ประสบการณ์ รถไม่มีประกันภัยมาชนกับรถที่ไม่มีประกันภัย (เคส คู่กรณีเห็นแก่ตัว ไม่มี หนี ไม่จ่าย อยากได้ไปแจ้งตำรวจสิ)

ประสบการณ์วันนี้ (วิทยาทานสำหรับ ผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทยทุกท่าน ทุกท่านสามารถเจอกรณีนี้ได้ อ่านไว้เป็นความรู้จะได้ไม่เป็นแบบผมครับ)

- ขับรถตั้งใจไปทำธุระต่างๆ แต่แล้วทุกอย่างก็ถูกสกัด
เพราะรถกะบะมาชนท้ายเนื่องจากถนนลื่นเบรคไม่ทันที่แยกไฟแดง

- ต่างคนต่างไม่มีประกัน แต่เนื่องจากทางเค้าผิดเพราะชนท้ายจังๆ
จึงทำให้เค้าต้องจ่ายสินไหมชดเชย ทางเค้าเสนอให้ นำรถไปให้อู่ตีราคา
จะทำให้ได้ราคาที่ควรจ่ายมากที่สุด ไม่ใช่คิดเอาเอง แล้วจากนั้น
ให้มาคิดค่าเสียหายกับเขา โดยเบื้องต้น ได้ขอเบอร์โทร
และบัตรประชาชนของเขาไว้กับผมก่อน รวมทั้งถ่ายรูปทะเบียนรถ
และเหตุการณ์ต่างๆ ก่อนจะขับตามกันมาที่อู่

- หลังจากนัดแนะกันที่อู่ แต่เค้าไม่ได้เลี้ยวตามมาด้วย ซึ่งอาจคลาดกันระหว่างขับมา
จึงทำการโทรแจ้งให้มาที่อู่นี้ ซึ่งทางเค้าก็บอกว่าจะขับตามมาที่อู่

- หลังจากประเมินราคาเสร็จ ค่าเสียหายอยู่ที่ 9000 บาท แต่ทางคู่กรณีก็ยังไม่มา
จึงได้โทรหา เค้าบอกว่ากำลังไป เราแจ้งเค้าว่าทางอู่ประเมินเสร็จแล้ว เค้าจึงถามว่าเท่าไร
เราจึงบอกราคาไป .... และเรื่องทุกอย่างก็เกิดขึ้น

- หลังจากที่คู่กรณีตกใจกับราคาถึงขั้นอุทานและวางสายไป
แต่หลังจากนั้นเค้าก็โทรมาบอกว่ามาไม่ได้รถติดจริงๆ ไม่ขยับเลย ขอไม่ไป ...
เราจึงเสนอว่างั้นเราจะไปหา จึงนัดแนะสถานที่ ซึ่งเค้าให้ไปเจอบริเวณแยกเกษตร

- พอมาถึงแยกเกษตร พบว่าเค้าปิดเครื่อง

- ผ่านไป 15 นาที โทรอีกครั้ง ปรากฎว่าเปิดเครื่องแล้ว เราจึงถามเค้าอีกครั้งว่าเจอที่ไหนดี
เค้าจึงเริ่มเหวี่ยง โดยบอกว่า มีแค่ 4000 ถ้าไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ แนะให้หาประกันชั้น 1 มาชนเอาเอง ใครๆ เค้าก็ทำกัน

- ทางผมได้แจ้งว่า ผมไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายมากไปกว่า ค่าเสียหายจริงที่เกิดขึ้น
ซึ่งผมต้องเอารถไปซ่อม และ 9000 คือราคาประเมินอู่ ไม่ใช่ที่ผมคิดเอาเอง แล้วทำไมเล่า
ผมจะต้องมาออก 5000 บาทเอง หรือต้องไปดิ้นรนหาประกันชั้น 1 มาชน สร้างเรื่อง
แบบที่คุณเสนอ มันคือเรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบเหรอครับ

- ทางเค้ายื่นยัน ว่ามีแค่นี้ จะให้แค่นี้ ผมจึงบอกเค้าว่า ผมคงต้องแจ้งความนะครับ เค้าจึงท้าทาย
ให้ไปแจ้งเลย เอาเลย จะฟ้องกี่หมื่น กี่แสน ก็ตามใจ (ผมเข้าใจว่าเค้าโมโหแล้ว)

- ผมพยายามใจเย็น แม้จะปริ๊ดอยู่มากๆ ด้วยการบอกเค้าว่าอย่าให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะมัน
จะไม่ใช่เงินเพียง 9000 บาทอีกต่อไป มันจะเริ่มมีค่าดำเนินการต่างๆ ทางกฎหมายเกิดขึ้น
แล้วค่าเสียหายจะกลายเป็นหลักหมื่น เค้าก็บอกว่าเอาเลย ตามสบาย ไปแจ้งเลย
และจะไม่ชดเชยอะไรให้แล้ว อยากได้ไปฟ้องร้องเอา

