หลังจากเป็นผู้อ่านมานาน ศึกษาข้อมูล จากหลายเว็บไซต์ หนังสือหลายเล่ม
วันนี้เราจะได้เขียนรีวิวเองแล้ว ..... !! (ไม่เคยตั้งกระทู้ ไม่เคยเขียนรีวิว นี่ครั้งแรกเลย ผิดพลาดตรงไหนแนะนำด้วยนะคะ)
ก่อนอื่นขอเล่าที่มาของทริปนี้ก่อนนะคะ การเดินทางนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมด้วยกันทั้งหมด 3 คน
คนแรกเราเอง ผู้ที่มีความฝันในวัยเรียนว่าอยากจะไปเที่ยวรอบโลก หลังจากเรียนจบ ทำงานมาได้ปีกว่าก็ยังไม่ได้ฤกษ์ทำตามฝันของตัวเองสักกกกที

อาจจะด้วยความที่ไม่มีเวลา+ทุนทรัพย์(ไม่อยากรบกวนที่บ้าน) ในที่สุดจึงตัดสินใจว่าฉันต้องค่อยๆทำตามฝันของตัวเอง ค่อยๆเก็บเงิน เก็บเงิน เก็บเงินและออกเดินทางไปให้ได้ปีละอย่างน้อย 1 ประเทศ !!! เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงเริ่มเลือกเป้าหมายในการเดินทาง หลังจากคิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจว่าที่นี่แหละ.. เกาหลีใต้ ..ด้วยความที่เป็นแฟนคลับศิลปินเกาหลี ฟังเพลง ดูซีรีย์ไปกว่า 70 เรื่อง คงจะซึมซับภาษาอยู่หัวบ้างแหละ ถึงพูดไม่ได้ อ่านไม่ออก แต่ก็พอฟังรู้เรื่อง(บ้างขอย้ำว่าง บ้าง !! ) จากนั้นก็เริ่มหาแนวร่วม ไปต่างประเทศครั้งแรก ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่อง มีเพื่อนไปด้วยถึงอุ่นใจเนอะ

หาเอาใกล้ๆ ในที่ทำงาน 55
แนวร่วมคนที่ 1 พี่ P สาวผู้คลั่งไคล้ในศิลปินเกาหลี (ชวนง่ายมากก )
คนที่ 2 พี่ N พี่สาวที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ ชวนไปไหน .. ไป !! ไม่ต้องคิดเยอะ
หลังจากได้แนวร่วมก็เริ่มวางแผนอยากเป็นทางการ
ตอนแรกเราจะไปกับทัวร์ เพราะพี่ที่ไปด้วยกันรู้สึกว่าไปกับทัวร์ สบายใจดี มีข้าวกินทุกมื้อ มีที่นอน เดินทางสะดวก แรกๆก็หาข้อมูลบริษัททัวร์ โปรแกรมทัวร์ ซึ่งสิ่งที่ได้คือ ราคาไม่ได้ต่างกันมาก สถานที่ที่ไปก็ที่เดิมๆ ...รวมๆแล้วไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลยยยย
จึงตัดสินใจคุยกับแนวร่วมอีกครั้งยกเหตุผล 108 ข้อว่าการไปเองมันน่าสนุกยังไง จนในที่สุดเราก็ชนะ !! และเมื่อชนะแล้วงานใหญ่ก็ตกอยู่ที่เรา หาข้อมูลการเดินทาง ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ร่างโปรแกรม ทำเองหมด แต่สนุกสุดๆ
สิ่งแรกที่เราทำคือ หาตั๋วเครื่องบินค่ะ เราได้ตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินตรงไป-กลับ สุวรรณภูมิ - อินชอน - สุวรรณภูมิ ของสายการบินเจจูแอร์ มาในราคา 11,990 บาท ราคารวมทุกอย่างแล้ว (ภาษีสนามบิน + กระเป๋า 20 กก.)เป็นราคาโปรโมชั่นใน Ensogo
ต่อมาคือหาที่พัก ทริปนี้เราไปกัน 5 วัน 4 คืน (รวมวันเดินทางด้วยเป็น 5 คืน)
2 คือแรกเราพักย่าน ฮงแด ที่ 24 Guesthouse Hongdae เป็นห้อง Triple room ราคา 100,000 วอน/คืน (จองผ่าน www.booking.com จ่ายเงินสดวันเข้าพักได้เลย)
2 คืนสุดท้ายพักที่ Nansan Guesthouse 4 เป็นห้อง twin + 1 เตียงเสริม ราคา 80,000 วอน/คืน
(จองผ่าน
http://www.namsanguesthouse.com/res_thai.htm จ่ายเงินสดวันเข้าพักได้เลย)
หลังจากจองตั๋วพร้อม ที่พักพร้อม แผนการท่องเที่ยวพร้อม คูปองส่วนลดต่างๆพร้อม สิ่งต่อมาที่เตรียมคือ ใบรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ(เตรียมไว้อุ่นใจดี) ..................รอเวลาออกเดินทางตามความฝัน !!!!
วันนี้เป็นวันที่น่าจดจำสุดๆ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไปต่างประเทศครั้งแรก ในวันที่เกิดรัฐประหาร !!
ทุกอย่างดูวุ่นไปหมด เพราะนัดกับพี่ๆไว้ว่าเราจะขึ้น Airport Link ไปสนามบินด้วยกันตอน 2 ทุ่มครึ่ง เช็คอิน 4 ทุ่ม บิน เกือบๆ ตี1 กะไปแบบชิวๆ แต่ไม่ชิวค่ะ ต้องรีบออกจากบ้านก่อนเวลาเพราะ Airport link ปิด 3 ทุ่มกว่าจะถึงAirport Link รถก็ติด โชคดีที่มาทัน Airport Link เที่ยวสุดท้าย พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หอบสิคะ !! พอถึงสนามบิน เช็คอิน เรียบร้อยก็เดินเล่นในดิวตี้ฟรีรอเวลาขึ้นเครื่อง

