[CR] รีวิวเที่ยวเกาหลี 10-12 วัน (แบบไม่คิด)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป มือใหม่หัดตั้งกระทู้ จริงๆสมัครไอดีมานานแล้วแต่ปกติเป็นพวกซุ่ม ชอบอ่านเก็บข้อมูลจากท่านอื่นๆ
ได้รับความรู้มากมาย ก่อนไปก็ได้มาหาข้อมูลที่พัก จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นบ้าง อาจจะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่นะคะ ๕๕๕๕

ช่วงนี้ตกงาน๕๕ เพิ่งลาออกจากงานประจำ  ไม่มีอะไรทำ ว่างมาก อนนี่(คำที่ใช้เรียกพี่สาวของคนเกาหลี)
ชวนเพื่อนเราไปเที่ยวเกาหลีพอดี ก็เลยไปแบบงงๆ แบบไม่คิด แพลนเที่ยวไม่มี ไปตายเอาดาบหน้า
ไปถึงก็มีแพลนเอง ก่อนไปโชคดีค่ะ เพื่อนไต้หวันไปเกาหลีพอดี หวังพึ่งนางพาเที่ยวจริงๆ ฮี่ๆๆๆๆๆ
การไปเที่ยวเกาหลีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของเราค่ะ เคยไปเกาหลีมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่เคยไปต่ำกว่า 1 อาทิตย์
เกาหลีมีอะไรน่าเที่ยว? แม่ถามคำถามนี้ตลอดค่ะ เราก็ตอบไม่ได้ มีผู้ชายหล่อค่ะ จบ ๕๕๕๕

จองตั๋วเครื่องบิน

ช่วงนี้ที่เกาหลีเป็นหน้าฝน กลางวันอากาศร้อนแต่ไม่มาก กลางคืนอากาศเย็นสบาย บางวันเมฆตั้งเค้า ฝนตกปรอยๆ
ยังไงก็ควรพกร่มติดไปด้วยก้ดีนะคะ ถึงฝนจะตก แดดจะออก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ขาช็อปอย่างเราหวั่นเลย  
ช่วงที่ไปเกาหลีเป็นช่วงเทศกาล Seoul summer sale 2014 พอดีค่ะ เซลล์จริงๆ ช็อปกระจายมากกกก


ก่อนไปก็ดูตั๋วไว้หลายสายการบิน ตอนแรกลังเลอยากจะลองหางแดง เพราะโบอิ้งใหม่แต่ลองกดตั๋วดู รวมกระเป๋าแล้ว 13,000.-
ไม่มีอาหาร โอ้วมายก๊อดด เลยหาสายการบินอื่น เห็นสายการบินทีเวย์แอร์ไลน์ มีโปรโมชั่นพอดี 13,900.- มีอาหารด้วย
บริการรวดเร็วทันใจวัยรุ่นมาก ตอบเมลล์เร็วดี เช็คข้อมูลเร็วด้วย ตั๋วมาไวไปไวต้องรีบค่ะ เดี๋ยวไม่ทัน รีบกดชำระเงินผ่านบัตรเครดิต 
พอกดปุ๊ปตัวเบาเลยค่ะ นี่ชั้นทำอะไรลงไป  แต่น้ำหนักกระเป๋าได้แค่ 20 กิโลค่ะ แต่งกค่ะไม่ซื้อน้ำหนักเพิ่ม (เดี๋ยวรอดูสภาพขากลับ)
เพื่อนเราเดินทางไปก่อนเราสองวัน ตามนี้ค่ะ 05/07/2014-17/07/2014 เวลา 01:20 น. ถึงอินชอน 08:30 น. (เวลาตามประเทศเกาหลี)
ส่วนเรา 07/07/2014-17/07/2014 เวลาเดียวกัน ไปทีหลังเพราะติดสอบสำคัญค่ะ

