สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ยังไม่เป็นเศรษฐีแค่พอมีพอกิน ผมก็ซื้อของที่อยากซื้ออยู่นะ โดยมี Criteria ดังนี้
1. ของที่ซื้อไม่เกิน 10 - 15% ของเงินที่หาได้ต่อเดือน เดือนที่แล้วซื้อ Rolex Daytona ให้พ่อ 400,000 บาท เดือนนี้พาพ่อแม่ไปฮ่องกง ชอปปิ้ง กินข้าว ซื้อ Pam 2 เรือนให้ตัวเองราคา 450,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายกินอยู่ตาม Lifestyle เดือนละไม่เกิน 150,000 บาท
3. ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ เดือนละ 200,000 บาท (ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ หมดใน 2-3 ปี)
4. เก็บเงินสดเผื่อฉุกเฉินเดือนละ 400,000 บาท
5. แบ่งเงินส่วนเล็กๆที่ได้จากหุ้น เช่นกำไร 10,000 หุ้นจาก IPO ตัวนี้ทำบุญที่นั่น 5,000 หุ้นทำบุญที่นี่ (เอาเฉพาะกำไรมาทำ) เช่น 10,000 หุ้นที่จะได้จาก TSE - Thai Solar Energy ไปทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นต้น
6. นำเงินที่เหลือไป Reinvest
ทำแบบนี้จากพอร์ท 7 หลักกลางๆจนตอนนี้ 9 หลักแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าเป็นเศรษฐี
1. ของที่ซื้อไม่เกิน 10 - 15% ของเงินที่หาได้ต่อเดือน เดือนที่แล้วซื้อ Rolex Daytona ให้พ่อ 400,000 บาท เดือนนี้พาพ่อแม่ไปฮ่องกง ชอปปิ้ง กินข้าว ซื้อ Pam 2 เรือนให้ตัวเองราคา 450,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายกินอยู่ตาม Lifestyle เดือนละไม่เกิน 150,000 บาท
3. ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ เดือนละ 200,000 บาท (ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ หมดใน 2-3 ปี)
4. เก็บเงินสดเผื่อฉุกเฉินเดือนละ 400,000 บาท
5. แบ่งเงินส่วนเล็กๆที่ได้จากหุ้น เช่นกำไร 10,000 หุ้นจาก IPO ตัวนี้ทำบุญที่นั่น 5,000 หุ้นทำบุญที่นี่ (เอาเฉพาะกำไรมาทำ) เช่น 10,000 หุ้นที่จะได้จาก TSE - Thai Solar Energy ไปทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นต้น
6. นำเงินที่เหลือไป Reinvest
ทำแบบนี้จากพอร์ท 7 หลักกลางๆจนตอนนี้ 9 หลักแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าเป็นเศรษฐี
DC1564 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5661541 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1932133 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4579207 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1258583 ทึ่ง, มิราเคิลร์ สยอง, สมาชิกหมายเลข 2516138 ขำกลิ้ง, Runcold ถูกใจ, หมอกล้า ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3239452 ซึ้งรวมถึงอีก 41 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 7
ระยะที่ 1 ตอนไม่รวย ก็ใช้แรงทำงานให้เต็มที่เพื่อมีเงินเหลือเก็บ เหลือไว้ลงทุน
