คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
คนไทยเราชอบสอนเด็กแบบยัดเยียด แบบฉาบฉวย ไม่ได้สอนรากฐานให้เด็กรู้จักคิด วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ แล้วเข้าใจลึกซึ้งสามารถประยุกต์ได้
การให้เด็กรู้จักทำบันทึกเป็นสิ่งดี เช่น บันทึกใช้จ่าย บันทึกแผนงานที่จะทำ บันทึกสิ่งดีที่ได้ทำ แต่ สิ่งสำคัญต้องให้เขารู้ว่าที่ให้ทำเพื่ออะไร ต้องทำอย่างซื่อสัตย์สุจริต ต้องให้เด็กแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่ใช่ให้เด็กทำเพื่อได้ชื่อว่าเป็นคนดี เพื่อคะแนน เพื่อไม่ถูกลงโทษ เด็กห้ามคิดต่าง ห้ามสงสัย ที่ผ่านมาเรามันถึงไม่สำเร็จ เด็กทำเพราะอยากได้คะแนน อยากได้รับการยอมรับ โดยไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่ทำบันทึกประจำวันหรอก พอจะส่งก็ค่อยมาแต่งข้อมูล บางคนลอกเพื่อน บางคนให้พ่อแม่ช่วย บางคนปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครอง แล้วมันจะได้อะไร
ตัวอย่าง จะสอนเรื่องขยะ
- เมืองนอกเขาจะบอกว่าให้เด็กเอาถุงดำติดตัวคนละใบ เมื่อมีขยะให้ทิ้งในถุงนั้นและพกติดตัวตลอดเวลา อีก 1 อาทิตย์เอามาดูกัน และมาคุยกัน ไม่มีคะแนนขยะมากขยะน้อย แต่ให้เด็กสังเกตและมาเล่าความคิดตัวเอง ผลคือครบอาทิตย์เด็กแต่ละคนจะแย่งกันมาเล่าว่าตัวเองผลิตขยะเยอะแค่ไหน ถ้าไม่อยากแบกขยะเยอะๆ ติดตัวก็ลดปริมาณขยะ ใช้แก้วแทนน้ำขวด ฯลฯ เด็กจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นนิสัยติดตัว
- เมืองไทย ครูจะบอกเด็กว่าให้ไปเก็บขยะประเภทต่างๆ ใส่ถุงมาคนละอย่างน้อย 10 ชิ้น อาทิตย์หน้าเอามาส่ง ใครได้ไม่ครบหรือส่งช้า ถูกตัดคะแนน ผลคือ หลานเรากลับมาบ้านบอกว่ามีขวด กระป๋อง ฯลฯ อะไรไหม ขอหน่อยอาทิตย์หน้าต้องไปส่งครู - -"
อยากสอนให้เด็กคิดดี พูดดี ทำดี ต้องสอนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เริ่มที่ให้ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่ใช่ใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยกรอกวาทกรรมใส่เด็ก อย่าทำอะไรที่มันเลยเถิดไปกว่านี้เลย การศึกษาไทยถอยหลังสุดซอยแล้ว
การให้เด็กรู้จักทำบันทึกเป็นสิ่งดี เช่น บันทึกใช้จ่าย บันทึกแผนงานที่จะทำ บันทึกสิ่งดีที่ได้ทำ แต่ สิ่งสำคัญต้องให้เขารู้ว่าที่ให้ทำเพื่ออะไร ต้องทำอย่างซื่อสัตย์สุจริต ต้องให้เด็กแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่ใช่ให้เด็กทำเพื่อได้ชื่อว่าเป็นคนดี เพื่อคะแนน เพื่อไม่ถูกลงโทษ เด็กห้ามคิดต่าง ห้ามสงสัย ที่ผ่านมาเรามันถึงไม่สำเร็จ เด็กทำเพราะอยากได้คะแนน อยากได้รับการยอมรับ โดยไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่ทำบันทึกประจำวันหรอก พอจะส่งก็ค่อยมาแต่งข้อมูล บางคนลอกเพื่อน บางคนให้พ่อแม่ช่วย บางคนปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครอง แล้วมันจะได้อะไร
ตัวอย่าง จะสอนเรื่องขยะ
- เมืองนอกเขาจะบอกว่าให้เด็กเอาถุงดำติดตัวคนละใบ เมื่อมีขยะให้ทิ้งในถุงนั้นและพกติดตัวตลอดเวลา อีก 1 อาทิตย์เอามาดูกัน และมาคุยกัน ไม่มีคะแนนขยะมากขยะน้อย แต่ให้เด็กสังเกตและมาเล่าความคิดตัวเอง ผลคือครบอาทิตย์เด็กแต่ละคนจะแย่งกันมาเล่าว่าตัวเองผลิตขยะเยอะแค่ไหน ถ้าไม่อยากแบกขยะเยอะๆ ติดตัวก็ลดปริมาณขยะ ใช้แก้วแทนน้ำขวด ฯลฯ เด็กจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นนิสัยติดตัว
- เมืองไทย ครูจะบอกเด็กว่าให้ไปเก็บขยะประเภทต่างๆ ใส่ถุงมาคนละอย่างน้อย 10 ชิ้น อาทิตย์หน้าเอามาส่ง ใครได้ไม่ครบหรือส่งช้า ถูกตัดคะแนน ผลคือ หลานเรากลับมาบ้านบอกว่ามีขวด กระป๋อง ฯลฯ อะไรไหม ขอหน่อยอาทิตย์หน้าต้องไปส่งครู - -"
อยากสอนให้เด็กคิดดี พูดดี ทำดี ต้องสอนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เริ่มที่ให้ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่ใช่ใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยกรอกวาทกรรมใส่เด็ก อย่าทำอะไรที่มันเลยเถิดไปกว่านี้เลย การศึกษาไทยถอยหลังสุดซอยแล้ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
การสอนเด็กเล็กๆ
บทบาท หน้าที่ ความสามารถส่วนตัว
....การประเมินกำลัง... การทดลองทดสอบตัวเอง
คือเรื่องหลักๆเลย... เด็กต้องรู้จักตัวเองดีในระดับหนึ่ง
ถ้าเด็กๆทำเรื่องพื้นฐานพวกนี้ได้ดี เมื่อสอนศีลธรรมเข้าไป
.... ก็จะเข้าใจเรื่องนามธรรม และเรื่องรูปธรรมทางโลกได้ตรงความจริงมากขึ้น
ไม่ได้คัดค้านแนวคิดนะครับ....แต่เรื่องของเรื่องคือมันต้องไปด้วยกัน....