Jeju Air เป็นสายการบิน Low cost เครื่องเล็ก 3-3 ถ้าคนตัวใหญ่อาจรู้สึกอึดอัด ไม่มีบริการอาหารหรือของว่าง มีแค่น้ำเปล่า แต่เที่ยบกับราคาแล้วก็โอเคค่ะรับได้ ไม่ต้องต่อเครื่องรวดเดียวถึงเลย
ในที่สุดก็ถึงโซลลลลลลลลล ความรู้สึกแรกตอนล้อแตะพื้นรันเวย์ คือ... เฮ้อ !! ฉันปลอดภัยแล้วใช่มั๊ย ถึงแล้วจริงๆใช่มั๊ย ? แล้วจะเป็นยังไงเมื่อเจอ ตม. ที่เค้าว่าโหดแสนโหด (ก่อนมากลัวมากทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ชื่อเสียงของ ตม. ที่นี่ก็เลื่องลือมิใช่น้อย ><)
ไฟล์ที่เรามามีคนไทยประมาณ 30% ที่เหลือเกาหลี ลงจากเครื่องปุ๊บก็เดินๆตามเค้าไปขึ้นรถเพื่อไปด่านตรวจคนเข้าเมื่อง
พอไปถึงใจเต้นตึกตัก ตึกตัก ก่อนมาตกลงกันว่าจะให้พี่ N ที่เก่งอังกฤษนำเข้าไปก่อน
ตามด้วยพี่ P ที่ยังงงๆ และเราคนจัดทริปเข้าเป็นคนสุดท้าย ...ถึงเวลาเค้าเปิดช่องเพิ่ม ตัดแถวใหม่เราเดินนำเข้าไปหาคุณเจ้าหน้าที่ตม. ผู้หญิงอย่างไม่รู้ตัว ฮ่าๆ ขามันพาไปอ่ะ พอเดินเข้าไปก็ยิ้มงามๆตามสไตล์ สาวไทย พร้อมยื่นพาสปอร์ตและใบ arrival card ... คุณเจ้าหน้าที่มองหน้า มองพาสปอร์ต บอกให้สแกนนิ้ว คืนพาสปอร์ต เสร็จแล้ว เสร็จแบบงงๆ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพซักคำ าาาา ซึ่งพี่ที่มาด้วยกันก็เจอแบบเดียวกัน ใครบอกตม. เกาหลีโหดไม่จริ๊งไม่จริง !! (แอบฮาตอนที่พี่ Pหลังจากที่ ตม. ยื่นพาสปอร์ตให้ เรากะพี่อีกคนออกมาก่อน ยืนลุ้นอยู่ว่าแกจะผ่านมั๊ย ... นางหันมาพร้อมรอยยยิ้มประหนึ่งว่าได้รางวัลมิสไทยแลนด์ยูนิเวิสร์ คือดีใจออกนอกหน้ามาก) เสร็จแล้วเราก็ลงมาเอากระเป๋า และออกมาตั้งหลัก
เมื่อตั้งหลักได้เราเดินหาบูธ LG U+ เพื่อเช่า เจ้า pocket wifi
โดยวิธีเช่า ก็เดินไปที่บูธแล้วบอกเค้าเลยค่ะ .. เช่า 4G Router กี่วันก็ว่ากันไป แต่ต้องมัดจำโดยใช้บัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่งค่าใชจ่ายของเราเช่า 5 วัน จ่ายไป 40,700 วอน (แต่จ่ายตอนเอาเครื่องมาคืนนะคะ) รายละเอียด เรื่องราคาค่าบริการต่างๆ ลองเช็คดูอีกทีนะคะ เราจำไม่ได้ว่าเป็นค่าอะไรเท่าไหร่บ้าง กลุ่มที่มากันหลายๆคน เราว่าคุ้มนะ เตรียม power bank มาไว้สำหรับเจ้านี่ด้วยล่ะ
ถึงเวลามุ่งหน้าเข้าโซลลลลแล้ววววว
ก่อนอื่นเข้าร้านสะดวกซื้อในสนามบินเพื่อตามหาบัตร T-Money ซื้อมาในราคา 3,000 วอน และเติมเงินอีกคนละ 10,000 วอน
และเดินไปขึ้นรถไปเข้าโซล เรานั้งรถ Airport Railroad แบบธรรมดา ที่จอดทุกสถานี เพื่อไปลง Hongik Univ.