การจองที่พัก

ดูข้อมูลที่พักหลายที่มาก ผ่านอโกด้า บุ๊คกิ้ง เนื่องด้วยงบที่พักจำกัด อยากได้ที่คืนละ 500-600 บาท จึงต้องนอนดอร์ม
ครั้งที่แล้วเคยนอนที่ Kimchi Guesthouse Hongdae  โดยรวมถือว่าโอเคเลยค่ะกับราคา เสียอย่างเดียวคือเดินไกลมากกก
ยังเข็ดกับการลากกระเป๋าบนหิมะมาซับเวย์อยู่ T^T เลยหาข้อมูลที่อื่นและคุยกับเพื่อนไต้หวัน พวกเค้านอนที่ Ann Guesthouse ค่ะ
เราเลยเสิร์จข้อมูลรีวิวในพันทิปดูแล้วโอเคเลย คืนละ 20,000 วอน ใกล้รถไฟใต้ดิน Hongik University  ไม่ต้องลากกระเป๋าไกล
มีของกินตอนดึก ใกล้แหล่งช้อป โดยรวมโอเคมากแต่แอบแพงไปนิดสำหรับห้องรวม เพราะเราไปกับเพื่อน 2 คน
สามารถหาห้องเดี่ยวโดยเพิ่มอีกนิด แต่เพราะเพื่อนไต้หวันพักที่นี่ สะดวกที่จะเจอกันมากกว่า ซึ่งตอนแรกเรางงว่าทำไมเราไม่เคยเจอที่นี่เลย
เพราะว่าที่นี่ต้องเมล์จองเอง ไม่มีจองในอโกด้า บุ๊คกิ้ง ส่งเมลล์คุยกับป้าแอนเลยค่ะ คุยกันหลายสิบเมลล์มาก
เรานอนยาวบางเตียงว่างแค่สองวัน ไม่ว่างวันนึง เลยให้เพื่อนไต้หวันไปคุยให้ว่าเอางี้ๆๆๆนะ สรุปจองเรียบร้อยค่ะ
เพื่อนอีกคนบินไปก่อนไปนอนห้องเดียวกับเพื่อนไต้หวัน พอเราไปถึงให้เพื่อนย้ายมาอีกห้องนึง


การเช่าPocket Wifi

เนื่องจากเราและเพื่อนเป็นคนติดโซเชียลเน็ตเวิร์คมากก ประกอบกับต้องติดต่อเพื่อนไต้หวันและอนนี่ที่เกาหลี
ซึ่งทั้งเราและเพื่อนพูดเกาหลีไม่ค่อยได้ Internet จึงจำเป็นมากสำหรับเรา 2 คนค่ะ ไว้ไลน์ถามทางเพื่อน(ซึ่งทำประจำ) ๕๕๕++
หรือหาข้อมูลจาก google ซึ่งเราก็ดูรีวิวการเช่า wifi ก็มีหลายหลายบริษัท เมื่อก่อนเราเคยเช่าที่สนามบินอินชอนของเกาหลี Olleh Wifi
ก็สะดวกดีแต่ว่าเวลาคืนยุ่งยากหน่อย และมีเพื่อนแนะนำ wifi ของ Wise Incorporation เพราะพึ่งเช่าไปญี่ปุ่นกับเกาหลีมา
เพื่อนบอกว่าดีก็หารีวิวอ่าน เห็นคนรีวิวแล้วค่อนข้างโอเค ราคาไม่แพงมาก แต่มีค่ามัดจำเครื่อง 1000.-
และการเช่าและคืนเครื่องอาจจะลำบากสักหน่อยเพราะ บริษัทอยู่ที่สุขุมวิท ตึก Asoke Towers

การเดินทาง :
นั่ง MRT ลงเพชรบุรี สามารถเดินได้ค่ะไม่ไกลมาก แต่ถ้าใครขี้เกียจเดิน(แบบเรา) ลง MRT สุขุมวิทหรือ
BTS Asoke แล้วต่อพี่วิน 15-20 บาท สามารถรับเครื่องก่อนเดินทางได้ 1-2 วัน ถ้าเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดราชการ
สามารถรับเครื่องก่อนได้ค่ะ (รายละเอียดค่าใช้จ่ายลองสอบถามข้อมูลเองนะคะ)

