เมื่อเพื่อนไลน์มาชวนเพราะอยากพัก (หนีงานร้อนๆนั่นเอง) อยากไปเขาใหญ่ อยากไปนอนสบายๆ เน้น ถ่ายรูป กิน เล่นไพ่
ไอ้เราก็เพิ่งซื้อ Wifi SD card มาใหม่ก็อยากจะลอง แถมไม่เคยไปเขาใหญ่หรือปาลิโอสักที (เชยเนอะ)
ตกปากรับคำทันทีไม่ถามแฟนซ้ากกกคำ (สุดท้ายแฟนร้องตาม55555) ชักชวนสมัครพรรคพวกได้รวมแล้วผู้ใหญ่ 6 เด็กน้อยอีก 1
ทริปนี้จึงเกิดขึ้นเมื่อ เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ
วันนี้เอารูปมาเปิดดูทั้งหมดเจ็ดร้อยกว่ารูป เกิดนึกอยากทำรีวิวไว้เป็นความทรงจำกับเขาสักกระทู้ เพราะชอบใจหลายอย่างในทริป (จริงๆคือนายไม่อยู่ หนูว่าง อิอิ) กินอร่อย สนทนาออกรส อากาศดี ที่พักแจ่ม ลงตัวไปหมด
ชอบก็อ่านต่อให้จบ ไม่ชอบก็อ่านให้จบแล้วค่อยติชมนะคะ ^_< รีวิวแรกผิดพลาดประการใดโปรดให้อภัย....
ออกเดินทางเช้าวันเสาร์ ต่างขับรถกันไปเองค่ะ เพราะอยู่คนละทิศเลย รถ3 คัน เพื่อนนัด 8.00 ออกจาก กทม. ให้ไปเจอกันที่ ร้านบ้านไม้ชายน้ำปากช่อง 11.00 น.
ฝนโปรยตลอดทางนะคะ ดีๆ แดดไม่ร้อน
แต่เราออก 9โมง แถมเลยทางเข้าปากช่องอีก กว่าจะหาทางเข้าร้านเจอ ไปถึงเที่ยงพอดี เพื่อนๆพี่ๆก็หิ้วท้องรอกันไป อาหารมาวางตรงหน้า แต่สมาชิกไม่พร้อมหน้าไม่ยอมกิน ฉันรักพวกเธอ...
อาหารที่บ้านไม้ชายน้ำอร่อยดีค่ะ ไม่แพงด้วย หารกันออกมาคนละ 200 บาท ในรูปขาดตำปูปลาร้าไป ยกมาทีหลังแต่แซ่บ ผัดหมี่โคราชอร่อย มีไอติมกะทิล้างปากด้วย
ที่บ้านไม้ชายน้ำนี่น่ารักค่ะ ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นทั้งเก่าใหม่ เดอะแก๊งค์ที่มาถึงกันก่อนเดินชมถ่ายรูปกันไปแล้ว เราเลยไม่กล้าขอเดินดูให้ทั่ว 5555 มาสายแล้วยังช้า เกรงจายยยยยย เลยถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ แต่รูปส่วนใหญ่ถ่ายติดคน เลยมีรูปสถานที่มาเท่านี้
จากนั้นก็ไปปาลิโอกันต่อค่ะ เหมือนในรีวิวที่เคยดูเลยยยย 55555 ตื่นเต้นเล็กน้อยตามประสาคนไม่เคยมา มาช้าตกเทรนด์ไปหน่อยแต่ดีนะคะ คนน้อยดี ที่จอดรถเพียบ ครึ้มฝน มีลม แดดไม่แรง เดินสบายๆ ไม่เหนียวตัวค่ะ
ก็ถ่ายรูป ถ่ายๆๆๆ อีกแล้วคร้าาาา ไม่คิดว่าจะทำรีวิวแต่แรก เลยไม่ค่อยมีรูปสถานที่ (คนอื่นเขารีวิวไปเยอะแล้วป่ะ ><)
