้าพลาดแล้วล่ะไม่อยากจะคิดจริงๆ มีรถไปเองก็คงจะตะลอนหาที่อื่นไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่...ทริปก็จบเห่กันตั้งแต่ไม่เริ่มเลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ เมื่อตัดสินใจว่า หยุดยาวนี้จะไปสังขละกันแน่นอนแล้ว เพื่อนเราจึงรีบเปิดอะโกด้า และจิ้มจองที่พัก ซึ่งก็มาตกลงปลงใจกับ Love bridge house (บ้านสะพานรัก) นี่แหละ รีวิวเริ่ด รูปสวย ไม่ไกลสะพานมากนัก ก็จัดกันไป 2 คืน ห้องเบสิค คืนละ 2,500 บาท ตัดแต้มอะโกด้า ได้ส่วนลดอีกนิดหน่อย ก็ไม่เลวนะ จิ้มจองกันตั้งแต่ไก่โห่ 25 พ.ค. (สำหรับเรามันล่วงหน้านานมากเลยนะนั่น..แต่มันยังไก่โห่ได้มากกว่านั้น) ระหว่างรอเวลา (อีกเดือนกว่าๆ นี่แหละ) เพื่อนเราก็โทรไปถามรายละเอียด พวก one-day trip ที่เที่ยวต่างๆนาๆ ตามประสาคนจัดทริป  



การเดินทางครั้งนี้ก็ง่ายๆ ขับรถไปจอดไว้ที่ตัวเมืองกาญฯ ค้าง 1 คืน ตอนเช้ามาก็นั่งรถตู้ไปสังขละกันชิลๆ 200 โล แล้วก็ค้างอีก 2 คืน แพลนหลักๆ ก็เที่ยวตามรีวิวในพันทิปที่เป็นแรงบันดาลใจนี่แหละ หมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องไปตักบาตรดอกไม้และทำบุญวันพระใหญ่ให้ได้!!! แต่แล้วกลับกลายเป็นว่า ต้องนั่งรถไปและกลับกาญฯ-สังขละ 400 กิโล ภายในวันเดียว ขาไป 10.05น. ขากลับ 16.00 น.



สังขละจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เรากับเพื่อนไปถึงกันตอนบ่ายโมงนิดๆ เพื่อนเราก็จัดแจงโทรหาโรงแรมว่าต้องไปยังไงต่อ แต่กว่าจะไปถึงที่พักก็บ่ายโมงครึ่งเห็นจะได้ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาว รถเครื่องวิ่งไปส่งผู้โดยสารหมด เมื่อไปถึงโรงแรม------ ร้อนก็ร้อน หนักก็หนัก ที่ฟร้อนท์ (โต๊ะไม้ตัวใหญ่ๆที่ตั้งขวางทางเข้าบ้าน) ก็ไม่มีคนอยู่ เป็นการต้อนรับที่ประทับใจมาก เมื่อกี้ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า กำลังจะเข้าไปแล้ว นั่งรถมาไม่ถึง 10 นาทีเลยนะ (เงิบครั้งที่ 1)

นั่งรอกันไปสัก 10 นาที ได้ยินเสียงเปิดทีวี เสียงคนคุยกันแว่วๆจากในบ้าน ก็เลยบอกเพื่อนให้โทรเรียกเหอะ ไม่ไหวแล้วทั้งร้อนทั้งหิว หลังจากวางสายไปสักพัก ก็มีคุณหนูพีชออกมาต้อนรับพร้อมเด็กอีก 1 คน เพื่อนเราก็จัดแจงยื่น booking คุณหนูพีชก็ค่อยๆหารายละเอียดไป เรากับเพื่อนก็ผลัดกันไปเข้าห้องน้ำ อีก 10 นาทีผ่านไป คุณหนูพีชบอกให้รอสักครู่นะคะลูกค้า แล้วอีก 10 นาทีต่อมา ก็ยังพูดแบบเดิมอีก (เงิบครั้งที่ 2) มันจะช้าไปแล้วนะเฟ้ย ยังไม่เอะใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น เราบ่นกะเพื่อนว่า booking มาแล้วจ่ายตังค์แล้ว ทำไมนานนักฟร่ะ

คุณหนูพีชหาไปอีกสักพักนึง แล้วก้ทำตื่นๆ แจ้นเข้าไปคุยกะป้ามิเชลในบ้าน คุยในบ้านแต่เสียงมันดังมาก..ลอดออกมาเลยว่า คุณหนูพีชกำลังจะถูกหักเงินเดือน เพราะ booking ของเราสองคนไม่มีในลิสต์ของโรงแรม (เงิบครั้งที่ 3)