- ต่อมา ผมยอมถอยหลังสุดๆ ว่า ผมไม่ได้จะเอาเงิน 9000 ณ วันนี้เดี๋ยวนี้ เป็นผมเองอยู่ๆ
ต้องจ่าย 9000 ก็คงหาไม่ทันเหมือนกัน วันนี้ผมรับ 4000 ก่อนก็ได้ แล้ว อีก 5000 ถ้าคุณมีโอกาส
ก็ชดใช้ค่าเสียหายในภายหลังก็ได้ แต่คุณปัดความรับผิดชอบว่า จะจ่ายแค่นี้
ที่เหลือผมออกเอง ผมว่ามันไม่แฟร์

- เค้าอ้างว่าเข้าใจๆๆๆๆ แต่มันไม่มีเงินนี่จะเอาอะไรเยอะแยะ ... ผมจึงสวนไปว่า
ถ้าคุณบอกจะให้ผม 100 บาท เพราะคุณไม่มีเงิน ผมก็ต้องยอมรับเงินแค่จำนวนนั้นเหรอครับ

- สุดท้ายเค้ายอมตกลง โดยเงื่อนไขที่ตกลงคือ คุณจ่ายค่าเสียหายให้ผม 4000 บาท
และ ผมจะคืนบัตรประชาชนให้ รวมทั้งการไม่แจ้งตำรวจดำเนินคดี ส่วนอีก 5000 มีเมื่อไรค่อยคืน
(แน่นอน ตอนนั้นผมไม่หวังได้ 9000 แล้วล่ะ กะว่าจะจบเรื่องเท่านี้ แล้วพอ เหนื่อยแล้ว)
ซึ่งผมแจ้งสถานที่ไป ว่าจะรอที่นี่ ซึ่งใกล้บ้านของเขา และเป็นจุดที่เค้านัดหมาย

- ผมคิดในใจว่า เจอเค้าแล้ว จะแลกนามบัตร และขอเป็นมิตรไมตรีด้วย เผื่อกรณีในอนาคต
มีอะไรต้องพึ่งพา หรืองานใดๆ ที่เค้าทำ แล้วเกี่ยวข้องกับผม หรือเพื่อนๆ ผม ก็จะได้ช่วยเหลือกันก็ได้

- ใช่แล้วครับ ผมนั่งรอไป 1 ชั่วโมง .... เค้าไม่มา และปิดเครื่อง จนถึงตอนนี้ น่าจะเปลี่ยนซิมไปแล้ว

- ผมเดินทางไปที่ สน.ที่ใกล้ที่สุด จาก แยกเกษตร ที่ใกล้สุด คือ สน.โคกคราม
แต่จริงๆ ผมต้องไป สน.ในท้องถิ่นเกิดเหตุ คุณตำรวจจึงบอกให้ไป สน.แถวๆ จุดเกิดเหตุ
ผมจึงมาที่ สน.ดุสิต แต่ปรากฎว่าไม่ใช่อีก ต้องไป สน.สามเสน (วันเดียวไป 3 โรงพัก)

- จากนั้น ก็ได้เจอคุณตำรวจ (หน้าตาดี) รับเรื่องด้วยอาการยิ้มแย้ม เป็นมิตร
ก็มีการลงบันทึกประจำวัน และให้เอกสารมา ..... แล้วจากนี้ล่ะ จะทำยังไงต่อไป

- คดีนี้ผมกะไม่ปล่อยแน่ๆ เพราะพยาน หลักฐาน เอกสาร เลขทะเบียน เบอร์โทร
บัตรประชาชน ผมมีให้คุณตำรวจทั้งหมด

- คู่กรณีผิดตามที่นัดหมาย ผมเสียเวลาไปกับเรื่องนี้เป็นเวลา 6 ชั่วโมงเต็มๆ ...
ผมไม่ได้อยากหากินกับคนที่ลำบาก แต่ถ้าคุณมีรถ คุณต้องรับผิดชอบได้ด้วย
ในกรณีที่คุณขับประมาท หากคุณเลือกไม่จ่ายประกันภัยรถยนต์
คุณก็ต้องสามารถชดใช้เวลาเกิดอุบัติเหตุได้หากคุณผิด และคุณต้องยอมรับกฎหมาย
มาตรา 420 ว่าด้วยเรื่องการทำให้บุคคลต้องเสียชีวิต เสียทรัพย์ นี่ยังไม่รวมเสียเวลา
เสียความรู้สึก อีกมากมาย ซึ่งผมไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อย

- แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้ผมจะคิดค่าเสียหายทุกอย่าง ถ้าคุณไม่มีเงิน
ผมก็จะเอาทรัพย์สินของคุณในบ้านนั่นแหล่ะ ผมไม่ใจอ่อนและปราณีกับคนไร้ความรับผิดชอบครับ

- ผมมีพี่ๆ ที่เป็นตำรวจ และ ทนาย ผมไม่ได้ใช้เส้นสาย ในการติดตามในเรื่องคดีความ
แต่ผมใช้ความเป็นเพื่อนของผม นี่แหล่ะ ที่พี่ๆ กรุณาให้กับผม ซึ่งผมเชื่อว่า
การมีมิตรดีๆ เวลาเกิดเหตุเพทภัย พวกเขาก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลือได้

ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ผมเพิ่งเคยเจอครั้งแรกในชีวิต
ผมคิดซะว่า คือ การเรียนรู้
และนี่ คือ การแบ่งปันของผมครับ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่