หลังจากนั่งรถไฟมุดขึ้น มุดลงชมบรรยากาศมาซักพัก เราก็มาถึง Hongik Univ.หรือที่เรียกกันว่า Hongdae (ฮงแด) ย่ายวัยรุ่น นักศึกษามหาวิทยาลัยสุดชิค 555+
เราลากประเป๋าไปที่พักค่ะ ซึ่งน่าโมโหมากกกก เพราะในแผนที่ที่พักตามรีวิว ให้ออกประตู 1 เราก็มาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เดินมาถึงบันไดทางออกพบว่า...ไม่ใช่บันไดเลื่อนค่ะ !!!
ต้องหอบหิ้วสัมภาระเดินขึ้นบันได โอ้ววว เท่านั้นยังไม่พอ เราต้องเดิน เดิน เดิน ไปที่พัก ใช้เวลาเกือบ 20 นาที ไปถึงแทบเป็นลม ... หลังจากนั่งพัก และคุยกะคนดูแล Guesthouse สรุปว่าเช็คอินได้ตอนบ่าย 2 ค่ะ เราเลยขอฝากกระเป๋า ก่อนจะไปยังเป้าหมายแรกในการท่องเที่ยวครั้งนี้ นั่งก็คือ Ewha womans university (มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา)

รูปหน้าบ้านค่ะ (รูปห้องเดี๋ยวตามมา)
การเดินทางไปอีฮวาง่ายมากๆ เรานั่งรถไฟใต้ตินสาย2 สีเขียวไปอีก 2 สถานี คือเริ่มจาก Hongik > Sinchon > Ewha ถึงละใกล้นิดเดียว แล้วก็หาทางออกที่ 2 หรือ 3



ย่านนี้ของขายเยอะค่ะ ทั้งร้านอาหาร เสื้อผ้า รองเท้า ของน่ารักทั้งนั้นเลย สมกับเป็นย่านม.หญิงล้วน อ่อส่วนร้านเครื่องสำอางค์นี่ไม่ต้องพูดถึงมีทุกย่านค่ะ



ร้านขายคอนแทคเลนส์


ถุงเท้าน่ารักมากคู่ละ 1000 วอน
อันนี้เป็นบรรยากาศในมหาวิยาลัยค่ะ สวยมากน่าเรียนมาก เราเข้ามานั่งพักกินขนมที่เค้าแจกหน้ามหาลัยกัน