แล้วยังไงฟร่ะนี่ แม่ม--ช่วงหยุดยาวด้วย!!!! คราวนี้ คุณหนูพีชหน้าตั้งรีบมาเชิญเพื่อนเราเข้าไปพบคุณป้ามิเชลที่เพิ่งตื่นนอน ป้ามิเชลใช้เวลาอีกพักนึงในการหาเมลล์ของอะโกด้าที่คอนเฟิร์มการจองโรงแรมของเรา แล้วป้าก็เริ่มจวกคุณหนูพีชอีกครั้ง (เงิบครั้งที่ 4)


อันนี้ booking ของเราและป้า

ป้าสรุปสั้นๆว่า
- โรงแรมของป้าช่วง 11-13 ก.ค. ถูกจองเต็มตั้งแต่เดือน ก.พ. (แล้วอะโกด้าเอาห้องที่ไหนมาให้พวกเราจองตอนเดือน พ.ค.นี่..ป้ามั่วป่าวนี่)
- ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพราะ คอมฯ สามตัวที่โรงแรมใช้งานไม่ link ข้อมูลกัน ข้อมูล booking โผล่ในเครื่องป้าแต่ไม่โผล่ในเครื่องของคุณหนูพีช (โห....ป้า....โซเชียลอย่างป้าไม่เช็คเมลล์เลยเกือบสองเดือนนี่นะ)
- หนูสองคนจะมีที่นอนคืนนี้แน่นอน ป้าจะหาห้องให้อย่างสุดความสามารถ แพงแค่ไหนป้าก็ยอมจ่ายเพื่อลูกค้าของป้า (โรงแรมป้ายังเต็มตั้งแต่เดือน ก.พ. แล้วโรงแรมที่ใหญ่กว่าป้าไม่เต็มไปก่อนหน้ารึ ยิ่งโรงแรมเล็กๆที่คืนไม่แพงมากนี่ คนน่าจะล้นแล้วนะป้า) แล้วป้าก็ตะโกนจิกคุณหนูพีชที่กำลังลนลานกดเบอร์โทรอยู่ซะหนึ่งที
- เรามีห้องพักรับรองแขกในบ้าน ยังไงซะเราจะจัดให้หนูพักไปก่อน (ไม้เด็ดของป้าเลยล่ะซี่)

หลังจากฟังป้าสรุปก็ เงิบไป 5 ครั้งพอดี ด้วยความหิวเราสองก็เลยขอไปหาข้าวกินก่อน เห็นว่า สะพานมอญอยู่ใกล้ๆก็เลยเดินไปหาอะไรกินแถวนั้น เราอยู่รอป้าหา booking ครึ่งค่อนชม. ไปแกร่วร้านข้าวเพราะฝนตก ชมวิวสะพาน เดินเล่นแบบรีบๆ กลับมาถึงโรงแรมก็บ่ายสามพอดี ได้เห็นสะพานมอญ สะพานลูกบวบ เหยียบสะพานปูน คุยกับพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น อีกแว้บนึง แน่นอนถามเรื่องที่พัก 55

ป้าบอกกับเราว่า ไม่มีที่ไหนมีที่พักเหลือเลย ป้าเสนอให้แขกที่เช็คอินแล้วย้านมานอนในบ้านเพื่อจะเอาห้องให้หนู แล้วคืนเงินให้ แขกเค้าก็ไม่ยอม (ใครจะยอมฟระป้า...มุขป่าวนี่) แต่เราจัดห้องพักรับรองแขกในบ้านไว้แล้วนะ ถ้าหนูสองคนจะพัก ป้าคิดคืนละ 1,500 บาทเท่านั้น (ห๊า....อะไรนะป้า) นี่หนูเข้ามาดูห้องได้เลย (โปรดดูรูป lay out ประกอบ) ป้าบอกมีห้องพักแขก 3 ห้อง ป้ามีห้องนี้ให้เรา (ห้องที่กากบาทไว้นั่นแหละ) ที่สำคัญกว่านั้น อีก 2 ห้อง มีแขกมาเข้าพักแล้วในระหว่างที่เราสองคนไปกินข้าว (เงิบครั้งที่ 6...ป้าบอกห้องป้าเต็มนี่ แล้วถ้าเราจะพักจริงๆ ทำไมเราไม่ได้เลือกห้องก่อนล่ะ ยังไงฟร่ะ...ป้ามิเชลนี่)  