ระยะที่ 2 ตอนเงินที่เก็บและที่ลงทุนไว้เริ่มให้ดอกผล รายได้จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ๆ
ระยะที่ 3 ตอนเงินทำงานเต็มตัว จะมีเงินมาก อยากจะซื้ออะไร หรือ ทำอะไร มันก็จะสะดวกไปหมด
ส่วนคิดว่า จะผลาญมันให้หมดเหลือ 0 บาท นั้น คนที่ผ่านความลำบากมาทั้ง 3 ระยะ เขาไม่ทำหรอก
เพราะรู้ว่า กว่าจะสบายได้ขนาดนี้ มันต้องอดทน ผ่านความยากแค้นมานานแล้ว เป็นใครก็อยากจะรักษา
ความสบายแบบนี้เอาไว้นาน ๆ ส่วนลูกหลานที่ได้มรดก มันจะคิดเป็นหรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ลูกหลานบางคนคิดไม่เป็น นึกว่าได้เงินฟรีมา เป็นกำไรชีวิต หรือของขวัญจากสวรรค์
อยากจะผลาญให้หมด ก็ช่วยไม่ได้นะครับ กรรมใคร กรรมมัน
ระยะที่ 2 ตอนเงินที่เก็บและที่ลงทุนไว้เริ่มให้ดอกผล รายได้จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ๆ
ระยะที่ 3 ตอนเงินทำงานเต็มตัว จะมีเงินมาก อยากจะซื้ออะไร หรือ ทำอะไร มันก็จะสะดวกไปหมด
ส่วนคิดว่า จะผลาญมันให้หมดเหลือ 0 บาท นั้น คนที่ผ่านความลำบากมาทั้ง 3 ระยะ เขาไม่ทำหรอก
เพราะรู้ว่า กว่าจะสบายได้ขนาดนี้ มันต้องอดทน ผ่านความยากแค้นมานานแล้ว เป็นใครก็อยากจะรักษา
ความสบายแบบนี้เอาไว้นาน ๆ ส่วนลูกหลานที่ได้มรดก มันจะคิดเป็นหรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ลูกหลานบางคนคิดไม่เป็น นึกว่าได้เงินฟรีมา เป็นกำไรชีวิต หรือของขวัญจากสวรรค์
อยากจะผลาญให้หมด ก็ช่วยไม่ได้นะครับ กรรมใคร กรรมมัน
DC1564 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1932133 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4579207 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3262927 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1258583 ถูกใจ, มิราเคิลร์ สยอง, flukesamed ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 3239452 ถูกใจ, jetboat ถูกใจ, benzzzey ถูกใจรวมถึงอีก 45 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 32
จริงๆถ้าจะบอกว่าผมเป็นเศรษฐีเงินผ่อนก็คงจะเป็นเศรษฐีกะเค้าเหมือนกันนะ ผมเลือกผ่อนเท่าที่ผ่อนได้ เพราะผมไม่อยากเสียเงินทั้งก้อนไป สำหรับผม ผมสามารถสร้าง Return จากเงินได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 20% ไม่ว่าจากหุ้นหรือธุรกิจ ฉะนั้นการกู้แล้วเสียดอกเบี้ยที่เป็นจำนวน Single digit มันคุ้มกับผมมากกว่า ผมเสีย 6% แต่ผมได้คืน 20% คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
ผมมีสติเสมอ ผมพยายามใช้เงินในวิธีที่คุ้มค่าที่สุด บางคนจองรถเลือกจองน้อยๆ จ่ายเงินสด แล้วผ่อนนานๆ ผมเลือกรูดบัตรมากที่สุดที่ศูนย์ยอมเพื่อให้ได้แต้มจากบัตร เช่น420d convertible ที่เพิ่งจองไปก็รูด เต็มแม็คที่ศูนย์รับคือ 200,000 บาท หรือ CLS ก็รูด 400,000 บาท เงินต้องจ่ายเท่ากันแต่ผมได้ของแถมจากบัตรเครดิต