เกือบบ่ายสามแล้วเริ่มอยากพัก เพื่อนบอกว่าขับตามมาเลยจ้าาาา จะพาไปนอนสบายๆ ขับออกจากปาลิโอ กลับมาทางฟาร์มโชคชัย ก่อนถึงฟาร์มจะมีสะพานลอย เลี้ยวซ้ายเข้าไปอะไรยังไงจำทางไม่ได้แล้วค่ะ 5555 เพราะมัวแต่มองสองข้างทาง ต้นไม้เขียวๆ ไร่มันสำปะหลังที่เพิ่งสูงแค่ขา ภูเขา สายฝน อั้ยย่ะ วิวดี ถนนก็ตามสภาพนะคะ เล็กแคบ หลุมบ่อ ขับเบาๆหน่อย เข้าไปประมาณ 10 กม. ก็เจอรีสอร์ทค่ะ ชื่อ วิลล์ เดอ ลา วี
ฝนก็ตกหนักขึ้น จอดรถที่ลานจอดด้านหน้า กางร่มเดินเข้าบ้านพักเลยค่ะ ไม่ได้ไปที่ล๊อบบี้ ไม่ให้เอารถเข้าพื้นที่บ้านพักนะคะ มีป้ายห้าม CO2 ด้วยค่ะ ก็ได้รถกลอ์ฟไฟฟ้าพากระเป๋าไปส่ง ส่วนเราขอเดินเข้าบ้านพักเอง นี่คือภาพแรกที่เห็นค่ะ ทางเดินเข้าบ้านพัก เขียวดีเนอะ
เราได้หลังนี้ค่ะ ชื่อบ้าน Casablanca บ้านแต่ละหลังก็จะมีชื่อตามชื่อเมืองในฝันต่างๆ ฟอร์เรนซ์ เวเนเซีย โพรว๊องซ์ ฯลฯ มาทราบตอนหลังว่าเป็นเมืองในฝันของพี่เจ้าของ
หน้าบ้านมีหนุ่มน้อยคริสโตเฟอร์นั่งเฝ้า กลางคืนเดินผ่านฮีก็ไม่ได้ลุกไปไหนนะคะ (ถ้าลุกสิ เราคงจะมีขนหัวลุกกันบ้างล่ะ ฮาาาา)
ตัวบ้านค่ะ ทรงกลมทุกหลัง น่ารักดี กุ๊กกิ๊กถูกใจผู้หญิงอย่างเรา มีลานกางเต๊นท์ได้ด้วย เนินหญ้าบังตาจากทางเดินด้านนอก ค่อนข้างส่วนตัวทีเดียว
ถ่ายจากประตูบ้านออกไปข้างนอกบ้าง
ในบ้านค่ะ เตียงกว้าง ใหม่ ขาวและหอม แฟนกระโดดขึ้นนอนก่อนเลย สงสัยจะสบายเพราะแปบเดียวกรนค่ะ ลืมบอกอากาศตอนนั้น 25 องศา ฝนตกด้วย ไม่ได้เปิดแอร์ค่ะ เปิดหน้าต่างเปิดประตู มีมุ้งลวดค่ะ
ห้องน้ำกว้าง สะอาด รายละเอียดเล็กๆน้อยๆดูได้รับการใส่ใจดี สวิตซ์ไฟเป็นรูปม้าด้วย เพราะที่นี่มีม้า
เราพักกัน 3 หลังค่ะ เพื่อนกับพี่ เรากับแฟน และพี่อีกคนกับครอบครัว สำรวจห้องพักแล้ว เก็บของแล้ว ฝนหยุดตกแล้ว พี่อีกบ้านก็มาเรียกไปจิบกาแฟที่ห้องอาหารริมสระ เลยทิ้งแฟนนอนกรนแล้วตามพี่ไป ระหว่างทางก็สำรวจบ้านพัก ทางเดิน สวนสวยไปด้วย ชอบมากจริงๆถ่ายรูปเยอะมากค่ะ กะว่าจะเก็บไว้เป็นไอเดียปลูกบ้านแต่งสวนที่เมืองกาญฯ อิอิ
ไหนๆก็รีวิวแล้ว ชมรูปไปพลางๆได้เลยนะคะ มือใหม่หัดถ่ายด้วยนิคอนค่ะ แนะนำได้ บางรูปก็แสงโอเว่อร์ไป 555 ระหว่างถ่ายไปก็ใช้ Wifi SD card โหลดเข้าไอโฟน อัพรูปลงเฟสบุคไปด้วย ก็สะดวกดีนะคะ ไวพอประมาณ แต่เปลืองแบต