จากที่เห็น ห้องพักแขกเป็นห้องพัดลม ซึ่งป้าจะเพิ่มพัดลมให้เราเป็นกรณีพิเศษเพื่อความเย็นฉ่ำ วิวสะพานสวยๆของป้า ก็จะกลายเป็นที่จอดรถทึมๆ ห้องปูนเปลือยสวยๆ กลายเป็นห้องผนังไม้พื้นไม้ที่เหยียบแล้วดังไปทุกจุด ห้องน้ำอยู่ด้านนอกซึ่งเงียบและมืดมาก ขนาดกลางวันเปิดไฟแล้วก็ยังมืด แต่เราจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากป้ามิเชลและแฟนที่เป็นเจ้าของบ้านในราคา 1,500 บาท เราสองคนส่ายหัวกันดิกๆ แบบว่า ไหวเหรอฟระนี่ ถึงแม้ห้องที่จองมาจะไม่ได้ราคาแพงที่สุด แต่ราคา 2,500 นี้ก็แพงกว่าที่อื่นๆ เป็นเท่าตัว (ราคาห้องพักที่สังขละมีตั้งแต่ 650-1,000 ต้นๆ) อีกอย่างไม่ได้เตรียมใจมาด้วยเลยว่า จะต้องมานอนห้องพัดลมร่วมชายคากับเจ้าของบ้าน ก็เลยแบบคืนเงินมาเถอะ ไม่ไหวแล้ว (โว้ยยยยยย) ระหว่างตกลงกับพวกเรา ป้าก็ตะโกนจิกคุณหนูพีชเป็นระยะๆ เดี๋ยวจัดห้อง เดี๋ยวโทรหาห้อง บลาๆ แต่ก่อนจะคืนเงิน ป้าได้งัดไม่เด็ดออกมา
"ป้าลดค่าห้องให้ก็ได้นะ เอา 1,000 เดียวก็พอ"
..........
เราถึงขั้นเหวอไปเลย นี่เหรอโรงแรมที่คนสังขละออกปากว่า เป็นตลาดบน ดูแลลูกค้าแบบนี้จริงๆ เหรอ เราสองคนยอมเป็นคนโชคร้ายที่ไม่ได้นอนโรงแรมนี้ เพื่อให้คนที่เค้าต้องการห้องได้รู้สึกว่า เค้าเป็นโชคดี เพราะไม่ว่า จะ 1,000 นึง หรือ 1,500 ที่เราสองคนต้องจ่ายไป เทียบไม่ได้กับความรู้สึกแย่ๆ ที่ได้รับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาเหยียบ



หลังจากเข้าไปเคลียร์กันอีกสักพักใหญ่ๆ ก็สรุปว่า ป้าจ่ายเงินสดเท่าค่าห้องที่จ่ายมา พร้อม voucher ที่เข้าพักได้เฉพาะ จ.-พฤ. เพื่อนเราเลยท้วงว่า ใช้แต้มอะโกด้าลดมา ป้าจะจ่ายแค่ 4,150 ได้ยังไง ป้าต้องจ่าย 5,000 สิ (เอาส่วนลดไปทำไมล่ะป้า -*- ต้องคืนให้สิ!!) แล้วตัวของ voucher คงไม่มีใครลางานมาพักสังขละ 1 คืนในวันธรรมดาหรอกนะคะ จึงตกลงกันเป็นว่า คืนเงินสด 5,000 พร้อม voucher 1 คืน ที่คงจะต้องคอนเฟิร์มกันสามล้านรอบก่อนเข้าพัก และพวกเราก็ขอร้องแกมบังคับว่า ช่วยหารถเครื่องหรือไม่ก็เอารถออกมาส่งที่ท่ารถตู้หน่อย เดี๋ยวจะกลับกาญฯ ไม่ทัน ซึ่งสุดท้ายแฟนป้ามิเชลก็ขับกระบะออกมาส่งให้ ก็แวะถามโรงแรมที่นึง แต่คำตอบก็อย่างที่รู้ๆกันคือ เต็ม หรือไม่ก็นอนห้องที่พี่นอนกะแฟนมั้ย...เอิ่ม...ซึ้งใจจริงๆ ค่ะพี่ TT_TT



ไม่มีโอกาสได้เห็นวิวกลางคืนที่ทาง Love bridge house (บ้านสะพานรัก) โปรโมทนะคะ เห็นแต่ วิวกลางวันที่มืดและทึมมาก ถ้าห้องพักกระจายๆกันออกไป คิดว่า คงจะไม่มืดอย่างในส่วนของตัวบ้าน ส่วนสะพานก็เห็นแต่สะพานคอนกรีตที่รถวิ่งได้อยู่ไกลโพ้น เลยไม่แน่ใจตัวเองว่า อ่านรีวิวมาผิดหรือฟังคุณหนูพีชพูดไม่ดีกันแน่ สำหรับเราสองคนคงจะส่ายหัวกับที่นี่ไปอีกนาน โชคดีมากที่กลับมาถึงท่ารถกตู้ทันรถเที่ยวสุดท้ายพอดี กว่าจะถึงกาญฯ ก็เกือบทุ่มกว่า ต้องไปวิ่งหาโรงแรมกันอีก ทริปนี้ ถือเป็น 400 โลที่สุดเงิบจริงๆ นั่งรถจนไส้พันกันไปหมดแล้ว