ผ่อนบ้านผมจ่ายมากกว่าขั้นต่ำ 3 เท่าเป็นอย่างน้อยเพื่อให้หนี้หมดใน 3 ปี มันจะไปตัดเงินต้นเพิ่มทุกเดือน ผ่อนรถผมกู้แค่ 24 - 36 เดือนเท่านั้น
ผมมี KPI ให้ตัวเองเสมอ เช่น ปีนี้ผมต้องซื้อที่ 1 แปลง 2 แปลง 3 แปลง ซึ่งผมเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเลดีราคาไม่มีวันตก ซื้อเก็บไว้ไม่เคยเสียอะไร แม้ราคามันจะขึ้นเร็วไม่เท่าหุ้นแต่ที่บางผืนไม่มีขายแม้เราจะมีเงิน ถ้ามีโอกาสมาก็ต้องรีบคว้า
ผมใช้เงินเหมือนเยอะ แต่นั่นหลังจากผมดูแล้วว่าผมหาได้เท่าไหร่ เดือนไหนหาได้น้อยก็ใช้น้อย เดือนไหนหาได้เยอะก็ใช้ได้ตามที่เห็นสมควร แต่ผมก็ชอบที่จะเอากลับไปลงทุนเพิ่มและเห็น Unrealized Gain เพิ่มขึ้น
โชคดีทุกคนครับ
ผมมีสติเสมอ ผมพยายามใช้เงินในวิธีที่คุ้มค่าที่สุด บางคนจองรถเลือกจองน้อยๆ จ่ายเงินสด แล้วผ่อนนานๆ ผมเลือกรูดบัตรมากที่สุดที่ศูนย์ยอมเพื่อให้ได้แต้มจากบัตร เช่น420d convertible ที่เพิ่งจองไปก็รูด เต็มแม็คที่ศูนย์รับคือ 200,000 บาท หรือ CLS ก็รูด 400,000 บาท เงินต้องจ่ายเท่ากันแต่ผมได้ของแถมจากบัตรเครดิต
ผ่อนบ้านผมจ่ายมากกว่าขั้นต่ำ 3 เท่าเป็นอย่างน้อยเพื่อให้หนี้หมดใน 3 ปี มันจะไปตัดเงินต้นเพิ่มทุกเดือน ผ่อนรถผมกู้แค่ 24 - 36 เดือนเท่านั้น
ผมมี KPI ให้ตัวเองเสมอ เช่น ปีนี้ผมต้องซื้อที่ 1 แปลง 2 แปลง 3 แปลง ซึ่งผมเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเลดีราคาไม่มีวันตก ซื้อเก็บไว้ไม่เคยเสียอะไร แม้ราคามันจะขึ้นเร็วไม่เท่าหุ้นแต่ที่บางผืนไม่มีขายแม้เราจะมีเงิน ถ้ามีโอกาสมาก็ต้องรีบคว้า
ผมใช้เงินเหมือนเยอะ แต่นั่นหลังจากผมดูแล้วว่าผมหาได้เท่าไหร่ เดือนไหนหาได้น้อยก็ใช้น้อย เดือนไหนหาได้เยอะก็ใช้ได้ตามที่เห็นสมควร แต่ผมก็ชอบที่จะเอากลับไปลงทุนเพิ่มและเห็น Unrealized Gain เพิ่มขึ้น
โชคดีทุกคนครับ
DC1564 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4579207 ถูกใจ, มิราเคิลร์ สยอง, Runcold ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3239452 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2248928 ถูกใจ, ฝนโปรยในความมืด ถูกใจ, benzzzey ถูกใจ, เมียวโจ้ ถูกใจ, VSA-100 ถูกใจรวมถึงอีก 26 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 6
พันล้านฝากแบ๊งค์ แค่ดอกร้อยละ1 ดอกก็ปาเข้าไปปีละ 10ล้านแว้ว
เสียภาษี 15%ก็ล้านห้า เหลือเงินใช้ต่อปี 8ล้านห้า ตกเดือนนึง 700,000
สามารถใช้ได้วันละ สองหมื่นกว่า โดยเงินต้นไม่สะเทือน
จึงสามารถใช้เงินได้นานกว่า10ชั่วคนครับ
เสียภาษี 15%ก็ล้านห้า เหลือเงินใช้ต่อปี 8ล้านห้า ตกเดือนนึง 700,000
สามารถใช้ได้วันละ สองหมื่นกว่า โดยเงินต้นไม่สะเทือน