เหมือนจะให้คนได้เรียนรู้วิชาการ ทั้งที่พุงยังหิว
พรุ่งนี้จะมีกินหรือไม่ก็ยังไม่รู้....แบบนั้นมันหวังผลดีไม่ได้
หนังสือ และ ปัจจัยสี่มันต้องมาด้วยกัน แต่อาศัยปัจจัยสี่ยืนพื้นใว้ก่อนนะครับ
จะเอาหนังสือยืนพื้นมันฝืนธรรมชาตินะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------
ต้องทำเรื่องพื้นฐานให้พอไปได้เสียก่อน....จึงจะมีตัวอย่าง
มีเรื่องราวที่เด็กเขาสัมผัสได้ เป็นกรณีศึกษา ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
ถ้าแค่เรื่องพื้นฐานก็เอาไม่อยู่
ศีลธรรมก็จะกลายเป็นอันตรายต่อเด็ก
มีเพียงเพื่อใช้เป็นข้ออ้างยกตัวเองและฟาดฟันคนอื่นเท่านั้น
(บางทีผมก็เผลอเล่นไปเหมือนกัน....ก็ยังเป็นปุถุชนอยู่นะ)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาเรื่องแนวคิดหลักการที่เป็นนามธรรมซับซ้อนไปยัดใส่สมองเด็กตรงๆมันอันตราย....
ปูพื้นฐานให้เขาดีๆหน่อย....แล้วให้เขาเรียนรู้เอาจากพื้นฐานที่ดีนั้นเถอะ
บทบาท หน้าที่ ความสามารถส่วนตัว
....การประเมินกำลัง... การทดลองทดสอบตัวเอง
คือเรื่องหลักๆเลย... เด็กต้องรู้จักตัวเองดีในระดับหนึ่ง
ถ้าเด็กๆทำเรื่องพื้นฐานพวกนี้ได้ดี เมื่อสอนศีลธรรมเข้าไป
.... ก็จะเข้าใจเรื่องนามธรรม และเรื่องรูปธรรมทางโลกได้ตรงความจริงมากขึ้น
ไม่ได้คัดค้านแนวคิดนะครับ....แต่เรื่องของเรื่องคือมันต้องไปด้วยกัน....
เหมือนจะให้คนได้เรียนรู้วิชาการ ทั้งที่พุงยังหิว
พรุ่งนี้จะมีกินหรือไม่ก็ยังไม่รู้....แบบนั้นมันหวังผลดีไม่ได้
หนังสือ และ ปัจจัยสี่มันต้องมาด้วยกัน แต่อาศัยปัจจัยสี่ยืนพื้นใว้ก่อนนะครับ
จะเอาหนังสือยืนพื้นมันฝืนธรรมชาตินะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------
ต้องทำเรื่องพื้นฐานให้พอไปได้เสียก่อน....จึงจะมีตัวอย่าง
มีเรื่องราวที่เด็กเขาสัมผัสได้ เป็นกรณีศึกษา ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
ถ้าแค่เรื่องพื้นฐานก็เอาไม่อยู่
ศีลธรรมก็จะกลายเป็นอันตรายต่อเด็ก
มีเพียงเพื่อใช้เป็นข้ออ้างยกตัวเองและฟาดฟันคนอื่นเท่านั้น
(บางทีผมก็เผลอเล่นไปเหมือนกัน....ก็ยังเป็นปุถุชนอยู่นะ)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาเรื่องแนวคิดหลักการที่เป็นนามธรรมซับซ้อนไปยัดใส่สมองเด็กตรงๆมันอันตราย....
ปูพื้นฐานให้เขาดีๆหน่อย....แล้วให้เขาเรียนรู้เอาจากพื้นฐานที่ดีนั้นเถอะ
แสดงความคิดเห็น
--------------------------------- สมุดบันทึกความดี ฟังดูแล้ว คิด คิด คิด ----------------------------------------------
สาธุครับ ท่านมหาไพรวัลย์