พอเห็นเฟสนี้ก็อดคิดถึงป้ามิเชลกับคุณหนูพีชไม่ได้ ถ้ารักจะพักที่นี่ เช็คกับป้าแกดีๆนะคะ
เดี๋ยวจะได้ห้องพัดลมพิเศษสุดแบบเรา

จากทริป 2 ชั่วโมงครึ่งที่สังขละรอบนี้ ทำให้รู้ว่า
- ยังมีที่พักที่อะโกด้าเข้าไม่ถึงระบบการจัดการของโรงแรม เพื่อความชัวร์ควรจะเช็คกับทางโรงแรมก่อนเข้าพักล่วงหน้า  (ไม่งั้นจะเซอร์ไพรส์เกินไปอย่างทริปนี้)
- รูปถ่ายในอะโกด้า/เวบ ยังไงซะก็สวยกว่าของจริงวันยังค่ำ ในรูปจะเลือกถ่ายมุมสูง อัดเลนส์ไวด์ แต่งสี แต่งภาพยังไงก็ได้  (แน่จริงก็ แต่งคน และ การบริการ ให้ดีเลิศด้วยซี่)
- เพื่อนเราแจ้งปัญหานี้กับทางอะโกด้า เนื่องจากอะโกด้ามีการรับประกันห้องพัก เราสามารถโทรแจ้งอะโกด้าเพื่อให้เค้าหาที่พักใกล้เคียงให้ได้  พอดีว่าพวกเราเจอปัญหานี้เป็นครั้งแรก บวกกับมั่นใจว่าป้ามิเชลจะหาห้องพักให้ได้ตามที่คุยจึงไม่ได้โทรแจ้ง (หวังว่า อะโกด้าจะมีระบบ 24/7)
- ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าพักเพราะปัญหาจากโรงแรม อะโกด้าจะจ่ายเงินค่าห้องคืนให้ 1 คืน (รวมได้เงินคืน = 5,000 +2,500)
- ทำเลและความพร้อมของโรงแรมเป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่ Love bridge house ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง การเดินทางไปที่ต่างๆ ออกจะลำบากไปนิดนึง  ต้องคอยโบกรถเครื่องเอา หรืออาจเลือกโรงแรมที่มีรถให้เช่า ไกลหน่อยแต่เดินทางสะดวกก็จะดีกว่า อีกอย่างถ้าโรงแรมรู้ตัวว่า อยู่ไกล/เข้า-ออกยาก  ช่วยเคลื่อนมวลมารับลูกค้าหน่อยเถอะ จะคิดเงินเพิ่มก็ไม่เกี่ยงหรอก
- โรงแรมที่แก้ปัญหาแบบนี้ก็มีด้วย ให้นอนห้องพักแขกตั้ง 1,500 แถมพอไม่นอนยังลดราคาอีกด้วย เฮ้อออออ!!! Love bridge house ก็คงจะมีมุมดีๆ  แต่เราเองโชคไม่ดีที่มาเจอสภาพแบบนี้ ยังไงก็เผื่อใจกันไว้บ้าง วันหยุดยาว..ยังไงๆก็ต้องหาที่เที่ยว
- สะพานมอญที่หักก็สวยดีนะ เสียดายที่ยังไม่ได้ไปเหยียบเลย ยังไม่ได้ข้ามฝั่งและทำบุญอย่างที่ตั้งใจด้วย คงต้องหาโอกาสไปใหม่อีกสักครั้ง นอนธรรมดาๆ ก็ได้ ไม่ต้องใกล้สะพานมากก็ได้



ทริปนี้ก็จบลงด้วยคำเตือนประมาณนี้ล่ะค่ะ ยังไงก็ขอให้ทุกๆ คนสนุกกับ "การเดินทาง" ทั้งในช่วงวันหยุดยาวและวันหยุดไม่ยาวนะคะ
ยิ้มยิ้มยิ้ม

ครบรอบ 1 ปีของทริปนี้ มีเรื่องเล็กๆ อีกเรื่องที่อยากบอกค่ะ
เมื่ออะไรๆ มันผ่านไปแล้ว ที่เหลือไว้ก็แค่เรื่องตลกเรื่องหนึ่งไว้ให้ขำกลิ้งกับเพื่อนๆ เพี้ยนแว๊น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ว่าไหมคะ???
---
การแก้ไข: เพิ่มเติมข้อมูลครบรอบ 1 ปี ส่วนข้อมูลอื่นๆ รวมไว้ที่ความคิดเห็นที่ 27 นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่