ต้นไม้ดอกไม้ที่นี่เขียวชะอุ่มสดใสไปหมด ฟินมาก ยอดภูเขาข้างหลังก็มีหมอกลอยอ้อยอิ่ง อุณหภูมิไม่น่าเกิน 25 องศาเวลานั้น
สระว่ายน้ำค่ะ มื้อเย็นเราย่างบาร์บีคิว และสั่งอาหารทานกันที่นี่ อากาศเย็นลงๆ ที่เล่นน้ำก็เล่นกันไปหนาวกันไป ลืมบอกว่ามีลูกค้าอีกกรุ๊ปนึงด้วยค่ะ พัก2หลัง แต่เขาสั่งไปปิ้งกันหน้าบ้านพัก แทบจะไม่ได้รบกวนอะไรกันเลย ส่วนตัวยิ่ง ฟินอีกแล้ว
ระหว่างรอเดอะแก๊งค์และอาหาร ก็เดินไปถ่ายรูป ดูคอกม้าต่อ ม้ามี8 ตัวค่ะ ได้ลูบหลังม้าด้วย ถ่ายรูปคู่กันชิดใกล้แบบไม่โดนเตะด้วย พี่เขาก็บอกวิธีเดินเข้าหาม้า เข้าข้างหน้าช้าๆ อย่าเสียงดัง อย่าเข้าด้านหลัง
อากาศดีมากๆจริงๆค่ะ เดินทั่วรีสอร์ทเลย เจอพี่เจ้าของ ชื่อพี่นุกับพี่เอ้ค่ะ อัธยาศัยดี ใจดี ก็ชวนกันคุย ไต่ถามที่มา ทราบว่ารีสอร์ทเพิ่งเปิดไม่นาน มีสตอรี่น่ารักๆของรีสอร์ทเล่าให้ฟังด้วยค่ะ ดีอ่ะเราชอบของใหม่ๆ 5555 เรามันคนฟินง่าย ก็ฟินไปตามระเบียบ หลังสีฟ้าในรูปนั่นเป็นอาคารไว้จัดงานค่ะ งานแต่ง งานอะไรได้หมด
มื้อค่ำค่ะ ถ่ายด้วยไอโฟนนะคะ นิคอนแบตหมด มีบาร์บีคิว สลัด ขาหมูเยอรมัน (กินกับซอสแอปเปิ้ลอร่อยยยยยย อยากกินอีก) สปาเกตตี้ ซุปผักโขม/ซุปฟักทอง/ซุปเห็ดสด ถูกใจอีกแล้ว (ซุปนี้พี่เจ้าของจัดมาให้ลิ้มรสไม่คิดตังค์ค่ะ ^^ ) อาหารอร่อยทุกอย่างเลย กินแล้วรู้เลยว่าใช้ของดีๆมาทำ บางจานก็ถ่ายรูปไม่ทันนะคะ
อันนี้พกมาอ่าน แต่ไม่ได้อ่าน ไพ่ก็พกมาด้วยนะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เล่น นั่งจิบไวน์คุยกันตั้งแต่หัวค่ำยันดึกเลยค่ะ ก็บรรยากาศมันชวนให้อยู่ข้างนอกมากกว่าอยู่ข้างในห้องอ่ะเนอะ
ตัดมาตอนเช้าเลยนะคะ นัดกันว่ายน้ำ7โมงเช้า ปรากฏตื่นเจ็ดโมงครึ่งแถมฝนยังไม่หยุดตก นอนสบายเกินไป เพื่อนมาตาม สายอีกแล้วเรา แหะแหะ
ได้เวลาอาหารเช้า เราสั่งแซนวิชทูน่า ของแฟนเป็นไข่กระทะค่ะ อาหารเช้ารวมอยู่แล้วนะคะ พวกกาแฟเอิ้นดาวก่ได้ น้ำส้ม น้ำดื่ม ขนมปังปิ้ง แยมเนย ก็มีให้เติมค่ะ
โดยรวมแล้วชอบที่พักที่นี่มากค่ะ ข้างในห้องสะอาด ข้างนอกต้นไม้เขียวดี ธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เจ้าของดูใส่ใจทุกรายละเอียด เขาใหญ่หน้าฝนมีมนต์ขลังอย่างนี้นี่เอง