การรับเครื่องเราต้องกรอกรายละเอียด ระบุชื่อ วันเดินทางไป-กลับ พร้อมสำเนาบัตรประชาชน
พนักงานจะคิดค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งมีค่ายืมรายวันและค่ามัดจำเครื่อง 1000.- พอเสร็จและก็จ่ายเงินค่ะ รวดเร็วดี
พนักงานจะอธิบายการใช้เครื่องให้ฟังด้วยค่ะ เราเคยเช่า pocket wifi ที่เกาหลีแต่ตอนนั้นเราถึงสนามบินแล้วเรายังไม่ได้เช่าเลย
มาเช่าทีหลัง ก่อนหน้านั้นชีวิตแย่ค่ะ พยายามตามหา Free Wifi ในเกาหลีมีอยู่ก็จริงแต่ไม่สามารถจะใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
แล้วยามฉุกเฉินเวลาหลง ไม่มีเวลามาเดินหาของฟรีนะคะ *เตือนค่ะเจอมากับตัว* ยามฉุกเฉินเข้าขั้นวิกฤตติดต่อใครไม่ได้
คิดแล้วยังกลัวไม่หายเลย เรากับเพื่อนจึงตัดสินใจเช่าไวไฟไป 2 เครื่องเพราะเพื่อนเราบินไปก่อนเราสองวัน กลัวว่าจะติดต่อกันลำบาก
อันนี้เป็นรูปอุปกรณ์ทั้งหมดในกระเป๋าค่ะ เราไม่ได้ถ่ายอีกเครื่องนึงมา จริงๆ p


มีคู่มือการใช้ เอาจริงๆเราไม่ได้อ่านเลย กดปุ่มเปิดละใช้อย่างเดียว อมยิ้ม16
เราชอบที่มีแบตสำรองค่ะ เล่นทั้งวันเลย wifi แบตหมดก็เอาแบตสำรองชาร์จ เล่นทั้งวันทั้งคืน

การแลกเงิน

เราแลกเงินที่ร้านพีพี พารากอน ค่ะ เรทแพงกว่าซุปเปอร์ริชเขียวนิดเดียว แต่ไม่ต้องเดินไกล แหะๆ ครั้งแรกแลกไปเรท 0.033 แต่พอวันเดินทางเรามาแลกเพิ่มอีกเพราะกลัวไม่พอเรทเป็น 0.035 แม่เจ้า อึ้งกิมกี่ แต่จำใจแลกไปค่ะ กลัวไม่พอ ฮือๆๆๆๆๆ น้ำตาเป็นสายเลือด มันแพงมากจริง ถ้าไม่ได้จำเป็นต้องซื้อของที่ใช้เงินสดมาก แนะนำให้รูดบัตรเดบิตหรือเครดิตนะคะ เพราะเรทไม่ได้ต่างกันมาก แถมก่อนวันกลับเรทลงเหลือ 0.031 ช้ำใจดีแท้เลย แงๆ

จัดกระเป๋า

จัดทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยค่ะ เลือกชุดก่อนอย่างแรกเลือกไปเลือกมาตัดใจเอาไปแต่พอดี กลายเป็นเสื้อผ้าเอาไปน้อยมาก
เน้นๆเลยคือของกินและของฝากค่ะ ต้องฝากอนนี่และเพื่อนไต้หวัน ของฝากก็เป็นขนมโอท็อปของไทยค่ะ คือ เบนโตะนั่นเอง
คนเกาหลีชอบมากค่ะ เห็นมีนำเข้าไปขายที่ซุปเปอร์ด้วยห่อละประมาณ 3000 วอน ถ้าจำไม่ผิดนะคะ น่าแบกไปขายจริงๆเลย
อันนี้เป็นส่วนหนึ่งนะคะ ไม่ได้จัดแบบนี้นะ อย่าตกใจ นี่ไม่ได้เรียกว่าจัด ๕๕๕๕


เช็คอิน

พอถึงวันเดินทางที่บ้านไปส่งที่สนามบินค่ะ แบกกระเป๋าไป ใจตุ้มๆต่อมๆกลัวน้ำหนักเกิน ขี้เกียจรื้อของออก
ในกระเป๋ามีแต่อาหารกระป๋อง น้ำหนักกระเป๋าจำกัดไม่เกิน 20 กิโลกรัม ชั่งจากบ้านไป 19 โลค่ะ
แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ พอเช็คอินแล้วปรากฏว่า.....