(ของฟรี)ได้มาเกือบ10 กล่อง ข้างในเป็นไอติมอร่อยมากค่ะ
หลังจากนั่งพักหายเหนื่อยก็ออกมาหาของกินเล่นข้างทางกันต่อ ก่อนกลับที่พักเพื่อไปเช็คอิน

ร้านข้างเหมือนในซีรี่ย์เลยอ่ะ อาจุมม่าคนขายใจดีมากค่ะ
กินเสร็จแล้วก็กลับที่พักค่ะ เพื่อเช็คอิน อาบน้ำ พักผ่อน
ก่อนจะไปตะลุยฮงแด อ้อตอนนี้ค้นพบทางเข้าที่พักที่ใกล้ กว่าทางแรกแล้วนะคะ คือออกจากสถานี Hongik ทางออกที่ 2 เดินลัดเลาะเข้าซอยนิดหน่อยค่ะ (ทำไมไม่บอกเรามาทางนี่ตั้งแต่แรก)

เดินลัดเลาะตามภาพเลยค่ะ สีฟ้าคือทางที่เรามาตอนแรกตามแผนที่ที่พักแนะนำ สีแดงคือทางที่เราค้นพบ 55
ภายในห้องพักค่ะ มี 3 เตียง มีทีวี ไดร์เป่าผม ห้องน้ำในตัวกว้างใช้ได้เลย นอกห้องมีตู้เย็นใช่รวมกันค่ะแต่จะมีป้ายแปะเลขห้องแบ่งให้วางของ และฟรี wifi (wifi เกาหลีแรงสมคำร่ำลือค่ะ )


ถึงเวลาตะลุยฮงแดแล้วววว

ในซอยระหว่างทางไปฮงแดค่ะ ซอยนี่คึกคัก ดึกๆก็ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ มีทั้งร้านผลไม้ร้านอาหาร คาเฟ่เล็กๆ



ร้านกาแฟร้านนี้พ่อค้าแซ่บจ้าา ส่วนราคาก็แก้วละประมาณ 5000 วอน
เดินมาถึงปากซอยจะเจอภาพนี้

ข้ามถนนไปก็ฮงแดที่นี่ของกินเยอะมากกร้านอาหาร คาเฟ่ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางค์ .... บรรยายไม่หมด
คนที่นี่ที่เจอส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น นักศึกษา ส่วนหน้าตารู้สึกว่ายิ่งดึก ยิ่งหน้าตาดี จริงๆนะ
และเนื่องจากมีร้านอาหารเยอะแยะไปหมดทำให้เราเลือกกันไม่ถูกจริงๆว่าวันนี้จะกินอะไรดี เลยซื้อของกินเล่น แล้วเดินเข้าซอยนู้นนน ออกซอยนี้เพื่อตามหาสนามเด็กเล่น แลนด์มาร์กของที่นี่ กว่าจะเจอเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันค่ะ
บรรยากาศรอบสนามเด็กเล่นตอนกลางคืน


มีคนมาเล่นดนตรีด้วย



ต่อคห.ถัดไปนะคะ..
[CR] Backpack : เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง 5 วัน 5 คืน
วันนี้เราจะได้เขียนรีวิวเองแล้ว ..... !! (ไม่เคยตั้งกระทู้ ไม่เคยเขียนรีวิว นี่ครั้งแรกเลย ผิดพลาดตรงไหนแนะนำด้วยนะคะ)
ก่อนอื่นขอเล่าที่มาของทริปนี้ก่อนนะคะ การเดินทางนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมด้วยกันทั้งหมด 3 คน
คนแรกเราเอง ผู้ที่มีความฝันในวัยเรียนว่าอยากจะไปเที่ยวรอบโลก หลังจากเรียนจบ ทำงานมาได้ปีกว่าก็ยังไม่ได้ฤกษ์ทำตามฝันของตัวเองสักกกกที
แนวร่วมคนที่ 1 พี่ P สาวผู้คลั่งไคล้ในศิลปินเกาหลี (ชวนง่ายมากก )
คนที่ 2 พี่ N พี่สาวที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ ชวนไปไหน .. ไป !! ไม่ต้องคิดเยอะ
หลังจากได้แนวร่วมก็เริ่มวางแผนอยากเป็นทางการ
ตอนแรกเราจะไปกับทัวร์ เพราะพี่ที่ไปด้วยกันรู้สึกว่าไปกับทัวร์ สบายใจดี มีข้าวกินทุกมื้อ มีที่นอน เดินทางสะดวก แรกๆก็หาข้อมูลบริษัททัวร์ โปรแกรมทัวร์ ซึ่งสิ่งที่ได้คือ ราคาไม่ได้ต่างกันมาก สถานที่ที่ไปก็ที่เดิมๆ ...รวมๆแล้วไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลยยยย
จึงตัดสินใจคุยกับแนวร่วมอีกครั้งยกเหตุผล 108 ข้อว่าการไปเองมันน่าสนุกยังไง จนในที่สุดเราก็ชนะ !! และเมื่อชนะแล้วงานใหญ่ก็ตกอยู่ที่เรา หาข้อมูลการเดินทาง ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ร่างโปรแกรม ทำเองหมด แต่สนุกสุดๆ
สิ่งแรกที่เราทำคือ หาตั๋วเครื่องบินค่ะ เราได้ตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินตรงไป-กลับ สุวรรณภูมิ - อินชอน - สุวรรณภูมิ ของสายการบินเจจูแอร์ มาในราคา 11,990 บาท ราคารวมทุกอย่างแล้ว (ภาษีสนามบิน + กระเป๋า 20 กก.)เป็นราคาโปรโมชั่นใน Ensogo
ต่อมาคือหาที่พัก ทริปนี้เราไปกัน 5 วัน 4 คืน (รวมวันเดินทางด้วยเป็น 5 คืน)
2 คือแรกเราพักย่าน ฮงแด ที่ 24 Guesthouse Hongdae เป็นห้อง Triple room ราคา 100,000 วอน/คืน (จองผ่าน www.booking.com จ่ายเงินสดวันเข้าพักได้เลย)
2 คืนสุดท้ายพักที่ Nansan Guesthouse 4 เป็นห้อง twin + 1 เตียงเสริม ราคา 80,000 วอน/คืน
(จองผ่าน http://www.namsanguesthouse.com/res_thai.htm จ่ายเงินสดวันเข้าพักได้เลย)
หลังจากจองตั๋วพร้อม ที่พักพร้อม แผนการท่องเที่ยวพร้อม คูปองส่วนลดต่างๆพร้อม สิ่งต่อมาที่เตรียมคือ ใบรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ(เตรียมไว้อุ่นใจดี) ..................รอเวลาออกเดินทางตามความฝัน !!!!
วันนี้เป็นวันที่น่าจดจำสุดๆ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไปต่างประเทศครั้งแรก ในวันที่เกิดรัฐประหาร !!
ทุกอย่างดูวุ่นไปหมด เพราะนัดกับพี่ๆไว้ว่าเราจะขึ้น Airport Link ไปสนามบินด้วยกันตอน 2 ทุ่มครึ่ง เช็คอิน 4 ทุ่ม บิน เกือบๆ ตี1 กะไปแบบชิวๆ แต่ไม่ชิวค่ะ ต้องรีบออกจากบ้านก่อนเวลาเพราะ Airport link ปิด 3 ทุ่มกว่าจะถึงAirport Link รถก็ติด โชคดีที่มาทัน Airport Link เที่ยวสุดท้าย พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หอบสิคะ !! พอถึงสนามบิน เช็คอิน เรียบร้อยก็เดินเล่นในดิวตี้ฟรีรอเวลาขึ้นเครื่อง
Jeju Air เป็นสายการบิน Low cost เครื่องเล็ก 3-3 ถ้าคนตัวใหญ่อาจรู้สึกอึดอัด ไม่มีบริการอาหารหรือของว่าง มีแค่น้ำเปล่า แต่เที่ยบกับราคาแล้วก็โอเคค่ะรับได้ ไม่ต้องต่อเครื่องรวดเดียวถึงเลย
ในที่สุดก็ถึงโซลลลลลลลลล ความรู้สึกแรกตอนล้อแตะพื้นรันเวย์ คือ... เฮ้อ !! ฉันปลอดภัยแล้วใช่มั๊ย ถึงแล้วจริงๆใช่มั๊ย ? แล้วจะเป็นยังไงเมื่อเจอ ตม. ที่เค้าว่าโหดแสนโหด (ก่อนมากลัวมากทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ชื่อเสียงของ ตม. ที่นี่ก็เลื่องลือมิใช่น้อย ><)
ไฟล์ที่เรามามีคนไทยประมาณ 30% ที่เหลือเกาหลี ลงจากเครื่องปุ๊บก็เดินๆตามเค้าไปขึ้นรถเพื่อไปด่านตรวจคนเข้าเมื่อง
พอไปถึงใจเต้นตึกตัก ตึกตัก ก่อนมาตกลงกันว่าจะให้พี่ N ที่เก่งอังกฤษนำเข้าไปก่อน
ตามด้วยพี่ P ที่ยังงงๆ และเราคนจัดทริปเข้าเป็นคนสุดท้าย ...ถึงเวลาเค้าเปิดช่องเพิ่ม ตัดแถวใหม่เราเดินนำเข้าไปหาคุณเจ้าหน้าที่ตม. ผู้หญิงอย่างไม่รู้ตัว ฮ่าๆ ขามันพาไปอ่ะ พอเดินเข้าไปก็ยิ้มงามๆตามสไตล์ สาวไทย พร้อมยื่นพาสปอร์ตและใบ arrival card ... คุณเจ้าหน้าที่มองหน้า มองพาสปอร์ต บอกให้สแกนนิ้ว คืนพาสปอร์ต เสร็จแล้ว เสร็จแบบงงๆ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพซักคำ าาาา ซึ่งพี่ที่มาด้วยกันก็เจอแบบเดียวกัน ใครบอกตม. เกาหลีโหดไม่จริ๊งไม่จริง !! (แอบฮาตอนที่พี่ Pหลังจากที่ ตม. ยื่นพาสปอร์ตให้ เรากะพี่อีกคนออกมาก่อน ยืนลุ้นอยู่ว่าแกจะผ่านมั๊ย ... นางหันมาพร้อมรอยยยิ้มประหนึ่งว่าได้รางวัลมิสไทยแลนด์ยูนิเวิสร์ คือดีใจออกนอกหน้ามาก) เสร็จแล้วเราก็ลงมาเอากระเป๋า และออกมาตั้งหลัก
เมื่อตั้งหลักได้เราเดินหาบูธ LG U+ เพื่อเช่า เจ้า pocket wifi
โดยวิธีเช่า ก็เดินไปที่บูธแล้วบอกเค้าเลยค่ะ .. เช่า 4G Router กี่วันก็ว่ากันไป แต่ต้องมัดจำโดยใช้บัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่งค่าใชจ่ายของเราเช่า 5 วัน จ่ายไป 40,700 วอน (แต่จ่ายตอนเอาเครื่องมาคืนนะคะ) รายละเอียด เรื่องราคาค่าบริการต่างๆ ลองเช็คดูอีกทีนะคะ เราจำไม่ได้ว่าเป็นค่าอะไรเท่าไหร่บ้าง กลุ่มที่มากันหลายๆคน เราว่าคุ้มนะ เตรียม power bank มาไว้สำหรับเจ้านี่ด้วยล่ะ
ถึงเวลามุ่งหน้าเข้าโซลลลลแล้ววววว
ก่อนอื่นเข้าร้านสะดวกซื้อในสนามบินเพื่อตามหาบัตร T-Money ซื้อมาในราคา 3,000 วอน และเติมเงินอีกคนละ 10,000 วอน
และเดินไปขึ้นรถไปเข้าโซล เรานั้งรถ Airport Railroad แบบธรรมดา ที่จอดทุกสถานี เพื่อไปลง Hongik Univ.
หลังจากนั่งรถไฟมุดขึ้น มุดลงชมบรรยากาศมาซักพัก เราก็มาถึง Hongik Univ.หรือที่เรียกกันว่า Hongdae (ฮงแด) ย่ายวัยรุ่น นักศึกษามหาวิทยาลัยสุดชิค 555+