กินเสร็จก็ฮาเฮถ่ายรูปกันต่ออีกมากมาย เกือบสิบโมงก็เช็คเอาท์ค่ะ พี่เขาแนะนำไปที่ไร่ผักออร์แกนิคส์ใกล้ๆรีสอร์ท เลยแวะไปดู ชื่อไร่ผักหอมค่ะ เป็นของลูกสาวศิลปินแห่งชาติ (ลาว คำหอม)ได้ตัดผักกันเองล้างกันเอง หิ้วผักสดๆกลับบ้านกันคนละถุงโตเลย แถมแฟนยังได้แรงบันดาลใจอยากไปทำแปลงผักที่บ้านเมืองกาญฯบ้างเอากะเขาสิ
เจ้าดำ 3 ขาตัวเก่งตัวนี้ออกมาต้อนรับค่ะ
เพื่อนชวนไปถ่ายรูปกันต่อที่ สวนซ่อนศิลป์ สนุกดีค่ะ กว้างขวาง ร่มรื่น อากาศก็เป็นใจ ไม่ร้อนเลย มุมถ่ายรูปเยอะมาก คนน้อยดีด้วย
แล้วก็สั่งส้มตำกินมื้อกลางวันกันในนั้นเลยค่ะ รสชาติดีอยู่ค่ะ หางบัตรเข้าชมเอามาเป็นส่วนลดที่ร้านกาแฟข้างในได้ด้วยค่ะ
ก่อนกลับแวะอุดหนุนอะโวคาโด้ และผลไม้คุณยายที่ด้านหน้าลานจอดรถค่ะ แล้วก็แยกย้ายกันขับกลับ กทม. เป็นอันจบทริปเขียวๆหน้าฝนนี้ นั่งทำรีวิวอยู่นี่ก็ยังคิดถึงความฟินเขาใหญ่อยู่เลยค่ะ 55555
ปล. น้ำข้าวโพด และน้ำลูกหม่อนที่มีรถมอเตอร์ไซต์มาจอดขายหน้าทางเข้าสวนขวดละ 10 บาท อร่อยมากค่ะ ต้องลอง
[CR][SR] Mini Review สูดโอโซนเขาใหญ่หน้าฝน ปาลิโอ สวนซ่อนศิลป์ นอนอุ่นกินอิ่มที่ Ville de la vie Resort
ไอ้เราก็เพิ่งซื้อ Wifi SD card มาใหม่ก็อยากจะลอง แถมไม่เคยไปเขาใหญ่หรือปาลิโอสักที (เชยเนอะ)
ตกปากรับคำทันทีไม่ถามแฟนซ้ากกกคำ (สุดท้ายแฟนร้องตาม55555) ชักชวนสมัครพรรคพวกได้รวมแล้วผู้ใหญ่ 6 เด็กน้อยอีก 1
ทริปนี้จึงเกิดขึ้นเมื่อ เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ
วันนี้เอารูปมาเปิดดูทั้งหมดเจ็ดร้อยกว่ารูป เกิดนึกอยากทำรีวิวไว้เป็นความทรงจำกับเขาสักกระทู้ เพราะชอบใจหลายอย่างในทริป (จริงๆคือนายไม่อยู่ หนูว่าง อิอิ) กินอร่อย สนทนาออกรส อากาศดี ที่พักแจ่ม ลงตัวไปหมด
ชอบก็อ่านต่อให้จบ ไม่ชอบก็อ่านให้จบแล้วค่อยติชมนะคะ ^_< รีวิวแรกผิดพลาดประการใดโปรดให้อภัย....
ออกเดินทางเช้าวันเสาร์ ต่างขับรถกันไปเองค่ะ เพราะอยู่คนละทิศเลย รถ3 คัน เพื่อนนัด 8.00 ออกจาก กทม. ให้ไปเจอกันที่ ร้านบ้านไม้ชายน้ำปากช่อง 11.00 น.
ฝนโปรยตลอดทางนะคะ ดีๆ แดดไม่ร้อน
แต่เราออก 9โมง แถมเลยทางเข้าปากช่องอีก กว่าจะหาทางเข้าร้านเจอ ไปถึงเที่ยงพอดี เพื่อนๆพี่ๆก็หิ้วท้องรอกันไป อาหารมาวางตรงหน้า แต่สมาชิกไม่พร้อมหน้าไม่ยอมกิน ฉันรักพวกเธอ...