พอดีเป๊ะเลย ฮ่าๆๆๆๆ เราขอกราวน์เลือกที่นั่งค่ะ บอกว่าขอที่นั่งหน้าๆแบบเดินเข้ามาเจอเลยและติดริมหน้าต่าง
เค้าจัดให้หน้าเลยทีเดียว ปลื้มมาก 5F ขอบคุณมากๆค่ะ

ขึ้นเครื่องแล้วววววว....

เป็นครั้งแรกที่นั่งสายการบินนี้ เพื่อนเราเดินทางไปก่อนบอกว่าเครื่องเล็กมาก แคบ ร้อน ที่นั่งเป็น 3:3
เพื่อนบอกว่าเครื่องเล็กมากกกก T^T  เราตัวเล็กก็ไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดเท่าไร แต่เพื่อนบ่นให้ฟังว่า นอนไม่หลับเพราะที่นั่งเล็ก
เอนตัวไม่สะดวก แถมป้าข้างๆเอาหัวมาซบด้วย (สบายไปไหน?) ก็จำยอมนั่งทนมา 5 ชั่วโมง ส่วนใครที่สูง หรือ ตัวใหญ่หน่อย
คงนั่งลำบากแบบเพื่อน  อาจจะต้องพิจารณาหาสายการบินอื่นเป็นตัวเลือกนะคะ

สำหรับเราก็จินตนาการซะแบบว่าด้านลบไว้ก่อนค่ะแต่พอไปนั่งจริงๆเราเป็นคนตัวค่อนข้างเล็ก  ผอมและเตี้ยนั่นเอง
เราเลยรู้สึกว่าธรรมดา ไม่แคบขนาดนั้น แต่มารู้สึกตอนจะนอนนี่แหละค่ะ ปวดหลังมาก เอนไม่ค่อยได้ แอบเกรงใจคนข้างหลังด้วย
แนะนำให้พกหมอนรองคอติดไปด้วย เราเอาหัวแนบหน้าต่างนอน ๕๕๕ นอนไม่หลับค่ะ เราบินไฟลท์ตีหนึ่งถึงอินชอนก็แปดโมงกว่าๆ
ตาเป็นแพนด้าหน้าศพมาก พอซักหกโมงก็เดินไปล้างหน้าแปรงฟัน สงสัยเข้านานไปหน่อยมีคนเกาหลีมาเคาะประตู
สงสัยฮีเค้าจะปวดหนักค่ะ หน้าเป็นตูดเชียว แล้วก็ออกมาแต่งหน้าตามประสาชะนีค่ะ เบาๆ ^^

อาหารมาเสิร์ฟแล้วค่ะ


บินไฟลท์ดึก มีอาหารเช้าให้ค่ะ เป็นครัวซองไก่ 1 ชิ้นถ้วน กับน้ำส้ม หรือน้ำเปล่า
อยากบอกว่า ไม่อิ่มเลย ๕๕๕๕ แต่ถือว่ารองท้องละกัน  กินเสร็จนอนต่อ แต่ก็นอนไม่หลับ เราชอบแอร์สายการบินนี้ค่ะ
สวย ยิ้มตลอดเวลา แต่แอบเคืองลืมน้ำส้มเราต้องหันไปทวง เค้าก็แบบอ้อๆๆขอโทษ โอเคค่ะ ไม่เป็นไร ^^
เครื่องแลนด์แล้วแดดจ้ามาก แสบตาสุดๆ ถึงแล้วรีบเปิด wifi ใช้เลย
เราแอบเปิดก่อนเครื่องแลนด์นิดนึงด้วย หนูขอโทษนะคะกัปตัน



