เที่ยวงานประเพณีแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี

งานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2557 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปเพราะแม่อยากไป เป็นทริปที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย มาบอกก่อน 3 วันก่อนเดินทาง ตั๋วแพงทั้งไปและกลับ ที่พักก็แพงกว่าปกติเกือบเท่าตัว แต่แม่อยากไปเท่าไหร่เท่ากัน เป็นทริปแรกที่เดินทางพร้อมกับแม่ 2 คน กังวลหลายอย่างจะเดินไหวไหม? ร้อนมากจะไหวไหม? คนแน่นจะไหวไหม? ก็แม่ตั้ง 72 แล้วนะ เราออกเดินทางเช้าตรู่วันที่ 12 กรกฎาคม 2557 ด้วยนกแอร์ ถึงอุบลราชธานี 7:10 น. เรารีบออกมาเพื่อที่จะได้เข้าเมืองก่อนการปิดถนนเพื่อตั้งขบวนแห่เทียนตอน 7:30 ใช้บริการ taxi ที่สนามบินกดมิเตอร์และไม่มีบวกเพิ่มด้วย จากสนามบินเข้ามาที่ทุ่งศรีเมือง 40 บาทเท่านั้น เราจองโรงแรมอุบลโฮเต็ลไว้ เพราะใกล้ แม่จะได้ไม่เหนื่อยมากนัก สามารถนั่งดูจากบนห้องพักได้ถ้าแดดร้อนเกินไป มารอบนี้โดนค่าห้อง 800 บาท (ปกติแค่ 500 เอง) แต่เขาแจ้งล่วงหน้าแล้วว่าค่าห้องปรับเฉพาะช่วงงานทุกปีอยู่แล้ว พอติดต่ออะไรเสร็จก็ฝากกระเป๋าแล้วพาแม่ออกมาลุยขบวนเทียนทันที รูปทั้งหมดได้จากกล้อมมือถือ อาจจะไม่สวย ไม่คมครับ


เดินลุยขบวนเทียนตอนเริ่มตั้งขบวนได้เกือบ 20 ขบวนก็เปลี่ยนใจเข้าวัดใกล้ๆ แถวนั้น คือ วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่บริเวณถนนหลวง ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ทางทิศตะวันออกของทุ่งศรีเมือง เมื่อเนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา สันนิษฐานสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2356 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ในยุคสมัยสมเด็จกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ ได้ตกลงกับเจ้าของที่ดินหลายคน ยกที่ดิน (ที่ทำนา) ให้กับทางราชการ แรกๆ ชาวเมืองเรียกว่า "ทุ่งศรีเมือง" แต่เนื่องจากทุ่งแห่งนี้ เป็นที่รวมของการจัดงานมหกรรมใหญ่ๆ เช่น งานเฉลิมพระชนมพรรษา  งานรัฐธรรมนูญ เป็นต้น และเป็นทุ่งประดับเมือง จึงเรียกว่า "ทุ่งศรีเมือง" ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมอันงดงามมากมาย เริ่มต้นกันด้วย “หอไตรกลางน้ำ” หอพระไตรปิฏกที่สร้างด้วยไม้ตั้งอยู่กลางสระน้ำ มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างศิลปะของไทย ลาว และพม่า นั่นคือ ตัวอาคารเป็นแบบเรือนไทยภาคกลางด้วยลักษณะเรือนยกพื้นสูง ผนังเป็นแป้นฝาไม้แบบเรียบ มีเครื่องสับฝาแบบฝาปะกน ภายในมีตู้เก็บพระธรรมลงรักปิดทอง บริเวณหลังคาเป็นทรงจั่วด้วยศิลปะไทยผสมพม่า คล้ายสถาปัตยกรรมแบบเชียงรุ้ง มีช่อฟ้าใบระกา นาคสะดุ้งและหางหงศ์ ส่วนบนของหลังคาเป็นแบบ 2 ชั้น ส่วนลวดลายแกะสลักบนหน้าบรรณทั้ง 2 ด้านนั้นเป็นศิลปะแบบลาว บริเวณปะกนด้านล่างมีลวดลายแกะสลักเป็นรูปสัตว์ประจำราศีต่างๆ รวมถึงทวยไม้ค้ำยันชายคาซึ่งสลักเป็นรูปเทพพนมที่บริเวณด้านหน้าประตู 2 ตัว นอกนั้นเป็นรูปพญานาคโดยรอบ
“พระอุโบสถ” หรือ “หอพระพุทธบาท” ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองที่ได้จำลองแบบมากจากวัดสระเกศราชวรวิหาร ในกรุงเทพ ลักษณะของหอพระพุทธบาทนี้ เป็นสถาปัตยกรรมแบบอีสานพื้นบ้านผสมผสานกับรูปแบบอาคารของเมืองหลวง ดังจะเห็นได้จากโครงสร้างบริเวณฐาน บันไดจระเข้ และเฉลียงด้านหน้าเป็นเอกลักษณ์แบบอีสาน ส่วนหลังคาทรงจั่ว ซุ้มประตู หน้าต่างเป็นแบบเมืองหลวง เป็นต้น และยังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่องค์เงิน ซึ่งถูกปูนปิดทับและทาทองทั่วทั้งองค์ มานานกว่าสองร้อยปี จนภายหลังพบว่าทั้งองค์เป็นเนื้อเงินแท้ รวมทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามอีกด้วย นอกจากนี้ที่ “วิหารศรีเมือง” ยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยชื่อ “พระเจ้าใหญ่ศรีเมือง” พระพุทธรูปเก่าแก่ของจังหวัดอุบลราชธานี ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธากันมายาวนาน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่