อาหารที่บ้านไม้ชายน้ำอร่อยดีค่ะ ไม่แพงด้วย หารกันออกมาคนละ 200 บาท ในรูปขาดตำปูปลาร้าไป ยกมาทีหลังแต่แซ่บ ผัดหมี่โคราชอร่อย มีไอติมกะทิล้างปากด้วย
ที่บ้านไม้ชายน้ำนี่น่ารักค่ะ ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นทั้งเก่าใหม่ เดอะแก๊งค์ที่มาถึงกันก่อนเดินชมถ่ายรูปกันไปแล้ว เราเลยไม่กล้าขอเดินดูให้ทั่ว 5555 มาสายแล้วยังช้า เกรงจายยยยยย เลยถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ แต่รูปส่วนใหญ่ถ่ายติดคน เลยมีรูปสถานที่มาเท่านี้
จากนั้นก็ไปปาลิโอกันต่อค่ะ เหมือนในรีวิวที่เคยดูเลยยยย 55555 ตื่นเต้นเล็กน้อยตามประสาคนไม่เคยมา มาช้าตกเทรนด์ไปหน่อยแต่ดีนะคะ คนน้อยดี ที่จอดรถเพียบ ครึ้มฝน มีลม แดดไม่แรง เดินสบายๆ ไม่เหนียวตัวค่ะ
ก็ถ่ายรูป ถ่ายๆๆๆ อีกแล้วคร้าาาา ไม่คิดว่าจะทำรีวิวแต่แรก เลยไม่ค่อยมีรูปสถานที่ (คนอื่นเขารีวิวไปเยอะแล้วป่ะ ><)
เกือบบ่ายสามแล้วเริ่มอยากพัก เพื่อนบอกว่าขับตามมาเลยจ้าาาา จะพาไปนอนสบายๆ ขับออกจากปาลิโอ กลับมาทางฟาร์มโชคชัย ก่อนถึงฟาร์มจะมีสะพานลอย เลี้ยวซ้ายเข้าไปอะไรยังไงจำทางไม่ได้แล้วค่ะ 5555 เพราะมัวแต่มองสองข้างทาง ต้นไม้เขียวๆ ไร่มันสำปะหลังที่เพิ่งสูงแค่ขา ภูเขา สายฝน อั้ยย่ะ วิวดี ถนนก็ตามสภาพนะคะ เล็กแคบ หลุมบ่อ ขับเบาๆหน่อย เข้าไปประมาณ 10 กม. ก็เจอรีสอร์ทค่ะ ชื่อ วิลล์ เดอ ลา วี
ฝนก็ตกหนักขึ้น จอดรถที่ลานจอดด้านหน้า กางร่มเดินเข้าบ้านพักเลยค่ะ ไม่ได้ไปที่ล๊อบบี้ ไม่ให้เอารถเข้าพื้นที่บ้านพักนะคะ มีป้ายห้าม CO2 ด้วยค่ะ ก็ได้รถกลอ์ฟไฟฟ้าพากระเป๋าไปส่ง ส่วนเราขอเดินเข้าบ้านพักเอง นี่คือภาพแรกที่เห็นค่ะ ทางเดินเข้าบ้านพัก เขียวดีเนอะ
เราได้หลังนี้ค่ะ ชื่อบ้าน Casablanca บ้านแต่ละหลังก็จะมีชื่อตามชื่อเมืองในฝันต่างๆ ฟอร์เรนซ์ เวเนเซีย โพรว๊องซ์ ฯลฯ มาทราบตอนหลังว่าเป็นเมืองในฝันของพี่เจ้าของ
หน้าบ้านมีหนุ่มน้อยคริสโตเฟอร์นั่งเฝ้า กลางคืนเดินผ่านฮีก็ไม่ได้ลุกไปไหนนะคะ (ถ้าลุกสิ เราคงจะมีขนหัวลุกกันบ้างล่ะ ฮาาาา)
ตัวบ้านค่ะ ทรงกลมทุกหลัง น่ารักดี กุ๊กกิ๊กถูกใจผู้หญิงอย่างเรา มีลานกางเต๊นท์ได้ด้วย เนินหญ้าบังตาจากทางเดินด้านนอก ค่อนข้างส่วนตัวทีเดียว