เราลากประเป๋าไปที่พักค่ะ ซึ่งน่าโมโหมากกกก เพราะในแผนที่ที่พักตามรีวิว ให้ออกประตู 1 เราก็มาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เดินมาถึงบันไดทางออกพบว่า...ไม่ใช่บันไดเลื่อนค่ะ !!!
ต้องหอบหิ้วสัมภาระเดินขึ้นบันได โอ้ววว เท่านั้นยังไม่พอ เราต้องเดิน เดิน เดิน ไปที่พัก ใช้เวลาเกือบ 20 นาที ไปถึงแทบเป็นลม ... หลังจากนั่งพัก และคุยกะคนดูแล Guesthouse สรุปว่าเช็คอินได้ตอนบ่าย 2 ค่ะ เราเลยขอฝากกระเป๋า ก่อนจะไปยังเป้าหมายแรกในการท่องเที่ยวครั้งนี้ นั่งก็คือ Ewha womans university (มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา)
รูปหน้าบ้านค่ะ (รูปห้องเดี๋ยวตามมา)
การเดินทางไปอีฮวาง่ายมากๆ เรานั่งรถไฟใต้ตินสาย2 สีเขียวไปอีก 2 สถานี คือเริ่มจาก Hongik > Sinchon > Ewha ถึงละใกล้นิดเดียว แล้วก็หาทางออกที่ 2 หรือ 3
ย่านนี้ของขายเยอะค่ะ ทั้งร้านอาหาร เสื้อผ้า รองเท้า ของน่ารักทั้งนั้นเลย สมกับเป็นย่านม.หญิงล้วน อ่อส่วนร้านเครื่องสำอางค์นี่ไม่ต้องพูดถึงมีทุกย่านค่ะ
อันนี้เป็นบรรยากาศในมหาวิยาลัยค่ะ สวยมากน่าเรียนมาก เราเข้ามานั่งพักกินขนมที่เค้าแจกหน้ามหาลัยกัน
(ของฟรี)ได้มาเกือบ10 กล่อง ข้างในเป็นไอติมอร่อยมากค่ะ
หลังจากนั่งพักหายเหนื่อยก็ออกมาหาของกินเล่นข้างทางกันต่อ ก่อนกลับที่พักเพื่อไปเช็คอิน
กินเสร็จแล้วก็กลับที่พักค่ะ เพื่อเช็คอิน อาบน้ำ พักผ่อน
ก่อนจะไปตะลุยฮงแด อ้อตอนนี้ค้นพบทางเข้าที่พักที่ใกล้ กว่าทางแรกแล้วนะคะ คือออกจากสถานี Hongik ทางออกที่ 2 เดินลัดเลาะเข้าซอยนิดหน่อยค่ะ (ทำไมไม่บอกเรามาทางนี่ตั้งแต่แรก)
เดินลัดเลาะตามภาพเลยค่ะ สีฟ้าคือทางที่เรามาตอนแรกตามแผนที่ที่พักแนะนำ สีแดงคือทางที่เราค้นพบ 55
ภายในห้องพักค่ะ มี 3 เตียง มีทีวี ไดร์เป่าผม ห้องน้ำในตัวกว้างใช้ได้เลย นอกห้องมีตู้เย็นใช่รวมกันค่ะแต่จะมีป้ายแปะเลขห้องแบ่งให้วางของ และฟรี wifi (wifi เกาหลีแรงสมคำร่ำลือค่ะ )
ถึงเวลาตะลุยฮงแดแล้วววว
ในซอยระหว่างทางไปฮงแดค่ะ ซอยนี่คึกคัก ดึกๆก็ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ มีทั้งร้านผลไม้ร้านอาหาร คาเฟ่เล็กๆ
เดินมาถึงปากซอยจะเจอภาพนี้
ข้ามถนนไปก็ฮงแดที่นี่ของกินเยอะมากกร้านอาหาร คาเฟ่ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางค์ .... บรรยายไม่หมด
คนที่นี่ที่เจอส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น นักศึกษา ส่วนหน้าตารู้สึกว่ายิ่งดึก ยิ่งหน้าตาดี จริงๆนะ
และเนื่องจากมีร้านอาหารเยอะแยะไปหมดทำให้เราเลือกกันไม่ถูกจริงๆว่าวันนี้จะกินอะไรดี เลยซื้อของกินเล่น แล้วเดินเข้าซอยนู้นนน ออกซอยนี้เพื่อตามหาสนามเด็กเล่น แลนด์มาร์กของที่นี่ กว่าจะเจอเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันค่ะ
บรรยากาศรอบสนามเด็กเล่นตอนกลางคืน
มีคนมาเล่นดนตรีด้วย
ต่อคห.ถัดไปนะคะ..