จึงสามารถใช้เงินได้นานกว่า10ชั่วคนครับ
DC1564 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1932133 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1258583 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3239452 ถูกใจ, ROMA II ถูกใจ, ฝนโปรยในความมืด ถูกใจ, benzzzey ถูกใจ, เหมียวสีทอง ถูกใจ, CUDAOpenCL ถูกใจ, ลมเอื่อยเอื่อย ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 9
บางคนมีเงินนับแสนล้าน ใช้วันละล้านแสนวัน ยังไม่พอใจเลย
ทรัพยากรบนพื้นโลกพอเพียงสำหรับคนทุกคน แต่ไม่พอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว
ทรัพยากรบนพื้นโลกพอเพียงสำหรับคนทุกคน แต่ไม่พอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว
DC1564 ถูกใจ, Runcold ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3239452 ซึ้ง, Fight The Dead Fear The Living ถูกใจ, คุณหมาขายาว ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1382177 ถูกใจ, เหมียวสีทอง ถูกใจ, expha ถูกใจ, ผมชื่ออะไร ถูกใจ, เสือหวล ถูกใจรวมถึงอีก 19 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
มีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับเศรษฐี เค้าใช้เงินกันยังไง มีวันหมดไหมครับ
อย่างเศรษฐีสมัยก่อน มีเงินทองมีที่ดิน มีศักดินา 5000-10000 ไร่ ทุกวันนี้เงินยังเหลือไปถึงลูกหลานบ้างไหมครับ ลูกหลานมีชีวิตหน้าที่การงานดีไหม
หรืออย่างปัจจุบัน ระดับบิล เกตส์ มีเงินเป็นพันล้าน หมื่นล้าน
สมมุติว่าต่อให้เหลือแค่พันล้านบาทก็แล้วกัน
มาอยู่ประเทศไทย ใช้กินขี้ปรี้นอนฟรีสไตล์วันละ 5000 บาท ไม่นับเงินที่ใช้ในการลงทุน บ้าน รถ เสื้อผ้า ค่าหมอ คนใช้ ฯลฯ
เค้าใช้เงินไปแบบนี้ได้ 2แสน วัน กว่าเงินพันล้านจะหมด คนเรามีอายุขัยเฉลี่ย 20000 วัน นั่นอาจหมายความได้ว่า เค้าใช้เงินในอัตรา 5000 บาทต่อวัน อย่างสบายใจ ในอัตราค่าครองชีพปัจจุบันไป 10 ชั่วอายุคน หากเศรษฐีมีลูกคนเดียวและไม่นับค่าเงินที่เพิ่มขึ้นทุกวันๆ หากเศรษฐีมีลูกเยอะหรือแต่งงานก็หารกันไป เงินมันก็ยังเยอะอยู่นะครับ
อย่างผมใช้กินข้าวข้างทาง ค่าเดินทางรถไฟฟ้า วันละ 100-150 มันก็ใช้ได้แล้วครับ นี่ 5000 อาจหักลบไปอีกสำหรับค่าเงินที่สูงขึ้นทุกวันและค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน อะไรก็ว่าไป (ผ่อนรถและบ้านวันละ 4000!!) อาจเหลือใช้วันละ 1000 มันก็เยอะนะครับ
นี่พูดถึงเงินที่เศรษฐีถือไว้แค่พันล้านในมือนะครับ บิล เกตส์ หรือเศรษฐีระดับโลกอาจมีเงินถือในมือมากกว่านั้นอีก
ถ้าไม่ลงทุนจนเจ๊งหรือบริจาค ยังไงก็ใช้ไม่มีทางหมดครับ หรือว่าผมคิดอะไรผิด ช่วยแสดงความเห็นกันด้วยครับ พอดีไม่เคยเห็นเศรษฐีและเผื่อว่าวันนึงได้เป็นเศรษฐี จะได้ไม่ใช้ให้หมด