ถ่ายจากประตูบ้านออกไปข้างนอกบ้าง
ในบ้านค่ะ เตียงกว้าง ใหม่ ขาวและหอม แฟนกระโดดขึ้นนอนก่อนเลย สงสัยจะสบายเพราะแปบเดียวกรนค่ะ ลืมบอกอากาศตอนนั้น 25 องศา ฝนตกด้วย ไม่ได้เปิดแอร์ค่ะ เปิดหน้าต่างเปิดประตู มีมุ้งลวดค่ะ
ห้องน้ำกว้าง สะอาด รายละเอียดเล็กๆน้อยๆดูได้รับการใส่ใจดี สวิตซ์ไฟเป็นรูปม้าด้วย เพราะที่นี่มีม้า
เราพักกัน 3 หลังค่ะ เพื่อนกับพี่ เรากับแฟน และพี่อีกคนกับครอบครัว สำรวจห้องพักแล้ว เก็บของแล้ว ฝนหยุดตกแล้ว พี่อีกบ้านก็มาเรียกไปจิบกาแฟที่ห้องอาหารริมสระ เลยทิ้งแฟนนอนกรนแล้วตามพี่ไป ระหว่างทางก็สำรวจบ้านพัก ทางเดิน สวนสวยไปด้วย ชอบมากจริงๆถ่ายรูปเยอะมากค่ะ กะว่าจะเก็บไว้เป็นไอเดียปลูกบ้านแต่งสวนที่เมืองกาญฯ อิอิ
ไหนๆก็รีวิวแล้ว ชมรูปไปพลางๆได้เลยนะคะ มือใหม่หัดถ่ายด้วยนิคอนค่ะ แนะนำได้ บางรูปก็แสงโอเว่อร์ไป 555 ระหว่างถ่ายไปก็ใช้ Wifi SD card โหลดเข้าไอโฟน อัพรูปลงเฟสบุคไปด้วย ก็สะดวกดีนะคะ ไวพอประมาณ แต่เปลืองแบต
ต้นไม้ดอกไม้ที่นี่เขียวชะอุ่มสดใสไปหมด ฟินมาก ยอดภูเขาข้างหลังก็มีหมอกลอยอ้อยอิ่ง อุณหภูมิไม่น่าเกิน 25 องศาเวลานั้น
สระว่ายน้ำค่ะ มื้อเย็นเราย่างบาร์บีคิว และสั่งอาหารทานกันที่นี่ อากาศเย็นลงๆ ที่เล่นน้ำก็เล่นกันไปหนาวกันไป ลืมบอกว่ามีลูกค้าอีกกรุ๊ปนึงด้วยค่ะ พัก2หลัง แต่เขาสั่งไปปิ้งกันหน้าบ้านพัก แทบจะไม่ได้รบกวนอะไรกันเลย ส่วนตัวยิ่ง ฟินอีกแล้ว
ระหว่างรอเดอะแก๊งค์และอาหาร ก็เดินไปถ่ายรูป ดูคอกม้าต่อ ม้ามี8 ตัวค่ะ ได้ลูบหลังม้าด้วย ถ่ายรูปคู่กันชิดใกล้แบบไม่โดนเตะด้วย พี่เขาก็บอกวิธีเดินเข้าหาม้า เข้าข้างหน้าช้าๆ อย่าเสียงดัง อย่าเข้าด้านหลัง
อากาศดีมากๆจริงๆค่ะ เดินทั่วรีสอร์ทเลย เจอพี่เจ้าของ ชื่อพี่นุกับพี่เอ้ค่ะ อัธยาศัยดี ใจดี ก็ชวนกันคุย ไต่ถามที่มา ทราบว่ารีสอร์ทเพิ่งเปิดไม่นาน มีสตอรี่น่ารักๆของรีสอร์ทเล่าให้ฟังด้วยค่ะ ดีอ่ะเราชอบของใหม่ๆ 5555 เรามันคนฟินง่าย ก็ฟินไปตามระเบียบ หลังสีฟ้าในรูปนั่นเป็นอาคารไว้จัดงานค่ะ งานแต่ง งานอะไรได้หมด