อันนี้เครื่องแลนด์แล้วค่ะ


แลนด์ปุ๊ปไลน์บอกแม่ค่ะว่าถึงแล้ว โทรไลน์ได้นะ เริ่ดมาก โทรบอกเพื่อนมาช่วยแบกกระเป๋าด้วย อิอิ
แต่สัญญาณกระตุกนิดนึงค่ะ ต้องโทรสองสามรอบ แต่เราโอเคนะไม่แย่ ^^
พอผ่านตม รับกระเป๋าแล้วก็รีบเข็นกระเป๋าไปรถไฟใต้ดินค่ะ เราไม่นั่งบัสค่ะ ประหยัด(ไม่เข้าเรื่อง)
แบกสัมภาระทั้งหมดที่มี เดินตามป้ายบอกทางไม่หลงแน่นอน


ที่เกาหลีใช้บัตร T-money ในการชำระค่าโดยสาร ค่าสินค้าต่างๆ หาซื้อได้ตามมินิมาร์ททั่วไป
ใช้ได้ทุกที่ แท๊กซี่ก็ใช้ได้ เรามีของเก่าอยู่แล้ว แค่เติมเงินก็ใช้ได้เลย บัตรใช้ได้ตลอดชีวิต
เป็นบัตรที่มีค่ามากนะคะเคยเติมเงินไว้เกือบพันแล้วดันทำหายต้องซื้อใหม่ เศร้า
เราเลยเติมเงินไป 5,000 วอน ไม่อยากเติมเยอะกลัวหายแบบครั้งที่แล้ว
เติมแล้วเงินดันไม่เข้าเครื่องค้าง มายก้อดดดด ห้าพันวอนของข้านนนนนนนนนน
หันซ้ายหันขวา ฮูวแคนสปีคอิงลิช แว่วๆว่าคนข้างๆพูดญี่ปุ่น หันไปแบบซุมิมาเซน โอเนะไงชิมัส ฮ่าๆๆๆ
เราพูดญี่ปุ่นได้นิดหน่อยค่ะ โล่งค่ะโล่ง ลุงคนนี้เป็นคนเกาหลีที่พูดญี่ปุ่นได้
ลุงเค้ากำลังช่วยเหลือคนญี่ปุ่นอีกคนอยู่ ช่วยบอกทางคนนั้นเสร็จแล้วเค้าก็หันมาทำบัตรทีมันนี่ให้เรา

บัตรหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ยืมรูปเค้ามา เครดิตตามภาพเลยนะ


ลุงเติมเงินให้เราสำเร็จ เราก็ขอบคุณลุงไปค่ะ ใจดีมากๆ รอบนี้เจอแต่คนดีมีน้ำใจ
ภาพทางเข้าค่ะ ติ๊ดบัตรลากกระเป๋าเข้าไปได้เลย


เข้าไปก็เดินตามทางไปเรื่อยๆลงบันไดเลื่อนมา


เราไป Hongik Stationค่ะ ตามนี้เลย


ระหว่างรอรถไฟมาเราลากกระเป๋าไปคุยกับป้าญี่ปุ่นที่หลงทางมะกี้ เม้ามอยกัน ฝึกภาษา
ป้าเค้าบินมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาดูเอสเจเพราะวันนี้เอสเจคนนึงเข้าร้านกาแฟค่ะ สุดยอดจริงๆ
เราก็เป็นติ่งนะ ถ้ามีเงินแบบป้าแกจะบินมาเหมือนกรุงเทพ-เชียงใหม่เลย ;P
แต่จากญี่ปุ่นมาเกาหลีมันใกล้มากเลย อิจฉาๆๆ ต่อค่ะๆ

เราใช้แอพนี้ในการเดินทางบอกหมดเลยจากไหนถึงไหน ราคาเท่าไหร่ รถไฟมาเวลากี่โมง ครอบคลุมทุกอย่าง
Jihachul ลองหาโหลดกันดูนะ เวิร์คมาก ขนาดมีแอพนี้เรายังเถลไถลจนตกรถไฟ ไว้เล่าต่อข้างล่างนะคะ


ภาพในขบวนระหว่างทางไปฮงอิกค่ะ Wifi เล่นได้ตลอดเลย เราใจดีแชร์ให้ป้าญี่ปุ่นเล่นด้วยนะเค้าลืมเช่ามา
ชื่อสินค้า:   Pocket Wifi
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่