คิดจะเล่นกับ Social media วางแผนผิดชีวิตบรรลัยจริงหรือ?

กระทู้คำถาม
ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดเล่นๆ โดยลองเอาลำดับเหตุการณ์มาเรียงใหม่ คิดเสียว่าเป็นเหตุการณ์สมมติก็แล้วกันครับ ห้ามอ้างว่าเป็นเรื่องจริงนะผมสมมติล้วนๆ เจตนาคือเปรียบเทียบกับกรณีศึกษา 2 แบบที่อาจเกิดขึ้นได้ในสังคม

เหตุการณ์เดิม เคส ก.
1.    นางสาว ก. ประกาศต่อหน้าสื่อว่าถูกลงโทษเกินเหตุทำร้ายโดยการต่อยสิบหมัดจนกรามหัก/บวม

ผล สื่อ+ สังคมตอบรับกระแสและต่อว่าโค้ช ช.

2.    มีคนสงสัยว่าโดนต่อยถึง 10 หมัดทำไมใบหน้าของ ก. ยังอยู่ดี แถมพูดจ้อยๆเหมือนไม่เป็นอะไร

ผล คนเริ่มคลางแคลงสงสัยในคำให้สัมภาษณ์ของนางสาว ก. (กลายเป็นความน่าเชื่อถือลดลง)
•    ผมคิดว่าตัวนี้เป็นส่วนสำคัญในเรื่องนี้ซึ่งชี้นำสังคมได้ค่อนข้างมากและมีมูลความจริง

3.    ก. ให้สัมภาษณ์ต่อ ว่าโดนต่อยจริงที่ใบหน้าและท้องเต็มแรงรวมๆยี่สิบกว่าหมัด

ผล คนยิ่งไม่เชื่อสิ่งที่ ก. พูดเข้าไปใหญ่เพราะมันขัดแย้งกับสภาพบาดแผลบนใบหน้าของเธอและมองว่าการถูกทำโทษของ ก. นั้น สมควรแก่เหตุแล้ว

4.    ท. ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเรื่องการลงโทษที่รุนแรงของ ช. พร้อมกับโจมตี ช. ผ่าน Social media ไปด้วย

ผล คนไม่เชื่อ ท. ที่ออกมาสนับสนุน ก.  เพราะสิ่งที่ ก. พูดไปก่อนหน้านี้มันทำลายความน่าเชื่อของตนเองไปหมดแล้วนอกจากนี้เมื่อทราบว่า ท. ไม่ชอบ ช. อยู่แล้ว ย่อมทำให้คนทั่วไปคิดว่าที่ ท. พูดไปนั้นหวังทำลาย ช. เป็นหลัก

5.    ท. ออกมาชี้นำเรื่องการลงโทษรุนแรงแค่ประเด็นเดียวและอ้างว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ภายหลังออกมาเปิดเผยว่าตนเป็นคนแนะนำให้ ก. ไปแจ้งความ แต่ทาง ก. และ ครอบครัว ไม่เอาด้วย เพราะตนเองไม่ได้มีเงินและอำนาจมากพอในการดำเนินคดี

ผล สังคม ไม่เชื่อตามที่ ท. กล่าวอ้าง และคิดว่า ที่ ท. กล่าวมาเป็นเพียงข้อแก้ตัวของ ก. และ ท. เท่านั้น


เหตุการณ์ใหม่เคส ข.  ผมลองเปลี่ยนข้อเท็จจริงดูและสลับลำดับเหตุการณ์ใหม่

1.    นางสาว ก. ประกาศต่อหน้าสื่อว่าถูกลงโทษเกินเหตุโดยถูกตีที่ใบหน้าได้รับความอับอายแต่ไม่มีบาดแผลอะไรมาก

ผล สื่อ+ ลังคมตอบรับกระแสและต่อว่าโค้ช ช. แต่อาจจะมีแบ่งเป็น2ฝั่งว่า การลงโทษไม่รุนแรง กับ รุนแรง

2.     ก. ให้สัมภาษณ์ต่อ ว่าโดนตีจริงที่ใบหน้าและท้องซึ่งเธอก็ค่อนข้างอับอาย แม้ไม่มีบาดแผลรุนแรงนัก

ผล สังคมจะออกมาเห็นใจ ก. มากขึ้น

3.     ท. ออกมาชี้นำเรื่องการลงโทษรุนแรงแค่ประเด็นเดียวและอ้างว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ภายหลังออกมาบอกว่า ทาง ก. และ ครอบครัว ไม่เอาด้วยเรื่องดำเนินคดี เพราะตนเองไม่ได้มีเงินและอำนาจมากพอในการดำเนินคดี

ผล สังคมเริ่มกดดัน ช. มากขึ้น

4.     ท. ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเรื่องการลงโทษที่รุนแรงของ ช. พร้อมกับโจมตี ช. ผ่าน Social media ไปด้วย

ผล คนเริ่มไม่พอใจ ช. มากขึ้นเพราะ ช. ก็ไม่ได้ออกมาโต้แย้งอะไร

เมื่อลองเปรียบเทียบทั้งสองกรณี ก็พบว่า ถ้าคิดจะเล่นกับ Social media ถ้าไม่แน่จริงคุณอาจจะไม่มีที่ยืนในสังคมเพราะขนาดแค่ข้อเท็จจริงและลำดับเหตุการณ์ต่างกันไม่มากนัก ผลตอบรับทางสังคมก็ต่างกันด้วยถึงแม้พยานหลักฐานในเหตุการณ์จะเหมือนกันเป๊ะๆก็ตาม

ปล.แก้ไขคำผิดกับตกหล่นครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จะเป็นเหตุการณ์ไหนก็ตาม

ขอให้พูดความจริงและความจริงนั้นพิสูจน์ได้

ยังไงก็ได้รับความเห็นใจ

น.ก. ถูกโจมตีมาก เพราะพูดไม่จริงมาตั้งแต่ต้น
เรื่องยิ่งถูกสืบสาว ยิ่งเห็นคำโกหกชัดเจน

ซึ่งก็ชัดในสถานการณ์ ข
หากพูดความจริง บอกสิ่งที่เกิดขึ้น และเหตุผลที่กระทำ
ยังไงสังคมก็รับฟัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่