มื้อค่ำค่ะ ถ่ายด้วยไอโฟนนะคะ นิคอนแบตหมด มีบาร์บีคิว สลัด ขาหมูเยอรมัน (กินกับซอสแอปเปิ้ลอร่อยยยยยย อยากกินอีก) สปาเกตตี้ ซุปผักโขม/ซุปฟักทอง/ซุปเห็ดสด ถูกใจอีกแล้ว (ซุปนี้พี่เจ้าของจัดมาให้ลิ้มรสไม่คิดตังค์ค่ะ ^^ ) อาหารอร่อยทุกอย่างเลย กินแล้วรู้เลยว่าใช้ของดีๆมาทำ บางจานก็ถ่ายรูปไม่ทันนะคะ
อันนี้พกมาอ่าน แต่ไม่ได้อ่าน ไพ่ก็พกมาด้วยนะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เล่น นั่งจิบไวน์คุยกันตั้งแต่หัวค่ำยันดึกเลยค่ะ ก็บรรยากาศมันชวนให้อยู่ข้างนอกมากกว่าอยู่ข้างในห้องอ่ะเนอะ
ตัดมาตอนเช้าเลยนะคะ นัดกันว่ายน้ำ7โมงเช้า ปรากฏตื่นเจ็ดโมงครึ่งแถมฝนยังไม่หยุดตก นอนสบายเกินไป เพื่อนมาตาม สายอีกแล้วเรา แหะแหะ
ได้เวลาอาหารเช้า เราสั่งแซนวิชทูน่า ของแฟนเป็นไข่กระทะค่ะ อาหารเช้ารวมอยู่แล้วนะคะ พวกกาแฟเอิ้นดาวก่ได้ น้ำส้ม น้ำดื่ม ขนมปังปิ้ง แยมเนย ก็มีให้เติมค่ะ
โดยรวมแล้วชอบที่พักที่นี่มากค่ะ ข้างในห้องสะอาด ข้างนอกต้นไม้เขียวดี ธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เจ้าของดูใส่ใจทุกรายละเอียด เขาใหญ่หน้าฝนมีมนต์ขลังอย่างนี้นี่เอง
กินเสร็จก็ฮาเฮถ่ายรูปกันต่ออีกมากมาย เกือบสิบโมงก็เช็คเอาท์ค่ะ พี่เขาแนะนำไปที่ไร่ผักออร์แกนิคส์ใกล้ๆรีสอร์ท เลยแวะไปดู ชื่อไร่ผักหอมค่ะ เป็นของลูกสาวศิลปินแห่งชาติ (ลาว คำหอม)ได้ตัดผักกันเองล้างกันเอง หิ้วผักสดๆกลับบ้านกันคนละถุงโตเลย แถมแฟนยังได้แรงบันดาลใจอยากไปทำแปลงผักที่บ้านเมืองกาญฯบ้างเอากะเขาสิ
เจ้าดำ 3 ขาตัวเก่งตัวนี้ออกมาต้อนรับค่ะ
เพื่อนชวนไปถ่ายรูปกันต่อที่ สวนซ่อนศิลป์ สนุกดีค่ะ กว้างขวาง ร่มรื่น อากาศก็เป็นใจ ไม่ร้อนเลย มุมถ่ายรูปเยอะมาก คนน้อยดีด้วย
แล้วก็สั่งส้มตำกินมื้อกลางวันกันในนั้นเลยค่ะ รสชาติดีอยู่ค่ะ หางบัตรเข้าชมเอามาเป็นส่วนลดที่ร้านกาแฟข้างในได้ด้วยค่ะ
ก่อนกลับแวะอุดหนุนอะโวคาโด้ และผลไม้คุณยายที่ด้านหน้าลานจอดรถค่ะ แล้วก็แยกย้ายกันขับกลับ กทม. เป็นอันจบทริปเขียวๆหน้าฝนนี้ นั่งทำรีวิวอยู่นี่ก็ยังคิดถึงความฟินเขาใหญ่อยู่เลยค่ะ 55555
ปล. น้ำข้าวโพด และน้ำลูกหม่อนที่มีรถมอเตอร์ไซต์มาจอดขายหน้าทางเข้าสวนขวดละ 10 บาท อร่อยมากค่ะ ต้องลอง
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว